กลิ่นของประโยคที่ดีมักจะมาจากรายละเอียดเล็ก ๆ ที่คนอ่านไม่ทันรู้ตัวว่าสัมผัสได้ ฉันชอบสังเกตว่าบางประโยคเหมือนมีเสียงกระซิบหรือเหมือนภาพวาดฉาบน้ำมันที่ค่อยๆ คืบหน้าไปในหัวผู้อ่าน เช่นในงานของ 'One Hundred Years of Solitude' ที่คำพูดไม่ใช่แค่บอกเหตุการณ์ แต่เรียงตัวเป็นภาพเคลื่อนไหวของความทรงจำและความฝัน
จุดสำคัญสำหรับฉันคือการใช้ภาพพจน์และจังหวะภาษาที่สอดประสานกัน นักเขียนที่วาดภาพด้วยคำจะเลือกคำที่มีสัมผัสทางประสาทสัมผัสชัด—กลิ่น เสียง รส ผิวสัมผัส—แล้วปล่อยให้จังหวะของประโยคผลักดันอารมณ์ของฉาก บางครั้งคือประโยคสั้นกระชับที่เหมือนลมหายใจ บางครั้งเป็นวลียาว ๆ ที่พาเราล่องไปในความคิดของตัวละคร การสร้าง
สุนทรียภาพไม่ได้ขึ้นกับศัพท์ไฮโซเสมอไป แต่ขึ้นกับความแม่นยำและความกล้าที่จะตัดหรือเพิ่มช่องว่างในภาษาจนเกิดเสียงของงานนั้นเอง
สุดท้าย ฉันมักให้ความสำคัญกับความไม่ลงตัวเล็ก ๆ เช่นการทับศัพท์ที่ทำให้จังหวะเปลี่ยน คำที่ซ้ำแบบมีนัย หรือการเล่าที่ไม่ตรงเวลา เหล่านี้คือเครื่องมือที่ทำให้ภาษาในนิยายกลายเป็นประสบการณ์ที่กินใจ ไม่ใช่แค่ข้อมูลจบเรื่องแล้วหายไป