جميع فصول : الفصل -الفصل 10

30 فصول

บทที่ 1

วันที่เมิ่งไหวจินเดินทางไปรับซูหว่านที่เมืองหนานเฉิง พายุฝนเทกระหน่ำไปทั่วทั้งเมือง"เธออยู่ในสภาพนี้มานานแค่ไหนแล้ว" ทหารคนสนิทข้างกายเมิ่งไหวจินเอ่ยถามตรงริมหน้าต่าง เด็กสาวนั่งกอดเข่าในท่าทางปกป้องตัวเอง มองหยาดฝนที่นอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ สายลมเอื่อยพัดผ่านปลายผม เผยให้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับหยกสลักทว่ากลับไร้ชีวิตชีวา ขนาดชายกระโปรงสีขาวหมดจดเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝน แล้ว เธอก็ยังไม่รู้สึกตัวเลยพ่อบ้านคนเดียวของตระกูลซูที่ยังไม่จากไปถอนหายใจยาว "คุณหนูเป็นแบบนี้มาหนึ่งสัปดาห์แล้วครับ เธอเห็นพ่อแม่ยิงตัวตายต่อหน้าต่อตา ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย""เด็กที่โตขนาดนี้แล้ว ยังส่งเข้าสถานสงเคราะห์ได้อยู่ไหม" น้ำเสียงทุ้มต่ำทรงอำนาจดังขึ้น ไม่เหมือนเสียงของทหารคนสนิทคนเมื่อครู่เมื่อซูหว่านได้ยินประโยคนี้ รูม่านตาที่เอาแต่จ้องมองท้องฟ้าก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เธอหันไปมองตามต้นอย่างไร้อารมณ์ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ เสื้อโค้ทตัวยาวสีดำปลิวเปิดท่ามกลางพายุฝน ออร่าที่น่าเกรงกลัวของเขาเต็มไปด้วยแรงกดดัน มือเรียวยาวขาวซีดถือร่มสีดำ ใบหน้าภายใต้ร่มนั้นยิ่งดูคมเข้ม ระหว่างคิ้วและดวงตา
اقرأ المزيد

บทที่ 2

ซูหว่านสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย เธอรู้สึกโชคดีที่สิ่งที่เธอนอนพิงอยู่คือหมอนอิงหากเผลอไปพิงตัวผู้ชายคนนั้นเข้า ไม่รู้ว่าจะต้องถูกเขาตำหนิหรือข่มขู่อย่างไรอีกยามค่ำคืนบนทางด่วนมืดสนิทไปหมดเมิ่งไหวจินเปลี่ยนมาขับรถแทน ส่วนทหารคนสนิทของเขาก็กำลังนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ นอนเอียงคอพร้อมกรนดังสนั่นหวั่นไหวเมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว เมิ่งไหวจินก็ปรายตามองเด็กสาวผ่านกระจกมองหลังแล้วเอ่ยเสียงเรียบ "ในกระโปรงหลังรถมีขนม"ซูหว่านสบตาเขาแวบหนึ่งผ่านกระจกมองหลังก่อนจะส่ายหน้าสื่อว่าไม่หิวชายหนุ่มไม่เอ่ยอะไรอีก เขามองตรงไปข้างหน้าและขับรถต่อไปซูหว่านยังคงจ้องมองใบหน้าด้านข้างของเขา จ้องนานห้านาที สิบนาที หรืออาจจะนานกว่านั้นเมิ่งไหวจินมีสันจมูกโด่ง โครงหน้าคมชัดดูลุ่มลึก ดวงตาทั้งคู่เฉียบขาด เป็นความหล่อแบบคมเข้มปนสุขุมพอมองดูแบบนี้ ความดุดันของเขาไม่ใช่ความหยาบคาย แต่เป็นความดุที่แฝงไปด้วยความภูมิฐานและประสบการณ์ชีวิต"ซูหว่าน มีอะไรเปื้อนหน้าฉันเหรอ" เมิ่งไหวจินไม่ได้มองเธอ แต่เขารู้ว่าเธอกำลังจ้องเขาอยู่ซูหว่านชะงักเล็กน้อย เธอเข้าใจความหมายแฝงในคำพูดนั้น แต่ก็ยังตอบกลับไปอย่
اقرأ المزيد

