กู้เฉิงเหยียนกำลังจะแต่งงานกับรักแรก เจียงหร่านที่อยู่กับเขามาเจ็ดปีกลับไม่ตีโพยตีพาย แล้วยังช่วยจัดงานแต่งให้พวกเขาอย่างยิ่งใหญ่ด้วย วันที่เขาจัดพิธีมงคลสมรส เจียงหร่านก็สวมชุดเจ้าสาวเช่นกัน บนถนนอันกว้างใหญ่ รถแต่งงานสองคันแล่นสวนกัน ตอนที่เจ้าสาวทั้งสองแลกช่อดอกไม้กัน กู้เฉิงเหยียนได้ยินเสียงเจียงหร่านบอกว่า “ขอให้มีความสุขนะ!” กู้เฉิงเหยียนไล่ตามอยู่ไกลหลายสิบกิโลเมตร ถึงได้ตามรถแต่งงานของเจียงหร่านทัน เขาดึงเจียงหร่านเอาไว้แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น “เจียงหร่าน เธอเป็นของฉัน” ผู้ชายคนหนึ่งก้าวลงมาจากรถแต่งงานแล้วดึงเจียงหร่านเข้าไปกอด “ถ้าเธอเป็นของคุณ แล้วผมล่ะเป็นใคร?”
View Moreคนที่คนอื่นพยายามแทบตายก็ไม่ได้เจอ แต่เธอกลับได้เจอถึงสองครั้งในวันเดียว นี่มันต้องโชคดีขนาดไหนกัน?โจวฉือก็สังเกตเห็นเธอเหมือนกัน เพียงแต่ใบหน้าที่เย็นชาสงบนิ่งนั้นไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ราวกับไม่เคยพบเจอเธอมาก่อนต้องยอมรับว่าเขาเป็นผู้ชายที่เย็นชาที่สุดเท่าที่เจียงหร่านเคยเจอมา ไม่มีใครเทียบได้เลยเกิ่งเจิ้งส่งแขกออกไปอย่างสุภาพ แล้วหันมามองเจียงหร่านด้วยรอยยิ้ม “ฉันนึกว่าคุณจะนอนไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าซะอีก”“ทำไมไม่ปลุกล่ะคะ?” แม้ว่าเจียงหร่านจะนอนหลับสบายมาก แต่การนอนนานเกินไปก็ไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่เมื่อก่อนเวลามาที่นี่ก็เคยเผลอหลับไปบ้าง อย่างมากก็นอนแค่หนึ่งหรือสองชั่วโมง“คุณมาหาฉันเพื่ออะไรล่ะ?” คำพูดเดียวของเกิ่งเจิ้งทำให้เจียงหร่านพูดอะไรต่อไม่ออกเธอมาหาเขาก็เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับ เพราะอยากจะนอนให้หลับ ในเมื่อเธอนอนหลับสมใจอยากแล้วจะมาปลุกทำไมล่ะ?“ขอบคุณค่ะ” เจียงหร่านเอ่ยขอบคุณเกิ่งเจิ้งมองกระเป๋าในมือเธอ “ไม่อยู่คุยกันต่ออีกหน่อยเหรอ?”“นอนไปทั้งวันแล้ว ยังมีอะไรให้คุยอีกคะ” เจียงหร่านกังวลว่าโรคเก่าจะกำเริบ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะวิตกกังวลไปเอง“คุณไม่ได้ม
โจวฉือ!ทายาทของตระกูลโจว เป็นคนที่ไม่ชอบเปิดเผยตัวตนอย่างมาก ไม่เคยถ่ายรูปและไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ คนที่รู้จักเขามีน้อยมาก แต่เจียงหร่านดันเป็นหนึ่งในนั้นต้องขอบคุณที่เธอเคยทำงานเป็นผู้ช่วยของกู้เฉิงเหยียน จึงมีโอกาสได้เจอเขาอยู่ครั้งสองครั้งคนขับรถที่เพิ่งจะตะคอกใสเจียงหร่านอย่างดุร้าย พอได้ยินคำพูดของโจวฉือก็ตัวหดเล็กลงเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมทันที เขาพยายามจะอธิบายกับโจวฉือ แต่กระจกรถกลับเลื่อนปิดแล้วกระทั่งโอกาสที่เจียงหร่านจะกล่าวคำขอโทษกับเขาก็ยังไม่มีนี่หมายความว่าอะไรเจียงหร่านรู้ดีแก่ใจ โจวฉือไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับเธอแม้แต่น้อยเจียงหร่านหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแจ้งตำรวจและแจ้งประกัน