หวานหรือพริณตาซึ่งมีอายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้นแต่ต้องถูกแม่เลี้ยงใจร้ายพามาตรวจพรหมจรรย์เพียงเพราะพรรณีต้องการพาเธอไปขายให้เสี่ยชัด ไอ้เสี่ยบ้ากาม มันต้องการเพียงเด็กสาววัยขบเผาะเท่านั้น พริณตาหวาดกลัวอย่างมากเพราะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของมันมาอย่างดีว่าโรคจิตแค่ไหน "ฉันอยากได้ใบรับรองว่ามันยังบริสุทธิ์อยู่ค่ะ" พรรณีบอกคุณหมอหนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องตรวจ เขาเงยหน้าขึ้นมองคนพูดและเด็กสาวอีกคนที่นั่งก้มหน้างุด "มันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลเจ้า ตัวเขายอมไหมครับ" พฤกษ์คุณหมอหนุ่มวัยสามสิบสองพูดขึ้นอย่างสุภาพ "มันเป็นลูกฉัน มันก็ต้องยอมสิ แกยอมใช่ไหมอีหวาน" "ค่ะ ค่ะ" เธอรีบตอบ ในหัวกำลังคิดหาทางว่าจะหนีจากแม่เลี้ยงใจร้ายและไอ้เสี่ยบ้ากามนั้นได้อย่างไร "งั้นเชิญญาติคนไข้ไปรอข้างนอกก่อนนะครับ" คุณหมอหนุ่มผายมือให้นางพรรณีออกไปนอกห้องตรวจ "เออ ฉันขอคุยกับคุณหมอตามลำพังได้ไหมคะ" พริณตาพูดขึ้นเพราะเธออยากเจรจากับคุณหมอหนุ่มตรงหน้า เวลานี้คงไม่มีใครช่วยเธอได้อีกนอกจากเขาเท่านั้น พยาบาลผู้ช่วยสาวไม่แน่ใจหันไปมองหน้าคุณหมอหนุ่ม "ตามเข้ามาข้างใน" "มันไม่ใช่แม่หนู"
Lihat lebih banyakเสียงครางของหญิงสาวในท่ามอบคลานอยู่กับพรมในห้องรับแขกกว้างขวางหรูหรา หน้าของเธอแนบลงกับพื้นพรม ก้นงอนงามกำลังแดงก่ำเพราะแรงกระแทกจากเขาอย่างบ้าคลั่ง กระโปรงนักศึกษาถูกดึงร่นไปกองอยู่ตรงเอวคอด
“หมอหวานเจ็บ” เสียงร้องครางของหญิงสาวดังแข่งกับเสียงเนื้อที่กระทบกันเป็นจังหวะ
“เจ็บหรือเสียว” เสียงของคุณหมอที่กางเกงหลุดไปจากร่างแล้วเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนถามเสียงนุ่ม เขาคุกเข่ากระหน่ำแทงอยู่ด้านหลังเธออย่างไม่เหน็ดเหนื่อยตั้งแต่เธอกลับมาถึงห้อง