บทที่ 3

สิ่งที่ตอบกลับซูหว่านคือคำพูดที่แข็งกระด้าง "เธอตั้งใจให้ความร่วมมือในการรักษาก่อนเถอะ""ถ้าฉันให้ความร่วมมือ คุณจะย้ายกลับไปอยู่ด้วยกันไหมคะ" แววตาที่หม่นหมองของเด็กสาวเป็นประกายขึ้นมาทันที"จะให้ความร่วมมือหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องสุขภาพกายใจของตัวเธอเอง ฉันไม่รับคำขออะไรทั้งนั้น เข้าใจไหมซูหว่าน"น้ำเสียงที่เฉียบขาดของเขาเหมือนคำสั่งทหารที่ผู้บังคับบัญชาส่งถึงลูกน้อง ซึ่งลูกน้องทำได้เพียงตอบว่า "รับทราบ" และปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อสงสัย"เข้าใจแล้วค่ะ" ซูหว่านก้มหน้าพลางบ่นพึมพำในใจว่าผู้ชายคนนี้ใจหินจริง ๆเมิ่งไหวจินย่อมไม่เข้าใจความคิดที่ซับซ้อนของเด็กสาววัยรุ่น เขาเหลือบมองกระหม่อมที่ผมยุ่งฟูของเธอแล้วยื่นมือออกไป "เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน"แม้จะไม่เข้าใจเหตุผล แต่ซูหว่านก็ปลดล็อกหน้าจอ แล้ววางโทรศัพท์ลงบนฝ่ามือที่เต็มไปด้วยรอยด้านเพราะจับปืนของเขาชายหนุ่มก้มหน้ากดหมายเลขโทรศัพท์ชุดหนึ่งลงไป เมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาดังขึ้น เขาจึงส่งมือถือคืนให้เธอ"ฉันมีงานด่วนต้องไปจัดการ ไปก่อนนะ ตอนเย็นฉันจะแวะไปที่อพาร์ตเมนต์ อยากได้อะไรเพิ่มก็โทรบอกแล้วกัน"เมิ่งไหวจินสั่งเสร็จก็เดินออก
اقرأ المزيد

บทที่ 4

ไม่รู้ว่าเพราะออร่าอันน่าเกรงขามที่ทำให้ใครต่อใครขนลุกจนภูตผีปีศาจทั่วสารทิศไม่ให้กล้ากรายเข้าใกล้หรือเปล่า เสียงตวัดปากกาอนุมัติเอกสารดังกลับทำให้ซูหว่านรู้สึกง่วงขึ้นมาดื้อ ๆไม่นานสติของเธอก็เริ่มเลือนราง และท้ายที่สุดก็หลับสนิท หลังจากนั้นตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่เธอนอนโรงพยาบาล เมิ่งไหวจินจะนำงานมานั่งตรวจที่โรงพยาบาลทุกคืน รอให้ซูหว่านหลับก่อนถึงจะกลับไปเธอไม่รู้ควรอธิบายผู้ใหญ่คนนี้อย่างไรดีตอนที่เธอรู้สึกว่าเขาก็ดี เขาก็จะพูดประโยคที่เผาทำลายความไร้เดียงสาของเธอไป แต่ตอนที่รู้สึกว่าเขาไม่ดี การกระทำเล็กน้อยบางอย่างของเขากลับทำให้เธอตกอยู่ในห้วงความคิดอีกครั้ง ว่าที่จริงเขาก็ไม่ได้ไร้หัวใจขนาดนั้น......วันที่ซูหว่านออกจากโรงพยาบาล เมิ่งไหวจินไม่ได้มา แต่เมิ่งชวนเป็นคนมารับแทน“วันนี้พี่จินมีประชุมสำคัญมาก เลยให้ฉันมารับเธอก่อน” เขาอธิบาย เมิ่งชวนขับลัมโบร์กินีฉูดฉาดมา พอจอดหน้าประตูโรงพยาบาลก็ดึงดูดความสนใจสูงมากซูหว่านกล่าวขอบคุณเขาพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นก็ขึ้นรถอากาศเดือนสิงหาเป็นเหมือนคลื่นความร้อนที่ซัดเข้ามา ร้อนระอุและรุนแรง เด็กสาวยกมือขึ้นรับสัมผัสลมที่ลอดผ่าน
اقرأ المزيد

