“ไม่ร้องสิจ๊ะคนสวย เปลี่ยนจากเสียงร้องเป็นเสียงครางให้พวกพี่ฟังดีกว่า หน้าสวยๆ หุ่นแซ่บๆ แบบนี้ เสียงครางจะหวานโดนใจขนาดไหนน้า~”
หยาบคาย สถุล ฉันไม่รู้จะด่าคนพวกนี้ด้วยคำไหนแล้ว
พ่อคะ แม่คะ ใครก็ได้ช่วยหงส์ที
ในใจกู่ร้องอ้อนวอนถึงสิ่งที่สมองน้อยๆ ของตัวเองคิดออก ถ้าฉันยังพอมีบุญวาสนาเหลืออยู่ พระเจ้าโปรดส่งใครก็ได้มาช่วยฉันที แล้วฉันจะตอบแทนพระคุณของคนผู้นั้นแม้แต่ชีวิตนี้ก็ยอม
“มามะ มาให้พี่กินซะดีๆ”
“กรี้ด!!!”
ฉันรีบหลับตาปี๋ หลังจากที่ไอ้อ้วนพุ่งร่างน่าเกลียดของมันตรงมาจะฉีกกระชากเสื้อผ้าของฉันออก มันจะจบลงตรงนี้งั้นเหรอ? ร่างกายที่บริสุทธิ์ของฉันจะตกอยู่ในเงื้อมมือพวกสัตว์เดรัจฉานสองคนนี้จริงๆ ใช่ไหม
ตุ้บ ผลั้วะ อัก
“อ๊าก!!!”
“มึงเป็นใครวะ แส่ไม่เข้าเรื่อง”
ตอนที่ฉันกำลังถอดใจว่าครั้งนี้คงไม่รอดเงื้อมมือสองคนนี้แน่ๆ ก็ได้ยินเสียงดัง ตุบ ตับ คล้ายเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นเบื้องหน้า
เสียงนั้นดังอยู่ไม่ถึงสองนาทีก็เงียบไป รับรู้ได้ว่าร่างกายตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการก่อนหน้านี้แล้ว เลยรีบหอบอากาศหายใจเข้าออกแรงๆ เปลือกตาน้อยๆ ค่อยๆ เบิกขึ้นเพื่อมองสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
ภาพที่เห็นหลังจากที่ปรับสายตาให้เข้ากับความสลัวๆ ในตรอกนี้ได้คือร่างของสองคนที่กำลังจะข่มขืนฉันนอนสลบเหมือดอยู่บนพื้น สภาพดูเหมือนยังมีชีวิตแต่ก็เละเหมือนกับไม่หายใจ พอละสายตาจากร่างสองร่างที่นอนแน่นิ่ง ฉันก็เห็นกับคนที่จัดการสองคนนี้ที่กำลังจะเดินจากไป
“ดะ เดี๋ยวสิคะ!” ฉันรีบร้องตะโกนออกไปจนสุดเสียง
เมื่อภาพชายร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำ ผมสีชมพู กำลังจะเดินพ้นซอยนี้ คนที่เพิ่งช่วยฉันเมื่อครู่ชะงักเท้ากึกตามเสียงเรียก พร้อมกับเอี้ยวใบหน้ามามองฉันเพียงแค่ครู่เดียว
ทำให้ฉันสบเข้ากับแววตาแสนเย็นชานั้นที่มองมาแบบเยือกเย็นไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ร่างกายค้างนิ่งไปชั่ววิฯ เมื่อตั้งสติหาเสียงตัวเองเจอ กำลังจะเอ่ยคำขอบคุณก็ไม่ทัน ผู้มีพระคุณคนนั้นได้เดินออกไปจากตรอกแคบๆ นี้แล้ว
“ขอบคุณนะคะ” แต่ถึงกระนั้น ฉันก็ยังคงเอ่ยขอบคุณเขาตามหลังไป แม้รู้เขาคงไม่ได้ยินเสียงเล็กๆ ของตัวเองก็ตาม
‘หงส์ต้องรู้จักคุณคนนะลูก ใครดีกับเรา เราต้องตอบแทนเขา’
