มีวิธีง่ายๆ ที่ทำให้เราดู '
ลิขิตรักข้ามเวลา' แบบถูกลิขสิทธิ์โดยไม่เสี่ยงทั้งกับคอนเทนต์และบั้นปลายทางกฎหมาย เรื่องหลักๆ คือเลือกช่องทางที่มีสิทธิ์จำหน่ายหรือเผยแพร่ในประเทศไทยหรือในภูมิภาคของเราให้แน่นอนก่อน แล้วตัดสินใจว่าจะสมัครสมาชิกหรือซื้อเป็นตอน/เป็นซีซั่นตามที่แพลตฟอร์มเสนอ ชื่อเรื่องมักจะมีการปล่อยอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ที่มีข้อตกลงกับผู้ผลิต เช่นบริการสตรีมมิ่งระดับนานาชาติ, แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในท้องถิ่น หรือช่องทางดิจิทัลที่ซื้อขาดได้
ถัดมา ตัวเลือกจริงๆ ที่มักเจอได้บ่อยคือ Netflix, Viu, iQIYI, WeTV, TrueID หรือ AIS Play และในบางกรณีอาจมีให้เช่าหรือซื้อบน Google Play Movies/Apple iTunes หรือ Amazon Prime Video การซื้อแผ่น DVD/Blu-ray จากร้านค้าหรือเว็บที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการก็เป็นอีกทางที่ดี เพราะเป็นการสนับสนุนทีมงานโดยตรง นอกจากนี้บางเรื่องยังปล่อยทุกตอนในช่อง YouTube ของผู้ผลิตหรือบริษัทผู้จัดอย่างเป็นทางการ โดยมักมีคำบรรยายและคุณภาพไฟล์ที่ชัดเจน ซึ่งเป็นสัญญาณว่ารายการนั้นได้รับการอนุญาต
วิธีสังเกตว่ายังเป็นลิขสิทธิ์แท้คือมองหาลายเซ็นของผู้จัดหรือโลโก้บริษัทผู้ถือลิขสิทธิ์บนหน้าเพจของแพลตฟอร์ม, คำอธิบายที่ระบุผู้จัดจำหน่าย, คุณภาพวิดีโอที่สม่ำเสมอ และซับไตเติลที่มีคุณภาพ เช่นคำแปลที่สมเหตุสมผลและมีเครดิตให้ผู้แปล การมีข้อมูลวันออกอากาศหรือหมายเลขตอนครบถ้วนก็ช่วยยืนยัน ถ้าพบว่าช่องไหนให้ดาวน์โหลดหรือสตรีมในคุณภาพต่ำ มีโฆษณาแทรกที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือไม่มีข้อมูลเจ้าของลิขสิทธิ์ ก็ควรหลีกเลี่ยงเพราะมีโอกาสเป็นของละเมิดลิขสิทธิ์ได้ นอกจากนี้ควรระมัดระวังการใช้ VPN เพื่อข้ามภูมิภาค เพราะอาจขัดกับเงื่อนไขการให้บริการของแพลตฟอร์ม
บทสรุปแบบเป็นกันเองก็คือ การเลือกช่องทางถูกลิขสิทธิ์ไม่ได้แค่ให้ความสบายใจว่าไม่ผิดกฎหมาย แต่ยังได้คุณภาพเสียง-ภาพและคำบรรยายที่ดีกว่า แถมยังเป็นการสนับสนุนทีมงาน นักแสดง และคนทำเบื้องหลังให้มีโอกาสทำงานดีๆ ต่อไป ผมมักเลือกที่มีซับไทยชัดและภาพคม เพราะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในฉากหรือบทพูดทำให้ฉากย้อนเวลาใน 'ลิขิตรักข้ามเวลา' มีพลังขึ้นเยอะ และนี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมการดูแบบถูกลิขสิทธิ์ถึงคุ้มค่าในระยะยาว