บอกเลยว่าฉันหลงเสน่ห์ความโหดของเรื่องนี้ตั้งแต่หน้าแรกที่เห็นโครงเรื่องของ '
youjo senki' — มันเป็นนิยายสงครามที่สะท้อนความขัดแย้งระหว่างศรัทธาและเสรีภาพในแบบที่เยือกเย็นแต่คมคาย ฉากเปิดนำเสนอการกลับชาติมาเกิดของผู้ชายชาวออฟฟิศที่ถูกบังคับให้กลายเป็นเด็กสาวในโลกสมมติที่ใกล้เคียงยุคสงครามโลก เรื่องราวเดินตามการไต่เต้าในกองทัพของเธอด้วย
เวทมนตร์และการวางแผนแบบร้ายกาจ ทำให้ภาพรวมเป็นทั้งไบรท์ภาพการรบทางอากาศและละครเชิงจิตวิทยา
โครงเรื่องหลักจึงเป็นการต่อสู้สองชั้น — หนึ่งคือสนามรบที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์ การสู้รบด้วยเวทมนตร์ และการเมืองภายในกองทัพ อีกชั้นคือการปะทะระหว่างตัวละครหลักกับสิ่งที่เรียกว่า Being X ที่เป็นแรงขับให้เกิดการทดลองเรื่องศรัทธาและชะตากรรม ฉากที่เธอเผชิญหน้ากับบททดสอบศีลธรรมท่ามกลางการขึ้นยศและการสังหารหมู่สะท้อนธีมหลักอย่างชัดเจน: สงครามไม่ได้เป็นแค่การชนะหรือแพ้ แต่มันคือการแลกเปลี่ยนอัตลักษณ์ เสรีภาพ และผลพวงของการเลือก
ในมุมมองของฉัน เรื่องนี้ทำหน้าที่ทั้งเป็นนิยายแอ็กชันและงานสืบสวนปรัชญา มันท้าทายแนวคิดปฏิธรรมและถามว่าถ้าคนที่เคยเชื่อในเหตุผลถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับความคิดเรื่องพระเจ้า ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร — และนั่นแหละที่ทำให้ 'Youjo Senki' น่าติดตามจนวางไม่ลง