เอาล่ะ มาเล่าแบบคนที่หลงรักโลกใต้ทะเลและตัวละครนี้มานานหน่อย: ความแตกต่างระหว่าง 'Aquaman' ฉบับหนังกับคอมมิคไม่ได้อยู่แค่ภาพลักษณ์ภายนอก แต่กระทบทั้งโทนเรื่อง ตัวตนของอาเธอร์ เคอร์รี และวิธีเล่าเรื่องโดยรวม หนังเวอร์ชันที่รู้จักกันดีของบรรดาคนทั่วไปมักนำเสนออาเธอร์ในแบบดุดัน โหด และเป็นนักรบทะเลที่มีเสน่ห์แบบคาวบอย (ต้องยกเครดิตให้การแสดงของ Jason Momoa) ในขณะที่คอมมิคดั้งเดิมมักเขียนเขาเป็นกษัตริย์ผู้ทรงเกียรติหรือฮีโร่สไตล์โกลเดน/ซิลเวอร์เอจที่ใส่ชุดสีส้ม-เขียวและมีพลังควบคุมสัตว์น้ำกับการหายใจใต้น้ำแบบตรงไปตรงมา
พูดถึงตัวละครรองและความสัมพันธ์: หนังใส่องค์ประกอบจากยุคใหม่เยอะ เช่นการให้ Mera มีบทบาทแข็งแรงและเป็นนักรบในตัวเอง มากกว่าที่บางยุคของคอมมิคเขาถูกมองเป็นเพียงคนรักหรือผู้ช่วย นอกจากนี้คู่ปรับอย่าง Orm (King of the Seven Seas) กับ Black Manta ในหนังถูกปรับให้ง่ายขึ้นเพื่อเหตุผลด้านการดำเนินเรื่อง—แรงจูงใจชัดเจนและฉากการต่อสู้ฉูดฉาด ในคอมมิค แรงจูงใจและประวัติศาสตร์ของศัตรูบางตัวมีความลึกซึ้ง ซับซ้อน และผ่านสังเวียนเวลาในจักรวาล DC มานาน เช่นพล็อตการเมืองระหว่างแอตแลนติสและโลกผิวดินที่มักถูกขยายเป็นอาร์คยาวๆ เช่น 'Throne of
atlantis' ที่มีรายละเอียดการเมืองและการทรยศซึ่งหนังหยิบนิดหน่อยมาใช้
มาที่องค์ประกอบโลกและสไตล์การนำเสนอ: หนังเลือกโทนภาพและเสียงที่ฉันคิดว่าเป็นการเฉลิมฉลองความเป็นภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ ใต้น้ำถูกทำให้มีสีสันฉูดฉาด เทคโนโลยีและสิ่งมีชีวิตดูแฟนตาซีผสมไซไฟ ในขณะที่คอมมิคมีหลากหลายสไตล์ขึ้นอยู่กับยุคและครีเอทีฟทีม บางเล่มดราม่าขมขื่น บางเล่มตลกขบขัน และบางยุคเน้นโทนนิยามกษัตริย์-ผู้พิทักษ์ นอกจากนี้คอมมิคยังมีความต่อเนื่องยาวและสาขาย่อยมากมายที่ให้มิติ เช่นเรื่องราวต้นกำเนิดแบบต่างๆ หรืออาร์คที่ขยายไปยังจักรวาลกว้างของ DC ส่วนหนังจำเป็นต้องเลือกเส้นเรื่องหลักเพื่อง่ายต่อผู้ชมที่ไม่คุ้นเคย
ท้ายที่สุด ความแตกต่างทำให้ทั้งสองเวอร์ชันมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน: หนังเป็นประตูสวยงามที่ลากคนจำนวนมากเข้ามารู้จักตัวละครด้วยพลังภาพและบทแอ็กชัน ส่วนคอมมิคให้ของที่ลึกกว่าและเศษเสี้ยวประวัติศาสตร์ที่แฟนเดิมสะสมมานาน ที่ฉันชอบคือการได้เห็นทั้งสองอย่างอยู่ด้วยกัน—เมื่อหนังทำให้คนใหม่สนใจและคอมมิคเติมรายละเอียดให้คนที่รักโลกใต้ทะเลอยู่แล้ว มันให้ความรู้สึกเหมือนพบมุมมองใหม่ๆ ของฮีโร่เดิมที่เรารัก