เรื่อง 'อังศุมาลี' มักจะถูกอ่านผ่านเลนส์ของความรักที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดและการละทิ้ง ในฐานะคนที่ชอบจับสัญลักษณ์เล็กๆ น้อยๆ ผมมองเห็นว่าผลงานนี้ทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนสถานะของผู้หญิงในสังคมท้องถิ่น: ดอกไม้ที่ครอบครองฉาก ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับ แต่คือภาระและคำสัญญาไปพร้อมกัน ดอกมะลิหรืออังศุมาลีในเรื่องถูกใช้ซ้อนความหมาย ทั้งความบริสุทธิ์ ความคาดหวังทางครอบครัว และการจำกัดพื้นที่ของตัวละครหญิง
ในมุมมองของนักวิจารณ์โดยทั่วไป การอ่านเชิงสัญลักษณ์ยังชี้ให้เห็นการใช้ภาพธรรมชาติ—แม่น้ำ เงา แสงจันทร์—เป็นตัวแทนของชะตากรรมและความทรงจำ ฉันชอบการวิเคราะห์ที่เปรียบเทียบการไหลของแม่น้ำกับการยอมรับหรือการต่อต้านชะตาชีวิตของตัวละคร นอกจากนั้น ชุดและเครื่องประดับยังถูกตีความว่าเป็นสัญลักษณ์ของสถานะและบทบาท การเปรียบเทียบกับฉากใน 'สี่แผ่นดิน' ช่วยขยายมิติที่ว่านี้ เพราะทั้งสองเรื่องต่างใช้วัตถุประจำวันเป็นเครื่องหมายของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
สิ่งที่ทำให้การวิเคราะห์น่าสนใจคือการจับความขัดแย้งระหว่างความงามกับความโหดร้ายของชีวิต ฉันมักจะคิดถึงฉากที่ตัวละครยิ้ม
ท่ามกลางดอกไม้—สวยงามแต่ขม เป็นภาพที่ติดตาและบอกเล่ามากกว่าคำพูดใดๆ มุมมองแบบนี้ทำให้ 'อังศุมาลี' ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องรัก แต่เป็นงานที่ท้าทายให้เราตั้งคำถามกับนิยามของศีลธรรมและความเป็นอิสระในบริบทดั้งเดิม