‘ชีวิตแลกชีวิตเหรอคะ’
‘ฮ่าๆ อันนั้นมันใช้กับการแก้แค้นนะลูก’
‘ต้องใช้คำว่า บุญคุณต้องทดแทน แบบนี้เหมาะกว่านะ’
เสียงสองเสียงดังก้องอยู่ในหัว แต่ฉันกลับไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคพวกนั้นกับตัวเอง แต่อย่างน้อย ฉันก็จำคำสั่งสอนนั้นติดตัวมาและกำลังจะเริ่มการทดแทนบุญคุณผู้ชายคนนี้ให้จงได้
“ฉันจะต้องตามหาคุณให้เจอ ผู้มีพระคุณของฉัน”
หลังจากวันที่ฉันเกือบถูกข่มขืนในตรอกวันนั้น และมีผู้ชายใจดีมาช่วยไว้ทัน ฉันก็เริ่มออกตามหาเขาโดยการใช้เงินที่มีอยู่ จ้างคนที่มีฝีมือทางด้านวาดรูปที่เจอเขาเปิดรับวาดอยู่ที่ตลาดนัดแห่งหนึ่ง
ด้วยความจำที่ค่อนข้างดีของฉันบวกกับฝีมือของนักวาดคนนั้น ทำให้ฉันได้ภาพวาดของผู้มีพระคุณรวมทั้งภาพวาดลูกน้องคนสนิทของป๊าอย่างฉิงเฉา
ฉันเริ่มออกตามหาพวกเขาไปทั่วทุกซอกทุกมุมภายในละแวกนั้น แต่นี่ก็ผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้วฉันยังหาพวกเขาไม่เจอเลย
“ขอโทษนะคะ พอรู้จักผู้ชายในภาพนี้หรือเปล่า” ฉันถามลุงที่น่าจะอายุประมาณห้าสิบปลายๆ ที่กำลังเดินสวนทางกับฉัน เขารับกระดาษแผ่นนั้นไปดูสักพักก็ส่ายหัวกลับมา
ไม่ใช่แค่คุณลุงท่านนี้หรอกนะ หลายๆ คนที่ฉันขอให้พวกเขาดูภาพวาดสองแผ่นในมือตัวเอง ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ไม่เคยเห็น’ หรือ ‘ไม่คุ้นหน้า’ ทั้งสองคนนี้ “อย่าเพิ่งท้อสิไฉ่หง เธอต้องหาพวกเขาเจอ”
ฉันรวบรวมความฮึดอีกครั้งออกเดินตามหาพวกเขาไปเรื่อยๆ ค่ำไหนฉันก็นอนนั่น เพราะเงินติดตัวเหลือไม่กี่บาท ทำให้ต้องประหยัดเงินไว้ก่อน แต่ยังถือว่าเป็นโชคดีของตัวเอง ที่หลังจากวันนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์เหมือนในตรอกนั้นเกิดขึ้นกับฉันอีกเลย
“ฉันส่งข้อความบอกคู่หมั้นเธอแล้วว่าเธอเปลี่ยนใจจะอยู่ที่นี่ต่อ”วะ ว่าไงนะ! นี่มันมากไปแล้วนะ ฉันไปตัดสินใจแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่“มากไปแล้วนะยูกิ” ฉันเผลอตัวเรียกเขาด้วยชื่ออีกแล้วแต่แทนที่ยูกิจะใส่ใจในเรื่องนั้นเขากลับนิ่งเฉย แต่แวบหนึ่งฉันกลับเห็นความตื่นเต้นกับสิ่งที่ฉันเรียกเขาก่อนหน้าในแววตาคู่คมนั้น“มากตรงไหน ใครจะยอมให้เมียตัวเองไปกับอิแค่คู่หมั้น” ยูกิยังคงเรียกฉันด้วยสรรพนามน่าอายนั้น ตกลงเขาต้องการอะไรจากฉันกันแน่“จะให้ฉันบอกอีกกี่ครั้ง ฉันไม่...”