“เสียว...อ๊า...เสียว..ทั้งเสียวทั้งเจ็บ อ๊า..ทั้งจุก” พริณตาร้องบอกเขาไม่เป็นภาษากี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เขาไม่เคยอ่อนโยนกับเธอ เขามันพวกเอาแต่ใจ ขี้โมโห
“อ๊า..อย่าขยี้ติ่งมันเสียว อู้ย..เสียว เสียว” เสียงร้องครางหนักของเธอเมื่อเขาใช้มืออีกข้างขยี้ส่วนอ่อนไหวของเธอ เพียงไม่นานเสียงกรีดร้องของเธอก็ดังขึ้นน้ำหวานถูกปล่อยออกมาเปียกพื้นพรม รูรักเต็มไปด้วยน้ำเฉอะแฉะ เขาชอบแบบนี้ที่สุดชอบมาก
“หมออย่า...อ๊า...อ๊า..” เขาถอนตัวตนออกพร้อมจับเธอพลิกหงายเปิดเปลือยดอกไม้ของเธอให้เขาได้ใช้ลิ้นละเลงตรงติ่งเสียวของเธออย่างบ้าคลั่งภาพที่ไอ้รุ่นพี่คนนั้นมันจับแขนเธอทำให้เขาแทบบ้า เขาหวง ของของเขาใครจะมายุ่งไม่ได้ถ้าเขายังไม่เบื่อ
เขาดูดและขบกลีบดอกไม้บานฉ่ำของเธอ ยิ่งดูดแรงมากขึ้นเท่าไหร่น้ำหวานจากกายสาวก็ยิ่งไหลออกมามากขึ้นเท่านั้น หวานแอ่นอ้าดอกไม้ของเธอให้เขาได้เข้ามามากขึ้น แบะอ้า ส่ายร่อนเพราะความเสียวที่เขามอบให้ ถึงเธอจะเสร็จติด ๆ กันหลายต่อหลายครั้งแต่เธอสู้ไม่ถอย
“เอาหวาน หมอเอาหวาน เอาแรง ๆ อ๊ากก” เสียงร้องของพริณตาดังไม่หยุด ตอนนี้เธอทั้งเสียว ทั้งเจ็บ แต่เธอก็อยากให้เขากระแทกตัวตนของเขาให้เร็วขึ้น หญิงสาวครางถี่น้ำหวานไหลเยิ้มเต็มพื้นพรม
“หวาน ยืนขึ้น” เขาดึงเธอขึ้นมายืนทั้งที่ขาสองข้างของหญิงสาวยังสั่นเทาเพราะความเสียว ที่พึ่งเดียวที่เธอมีคือพนักพิงของโซฟาตัวใหญ่ เขายกขาข้างหนึ่งของเธอพาดไว้ที่โซฟา
“อ๊า หมอ” เธอร้องเสียงดังเพราะโดนกระแทกจากด้านหลังจนสุดทางในคราวเดียว เสียวซ่าน เจ็บ จุก แต่ถึงใจ
“เธอรู้ว่าฉันโกรธแล้วจะโดนอะไร อ๊า” เสียงคุณหมอหนุ่มหล่อกระแทกกระทั้นไม่หยุด เขาเข้าสุดออกสุดทุกครั้ง
“หวานเสร็จอีกแล้วหมอ ...อ๊า อ๊า” เสียงของพริณตาครางออกมาอย่างสุขสม เธอรู้ดีว่าเขาโกรธแล้วเธอจะโดนอะไร แต่เธอชอบ ชอบให้เขาโกรธ ชอบโดนเขาเอาเธอแรง ๆ แบบนี้...อ๊า...