เมื่อตำรวจมาถึง รถโรลส์-รอยซ์สีดำคันหนึ่งก็ขับเข้ามาพร้อมกันด้วย คนขับรีบลงจากรถและเปิดประตูให้อย่างนอบน้อมรองเท้าหนังสีดำเงางามแตะลงบนพื้น โจวฉือเดินลงจากรถอย่างสง่างาม เขาไม่ได้ชายตามองใครเลยสักนิด ก่อนจะก้าวเข้าไปนั่งเข้าไปในรถโรลส์-รอยซ์โดดเดี่ยว เย็นชา หยิ่งทะนงแม้ว่าจะตัดสินคนจากภายนอกอย่างเดียวไม่ได้ แต่เจียงหร่านก็ยังคงสร้างภาพจำของโจวฉือไว้ในใจเมื่อคนของบริษัทประก
“เจียงหร่าน ฉันไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว เธอต้องช่วยน้านะ!”เส้าฟู่เหมยพูดไปพลางร้องไห้ไป ช่างดูสิ้นหวังและโศกเศร้า “เจียงหร่าน ป้าเห็นเธอเป็นลูกสาวมาตลอดนะ”การบีบคั้นทางศีลธรรมใช้ไม่ได้ผลกับคนรุ่นเจียงหร่านอีกต่อไป เธอคลึงขมับที่ปวดตุบๆ “คุณนายกู้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยคุณนะคะ แต่ตอนนี้ฉันกับคุณไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันแล้ว และฉันก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปยุ่งเรื่องของคุณด้วย ถ้าฉินเจิงทำร้ายคุณ วิธีที่ดีที่สุดคือแจ้งตำรวจ ถ้าคุณไม่สะดวก ฉันช่วยคุณได้ค่ะ”เมื่อเจียงหร่านพูดจบ เส้าฟู่เหมยก็เงียบไป เจียงหร่านจึงเข้าใจได้ว่าการขอความช่วยเหลือเป็นเรื่องหลอกลวง เกรงว่าคงมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงจนป่านนี้แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขายังมองเห็นเธอเป็นคนโง่อยู่“คุณนายกู้ ตอนนี้ฉันไม่ว่างค่ะ” เจียงหร่านกดวางสายทันทีแสงอาทิตย์ยามเย็นนอกหน้าต่างลับขอบฟ้าไปแล้ว ในห้องจึงตกอยู่ในความมืด หน้าจอโทรศัพท์ของเธอสว่างขึ้น เป็นข้อความตอบกลับจากเกิ่งเจิ้ง [ถ้าว่างก็แวะมาหน่อย พวกเรามาคุยกัน]เจียงหร่านไม่ได้ตอบกลับ เธอจมอยู่ในความมืดเช่นนั้น...แม้ว่าเฮ่อเฉินโจวจะย้ายมาอยู่ห้องตรงข้ามเธอ แต่ก็ไม่ได้มารบกวนเ
“คุณนายเฮ่อคิดว่ายังไงล่ะครับ?”เฮ่อเฉินโจวเปิดประตูห้องฝั่งตรงข้ามของเธอ ทำให้เจียงหร่านถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะตอนที่เธอซื้อห้องนี้ ห้องฝั่งตรงข้ามมีคนเข้าอยู่แล้ว ตอนนั้นพนักงานขายยังบอกว่าเจ้าของเข้าอยู่มาปีกว่าแล้ว หรือว่าเธอเข้าใจเฮ่อเฉินโจวผิดไปมันแปลกประหลาดเกินไปแล้ว!เขาคงไม่สามารถหยั่งรู้อนาคตได้หรอกว่าเธอจะมาซื้อห้องที่นี่ เขามาเลยซื้อดักไว้ก่อนใช่ไหม?แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง คือการที่เธอซื้อห้องนี้อาจเป็นเพราะถูกชักจูง แต่ตอนนี้จะพูดอะไรไปก็ไม่มีความหมายแล้ว“คุณเฮ่อพักผ่อนให้สบายนะคะ” เจียงหร่านพูดจบก็เข้าประตูห้องตัวเองไป ร่างกายพิงบานประตูแล้วหลับตาลงอย่างอ่อนแรงแม้ในใจจะสับสนวุ่นวาย แต่เจียงหร่านก็พยายามไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน เธอต้องบังคับตัวเองให้เข้าสู่โหมดนอนหลับ แต่เธอก็ล้มเหลว ทำยังไงก็ข่มตาหลับไม่ลงเพื่อช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นเธอจึงเปิดขวดเหล้า แต่พอดื่มจนเหล้าใกล้จะหมดขวด เธอกลับยิ่งดื่มยิ่งตาสว่าง ยังคงนอนไม่หลับอยู่ดีความรู้สึกแบบนี้ทำให้เจียงหร่านเริ่มหวาดกลัว เธอหยิบมือถือขึ้นมาหารายชื่อคนที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว กดส่งข้อความไปว่า
