เมเดลีนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากราวกับว่าหัวใจของเธอถูกเฉือนออกเป็นพัน ๆ ครั้งด้วยคมมีดเล่มหนึ่ง “เจเรมี่ สิ่งที่ฉันพูดเป็นความจริง!”“สำหรับฉันแล้วไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความรู้สึกของเมเรดิธ เธอกำลังพ่นขยะอะไรออกมา?”การตอบกลับมาของเขาเจ็บปวดเกินต้านทาน มันตรงดิ่งเข้ามาปักหัวใจของเมเดลีนราวกับดาบที่แหลมคมก็ไม่ปานดังนั้นสำหรับเขาแล้ว ความจริงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญเลย สิ่งสำคัญที่สุดคือ เขารักเมเรดิธ และความจริงนั้นทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงเธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอจมดิ่งเหมือนกับก้อนหิน ราวกับว่าเธอสูญสิ้นแล้วกับความหวังทั้งหมด และทำได้เพียงสนองความปรารถนาของผู้ชายคนนี้เท่านั้นเมเดลีนยิ้มออกมาอย่างเสียใจ “ตกลง ฉันจะขอโทษ”เธอทนแบกรับความเจ็บปวดที่มีในร่างกาย และก้มหัวขอโทษเมเรดิธเมเรดิธแอบยิ้มเยาะ รอยยิ้มแห่งชัยชนะนั้นทำให้เธอพอใจกับมันมากเธอไม่เคยมีความคิดนั้นมาก่อนว่าเจเรมี่จะเพิกเฉยต่อความจริงเพียงเพราะเมเรดิธ เหตุผลเดียวที่มีคือเขารักเธอ เขารักเธอมากหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เมเดลีนเองไม่เคยเห็นเจเรมี่อีกเลยเธอต้องการหางานเพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เธอไม่ต้องการรับรู้ถึงควา
หากเสียงนาฬิกาปลุกไม่ดังในเช้าวันรุ่งขึ้น เมเดลีนคงไม่สามารถตื่นได้ด้วยตัวเองใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงทุกการกระทำ และคำพูดในสภาพเมาหัวราน้ำกับเขาเธอไปที่สำนักงานในเวลาต่อมาด้วยอาการเหม่อลอย เธอไม่สามารถลบภาพของเจเรมี่ในหัวได้เป็นเวลาร่วม 12 ปี คงเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมสละความรักที่ลึกซึ้งนี้ไปในเวลาเพียงวันเดียวเธอสัมผัสท้องแบนราบของเธออย่างเหม่อลอย ถ้าเป็นไปได้เธอต้องการให้เด็กมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ“ดิ้ง!”เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ทำให้เธอกลับมาสู่ความเป็นจริงเธอเหลือบไปมองมัน และเห็นว่ามันเป็นข้อความมาจากเจเรมี่!หัวใจของเมเดลีนเริ่มเต้นเร็วอย่างผิดจังหวะ มือของเธอเริ่มสั่นเมื่อเธอเปิดข้อความสิ่งแรกที่เมเดลีนเห็นคือภาพถ่าย มันเป็นภาพถ่ายของเมเดลีนและเมเรดิธ มันถูกถ่ายขึ้นเมื่อตอนที่เธอเป็นถูกรับเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลครอว์ฟอร์ดในภาพนั้นเมเรดิธสวมชุดราคาแพง แสงสาดส่องกระทบลงมาบนใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสของเธอ และเธอช่างดูเหมือนกับเจ้าหญิงที่ไม่มีใครแตะต้องได้ เธอดูสง่างามและสมบูรณ์แบบมาก ในทางกลับกัน เมเดลีนเองสวมชุดสีขาวอมเทาเธอดูต่ำต้อยราวกับ