เขาพูดหอมแก้มทั้งสองแม่ลูก ก่อนจะบรรจงสวมแหวนนิ้วนางข้างซ้ายให้ผู้หญิงคนแรกที่เขาขอแต่งงาน เขาลูบหลังมือน้อย ๆ ของเธอก่อนจะจูบลงตรงนิ้วที่สวมแหวน“สวยจังเหมาะกับแม่มี่มากเลย” ไม่ต้องบอกว่าลูกใครปากหวานได้พ่อจริง ๆ ชาร์มมี่หัวเราะชอบใจในความเหมือนของทั้งคู่ทั้งสามคนกอดกันอีกครั้ง ความสุขท่วมท้นในหัวใจของคนทั้งสาม ครอบครัวคำนี้เองที่เรียบง่ายแต่กลับยิ่งใหญ่ในหัวใจของพวกเขาทั้งสาม“ขอบคุณนะคะหมอ” เธอขอบคุณเขาอีกครั้ง ในตอนที่ทั้งสองอยู่ในห้องนอนใหญ่ อ้อมกอดเขาทำให้เธออบอุ่นเสมอ“ขอบคุณหนูเหมือนกันที่ดูแลพี่กับลูกอย่างดี มีอะไรที่อยากได้อีกไหมครับ”“อยากได้หมอ”“ก็ได้อยู่นี่ไงครับ”“อยากได้หลายที” เธอจูบเขาที่ข้างแก้มคำว่าอยากได้หลายทีทำคนฟังขนลุกไปทั้งร่าง ใช่อยากได้หลาย ๆ ทีเหมือนกันนะ“รออะไรครับ เป่าเทียนก่อนเลยไหม” คนชวนเป่าเทียนดึงเธอขึ้นมานั่งบนตัวเขา ให้เธอนั่งทับเทียนเล่มใหญ่“หมอ”ชาร์มมี่ทุบอกเขาอย่างเขินอาย มอบจูบหวานล้ำแทนคำขอบคุณ ภายใต้ชุดนอนกระโปรงไม่มีชั้นในให้ขัดใจ เธอรูดชุดนอนบางพ้นจากร่าง อวดหน้าอกเต็มไม้เต็มมือที่เขาชอบคนรีบร้อนขยับสะโพกให้เธอดึงกางเกงผ้ายืดให้พ้นทาง
สามปีผ่านไป เคทกำลังป้อนข้าวลูกน้อยคนที่สามของเธอ เธอเพิ่งวางสายจากลูกสาวคนโต ที่โดนพรากไปจากอก จะว่าพรากไปก็จะดูเกินจริงไปมาก เพราะน้องคลีนไม่ยอมกลับมาอยู่กับเธอและภาษิตตั้งแต่เธอคลอดลูกชายคนที่สองด้วยเหตุผลนี้เคทกับภาษิตเลยต้องผลิตลูกเพิ่ม แต่ทั้งสองไม่ได้โกรธหรือน้อยใจน้องคลีนกับปภังกรเลย เพราะทั้งปภังกรและชาร์มมี่พาน้องคลีนแวะมาเยี่ยมครอบครัวของเคทและภาษิตแทบทุกวัน ความใกล้ชิดของสองครอบครัวยิ่งมีมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปน้องคลีนในวัยแปดขวบกำลังวุ่นวายกับการเขียนหน้าเค้กที่เด็กหญิงทำเอง โดยมีพ่อหมอมีนกำลังช่วยทำ ถึงจะลำบากไปบ้างแต่สองพ่อลูกก็ตั้งใจให้เค้กออกมาน่ากินที่สุด วันนี้เป็นวันเกิดของแม่มี่ น้องคลีนกับพ่อมีนจัดงานเซอร์ไพรส์ ให้กับแม่มี่ ตอนนี้ให้น้าพิชชี่หลอกแม่มี่ไปเลี้ยงวันเกิดกับเพื่อน ๆ “พ่อสวยไหมคะ” “สวยครับสวย” “แม่มี่จะชอบไหม” “ชอบสิครับ พ่อเห็นแม่มี่ชอบทุกอย่างที่หนูทำให้” น้องคลีนได้ฟังแบบนั้นก็ยิ้มแก้มบานเพราะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เธอให้อะไรแม่มี่ดีใจน้ำตาไหลทุกครั้ง ดูอย่างเมื่อวันแม่ที่ผ่านมาสิ น้องคลีนเ
