All Chapters of คุณหนูหลี่กลับมาพลิกชะตา: Chapter 11 - Chapter 20

32 Chapters

บทที่ 11 ยื่นหลักฐานให้เอง

“เจ้า...เป็นตายอะไรกัน” หลี่เหมิงเงยหน้าเมินภรรยา เขาคิดว่าอย่างไรหากผิดถูกก็แค่เสียภรรยาไปหนึ่งคน อย่างอื่นค่อยแก้กันทีหลัง ชื่อเสียงของเขายังอยู่ไม่ไปไหน ทุกคนต้องรับรู้ว่าความลำบากใจของเขา ‘แค่ภรรยาร้ายกาจคนหนึ่ง’ “เจ้าคนสารเลว ข้าไม่นึกว่าจะได้ยินคำนี้จากปากเจ้า มิใช่เจ้ารึข้าถึง...” จางอี้ฉีคล้ายกำลังจะเปิดปากพูดบางอย่างออกมา แต่เมื่อเห็นสายตาสามีจึงเงียบปาก ร้องไห้ปานจะขาดใจตายแทน ‘นางจะพูดได้อย่างไร ในเมื่อบุตรสาวกับบุตรชายของนางยังอยู่’ สวี่หรงเจินคิดว่าจะได้ยินเรื่องที่ทำให้คดีคลี่คลายแล้วแท้ ๆ แต่กลับคิดผิดจึงทอดถอนใจ เข้าเรื่องจะได้จบสิ้นกัน ต่อไปค่อยหาวิธีจัดการเจ้าคนไร้ยางอายผู้นั้นก็ไม่สาย “ใครเป็นใครตายเดี๋ยวก็รู้ ว่าแต่สมุดบัญชีเล่า อย่ามัวดึงเวลาอยู่เลย เสียเวลาเปล่า ๆ” สวี่หรงเจินกดดันตระกลูหลี่ จางอี้ฉีส่ายหน้าไปมา สมุดบัญชีไม่ได้อยู่ที่นาง เพราะเมื่อวานให้ซือมามานำไปตรวจสอบ วันนี้ซือมามายังไม่มาที่เรือน นั่นเป็นช่องทางหลบหลีกที่ดี เพราะหากไม่มีสมุดบัญชีก็ไม่รู้ว่าทรัพย์ของตระกูลหลี่ได้มาอย่างไรบ้าง “ไม่
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more

บทที่ 12 กำจัดสวะ

ในท้องพระโรงเช้าตรู่วันนี้ ไม่มีขุนนางคนไหนไม่พูดถึงเรื่องตระกูลหลี่ประสบเคราะห์เมื่อวานสักคน มีเพียงขุนนางฝ่ายบู๊ยืนหน้าชื่นตาบาน เกียรติยศขุนนางฝ่ายบู๊ถูกปกป้อง หลายปีมานี้เป็นช่วงบ้านเมืองสงบร่มเย็น ขุนนางฝ่ายบุ๋นเรืองอำนาจ ทำให้ความดีความชอบส่วนใหญ่ตกแก่อีกฝ่ายเป็นส่วนมาก ดังนั้นมีเรื่องเสนาบดีคลังก็เท่ากับกระทบทั้งขุนนางฝ่ายขวาทั้งหมด “ตระกูลหลี่คิดอ่านทำคนเดียวเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ต้องมีพวกพ้อง คราวนี้ไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะให้สำนักตรวจสอบสืบตระกูลใดบ้าง และเมื่อวานได้ข่าวว่าหลักฐานในตระกูลหลี่มีไม่น้อย” “เช่นนั้นไม่เท่ากับขุนนางที่เป็นสหายก็รู้เห็นเป็นใจรึ” ขุนนางขั้นสามฝ่ายกลาโหมท่านหนึ่งกล่าวลอย ๆ ตั้งใจให้กระทบไปถึงอีกฝั่ง แต่แล้วก็ได้ยินขุนนางฝ่ายขวาโต้กลับ “เป็นแค่ขุนนางขั้นสี่ กล้าวิจารณ์ที่มียศสูงกว่า ไม่กลัวตายรึ” “เหอะ...ขุนนางฝ่ายบู๊ซื่อสัตย์ภักดี ยืนตัวตรง เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน จะเหมือนขุนนางบุ๋นที่คิดแต่จะเอาประโยชน์ส่วนตนได้อย่างไร” แต่ขณะที่อีกฝ่ายกำลังตอบโต้ หลัวกงกงก็ประกาศเสียงแหลมเสียก่อน เพื่อหยุดการโต
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more

