พวกเขาทั้งสี่ยืนอยู่ภายนอกห้องโถงและพูดคุยกันอยู่นาน ก่อนที่ครึ่งหลังของการประมูลจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง จากนั้นพวกเขาก็กลับเข้าไปหลังจากที่ทุกคนนั่งลงแล้ว พวกเขาก็เริ่มการประมูลอีกครั้ง วัตถุโบราณในช่วงครึ่งหลังของการประมูลนั้น มีค่ามากกว่าในช่วงครึ่งแรกเป็นอย่างมากมีภาพวาดของปรมาจารย์ในสมัยโบราณ ตราประทับหยกของจักรพรรดิที่สูญหายไปนับพันปี และยังรวมไปถึงคทาที่ราชวงศ์ยุโรปเคยใช้พวกเขามีสมบัติที่หายากและแปลกใหม่ทุกประเภท และยังไม่มีที่สิ้นสุดอาจเป็นเพราะใกล้จะถึงช่วงเวลาของการประมูลสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ล้ำค่าที่สุดแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงดูกระวนกระวายมากขึ้นพวกเขาไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่วัตถุโบราณชิ้นก่อนหน้านี้อีกต่อไป พวกเขาเพียงแค่กลั้นหายใจ รออย่างเงียบ ๆ ให้สมบัติชิ้นสุดท้ายปรากฏขึ้นแน่นอนว่ามัสซิโมเองก็เคยได้ยินถึงเรื่องสมบัติชิ้นสุดท้ายนี้เช่นกัน เขามีความรู้สึกอยู่คร่าว ๆ ว่า วิกกี้และเกรกอรีอาจจะมีความคิดเห็นเช่นเดียวกันกับเขาเขาหันกลับมาหาควินซี่และพูดว่า "ฉันคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวกับการทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้นั้นเป็นเรื่องโกหก ถ้าหากผู้คนจะมีชีวิตอยู่ตลอดไปไ
วิกกี้มองควีนซี่ด้วยความรู้สึกขอบคุณ“คุณควีนซี่ คุณนี่เป็นคนฉลาดจริง ๆ เลยนะคะ”มัสซิโม โนแลนถึงกับอึ้งไปเลยทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเขากำลังถูกทอดทิ้ง?แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร แต่เขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเกรกอรีคงจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน เกรกอรีคงจะรอไปจนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้ายของการประมูล เพื่อต่อสู้ชิงมันมาในไม่ช้า ชาวต่างชาติผมบลอนด์ก็พ่ายแพ้ไปอีกฝ่ายถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พลางส่ายหัวไปมาด้วยความผิดหวัง จากนั้นเขาก็หันหลังกลับไป ก่อนจะโบกมือเพื่อแสดงความชื่นชมต่อคุณคลินตัน และเป็นสัญญาณว่าเขาได้ยอมแพ้แล้วสีหน้าไม่พอใจได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณคลินตันคราวนี้คุณคลินตันอาจจะต้องต่อสู้ และเดิมพันเกือบทั้งหมดของทรัพย์สินของเขา ดังนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ร่ำรวยที่สุด แต่เขาก็เป็นผู้ประมูลที่เสนอราคาสูงที่สุดในท้ายที่สุด สงครามการประมูลหยกอาถรรพ์ ระหว่างคุณคลินตันและชาวต่างชาติคนนั้น จากราคาเริ่มต้นที่แปดสิบล้านดอลลาร์ ก็ได้เพิ่มขึ้นไปถึงหนึ่งพันห้าล้านดอลลาร์!บนเวทีพิธีกรได้ยืนดูภาพเหตุการณ์นี้อย่างเงียบ ๆ ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มว่า "ในขณะน
