ภาพของไทเฮาทำให้ฉันนึกถึงห้องบัลลังก์ที่เต็มไปด้วยเงื้อมมือของการเมืองและเสียงกระซิบจากข้างหลัง ไม่ได้มีเพียงตำแหน่งทางสายเลือดเท่านั้นที่ทำให้เธอสำคัญ แต่เป็นการจัดสมดุลระหว่างอำนาจนอกศาลและอำนาจในราชสำนักที่ฉันชอบสังเกต
เมื่อไทเฮาเข้ามาเป็นตัวกลาง เธออาจทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำจุนบัลลังก์ในเวลาที่กษัตริย์ยังเด็กหรืออ่อนแอ ในมุมมองของฉัน บทบาทนี้ไม่จำเป็นต้องเลวร้ายเสมอไป—หลายครั้งไทเฮาดูแลให้สถาบันยังคงเดินต่อไปและป้องกันการลุกฮือจาก
ขุนนางเถื่อน อย่างเช่นฉากหนึ่งใน 'The Last Emperor' ที่แสดงให้เห็นว่าพลังของผู้หญิงผู้มั่นคงสามารถเก็บความเปราะบางของสถาบันไว้ได้
นอกจากการเมืองตรงๆ แล้ว ฉันยังมองเห็นไทเฮาเป็นผู้กำหนดนโยบายทางวัฒนธรรมและจริยธรรม เธอเป็นผู้ที่ปลูกฝังภาพลักษณ์ของราชวงศ์ให้คงอยู่ต่อไป แม้จะต้องแลกกับการเสียสละส่วนตัวหรือการตัดสินใจที่โหดร้าย การเป็นไทเฮาจึงมักเป็นการเลือกทิ้งความเป็นตัวตนเพื่อรักษาโครงสร้าง ถ้ามองแบบนี้แล้ว บทบาทของเธอคือจุดตัดระหว่างความอบอุ่นแบบมารดาและเย็นชาของนักการเมือง ที่สุดแล้วฉันมักจะรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่แบกอดีตและอนาคตของบ้านเมืองไว้พร้อมกัน