ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดสำหรับฉันคือความตั้งใจเบื้องหลังการกระทำของธานอสในสองสื่อมันเดินทางคนละเส้นทาง แม้เงาตัวละครจะคล้ายกัน — มนต์อำนาจ ความเงียบเยือกเย็น และความพร้อมจะกระทำสิ่งสุดโต่ง — แต่ในคอมิกส์ภาพใหญ่ของเขามักผูกกับความสัมพันธ์กับตัวตนที่เป็น 'ความตาย' และความอยากท้าทายโชคชะตา ในขณะที่ภาพยนตร์ตีความใหม่ให้เขาดูเป็นนักวางแผนที่เชื่อว่าการลดจำนวนประชากรเป็นการทำให้จักรวาลสมดุลมากขึ้น ฉันชอบจินตนาการฉากใน 'The Infinity Gauntlet' ที่ธานอสพูดกับตัวตนของความตายอย่างเย็นชาและยิ่งใหญ่ เป็นการสื่อถึงความ
คลั่งไคล้เชิงปรัชญาซึ่งต่างจากฉากใน 'Avengers: Infinity War' ที่ให้เอกลักษณ์เป็นพ่อผู้สูญเสียและนักพ่อลูกผู้อ่อนโยนต่อ Gamora ความแตกต่างนี้ทำให้การรับรู้ของแฟนๆ เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
มุมมองเชิงบุคลิกภาพก็ไม่เหมือนกันด้วย เพราะในคอมิกส์ธาโนสถูกนำเสนอเป็นตัวร้ายที่ซับซ้อนและโอหังในกลิ่นอายเทพเจ้า เขาเป็นผู้แสดงละครระดับจักรวาลที่ชอบบทพูดยาวๆ และวางแผนด้วยเหตุผลเชิงอัตถิภาวนิยม ส่วนในภาพยนตร์ฉากเล็กๆ อย่างการพา Gamora ไปยังดาวหนึ่ง กลับให้บริบททางอารมณ์ที่ทำให้เราเห็นมิติด้านความสัมพันธ์มากขึ้น ฉันคิดว่าการเปลี่ยนโทนแบบนี้ช่วยให้ผู้ชมจำนวนมากเข้าถึงตัวละครได้ง่ายขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความเป็นเอกลักษณ์เชิงไซโคโลจิคัลของคอมิกส์ที่จางลง
ท้ายที่สุดความแตกต่างที่ฉันรู้สึกคือผลที่เกิดกับโลกรอบตัว ในคอมิกส์เหตุการณ์แบบ 'snap' มักเป็นจุดเริ่มต้นของ
มหากาพย์ที่เกี่ยวพันกับพลังจักรวาลและผลพวงทางเมตาฟิสิกส์ ส่วนในภาพยนตร์มันกลายเป็นเครื่องมือสะท้อนจริยธรรมและความเสียสละของฮีโร่ การรุงรังของคอมิกส์ทำให้ธานอสเป็นสัญลักษณ์ของความตายเชิงปรัชญา ส่วนเวอร์ชันภาพยนตร์เน้นบทบาทของเขาในฐานะตำนานร่วมสมัย ซึ่งทั้งคู่มีเสน่ห์ แต่รู้สึกต่างกันจนชัดเจน