ควีนซี่ดึงแขนมัสซิโมเบา ๆ แล้วพูดว่า "ฉันรู้สึกปวดท้องนิดหน่อย พาฉันไปเข้าห้องน้ำหน่อยสิ"มัสซิโมจึงหันหลังกลับมา พลางพยักหน้าให้กับเธอ แต่เขาก็ยังไม่วายหันกลับไปมองที่คุณคลินตันอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆต่อจากนั้น มัสซิโมก็บอกให้วิกกี้และเกรกอรีรอเขาอยู่ตรงนี้ ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไป และพาควีนซี่ไปที่ห้องน้ำหลังจากที่เขาเดินออกไป คุณคลินตันก็จากไปด้วยความพ่ายแพ้คราวนี้เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เนื่องจากว่าเขายังไม่ได้ทักทายกับเกรกอรีแต่เกรกอรีก็ไม่ใช่คนใจแคบและไม่เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เป็นคนใจแคบเท่านั้น แต่เขายังทักทายคุณคลินตันด้วยความยินดีอีกด้วย“ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ คุณคลินตัน”ได้ยินแบบนี้คุณคลินตันถึงกับลนลาน จนเกือบจะสะดุดล้มเลยทีเดียววิกกี้รู้สึกอดไม่ได้ เธอจึงหันไปจ้องเกรกอรีด้วยความโมโห “นี่นายขู่เขาอยู่เหรอ?”เกรกอรีเลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า "เปล่านะ ฉันพูดจริง ๆ วัยขนาดเขาไม่ควรต้องมานั่งแข่งขันการประมูลแบบนี้หรอก"วิกกี้ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้“นายกล้าดียังไงที่บอกว่าเขาไม่ควรเข้าร่วมแข่งขันการประมูลนี้ หลังจากที่เขากล้าเสี่ยงในวันนี้ ฉัน
วิกกี้ดูหยกไปพร้อม ๆ กับเขาด้วย เธอเอนตัวเข้าไปใกล้เขา เพื่อให้มองเห็นหยกอาถรรพ์ได้ชัดขึ้น จนศีรษะเกือบจะชนกันสักพักเธอก็กระซิบกับเขาว่า “เห็นอะไรบ้างรึเปล่า?”คิ้วที่คมเข็มของเกรกอรีย่นเข้าหากันเล็กน้อย ในขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สุขุมว่า “เมื่อสีปีที่แล้วมันไม่ใช่หยกชิ้นนี้?”"อะไรนะ?"วิกกี้มองเขาด้วยความประหลาดใจเกรกอรีวางหยกลง และเมื่อเขาหันหน้ากลับมา เขาก็สังเกตเห็นว่าเธอได้เอนตัวเข้ามาใกล้เขามากเต็มทีพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก จนทำให้เขาได้กลิ่นลาเวนเดอร์บนผมของเธอได้อย่างชัดเจน และมันก็ทำให้เขาอดที่จะกลั้นหายใจเอาไว้ไม่ได้แต่เขาก็ทำราวกับว่าไม่ทันได้สังเกตระยะห่างระหว่างพวกเขา ก่อนจะเลิกทำท่าเก้ ๆ กัง ๆ แล้วเอนตัวเข้าไปหาเธอแทน มันจึงทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเขาถือหยกเอาไว้ในมือ พลางอธิบายกับเธอว่า “ดูการแกะสลักบนนี้สิ เมื่อสี่ปีที่แล้ว ฉันได้ตรวจดูสัญลักษณ์บนหยกอย่างถี่ถ้วนแล้ว แต่พวกมันแตกต่างจากชิ้นนี้”วิกกี้ก็เพิ่งจะสังเกตเห็นตอนที่เขาพูดแบบนั้นออกมาแต่ทว่า ในตอนนั้นเธอไม่ได้ศึกษามันดีมากนัก ดังนั้นความทรงจำของเธอจึงค่อนข้างคลุมเครือ เธอจำได้แค่เลือนลางว่
