LOGINคืนนั้น เธอร้องไห้จนตาบวมช้ำ ข่วนแผ่นหลังของเมิ่งไหวจินจนเป็นแผลด้วย... ชายหนุ่มประคองเธอไว้ในอ้อมอกอย่างระมัดระวัง จุมพิตซับน้ำตาให้เธอ พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกมีเสน่ห์ "ไม่ชอบฉันแล้วเหรอ" ...... ซูหว่านคือ "หางน้อย" ที่พ่อแม่ฝากฝังไว้กับเมิ่งไหวจินก่อนที่พวกเขาจะสิ้นใจ วันที่เมิ่งไหวจินไปรับตัวเธอ สายฝนกระหน่ำ ซูหว่านกำลังยืนอย่างเดียวดาย "ส่งไปสถานสงเคราะห์ไม่ได้เหรอ" ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ทันใดนั้น ดวงตาของซูหว่านก็มีน้ำตารื้นขึ้นมาเป็นประกายทันที สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ทิ้งเธอไว้ ...... เมิ่งไหวจินตำแหน่งสูงส่ง แม้ปากจะบอกว่าดูแลเด็กผู้หญิงไม่เป็น แต่เขากลับเลี้ยงดูเธออย่างทะนุถนอมมาก เพียงชั่วพริบตา เด็กหญิงที่เคยเดินตามหลังและคอยถามว่า "คุณจะทิ้งฉันไปอีกคนไหม" ก็เติบโตเป็นหญิงสาวสวยสง่า เธอป้อนซุปสร่างเมาให้เมิ่งไหวจินได้ คอยเร่งให้เขาพักผ่อนเป็น ในบางครั้งก็ยังตีฝีปากกับเขาด้วย... ชายหนุ่มจ้องมองแผ่นหลังหญิงสาวที่กำลังวุ่นวายด้วยแววตาลุ่มลึก ...... เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัย ซูหว่านพาแฟนหนุ่มกลับมาที่บ้านด้วย เมิ่งไหวจินถามแฟนหนุ่มของเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย "เธอขี้งอนเลี้ยงยาก หนักไม่เอาเบาไม่สู้ นายหวังอะไรจากเธอ" ซูหว่านมองใบหน้าที่ไม่สะทกสะท้านของเขาพลางฝืนเถียง "ฉันไปชอบเขาเอง ไม่ได้หรือไง" เมิ่งไหวจินมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้งปนหม่นเศร้า ผ่านไปนานกว่าจะพยักหน้าตอบ "ได้สิ" ...... ซูหว่านขื่นขมอยู่ในใจ เธอวางแผนจะไปต่างประเทศกับแฟนหนุ่ม แต่กลับถูกเมิ่งไหวจินรวบเอวและกักตัวไว้ในห้อง... คืนนั้น เธอร้องไห้จนตาบวมช้ำ และข่วนแผ่นหลังของเมิ่งไหวจินจนเป็นแผล... ชายหนุ่มประคองเธอไว้ในอ้อมอกอย่างระมัดระวัง จุมพิตซับน้ำตาให้เธอ พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกมีเสน่ห์ "ไม่ชอบฉันแล้วเหรอ"
View Moreบนปลายจมูกขาวหมดจดของเด็กสาวมีเม็ดเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย ราวกับไข่มุกเม็ดงามที่ประดับอยู่ด้านบน ทุกเม็ดช่างดูใสกระจ่างตาเธอจ้องมองชายที่อยู่ตรงหน้า เขาเหมือนถือดาบเพชฌฆาตอยู่ในมือและพร้อมจะผลักเธอลงขุมนรกได้ทุกเมื่อ ลึก ๆ ในใจเธอยังคงหวาดกลัว แต่ความรู้สึกที่มากกว่านั้นคือความเสียใจ“คุณเป็นญาติผู้ใหญ่ของฉัน คุณแต่งกับใคร คนนั้นก็คือน้าสะใภ้ของฉันในอนาคต หรือว่า...ฉันไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องนี้เลยเหรอ ฉันใช้ชีวิตอยู่กับคุณมาเกือบปี หลงนึกว่าฉันพอจะมีสิทธิ์รับรู้เรื่องนี้บ้าง ไม่นึกเลยว่า...ฉันจะไม่มีสิทธิ์นั้น” ซูหว่านจ้องตอบโดยไม่หลบตา แววตาเต็มไปด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์กลายเป็นว่าผู้ที่ถูกตัดสินความผิดกลับกลายเป็นเขา เมิ่งไหวจินรู้สึกเหมือนถูกแววตาที่น่าสงสารและใสซื่อนั้นลวกจนร้อน เขาได้เห็นแง่มุมใหม่ ๆ ในด้านความช่างพูดช่างจาของเธออีกครั้งแต่สิ่งที่เธอพูดก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล สิทธิ์ในการรับรู้...เธอย่อมมีหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเมิ่งไหวจินก็พูดอย่างใจเย็นว่า “วันนี้เดิมทีตั้งใจจะคุยกัน”ส่วนทำไมหลังจากนั้นถึงไม่ได้คุย ชายหนุ่มมองค้อนเธอแวบหนึ่งก่อนจะวกกลับเข้าเรื่อง “ท
การกระทำนี้ดึงดูดสายตาแปลก ๆ ได้ไม่น้อย ทุกคนต่างมองว่าเธอเป็นพวกประหลาดซูหว่านไม่ได้สนใจสายตาที่จ้องมองหรือการคาดเดาเหล่านั้น หลังจากทำข้อสอบเสร็จเธอรู้สึกง่วงจึงฟุบลงกับโต๊ะคอมพิวเตอร์ เตรียมจะงีบหลับสักตื่น แต่ความจริงแล้วเธอหลับไม่ลงเลยสักนิดลึก ๆ ในใจ เธอรู้สึกว่าคนคนนั้นต้องมาแน่ ส่วนจะมาในรูปแบบไหนนั้น เธอเองก็ไม่รู้แต่เพียงไม่นานเธอก็ได้รู้เมื่อเสียงเคาะโต๊ะดังขึ้นสองครั้งใกล้กับใบหู ความรู้สึกที่คุ้นเคยและกลิ่นกายที่แสนคุ้นของเขา ดูเหมือนจะทำให้ทั้งร้านอินเทอร์เน็ตสะอาดขึ้นมาทันทีแม้จะเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่หัวใจของเด็กสาวก็เต้นระทึกโดยไม่รู้ตัว มันกระโดดโลดเต้นอยู่ในอก ทั้งเฝ้าคอยทั้งลนลาน ทั้งประหม่าและหลงใหล หรือแม้กระทั่ง... มีความตื่นเต้นที่ระงับได้ยากนี่คือความรู้สึกของการถูกใส่ใจวินาทีนี้ ซูหว่านรู้ดีว่าตัวเองได้ตกลงสู่เหวลึกจนกู้อะไรคืนมาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว“ซูหว่าน” เสียงของชายหนุ่มแม้จะราบเรียบ แต่กลับแฝงความหมายที่ต่างจากเมื่อก่อนมันคือความโกรธเด็กสาวเงยหน้าขึ้น หันไปสบเข้ากับดวงตาที่เย็นเยียบราวกับบ่อน้ำร้างของเมิ่งไหวจิน สุดท้ายเธอก็ยังคงหวาดกลัว