บทที่ 5

อะไรนะ? แฟนหนุ่ม!ซูหว่านเบิกตากว้างทันที ดวงตาคู่นั้นฉายประกายเหมือนไฟสีที่ถูกเปิดสวิตช์กะทันหันเพียงชั่วครู่ แก้มขาวหมดจดของหญิงสาวก็ค่อย ๆ แดงขึ้น ไม่นานก็ลามไปจนถึงใบหู ทำให้เธอดูไร้เดียงสาปนตลก"ฉัน ไม่มีแฟนค่ะ ไม่ใช่แฟนแน่นอน"การพูดคุยเรื่องพวกนี้กับผู้ใหญ่ มักจะมีความรู้สึกเขินอายอย่างอธิบายไม่ได้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่ซูหว่านก็ไม่มีทางยอมรับ ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่ได้แอบคบกันจริง ๆ นะ!เมิ่งไหวจินเห็นอาการลนลานและพูดจาไม่รู้เรื่องของเธอ ก็ดับก้นบุหรี่อย่างไม่ใส่ใจ ตอบ "อืม" เสียงเรียบแล้วลุกขึ้นไปยังห้องหนังสือแค่นี้เองเหรอ? ซูหว่าน "..."เขามักจะใช้วิธีที่ตรงไปตรงมาและเย็นชาที่สุด ทำให้ซูหว่านย้ายตัวเองออกจากความเศร้าไปสู่ความสับสนและความประหลาดใจอีกแบบ เหมือนกับวันที่เขาไปรับเธอที่หนานเฉิง คำพูดเบา ๆ ว่า "จะส่งไปสถานสงเคราะห์ได้ไหม" ทำให้เธอตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ทำให้ลืมความเศร้าและความเจ็บปวดไปชั่วขณะหนึ่งคืนนี้ก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้เธอเศร้าเรื่องอะไรนะ? ลืมไปแล้ว...ประตูห้องหนังสือไม่ได้ปิด ซูหว่านจึงมองเห็นเมิ่งไหวจินนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานจากตำแหน่งโซฟา เขากำลังใช้มือนว
اقرأ المزيد

บทที่ 6

ตอนค่ำ เมิ่งไหวจินมีนัดพบปะสังสรรค์ดื่มชาเขาไม่ได้ตั้งใจเลี่ยงที่จะรับโทรศัพท์ต่อหน้าซูหว่าน เธอจึงได้ยินพอเห็นชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาจากห้องนอน ซูหว่านก็ลุกขึ้นจากโซฟาในทันที เอ่ยความคิดของตนเองด้วยสายตาที่มีความหวัง “คือว่า... ฉันไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว ขอตามคุณไปด้วยได้ไหม คุณก็คุยงานของคุณไป แค่แบ่งมุมเล็ก ๆ ให้ฉันอยู่ก็พอค่ะ”เมิ่งไหวจินพาดเสื้อสูทไว้ที่แขน เหล่ตามองเล็กน้อย แต่ไม่ได้ตอบนี่ไม่ใช่การเจรจา แต่เป็นการตัดสินใจไปแล้วต่างหากเพราะว่าเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เป็นชุดเดรสยาวสีขาวที่เรียบง่ายแต่ประณีต ถักเปียปัดไปด้านหนึ่ง ประดับด้วยเครื่องประดับดอกไม้สีเหลืองเล็กๆ ที่ปลายผม และสะพายกระเป๋าใบเล็กที่แทบจะใส่โทรศัพท์มือถือไม่ได้“ตามไปทำไม จะไปดื่มแทนฉันหรือไง” ชายหนุ่มก้าวเท้าไปทางประตูด้วยจังหวะที่ไม่ช้าไม่เร็วซูหว่านไม่สามารถตีความได้ว่าเขาตกลงหรือปฏิเสธ ลึก ๆ เธอจึงไม่มั่นใจ แต่ก็ยังคงเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบ ๆคนที่ขับรถคือทหารคนสนิทที่เคยไปรับเธอที่หนานเฉิง เมื่อเห็นเธอลงมาก็โบกมือทักทาย “สวัสดีครับคุณหนูซู”ซูหว่านยืนห่างจากประตูรถประมาณส
اقرأ المزيد