เมเดลีนกลับมายังที่คฤหาสน์ที่เงียบเหงาว่างเปล่า เธอคิดถึงเรื่องหย่า บวกกับคำตอบที่เจเรมี่ทำให้หัวใจเธอทวีคูณความปวดร้าวเหมือนถูกแทงด้วยมีดความคิดที่ว่าเจเรมี่จะเกลียดเธอมากขนาดนี้นั้นไม่เคยมีอยู่ในสมองเธอเลย เขาใจร้ายมากที่บอกให้เธอทำแท้งได้อย่างง่ายดายเมเดลีนรู้สึกกลัว ถ้าเจเรมี่ต้องการทำมันจริง ๆ เธอควรทำอย่างไร?ในเวลาเดียวกันมีเสียงดังมาจากประตูหน้าบ้าน เจเรมี่กลับมาแล้ว เขายังคงยืนตัวตรงและดูสง่างามเช่นทุกครั้งความประหลาดใจเกิดขึ้นในใจ เมเดลีนรู้สึกกังวลมากขึ้นเธอกลัวมากว่าเจเรมี่จะบังคับให้เธอทำแท้ง เธอค่อนข้างประหลาดใจที่เจเรมี่ไม่ได้เอ่ยถึงการหย่าร้าง หรือการทำแท้งใด ๆ ในทางกลับกันเขาย้ำให้เธอกลับไปที่คฤหาสห์วิทแมนพร้อมกับเขา ในวันที่จะถึงนี้ในฐานะภรรยาของเขา ซึ่งเป็นวันเกิดครบรอบ 50 ปีแม่ของเขาความประหลาดใจเกิดขึ้นในใจเธออีกครั้ง นี่หมายความว่าเขาพยายามจะยอมรับเธอหรือเปล่า?อย่างไรก็ตามความหวังที่เพ้อเจ้อนั่น ถูกเขาบดขยี้ลงทันที ดวงตาของชายคนนั้นเย็นชาเช่นเดียวกับคำพูดต่อมาเช่นกัน “เมเดลีนอย่าแม้แต่คิดว่าใจของฉันจะเปลี่ยนไป คงไม่มีวันที่ฉันตกหลุมรักผู้หญิงที่ไร้ยา
เมเดลีนถึงกับชะงัก จิตใจของเธอว่างเปล่าไปหมด“แมดดี้ แมดดี้”ผ่านไปไม่นานเมเดลีนได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเธอเธอได้สติกลับมาอีกครั้ง และเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เอวา ลองค์ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธอเอวามองไปยังหน้าที่ไม่มีเลือดฝาดของเพื่อนสาว เธอรู้สึกโกรธและเป็นห่วงมาก “เมเดลีน เธอเป็นเพื่อนที่แย่มาก ทำไมเธอไม่ยอมบอกเรื่องใหญ่แบบนี้กับฉัน?”เมเดลีนยังคงรู้สึกงงงวย “เอวา ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”“เธอสิ เป็นคนที่จะต้องบอกฉัน เธอเป็นคนโทรหาฉันเมื่อคืนนี้ แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบเธอก็หมดสติไป” เอวาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเมเดลีนเบา ๆ ขณะที่เธอพูด “เมเดลีน นี่เธอสูญเสียความทรงจำหรือเปล่า?”แน่นอนเมเดลีนไม่ได้สูญเสียความทรงจำของเธอใด ๆ ทั้งสิ้น เธอจำได้ดีว่าเจเรมี่บีบคอเธอก่อนจะทิ้งเธอไปในคืนนั้น ท้องของเธอกระแทกที่มุมเตียง มันเจ็บปวดมากจนไม่สามารถลุกขึ้นได้ ถึงกระนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่สนใจใยดีเธอสักนิด เขาพูดทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่ไร้ซึ้งหัวใจก่อนที่เขาจะจากไปในคืนนั้นหัวใจที่ถูกกรีดออก และความเจ็บทะลุออกมาจากกระดูกเธอเอวาหันหน้ากลับมานั่งลงบนเตียง สีหน้าของเธอดูจริงจังกว่าที่เคย “หมอน