บทที่ 13 นางร้ายกาจ

หลี่ชิงมองว่าหลี่ฉงจื่อจะทำอะไรนาง แต่ไม่ทันได้ตั้งตัว ฝ่ามือของนางก็วาดมาที่แก้มของตนเองแล้ว เพียะ! เสียงมือที่ฝึกวิชามานานฟาดไปที่ใบหน้าของหลี่ชิง หลี่ฉง-จื่อไม่ออมมือแม้แต่น้อย ใจอยากจัดการมารดาของนางด้วย แต่ทว่ายามนี้ที่แตะต้องได้มีแต่บุตรสาวของสตรีร้ายกาจผู้นั้น ที่รวมหัวกับบิดาทำร้ายมารดาของนาง “อ่าห์...ฉงจื่อ!” เสียงตบของนางไม่เบาเลย ทำให้ร่างของหลี่ชิงล้มลงบนพื้น จากนั้นมีกลิ่นสนิมคละคลุ้งในปาก ทำให้คนที่โดนตบสั่งสอนรับรู้ว่าตนปากแตกจนเลือดไหลออกมา เมื่อยกมือขึ้นมาเช็ด ทำให้นางมือสั่นเทากับเลือดที่ไหลอย่างน่ากลัว “หึ...สกุลฟ่านพวกเจ้ามีดีอะไร...กล้าทำร้ายผู้บริสุทธิ์” “ยังกล้าพูดว่าผู้บริสุทธิ์ เหอะ! บิดาสารเลวกับมารดาต่ำช้าของเจ้านั้น ทำเรื่องสกปรกเอาไว้มาก ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้ดี อย่าคิดว่าสกุลฟ่านวางมือแล้วจะตกต่ำ แต่เดิมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับราชสำนักไม่ต้องการสนับสนุนฝ่ายใดก็จริง แต่ไม่ใช่จะให้คนมารังแกได้ง่าย ๆ” หลี่ฉงจื่อเดินข้ามหลี่ชิงไปศาลบรรพชน ยิ่งเห็นว่าป้ายวิญญาณท่านแม่ล้มลงกับพื้น ยิ่งทำให้เดือดดา
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more

บทที่ 14 ตอบโต้กลับเร็ว

“องค์ชายจากซ่างซีต้องการเชื่อมสัมพันธ์แต่งงาน ส่งสารด่วนมายังเมืองหลวง บัดนี้ขบวนถึงหน้าประตูเมืองแล้ว ฝ่าบาทเรียกฉินกั๋วกงกลับวังเป็นการเร่งด่วนขอรับ” ทหารองครักษ์ค้อมกายรายงาน ฉินกั๋วกงเห็นว่าการเคลื่อนไหวภายในของเมืองหลวง กลับเป็นที่ล่วงรู้ถึงซ่างซีได้อย่างไร นอกจากจะมีเกลือเป็นหนอน “ได้ข้าจะรีบไป” หลี่ฉงจื่อย้อนไปนึกถึงองค์ชายผู้นั้น องค์ชายที่มีรอยแผลบากที่หน้าเท่าข้อนิ้ว แต่ดวงตาที่มองจ้องมายังนางในตอนที่เป็นฮูหยินของหวังฮ่าวในชาติก่อนช่างน่ากลัวนัก นางพบเขาสองครั้ง ครั้งแรกในงานเลี้ยงต้อนรับราชทูตต่างแคว้น อีกครั้งคือห้องหนังสือตระกูลหวัง เดิมนางเป็นแค่ฮูหยินดูแลเรือนให้ซื่อจื่อ ไม่ได้ยุ่งเรื่องการเมืองไม่รับรู้ถึงความคิดของสามีกับพ่อสามีในชาตินั้น รวมถึงบิดาของนางที่ร่วมมือกัน พวกเขาคิดก่อกบฏ! แต่กว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นก็ผ่านไปสองปีหลังจากนางกลับเมืองหลวง นางแต่งงานได้หกเดือน พวกเขาจึงมาเยือนเมืองหลวง แต่ชาตินี้ไม่ใช่ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่นางล่วงรู้อนาคตทำให้เป็นการเร่งเวลาหรือไม่นะ ทั้งที่ฝ่าบาทมีการจัดการขุนนางกังฉิน แต่ก
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more