บทที่ 7

ซูหว่านสงสัยอย่างหนัก ว่าความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาถ้าไม่ใช่การขู่ให้เธอกลัว ก็คือการทรมานเธอไม่ยั้งมือ เครื่องบินมาไม่ได้อยู่แล้ว ทหารคนสนิทช่วยยัดตุ๊กตาใส่ท้ายรถจนเกือบจะปิดประตูไม่ได้เมิ่งไหวจินไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงชอบของที่ขนปุยขนาดนั้น เขาขมวดคิ้วตลอดทางระหว่างทางกลับ ซูหว่านได้กลิ่นเหล้าจาง ๆ จากตัวเขาอีกครั้ง เธออดมองเขาหลายครั้งไม่ได้ คิดในใจว่า ตอนที่เธอออกไปเขายังไม่ได้ดื่มไม่ใช่เหรอ? ทำไมแค่ครึ่งชั่วโมงถึงได้ดื่มแล้วชายหนุ่มย่อมไม่รู้ว่าในใจที่ซับซ้อนของเธอกำลังบ่นอะไรอยู่ จึงถามช้า ๆ ว่า “ชอบเต้นรำเหรอ”“ค่ะ” ซูหว่านพยักหน้า“ทำอย่างอื่นเป็นอีกไหม”“เล่นเปียโนกับวาดรูปเป็นนิดหน่อยค่ะ” เธอก็ไม่ได้ปิดบัง ที่เธอพูดแบบนี้ ย่อมไม่ใช่แค่เป็นนิดหน่อยแน่ เมิ่งไหวจินรู้จักนิสัยของพี่สาวคนโตดี อีกฝ่ายมุ่งมั่นและเก่งกาจ คงจะไม่ยอมให้ลูกสาวของตัวเองเป็นคนธรรมดา“อนาคตอยากพัฒนาไปทางด้านนี้หรือเปล่า” เมิ่งไหวจินถามอีกครั้ง“เป็นแค่งานอดิเรกค่ะ ฉันไม่ได้เตรียมจะสอบเข้าสายศิลปะ” ซูหว่านส่ายหน้าตอบดูเหมือนจะคล้ายกับบรรดาน้องสาวคนอื่น ๆ ในบ้าน ที่เรียนดนตรี หมากรุก
اقرأ المزيد

บทที่ 8

เมิ่งไหวจินส่งซูหว่านถึงบ้านแล้ว ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปทันทีซูหว่านเป็นนักเรียนที่ย้ายมาใหม่ แถมเพิ่งเปิดเรียนได้แค่เดือนกว่า ๆ ถ้าพูดถึงเรื่องการรู้จักคน เธอก็จำชื่อเพื่อนร่วมชั้นได้หมดทุกคน แต่ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ที่ดีพอที่จะไปช้อปปิ้งหรือนัดกินข้าวด้วยกันได้ ก็มีแค่เพื่อนร่วมโต๊ะอย่างหลูซือฉีเท่านั้นซูหว่านกินข้าวคนเดียว เสร็จเก็บกวาดขยะหลังอาหารเรียบร้อย พอกำลังจะโทรหาหลูซือฉี ก็มีโทรศัพท์อีกสายโทรเข้ามาเห็นบันทึกชื่อ ซูหว่านไม่คิดอะไร กดวางสายทันทีไม่นาน เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง ยังคงเป็นเบอร์เดิมเป็นแบบนี้ซ้ำ ๆ กันสามครั้ง เมื่อเสียงเรียกเข้าในครั้งที่สี่เกือบจะหยุดดัง ซูหว่านจึงรับสายเธอไม่ได้พูดอะไร เป็นปลายสายที่พูดขึ้นก่อน “หว่านหว่าน นี่ฉันเอง โจวเจ๋อ”แน่นอนว่าเธอรู้ เพราะเธอไม่ได้ลบเบอร์เขา แต่เธอก็ยังคงเงียบอยู่“ฉันมาหาเธอแล้วนะหว่านหว่าน ตอนนี้ฉันอยู่ที่เป่ยเฉิง”ซูหว่านชะงักเล็กน้อย “นายมาเป่ยเฉิงทำไม ไม่กลัวพ่อแม่นายตีขาหักเหรอ”โจวเจ๋อเหมือนกำลังรีบเดินทาง ในโทรศัพท์มีเสียงล้อกระเป๋าเดินทางเลื่อน “เจอกันแล้วค่อยคุยได้ไหม”ซูหว่านเกือบจะหลุด
اقرأ المزيد

