เวลาและอากาศดูเหมือนจะแข็งตัว ในขณะนั้นสมองของซูหว่านว่างเปล่าไปหมดอย่าว่าแต่การอธิบายเลย แม้แต่จะอ้าปากพูดก็ยังยาก แถมการอธิบายก็อาจจะไม่มีประโยชน์ เพราะเธอเป็นคนโกหกก่อน“อย่าทำให้เด็กกลัวสิ ถามสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อนดีกว่า”เสียงผู้หญิงที่ไพเราะราวกับน้ำพุแทรกเข้ามาอย่างแผ่วเบา แทงทะลุเกราะอากาศที่แข็งตัวซูหว่านสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ สองสามครั้ง เมื่อดวงตาหมุนไปเล็กน้อย ก็พบว่าเมิ่งไหวจินไม่ได้มาคนเดียว ข้างๆ เขามีสาวสวยแซ่เจียงอยู่ด้วย“คืนนี้ฉันยังมีธุระ ไม่ขึ้นไปแล้ว” เมิ่งไหวจินพูดกับเจี่ยงเจี๋ยจบ ก็เดินตรงมาทันที“ไหวจิน” เจี่ยงเจี๋ยที่อยู่ด้านหลังเรียกเขา แต่เขาไม่ได้หันกลับไปทั้งสองสบตากัน ราวกับน้ำแข็งปะทะไฟ ซูหว่านอยากถอยหลังตามสัญชาตญาณ แต่เท้าทั้งสองข้างเหมือนหนักเป็นพันกิโลกรัม ขยับไม่ได้เลยแม้แต่น้อย“นี่คือเขาคนที่เธอพูดถึงเหรอ” โจวเจ๋อใจเย็นกว่าเธอ ถามเสียงเบา ๆ แล้วทำเป็นผู้ใหญ่ยื่นมือขวาออกไป “คุณน้าครับ สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันกับหว่านหว่านครับ ผมชื่อโจวเจ๋อ”ทว่าเมิ่งไหวจินกลับทำเหมือนไม่ได้ยิน ไม่ได้มองเขาเลยแม้แต่น้อย
Read more