บทที่ 15 ศัตรูเข้าเมือง

ขณะที่กำลังคิดว่าตัวเองจะเจ็บ เมื่อลืมตาขึ้นกลับพบว่าตนเองอยู่ในอ้อมแขนของบุรุษที่เพิ่งจากกันไม่นาน หลังจากที่ไปเอาป้ายวิญญาณของท่านแม่ที่สกุลหลี่ “ฉินกั๋วกง!” นางเรียกเขาพร้อมกับเสียงกระบี่ร่วงลงพื้น จนเกิดเสียงก้องกังวาน เพล้ง! แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร ดาบเล่มต่อไปก็เข้ามาแยกกลางระหว่างนางและฉินกั๋วกงออกจาก หลี่ฉงจื่อจึงมีสติขึ้นอีกครั้ง นางใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาต่อสู้จริง ๆ สักครั้ง จะว่าไปอยู่หวายหว๋าไม่เคยมียอดฝีมือที่มาประลองกันจริง ๆ ท่านน้าสามเองก็ออมมือให้ตลอด ทั้งต่อสู้กับนางแบบระมัดระวัง แต่เมื่อมาเจอของจริงเข้าให้ เกือบทำให้นางสิ้นชีพแล้ว เพลงกระบี่ของตระกูลฟ่านถูกนำออกมาใช้จนฉงจื่อเกือบหอบแล้ว แต่ทว่าเหล่าคนชุดดำเหล่านี้กลับมีมาเรื่อย ๆ ยิ่งกว่ามดแตกรัง ฉงจื่อจึงยืนหันหลังชนกับเหยาเอ๋อร์ ต่อสู้แบบระมัดระวัง นางใช้มีดบิดจัดการคู่ต่อสู้ล้มไปหลายราย ส่วนเหยาเอ๋อร์นั้นใช้เข็มพิษจึงทำให้คนต่อสู้เหลือราวสิบคน คนที่เก่งกล้าคล้ายกับหัวหน้าทั้งหมดกำลังต่อสู้กับไท่ซ่าง-หวงและท่านยาย นางมองแล้วแม้ว่าจะสูสีแต่ก็ไม่คว
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more

บทที่ 16 แนบชิด

“คุณหนูเจ้าคะ ยังไม่นอนอีกหรือเจ้าคะ” เหยาเอ๋อร์ปกติส่งเสียงแล้วก็ไม่เคาะประตูนางเปิดเข้ามาเลย จนเมื่อเห็นว่ามีแค่แสงเทียนที่จุดเอาไว้ แต่ทว่าคุณหนูนั้นไปนอนห่มผ้าอยู่บนเตียงนอนแล้ว “โธ่...คุณหนูนอนอะไรแบบนั้นเจ้าคะ ข้าเอาผ้าออกให้” เหยาเอ๋อร์แม้จะเป็นคนหยาบกระด้างแต่อยู่ข้างกายคุณหนู และฮูหยินผู้เฒ่าสั่งสอนให้ดูแลคุณหนูให้ดี นางจะละเลยได้อย่างไร “เหยาเอ๋อร์วันนี้ข้าหนาว เจ้าออกไปเถอะข้าจะนอนแล้วดับไฟด้วยเล่า” “เอ่อ...แต่ว่าคุณหนู” เหยาเอ๋อร์เป็นห่วงกลัวว่าคุณหนูจะหายใจไม่ออก เพราะห่มผ้าปิดยันศีรษะขนาดนั้น “ข้าบอกให้ออกไป!” หลี่ฉงจื่อสั่งเสียเข้มขึ้น เพราะใต้ผ้าห่มนี้นอกจากมีนางที่อยู่แล้ว ยังมีฉินกั๋วกงหน้าไม่อายอยู่ด้วย ที่สำคัญมือเขารั้งนางมาแนบชิดเสียจนมีแค่เพียงเสื้อผ้ากั้น ทั้งจมูกและปากของเขาก็กดฝังยังซอกคอระหงของนาง เสื้อผ้าชุดที่เตรียมนอนจะปกปิดอะไรได้ ทั้งบางเบาขนาดนี้ หากท่านยายรู้เข้านางไม่ถูกจับแต่งงานโดยเร็วหรืออย่างไร เมืองหลวงเคร่งครัดระยะห่างชายหญิง เจ็ดหนาวแบ่งแยกชัดเจนไม่แตะต้องกายแล้ว แต่ฉินกั๋วกงรวบนา
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more