บทที่ 9

พูดตามตรง การที่เขามาเป่ยเฉิงเพื่อหาเธอ เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยในเมื่อเขามาแล้ว ซูหว่านก็รู้สึกมีความสุขและปลาบปลื้มใจมาก เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจเลยอย่างไรเสีย ก่อนหน้านั้นเธอเคยคิดว่าตัวเองไม่สามารถรั้งใครไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นญาติสนิท หรือเพื่อนที่เล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ในที่สุดพวกเขาก็ดูเหมือนจะจากเธอไป“แม่นายรู้ไหม” เธอถามโจวเจ๋อส่ายหน้าแล้วก็พยักหน้า “ฉันบอกว่าออกไปเที่ยว เธอก็น่าจะพอเดาได้แหละ”“แล้วนายยังบอกว่าจะถูกไล่ออกจากทะเบียนตระกูลอีก”“ก็ไม่แน่ อาจจะกลับไปแล้วถูกไล่ออกจริง ๆ ก็ได้”ซูหว่านกลอกตามองบน แล้วก็เงียบไปทันทีเด็กหนุ่มมองเธอครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างจริงจัง “อย่าเสียใจเลยหว่านหว่าน พวกเราจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ”ซูหว่านก้มหน้าลงหมุนถ้วยชา พึมพำเสียงต่ำ “ปากผู้ชาย เชื่อถือไม่ได้หรอก”“ไปเรียนคำพูดนี้มาจากไหน” โจวเจ๋อค่อนข้างประหลาดใจแน่นอนว่าใช้เพื่ออธิบายคุณน้าคนก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็ใช้เพื่ออธิบายผู้ชายทุกคนอีกฝ่ายพูดต่อ “ที่ฉันพูดนี่เรื่องจริงนะ เธอวางแผนจะเรียนมหาวิทยาลัยที่ไหน ที่เป่ยเฉิงเหรอ ถึงตอนนั้นฉันก็จะสมัครเข้าเป่ยเฉิงด้วย”บร
اقرأ المزيد

บทที่ 10

“ไปเล่นกับเพื่อนร่วมชั้นเหรอ” เมิ่งไหวจินเหล่มองแก้มของเธอที่โป่งพองจากการเคี้ยวพลางแล้วถามซูหว่านพยักหน้า“ผู้หญิง?”เธอจิบน้ำอย่างมีชั้นเชิงอีกอึก “หลูซือฉี เพื่อนร่วมโต๊ะของฉันไงคะ คุณเคยเจอแล้ว”ครั้งที่แล้วเธอแค่น้ำตาไหลเพราะเสียใจที่มิตรภาพขาดสะบั้น เขาก็ถามว่าเป็นแฟนหรือเปล่าครั้งนี้เจ้าตัวมาจริง ๆ แล้ว ซูหว่านไม่กล้าพูดความจริง เพราะในสายตาของผู้ใหญ่เหล่านี้ มิตรภาพที่บริสุทธิ์ระหว่างชายหญิงนั้นเป็นไปไม่ได้โชคดีที่เมิ่งไหวจินไม่ได้ซักไซ้ แล้วกำชับเธอว่าตอนกลางคืนอย่ากินเยอะเกินไป ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไปไม่นาน ก็มีเสียงน้ำไหลซ่า ๆ ดังขึ้น นั่นคือเสียงเขากำลังอาบน้ำขนตาที่หนาราวกับแปรงของเด็กสาวกะพริบสองสามครั้ง รีบนำอาหารที่ยังกินไม่หมดใส่ตู้เย็น แล้วออกจากห้องรับแขกไปวันต่อมา ท่านอธิบดีเมิ่งผู้ยิ่งใหญ่ที่ลาพักร้อนเช่นกันก็ถามซูหว่านอย่างเมตตาเป็นพิเศษว่า “มีที่ไหนที่อยากไปไหม”ถ้าเป็นตอนปกติ เธอจะต้องดีใจจนเนื้อเต้นแน่ แต่ครั้งนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น โจวเจ๋อเสี่ยงถูกไล่ออกจากทะเบียนตระกูลเพื่อมาหาเธอ ถ้าเธอทิ้งเขาไว้โดยไม่สนใจ ก็จะดูไม่ยุติธรรมเกินไป“ฉั
اقرأ المزيد
السابق
123
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status