“แบบไหนถึงเรียกว่าพูดเพ้อเจ้อ” เมิ่งไหวจิน มองค้อนเธอด้วยสายตาที่ลึกล้ำยากคาดเดา “แล้วเธอคิดว่าเธอจะพูดอะไรล่ะ”ซูหว่านค่อนข้างแปลกใจกับท่าทีของเขาในวันนี้ ก่อนมาเธอเตรียมใจไว้แล้วว่าจะต้องโดนดุด่าเรื่องที่เมา แต่ที่คาดไม่ถึงคือเขากลับไม่ได้ว่าอะไรเลย“ไม่มีอะไรค่ะ” เธอพุ้ยโจ๊กเข้าปาก จู่ ๆ เกิดความมั่นใจขึ้นมา “นิสัยตอนเมาของหนูคงจะโอเคแหละ แบบที่เมาแล้วก็หลับไปเลยอะไรอย่างนั้น”ใบหน้าของเมิ่งไหวจินมืดครึ้มลงทันที สายตาเย็นเยียบแทบจะตรึงเธอให้ตายคาที่ “ถ้ากล้าดื่มอีก จะจับโยนลงถังขยะซะ”“!!!”ราวกับโดนสิงร่าง ซูหว่านตาค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เธอแอบพึมพำในใจว่า คุณไม่ทำหรอก…...หลังมื้ออาหาร เมิ่งไหวจินยังต้องทำงานล่วงเวลาต่อ ซูหว่านรอจนเบื่อเลยไปปั้นตุ๊กตาหิมะที่ลานว่างใต้ตึกที่ทำงานหิมะยังคงตกอยู่ โปรยปรายลงมาเบา ๆ ไม่หนักมากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ลานกว้างจึงดูโล่งตา หิมะขาวโพลนปกคลุมไปทั่วราวกับปูด้วยผ้านวมผืนหนาซูหว่านเดินวุ่นไปมาโชว์ฝีไม้ลายมืออยู่นาน ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงจนปั้นตุ๊กตาหิมะออกมาได้เกือบจะสมบูรณ์แบบโดยเฉพาะใบหน้าของตุ๊กตาหิมะ
Read more