บทที่ 17 เงื่อนไข

ในวังหลวงจัดงานเลี้ยงต้อนรับหลางอ๋องและองค์ชายซ่างซีบุรุษที่มีความป่าเถื่อนและเลือดเย็นที่สุดเท่าที่หลี่ฉงจื่อเคยประสบพบเจอมา ชาติก่อนนางได้ออกไปงานเลี้ยงกับหลี่ชิง พบเจอคนมาก แต่จนใจที่บิดาของนางหมั้นหมายนางกับหวังฮ่าว รอวันแต่งงาน จนไม่ได้สานสัมพันธ์กับผู้ใด ฟังแต่เหล่าคุณหนูพวกนั้นพูดคุยหยอกล้อถึงบุรุษอันดับหนึ่งกันอย่างสนุกปาก ชาตินี้นางไม่ต้องถูกหมั้นหมาย จึงทำให้คนที่อยากสานสัมพันธ์มีมาก เพราะตั้งแต่เดินเข้างานเลี้ยง มีคนมาคารวะสุราไม่ขาดสาย แต่นางกลับได้แต่ยกน้ำชาเท่านั้น จนใจที่นางดื่มไม่เก่ง เดือดร้อนน้าสามออกหน้าแทนนางจนหน้าแดง หรือแท้ที่จริงแล้วคนเหล่านี้ต้องการมอมเมานางตั้งแต่ฝ่าบาทยังไม่เสด็จออกกันแน่ วันนี้ท่านยาย ท่านน้าสามมางานเลี้ยงพร้อมกับนาง และนั่นนางรู้ภายหลังว่าที่ฝ่าบาทให้พวกนางเข้างานมาด้วยกันทั้งบ้าน เพราะหลางอ๋องอยากพบกับขุนศึกตระกูลฟ่านในอดีตผู้เกรียงไกร แม้อยากปฏิเสธแต่ฝ่าบาทก็คงได้แค่ยอมรับและยอมอ่อนให้กระมัง หนานอันไม่รบทัพมาหลายปี ประชาชนทั้งแคว้นสงบสุขไร้กังวล ดังนั้นหากจะเกิดศึกอีกครั้งคงเข้าสู่กลียุคจริง ๆ หลี่ฉงจื่อนั่ง
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more

บทที่ 18 ไม่ใช่แค่หมั้นหลอก

“ท่านยาย ข้ามีวิธีเจ้าค่ะ” “ฉงจื่อ...เดิมเจ้าอยากล้างแค้นบิดา ยามนี้สำเร็จแล้วอย่าเอาตัวเองลงไปเสี่ยงอีกเลย ยายมีเจ้ากับน้าสามเท่านั้น” สวี่หรงเจินนางตายไม่เป็นไร อย่างน้อยมีบุตรชายที่ยังสามารถดูแลหลานสาว แต่หากหลานสาวสุดที่รักเป็นอะไรไปนางไม่ยอมแน่นอน “ข้าไม่คิดว่าเรื่องหมั้นนี้จะตบตาหลางอ๋องได้ คิดว่าพรุ่งนี้ของหมั้นจวนกั๋วกงคงถึงตระกูลฟ่าน ไม่ควรจัดเงียบ ๆ แล้วยังต้องจัดให้ใหญ่ด้วย” หลี่ฉงจื่อไม่เข้าใจว่าจะจัดให้ใหญ่ทำไม ในเมื่อไม่ใช่เรื่องจริง หรือว่าต้องการให้ใครบางคนดู “หมายถึงองค์ชายซ่างจั๋วผู้นั้นไม่ยอมเลิกราวีหรือเพคะ?” ไท่ซ่างหวงพยักหน้า เขาเดินหน้ามาถึงเมืองหลวง ชายแดนต้องเตรียมพร้อมแล้วเป็นแน่ หากส่งสัญญาณไม่แน่ว่าอาจจะมีศึกประชิดเมืองหลวงเร็ววัน “เราทำได้เพียงแค่ต้องสู้ตายสักครั้ง” คำว่าสู้ตายเรียกเลือดนักรบในกายของฟ่านเทียนเทียนอีกครั้ง เขารีบคุกเข่าทันที “ไท่ซ่างหวงโปรดบัญชา ข้ายินดีนำทัพสู้ศึก” หลี่ฉงจื่อเห็นน้าสามฮึกเหิมเช่นนี้ นางเดาได้ว่าท่านน้าสามน่าจะเดาเจตนาของไท่ซ่างหวงออก “ให้คนไ
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more