คำครหาเสียงหลงของผู้หญิงคนนี้กำลังดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมากให้หันมาสนใจ เมเดลีนพยายามรักษาไว้ซึ้งความสุภาพ “มาดามคะ คุณเองที่เป็นคนหันมาชนฉันเมื่อสักครู่นี้ นอกจากนี้ ฉันไม่ใช่แม่บ้านของตระกูลวิทแมน”ผู้หญิงคนนั้นดูอึ้งไปสักพักก่อนจะกวาดสายตาดูชุดที่เมเดลีนสวมใส่ รอยยิ้มเหยียดหยามปรากฏบนใบหน้าที่สง่างามของเธอ “ใช่ เธอก็ดูไม่เหมือนสาวใช้ แต่ดูเหมือนคนขอทานจากข้างถนนมากกว่า”ไม่นานเสียงหัวเราะต่อกระซิกดังมาจากทางด้านหนึ่ง เมเดลีนเองไม่ต้องการโต้เถียงอีกต่อไป ขณะที่เธอกำลังเดินหลีกออกมา เธอก็เห็นเมเรดิธเดินสวนมาในเวลาเดียวกันการแต่งตัวที่เข้ากันกับทรงผมที่เกล้าขึ้น บวกกับการแต่งหน้าที่สวยงามทำให้เธอดูดีกว่าทุกครั้ง เมื่อเธอเห็นเมเดลีน เธอแสดงสีหน้าอาการตกใจ “โอ้ นี่เธอเองเหรอ แมดดี้”เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยินสิ่งที่เมเรดิธพูด เธอมองไปที่เมเดลีนอย่างดูถูก "คุณนายวิทแมน คุณรู้จักขอทานโง่ ๆ คนนี้ด้วยเหรอ?”เมเดลีนนิ่งไปอย่างตกตะลึง อะไรกันผู้หญิงคนนี้คิดว่าเมเรดิธเป็นภรรยาของเจเรมี่ เห็นได้ชัดว่าเมเรดิธไม่ได้แก้ต่างในเรื่องนั้น ตรงกันข้ามเธอกับยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น"มาดามแลงฟอ
เมเดลีนกำลังจะถูกนำตัวออกไป แต่ในขณะนั้นหญิงสาวที่มีท่าทางสงบเยือกเย็นเดินตรงไปหามาดามแลงฟอร์ด และกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูของเธอทันใดนั้น มาดามแลงฟอร์ดก็แสดงท่าทีเปลี่ยนไป เธอมองไปยังมาเดลีนอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะพูดว่าเรื่องทั้งหมดมันคือเรื่องเข้าใจผิดเมเดลีนไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เมื่อเธอมองไปยังใบหน้าของหญิงผู้นั้น เธอก็สังเกตได้ว่าหล่อนกำลังมองเธออย่างรังเกียจสายตาของเธอทำให้เมเดลีนรู้สึกไม่ดีนัก ในขณะเดียวกันเมเรดิธก็ได้เดินเข้ามา“แมดดี้ นี่คือแม่ของเจเรมี่ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว เธอไม่ต้องเดินทางไปยังสถานีอีกต่อไปแล้ว แต่เธอต้องสัญญากับฉันว่าจะไม่ทำอะไรที่น่าขายหน้าแบบนี้อีก”เมเรดิธพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล เมเดลีนพยายามที่จะอธิบาย แต่แม่ของเจเรมี่ก็ได้เดินจากไปหลังจากที่มองดูเธอด้วยความไม่พอใจเมเรดิธกระตุกยิ้ม เธอเดินตามหลังหล่อนไป และคอยอยู่ข้าง ๆ แม่ของเจเรมี่ มันดูเหมือนพวกเขาเป็นคู่แม่สามีกับลูกสะใภ้ที่รักกันดีเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังแว่วเข้ามาในหูของเธอ และยังมีเสียงหัวเราเบา ๆ อีกด้วยคุณนายวิทแมนเป็นคนที่ไร้เล่ห์เหลี่ยมเกินกว่าที่จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่อ