เมิ่งชวนรู้ความเหมาะสม ภาพคนที่เขาถ่ายติดมาจึงเห็นเพียงแวบเดียวเท่านั้นแต่หลังจากซูหว่านเปิดดูและฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอก็สามารถนำภาพที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วมาเชื่อมโยงกับบทสนทนาที่ปนอยู่ในเสียงรบกวนได้สำเร็จชายหนุ่มถือแก้วเหล้าด้วยมือข้างเดียว สวมชุดสูทเต็มยศ ดูสง่างามโดดเด่นสะดุดตา โดยมีเจี่ยงเจี๋ยในชุดราตรีสุดประณีตยืนอยู่เคียงข้างดูเหมือนทุกคนจะยอมรับโดยปริยายแล้วว่าเขาคือว่าที่ลูกเขยตระกูลเจี่ยง หลายคนพากันเข้าไปขอชนแก้ว พลางกล่าวคำสรรเสริญเยินยอไม่ขาดปาก ว่าทั้งสองเป็นคู่ที่สวรรค์สร้าง บอกว่าจะรอไปงานแต่งงาน หรือไม่ก็ถามเรื่องเรือนหอว่าจะซื้อที่ไหน...ด้วยฐานะอย่างเมิ่งไหวจิน งานเลี้ยงทางสังคมแบบนี้เขามักจะมีแทบทุกสามวันห้าวัน ซูหว่านเองก็เคยติดตามเขาไปร่วมงานมาแล้วหลายครั้งปกติเขาจะรับมือได้อย่างคล่องแคล่วเสมอ วางตัวสูงส่ง และจัดการได้ดีไม่ว่าเรื่องบู๊เรื่องบุ๋นเมื่อก่อนซูหว่านมองเขาเหมือนมองเทพเจ้าผู้สูงส่ง แต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกระคายตาเหลือเกิน เพราะคนที่ยืนอยู่ข้างกายเขาไม่ใช่เธอ…...งานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของตระกูลเจี่ยงจัดอย่างเรียบง่าย ไม่ได้เชิญคนเยอะ แต่ทุกคนที่
“ดูเหมือนเธอจะสนใจเรื่อง ‘ความชอบ’ เป็นพิเศษนะ”ซูหว่านเม้มปากเงียบเมิ่งไหวจินหลุบตาลงจ้องมองเธอตรง ๆ “รู้แล้วใช่ไหมว่า ‘ความชอบ’ มันเป็นความรู้สึกแบบไหน”“...”หัวใจของซูหว่านที่เพิ่งจะสงบลงกลับดีดตัวขึ้นมาอีกครั้งเหมือนลูกแก้วที่ตกพื้น เธอค่อย ๆ ส่ายหน้าภายใต้การจ้องของดวงตาที่คมดุจใบมีด “ไม่รู้ค่ะ”“รักษาตัวให้ดี” เมิ่งไหวจินพูดด้วยท่าทีจริงจังมาก “ไข้ขึ้นตั้งแต่กลางดึก ทำไมไม่เรียกฉัน”เรียกแล้วยังไงล่ะ ต่อให้ส่งเธอมาโรงพยาบาลแล้ว สุดท้ายคุณก็ต้องกลับไปปรึกษาเรื่องวันหมั้นอยู่ดีเด็กสาวหลุบตาลงพลางกล่าวว่า “คุณมีธุระสำคัญต้องทำไม่ใช่เหรอ ฉันแค่กลัวว่าจะไปทำลายวาสนารักที่สวยงามคุณ”ชายหนุ่มส่งเสียง ‘อ้อ’ ในลำคอ “แล้วตอนนี้ไม่ทำลายหรือไง?”“...” ซูหว่านเงียบกริบทันทีเมิ่งไหวจินไม่เซ้าซี้ต่อ แต่กลับก็จงใจเลิกสนทนาเรื่องที่เกี่ยวกับเจี่ยงเจี๋ยกับเธอ คงเพราะเขาคิดว่านั่นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ไม่จำเป็นต้องมาคุยกับเด็กนักเรียนอย่างเธอเรื่องพวกนี้ซูหว่านรู้ดี และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกผิดหวังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนโลกของเขา ดูเหมือนจะอยู่ไกลจากเธอเหลือเกิน…...บ่ายวันนั้น