บทที่ 19 ข่าวลวง

“ฝ่าบาทจะสละบัลลังก์ให้หลางอ๋อง ไท่ซ่างหวงไม่ยอมจึงต้องเคลื่อนพลมากดดัน ข้าได้ยินทหารปากสว่างผู้หนึ่งที่ออกมาซื้อเสบียงพูดขึ้น” คนผู้นั้นพูดไปขณะเคี้ยวข้าวเต็มปาก “เป็นไปได้อย่างไร เหลวไหล” คนที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นเช่นกันทำให้เกิดการโต้เถียงขึ้น และเป็นหวังชิงเยว่ที่เข้าไปนั่งเพื่อไกล่เกลี่ยและสอบถามที่มาที่ไป “ขอถามพี่ชาย ข้าเพิ่งเดินทางมาไม่รู้เหนือใต้ อยากทราบว่าที่ใดที่ทหารอยู่ ข้าจะได้ไม่เฉียดใกล้ พอดีภรรยาข้าท้องอ่อน ๆ นางสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง หากตาบอดเดินเข้าไปในเขตทหารกลัวจะเกิดเรื่อง” หลี่ฉงจื่อยู่ปากหันหน้าหลบ เขาเอานางไปอ้างอีกแล้ว แต่ทว่ากลับได้เห็นรอยยิ้มของเหยาเอ๋อร์ นางจึงบิดเนื้อของสาวใช้หนึ่งครั้ง หวังชิงเยว่พูดอย่างถูกคอกับคนเดินทาง และพ่อค้าเร่ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรื่องราวอยู่ราวครึ่งชั่วยาม เห็นควรว่าต้องออกเดินทางแล้วจึงร่ำลาและพูดอย่างขนลุกขนพองว่า จะไม่เฉียดเข้าใกล้ที่พวกนั้นเด็ดขาด ก่อนออกจากโรงพักม้า เขาทำทีเป็นประคองหลี่ฉงจื่อเอาไว้ในอ้อมกอดจนกว่าจะขึ้นรถม้า แต่นางกลับดิ้นรนจนถูกเขาดุ “เจ้าต้องแสดงให้
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more

บทที่ 20 ทางเดียวที่รอด

ตำบลเยว่ชงมีทหารเข้าตรวจทุกบ้าน ไม่ว่าบ้านไหนก็ห้ามขัดขืนไม่เช่นนั้นจะถูกลงโทษ แต่หวังชิงเยว่ไม่คิดว่าทหารจะเข่นฆ่าชาวบ้าน เพราะเป็นผู้บริสุทธิ์โดยปกติจะละเว้นจึงวิ่งหนีออกจากโรงเตี๊ยมเข้าป่าไปทางด้านหลังเทือกเขาอู๋หลงซัน และคิดว่าทหารคงไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะใช้เส้นทางน้ำในการหลบหนี ท่าเรือที่มีแพไม้ไผ่ล่องไปยังอีกอำเภอตอนนี้เหลือเพียงแค่ลำเดียว หวังชิงเยว่ไม่รีรอรีบจ้างทันที เพราะว่าไม่ได้เอาคนสนิทมาด้วยให้อยู่รักษาความปลอดภัยฝ่าบาท ร่วมกับแม่ทัพน้อยฟ่าน-เทียนเทียนจึงทำให้เขาและนางหนีกันแบบทุลักทุเล “ท่านลุงเจ้าคะ ข้าจะล่องไปอีกตำบล คิดเท่าไหร่เจ้าคะ” “ไม่เท่าไหร่” ชายวัยกลางคนสวมหมวกปีกกว้างแทบมองไม่เห็นหน้าพูด แล้วรีบปลดเชือกจากหลักโดยไม่ถามสิ่งใด นั่นทำให้หวังชิงเยว่สังเกตเห็นความผิดปกติ “ไม่ไปแล้ว” หวังชิงเยว่พูดขึ้นแล้วดันหลี่ฉงจื่อขึ้นมาบนฝั่ง เขารู้สึกเหมือนกับไม่น่าไว้ใจ ฉงจื่อร้อนรน หากยังอยู่ที่เยว่ชงมีหวังได้ตายกันหมดแน่ แต่ทว่าเมื่อเห็นสายตามองไปยังชายผู้นั้นของหวังชิงเยว่แล้วรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของตนเอง จึงไม่กล้าส่งเสี
last updateLast Updated : 2025-12-13
Read more
PREV
1234
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status