“ก็คนมันอาย” ชาร์มมี่กอดเขาพร้อมซุกหน้าตรงไหล่กว้าง ใครจะไม่อายบ้างเรื่องแบบนี้ “ทำไมกลับเร็วคะ” “ธุระเสร็จเร็ว ป้าดาชอบเลยตัดสินใจเซ็นสัญญาซื้อไปแล้ว” วันนี้คุณหมอหนุ่มทำหน้าที่ลูกเขยขับรถจากเชียงใหม่พาแม่ยายและป้าเมียไปทำธุระที่ต่างอำเภอ ธุระของแม่ยายกับป้าดาส่วนมากมีแค่เรื่องดูที่ ซื้อที่เพิ่ม นั่นคืองานอดิเรกของทั้งสองคน ทุกวันนี้ลูกเขยที่ชอบขับรถและพูดคุยกับคนทั่วไปจึงต้องทำหน้าที่ขับรถ เป็นที่ปรึกษาวิเคราะห์ความเสี่ยง ความน่าจะเป็น ประเมินราคา ดูศักยภาพของพื้นที่ว่าจะสามารถต่อยอดได้หรือเปล่า เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อของผู้ใหญ่ทั้งสอง ตอนนี้ชายหนุ่มกลายเป็นลูกชายสุดที่รักของบ้านไปแล้ว บางครั้งชาร์มมี่ถึงกลับเบะปากในความหลงลูกเขยของทั้งคู่ “เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน พี่คลีนครับเดี๋ยวคุณพ่อไปอาบน้ำก่อนนะครับ เราจะได้ไปเยี่ยมน้องคินกันนะครับ” “ค่ะคุณพ่อ” ชาร์มมี่มองตามหลังสามี มือของเธอจับจูงเด็กหญิงตัวน้อย ครอบครัวของเธอสมบูรณ์แบบ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้ มีครอบครัวพ่อแม่ลูก ผู้หญิงข้ามเพศอย่างเธอไม่เคยคิดว่
“พี่นึกว่าหนูไม่อยากจำ เห็นหนูไม่พูดพี่เลยไม่พูด” เขาไม่คิดว่าจะเจอเธออีกครั้ง เจอกันอีกครั้งเธอเปลี่ยนไปมากเป็นผู้หญิงมากกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรก “แล้วพี่หมอหายไปไหนมา” ชาร์มมี่กอดเขาอย่างออดอ้อน ร้องไห้ออกมาเพราะดีใจที่ผู้ชายคนนั้นคือเขา “กลับไปเรียนพี่แค่มาเที่ยว คิดถึงเรื่องตอนนั้นแล้วเลยมาทำงานเชียงใหม่ดู ไม่คิดว่าจะเจอหนู” “โห นี่กะฟันแล้วทิ้งจริง ๆ” “ใครทิ้งใครกันแน่ ตื่นมาหนูก็หายไปแล้ว พี่นึกว่าตัวเองโดนรูดทรัพย์แล้ว” เขาหัวเราะชอบใจ มือหนาเช็ดคราบน้ำตาให้คนขี้แย หัวเราะชอบใจกับสิ่งที่เธอเป็น ภาพลักษณ์ของเธอกับสิ่งที่เธอเป็นห่างไกลกันมาก ทำตัวเหมือนเจนจัด ทำตัวเหมือนนางมารร้าย แต่จิตใจแสนดี เธอเป็นผู้หญิงอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นผู้หญิงจริง ๆ “หนูดีใจ ที่ครั้งแรกของหนูทั้งสองครั้งเป็นพี่หมอ” “พี่ก็ดีใจ แต่ถึงพี่ไม่ใช่คนแรกของหนู พี่ก็ไม่ได้ซีเรียสนะ สำหรับพี่ขอแค่เป็นหนู” “น่ารักอะ แฟนใครเนี่ยน่ารักจัง” เธอประคองสองข้างแก้ม จูบแก้มซ้ายแก้มขวาของเขาอย่างรักใคร่ “รักหนูจัง” ทั้งคู่จูบกันเนิ่