ด้วยเหตุนี้ แอนเดรียจึงรีบพยักหน้า "งั้นคุณรอฉันสักครู่นะคะ ฉันจะไปเตรียมของมา"หลังจากได้รับอนุญาตจากวิกกี้แล้ว เธอก็ออกไปจากห้องไม่นานหลังจากนั้น แอนเดรียก็กลับมาเธอนำกล่องหนังนุ่ม ๆ อันเล็กที่ถือเอาไว้ในมือวางลงบนโต๊ะ เมื่อวิกกี้มองดู เธอก็เห็นว่ามีสิ่งของต่าง ๆ วางอยู่ข้างในวิกกี้อดไม่ได้ที่จะพูดจาหยอกล้อกับสาวใช้ของเธอ“ว้าว อุปกรณ์ของเธอค่อนข้างครบครันเลยนะ?”แอนเดรียยิ้มออกมา และพูดว่า "ใช่แล้วค่ะ เนื่องจากว่าฉันยังไม่เก่ง การที่มีอุปกรณ์เยอะแบบนี้ถือว่าช่วยฉันได้เยอะเลยล่ะค่ะ คุณวิกกี้ นอนลงบนเตียงก่อนนะคะ"วิกกี้นอนราบลงบนเตียงตามที่เธอบอกแอนเดรียขยับเก้าอี้จากโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามา แล้วนั่งลงข้างเตียงทางฝั่งศีรษะของวิกกี้หลังจากที่วอมมือของตัวเองก่อนแล้ว เธอจึงเริ่มนวดให้กับวิกกี้อย่างเบามือดูเหมือนว่าแอนเดรียจะพูดจาเจียมเนื้อเจียมตัวเกินไปหน่อย กับสิ่งที่เธอบอกว่าเธอไม่เก่งเรื่องนวดสักเท่าไรจากประสบการณ์ที่วิกกี้เคยนวดมา เธอรู้สึกว่าแอนเดรียนวดได้ดีมากเลยทีเดียวนิ้วของเธอนุ่มแต่ก็มีความแข็งแรง และแรงที่กดลงไปบนศีรษะนั้นก็ไม่ได้เบา หรือว่าหนักจนเกินไปเช่นกั
เมื่อเธอคิดว่ามันคงจะต้องเป็นแบบนั้น วิกกี้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีแต่ทว่า ตอนที่เธอเข้านอนในคืนนั้น เธอก็ยังคงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่เล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอรู้สึกค่อนข้างไม่สบายใจ ราวกับว่ามีก้อนหินกดทับที่หัวใจของเธอ จนมันทำให้เธออยากจะอาเจียนออกมาวิกกี้สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกข้างนอกมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เธอจึงลุกขึ้นจากเตียงและวิ่งออกไปดูที่หน้าต่างสิ่งที่เธอเห็นก็คือมีรถยนต์อยู่หลายคัน และผู้คนกำลังวิ่งพล่านอยู่ข้างนอก ทุกคนดูรีบร้อนและสับสนกันไปหมดวิกกี้รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี ก่อนจะก้มมองดูนาฬิกาที่ตอนนี้เป็นเวลาตีสามแล้วในช่วงเวลาเดียวกับที่เธอได้ยินเสียงนั้น แอนเดรียก็วิ่งเข้ามาจากข้างนอกเช่นกันแอนเดรียยังคงสวมชุดนอน และสวมเสื้อไหมพรมแบบบางทับไว้ข้างนอกเมื่อเห็นว่าวิกกี้ยืนอยู่ที่หน้าต่าง เธอจึงรีบพูดออกมาว่า “คุณวิกกี้ คุณเป็นอะไรรึเปล่า? คุณไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”วิกกี้หันกลับมามองเธอพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “มีอะไรเกิดขึ้นข้างนอกนั่นเหรอ?”แอนเดรียตอบว่า "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ พวกเขาบอกว่ามีคนทิ้งระเบิดในเมือง และเรากำลังจะเข้าสู่สงคร
