จากคุณหนู สู่การเป็นทาสสวาทของคนเลี้ยงม้า สถานะอันสูงส่งปลิดปลิว ราวกับใบไม้หลุดจากขั้ว ร่างกายบริสุทธิ์แปดเปื้อนรอยมลทิน จากสูงส่ง ถูกฉุดให้ตกต่ำ ท่ามกลางความมืดของราตรีกาล เสียงหวีดหวิวของสายลมในวสันต์ฤดู จิ้งหรีดเรไรขับขานบทเพลงอย่างแข็งขัน กระนั้นยังดังมิสู้เสียงหนึ่ง กึ่งโหยหากึ่งเจ็บปวด “เจ้าคนเลี้ยงม้า” “ข้ามาแล้ว” “เจ้าคนเลี้ยงม้า เจ้าอยู่ที่ใด รีบออกมาหาข้าเดี๋ยวนี้นะ” “เจ้าคนเลี้ยงม้า…ฮึก…ฮือ…ข้าขอโทษ” กลางดึกในทุกค่ำคืนจะได้ยินเสียงสตรีนางหนึ่งเรียกหาคนเลี้ยงม้า นานวันเข้ากลายเป็นความเคยชินสำหรับข้ารับใช้ในจวนเสนาบดีซูไปเสียแล้ว ทว่าน่าแปลกนักที่มิมีผู้ใดสนใจนาง ไร้คนสงสารหรือเห็นใจ มีเพียงความเวทนาและดูแคลน สตรีวิปลาสผู้นี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นคุณหนูผู้สูงส่ง ใบหน้าหมดจรดงดงาม เสียทีแต่ว่ามีจิตใจโหดเหี้ยม เมื่อถึงคราวตกต่ำจึงถูกซ้ำเติม เคราะห์กรรมที่ทำมาโหมกระหน่ำใส่ระลอกแล้วระลอกเล่า สกุลซูคือขุนนางเถรตรงและภักดีต่อราชวงศ์ บรรพบุรุษสร้างคุณงามความดีนานัปการ อำนาจและความมั่
ปรับปรุงล่าสุด : 2025-08-17 อ่านเพิ่มเติม