ท่าทีที่ดูสนิทสนมอย่างกะทันหันของเขา ทำให้หัวใจของเมเดลีนเกิดเต้นเร็วขึ้น ใบหน้าของเธอก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นที่ละเล็กน้อยเธอเงยหน้าขึ้นมองเจเรมี่ ใบหน้าด้านข้างของเขาดูดีมาก แต่ใบหน้าของเขายังดูเรียบเฉย“คุณปู่อยู่นี่”คำพูดสามคำที่เขาพูดออกมาอย่างเยือกเย็น และเมเดลีนก็เข้าใจในทันทีเขาแค่อยากจะแสดงว่าเป็นคู่รักที่รักกันดีต่อหน้าผู้อาวุโสแห่งวิทแมน หัวใจของเมเดลีนเริ่มหนาวเหน็บ และเธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ช่างตลกเหลือเกินไม่มีบุคคลภายนอกที่โต๊ะอาหารมื้อนี้ ถ้าจะมีสักคนก็คงจะเป็นเมเรดิธสายตาของผู้อาวุโสแห่งวิทแมนดูมีเมตตา อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง เมเดลีนรู้สึกว่าเขายังคงดูเหมือนเดิม ราวกับว่าเธอเคยเห็นเขาเมื่อหลายปีก่อนสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้เมเดลีนก็คือ การที่เจเรมี่เมินเฉยต่อความรู้สึกของเมเรดิธ และดูแลแค่เธอ เพียงเพื่อทำให้ท่านอาวุโสมีความสุขไม่ใช่แค่ที่เขาตักอาหารให้เธอ แต่เขายังแกะกุ้งให้เธออีกด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เมเดลีนเห็นรอยยิ้มอันอ่อนโยนของเจเรมี่ ในโอกาสที่หาได้ยากเช่นนี้เมเดลีนเงยหน้าขึ้นมองเมเรดิธ เธอกำลังบังคับตัวเองให้ยิ้ม แต่เห็นได้ชัดว่าเธอไม
เจเรมี่ดูวิดีโอจบ เขามีสีหน้าว่างเปล่า “คุณได้มันมาจากไหน” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาเมเดลีนรู้สึกถึงความผิดปกติ “ฉันได้มันมาจากไหน มันสำคัญอย่างนั้นเหรอ? ความจริงมันสำคัญกว่าไม่ใช่เหรอ?”"ความจริงอย่างนั้นเหรอ?" เจเรมี่เงยหน้าขึ้น และปัดนิ้วลบวิดีโอนั้่น เขายังลบสำเนาสำรองของมันที่อยู่ในอัลบั้มของเมเดลีนอีกด้วยเมเดลีนตกใจกับการกระทำของเขามาก เธอยื้อแย่งเพื่อเอาโทรศัพท์ของเธอคืน แต่มันสายเกินไป เขาล้างโฟลเดอร์อัลบั้มที่ถูกลบไปแล้ว“เจเรมี่ ทำไม? ทำไมคุณทำอย่างนั้น? คุณไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้มีคนวิจารณ์ฉันทางโลกออนไลน์มากแค่ไหน? นั่นเป็นวิดีโอเดียวที่ฉันสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉันได้!”ความหวังของเมเดลีนพังทลายลงอย่างไรก็ตาม เจเรมี่ยังคงเยาะเย้ยอย่างไม่แยแส “ความบริสุทธิ์ของเธอเกี่ยวอะไรกับฉัน? ตราบใดที่ทำให้เมเรดิธมีความสุขมันก็เพียงพอแล้ว”คำถามของเจเรมี่ทำให้เมเดลีนพูดไม่ออกความบริสุทธิ์และชีวิตของเธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา!เขาสนใจแต่เมเรดิธ ดังนั้นแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะทำสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับเขา เขาก็ยังคงรับได้ทั้งหมดเป็นเพราะเขารักเธอ เขาตาบอดเพราะความรัก เขาร