“พวกเราไม่คาดคิดกันมาก่อนเลยว่า ในขณะที่พวกเราทุกคนกำลังหลับอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังออกมาจากห้องของนายน้อย”“เมื่อพวกเรารีบพังประตูเข้าไปดู ก็เห็นว่าห้องทั้งห้องถูกไฟไหม้ไปแล้ว พวกเราจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพาตัวนายน้อยออกมา แต่ว่าเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี”“และพวกเราก็ไม่สามารถหาตัวคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับห้องนั้นในช่วงเวลาอันสั้นได้ พวกเราจึงรีบพากันกลับมาก่อน”วิกกี้ขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังคำตอบนั้นเธอถามอย่างเคร่งขรึมว่า “ก่อนจะเข้าพักที่โรงแรม พวกคุณไม่ได้ตรวจสอบก่อนหรอกเหรอ?”ฮาโรลด์ตอบคำถามของเธอ ด้วยความขมขื่น “ผมตรวจสอบแล้วครับ”วิกกี้ตกใจหนักมากกว่าเดิมเธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของฮาโรลด์ตอนนี้มีแต่ความพยาบาท และยากที่จะเข้าใจ แต่ทว่าความคิดของเธอเริ่มเปลี่ยนไป และมันก็ง่ายสำหรับเธอที่จะคาดเดา“มีคนทรยศในหมู่พวกคุณเหรอ?”ฮาโรลด์กำหมัดของเขาไว้แน่น ก่อนจะพยักหน้ารับ“บอดี้การ์ด?”ฮาโรลด์พยักหน้าอีกครั้งวิกกี้ถอนหายใจออกมาถ้าอย่างนั้นก็คงไม่แปลกคนทรยศอยู่ในหมู่บอดี้การ์ด ดังนั้นอีกฝ่ายจึงสามารถวางระเบิดไว้ในห้องได้ในทุกเวลาที่สะดวก และไม่ต้องกังวลว่า
“อันที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้เกลียดนายเลย ถึงแม้ว่านายจะทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้ฉันต้องเสียใจมาก แต่ฉันก็รู้ว่านายจะยังเป็นพี่เกรกอรีของฉันอยู่เสมอ นายจะคอยปกป้องฉัน ดูแลฉัน และสัญญาว่าจะดีกับฉันไปตลอดชีวิต"เมื่อน้ำตาของวิกกี้กำลังคลอเบ้า แววตาของเธอก็ฉายแววของความโกรธแค้นขึ้นมาทันทีแต่ทว่าเธอก็ยังคงทำตัวแข็งแกร่ง และไม่ยอมให้น้ำตานั้นตกลงมาแม้แต่หยดเดียวเธอขดริมฝีปาก พลางหัวเราะออกมาเบา ๆ“นายยังจำได้ไหม ว่าตอนเด็ก ๆ ฉันชอบเรียกนายว่าพี่เกรกอรี ตอนนั้นฉันอยากมีพี่ชายมาก ฉันเลยเดินตามนายไปไหนมาไหนตลอด”“แต่ตอนที่นายสอนวิชาศิลปะการต่อสู้ให้กับฉัน นายก็ทุบตีฉัน จนฉันไม่อยากจะเรียกนายว่าพี่อีก”“นั่นคงเป็นเพราะฉันเคยได้ยินมาว่า พี่น้องคู่อื่นจะรักและตามใจน้องสาวของพวกเขา และไม่เคยตีพวกเขาเลย”“แต่นายกลับตีฉัน ฉันก็เลยเกลียดนาย ฉันจึงสาบานกับตัวเองเอาไว้ว่า ชาตินี้ฉันจะไม่เรียกนายว่าพี่ชายอีก”“นายจำได้ไหม เพราะเหตุนี้นายเลยโกรธฉันมานาน แต่พอนายรู้ว่าทำไมจู่ ๆ ฉันก็เลิกเรียกนายว่าพี่ชาย นายก็เลยยอมแพ้ไปในที่สุด”“เกรกอรี ถ้านายตื่นขึ้นมาตอนนี้ ฉันจะเรียกนายว่าพี่ชายเกรกอรีอีกครั