“ต้องการอะไรจากกูไหมถึงได้ชมขนาดนี้” ช้างของเพื่อนถึงกับเขิน พูดตลกกลบเกลื่อนเพราะความเขิน “น่ารักจริง ๆ มึง” พิชชี่ช่วยยืนยันอีกเสียง “วันนี้มึงจะบอกอาร์จริง ๆ เหรอ” นีน่าถามอย่างตื่นเต้นเพราะรู้ว่าเพื่อนชอบอาร์มานานแล้วตั้งแต่ได้รู้จักกัน พวกเธอกับอาร์เรียนสาขาเดียวกัน มีหลายต่อหลายครั้งที่อาร์เองก็เหมือนให้ความหวังกับช้าง เพราะเวลาไปเที่ยวที่ไหนมาอาร์จะชอบซื้อขนมมาฝากช้างบ่อย ๆ “บอกจริง ๆ การแอบชอบใครไม่ใช่ทางของกู บอกแล้วเขาไม่ชอบเราก็แค่อกหักนิดหน่อย” ช้างพูดออกมาอย่างไม่อาย อกหักไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเธอ หลายต่อหลายครั้งที่อกหักจากคนที่เธอเคยแอบชอบ แต่ครั้งนี้อาจจะเจ็บหน่อยตรงที่มีความหวังมากกว่าทุกครั้ง งานเลี้ยงวันเกิดดำเนินไปตามที่มันควรจะเป็น อาร์แวะมานั่งคุยกับพวกเธอ และแน่นอนเขานั่งข้างช้าง “เดี๋ยววันนี้กลับพร้อมกันนะ” อาร์พูดขึ้นมือของเขาจับมือของเธอที่วางอยู่บนตักของตัวเอง ช้างขนลุกไปทั้งร่าง ผู้ชายชวนกลับพร้อมกันแถมยังจับมือ นี่ไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม เธอคิดถึงขั้นที่เขาพาเธอขึ้นเตียงไปแล้ว คืนนี้ตอนกลับด้วยกันเธอ
“ดีแล้วดีใจที่มึงเจอคนดี” นีน่ากอดเพื่อน พิชชี่เห็นแบบนั้นก็เข้าไปกอดด้วยอีกคน“เว่อร์ไปพวกมึง นี่กูแค่มีผัว ไม่ต้องซึ้งขนาดนั้น”“มึงก็เป็นซะอย่างนี้” พิชชี่ผลักหัวเพื่อน กำลังจะซึ้งกัน พาให้ฮาตลอด“พูดอะไรซึ้ง ๆ เดี๋ยวกูร้องอีก ไม่อยากร้องไห้เดี๋ยวไม่สวย” ชาร์มมี่ยิ้มกับเพื่อน ๆ“อีหวานมันเป็นไงบ้างเนี่ย” นีน่าบ่นถึงหวานที่ตอนนี้ไปเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่น“เห็นว่ามันมีเพื่อนแล้วนะ” ชาร์มมี่บอกจากที่โทรคุยกับเพื่อนเมื่อคืน“ฝากความคิดถึง ถึงมันด้วยนะ” นีน่าบอกกับชาร์มมี่ที่มีกำหนดเดินทางไปอยู่กับหวานสักเดือนสองเดือน อยากไปนอนเล่นโง่ ๆ ที่ญี่ปุ่นบ้างนอนเล่นโง่ ๆ ที่ไทยมานานแล้วชาร์มมี่อยากจะเล่าเรื่องของเธอกับหมอมีนให้เพื่อนรักอย่างหวานฟัง แต่การมาญี่ปุ่นของเธอครั้งนี้กับพบแต่เรื่องวุ่นวายของหวานกับพี่หมอพฤกษ์ เธอไม่อยากให้เพื่อนทุกข์ใจเพราะเรื่องของเธอ เลยตัดสินใจว่าเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนหวานเห็นพี่หมอมีนมารอรับเธอที่หน้าห้อง ชาร์มมี่คิดว่าเพื่อนคงเข้าใจแล้วว่าเธอกับเขามีความสัมพันธ์อย่างไร ทั้งสองตัดสินใจว่าเที่ยวกันให้เต็มที่ ให้สมกับที่ตั้งใจว่าจะมาพักผ่อนคนอื่นจะสามารถติดต่อได้แค่ในช
Komen