สามเดือนแล้วมันยังไงล่ะ?ถ้าใจเธอไม่หวั่นไหว ใครจะทำอะไรเธอได้?ถ้าเธอมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ยังควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้ เจียงหร่านคนนี้ก็คงจะย่ำแย่เกินไปแล้ว“ในเมื่อคุณเฮ่อยืนยันแบบนั้น ก็คงต้องรอดูกันต่อไป” เจียงหร่านรู้สึกหนาวขึ้นมาจริงๆ แม้ว่าตอนนี้พระอาทิตย์จะขึ้นเต็มดวงแล้ว และแสงแดดอุ่นๆ ก็ส่องกระทบตัวเธออยู่ในทางกลับกัน เฮ่อเฉินโจวสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีดำตัวเดียว แถมยังเปิดคอเสื้อยังเปิดกว้าง แต่กลับเหมือนไม่รู้สึกหนาวเย็นอะไรเลย ราวกับว่าอากาศหนาวเหน็บพวกนี้เข้าไม่ถึงตัวเขา“ถ้าถึงตอนนั้นเกิดรักผมขึ้นมาจะทำยังไง?” เฮ่อเฉินโจวถามขึ้นอย่างไม่รีบร้อนแสงแดดส่องกระทบใบหน้าของเขา เคลือบด้วยแสงสีเหลืองนวล ขนตาของเขายาวมาก ยาวราวกับว่าแม้แต่แสงแดดก็ยังมาเกาะอยู่บนปลายขนตา สีหน้าแววตาที่ดูเกียจคร้านของเขายิ่งแฝงไปด้วยความมั่นใจและความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ“ไม่มีทางหรอก” เจียงหร่านทิ้งคำพูดสี่คำไว้แล้วหันหลังกลับ“คุณยายครับ” เสียงเรียกของเฮ่อเฉินโจวทำให้เธอสะดุ้ง พอหันกลับไปก็เห็นคุณยายจริงๆท่านตื่นแล้วและหวีผมสีดอกเลาจนเรียบร้อย กำลังยืนยิ้มมองพวกเขาอยู่ตรงนั้นสายตานั้นเหมื
อากาศยามเช้าตรู่เย็นยะเยือก แต่ต้นคอของเจียงหร่านกลับอบอุ่นเป็นลมหายใจของเขา และการพิงอิงแอบของเขา...ใครจะไปคิดว่าเฮ่อเฉินโจวผู้สูงส่งจะมีมุมที่ขี้อ้อนเหมือนเด็กน้อยแบบนี้ด้วยหัวใจของเจียงหร่านสั่นไหวเล็กน้อย ในชั่วพริบตานั้น บอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน แค่คิดว่าคงทำใจผลักเขาออกไปไม่ได้เธอกำลังหันหน้าไปทางทิศตะวันออกพอดี แสงสีแดงของรุ่งอรุณนั้นสดใสขึ้นเรื่อยๆ สีสดราวกับ...เลือดทันใดนั้น มีบางอย่างแวบเข้ามาในสายตาของเจียงหร่าน มือที่ขยุ้มเสื้อของเขาอยู่หดกลับเล็กน้อย"เฮ่อเฉินโจว" เจียงหร่านเรียกเขา"อืม" เสียงของเขาต่ำมาก ราวกับกำลังจะหลับไปจริงๆ"คุณไม่ต้องเอาใจฉันขนาดนี้ ฉันก็จะช่วยให้หลวนหลีฟื้นขึ้นมาอย่างเต็มที่" น้ำเสียงของเธอตึงเครียด ตั้งแต่ตอนที่เธอเรียกชื่อเขาเจียงหร่านพูดจบ แขนที่โอบรอบตัวเธอก็กระชับแน่นขึ้น "หืม?"สิ่งที่เธอพูด เขาไม่มีทางฟังไม่เข้าใจ "เฮ่อเฉินโจว คุณแต่งงานกับฉันก็เพื่อหลวนหลี ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะไม่แน่ใจว่าคุณทำไปเพื่อแก้แค้นหรือเอาคืน หรือว่าอยากให้ฉันช่วยฟื้นฟูเธออย่างเต็มใจ แต่ฉันอยากจะบอกคุณว่าคุณไม่จำเป็นต้องแสดงละครรักลึกซึ้งพวกนี้"
Comments