“หรือจะให้ฉันจัดให้อีกสักครั้ง หรือจะเหมายันเช้าดี เธอจะได้จำได้สักทีว่าร่างกายของเธอเป็นของใคร”“อ๊ะ อย่าเข้ามานะ ถอยไป”ยูกิพูดจบก็คุกเข่าค่อยๆ คลานขึ้นมาบนเตียงที่มีฉันนั่งอยู่บนนี้ สายตาเขามีแววความสะใจอยู่ในนั้น เขากำลังสนุกที่ไล่ต้อนฉันได้สำเร็จ“คนไม่มีหัวใจอย่างคุณอย่าเอาคำนั้นมาเรียกคนอื่นดีกว่า” ฉันเมินหน้าไปทางอื่น ไม่อยากมองหน้าผู้ชายที่กำลังเล่นตลกกับหัวใจฉันอีกแล้วฉันมีคู่หมั้นแล้ว เมื่อวันที่อยู่โรงพยาบาลเขาก็น่าจะเห็น และอีกอย่างเฮียเทียนบอกฉันว่าเขาเล่าเรื่องฉันกับเฉินฮ่งให้ยูกิฟังแล้ว แล้วดูสิ่งที่เขากำลังทำ
“นี่จะไม่เอาอะไรไปเลยเหรอหงส์” เสียงสิตาถามฉันฉันออกมาจากโรงพยาบาลสองวันแล้วล่ะ และวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะอยู่ที่ยุกกี้คาสิโนแห่งนี้“ตอนมาก็มีแค่ตัวกับเสื้อผ้าชุดนี้ชุดเดียว อย่างอื่นมันไม่ใช่ของหงส์อยู่แล้วนี่”ถึงจะบอกสิตาไปแบบนั้น แต่ในใจฉันกลับปวดหนึบแปลกๆรู้สึกโหวงๆ เมื่อรู้ว่ากำลังจะไปจากสถานที่แห่งนี้ สถานที่ที่สอนฉันในหลายๆ อย่าง สถานที่ที่ทำให้ฉันได้เจอกับความรักครั้งใหม่ตอนที่ลืมคู่หมั้นตัวเอง และได้รับสิ่งตอบแทนที่สาสมที่บังอาจลืมแม้กระทั่งคู่หมั้นได้ลงคอ“แล้วจะกลับมาที่นี่อีกตอนไหนเหรอ” เจ๊ลิชาที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่ปลายเตียงถามฉันน้ำเสียงฟังดูหดหู่หลังจากที่ฉันกลับจากโรงพยาบาลฉันก็ได้คุยเรื่องเฉินฮ่งกับเฮียเทียน เขาเล่าให้ฉันฟังทุกอย่างว่าฉันกับเฉินฮ่งเราเพิ่งหมั้นกันได้หกเดือนก่อนที่ฉันจะมาอยู่ที่นี่และเขาก็ยังบอกอีกว่าที่เฉินฮ่งไม่ได้ออกตามหาฉันเพราะเขาเองก็มีเรื่องต้องทำ แต่ฉันจับผิดสีหน้าพี่ชายตัวเองได้ เหมือนเขากำลังปิดบังอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่ฮ่องกง“ไว้มีโอกาสเรานัดเจอกันที่อื่นดีไหมคะ” ฉันเลี่ยงที่จะตอบคำถามเจ๊ลิชาบางทีการออกจากที่นี่ในวันนี้อ
“…” เจอผมด่าหน่อยทำเป็นเงียบปาก“เพราะมึงนั่นแหละ ไอ้ตัวดี” ผมชี้หน้าคาดโทษกรุงโซลสายตาดุกร้าวแม้จะสืบสาวราวเรื่องที่มาของยานรกนั่นได้แล้ว แต่พวกเราเปลี่ยนแปลงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้อยู่ดี ผมกับไฉ่หงยังไงเราก็เป็นของกันและกันแล้ว“แล้วมึงจะเอายังไง” เฮียไททันหันไปถามไอ้เทียน“กูบอกมันแล้ว น้องกูว่าไงกูว่าตาม” ไอ้เทียนยืนยันคำเดิมที่เคยบอกผมให้ทุกคนฟัง “กูก็เคลียร์แล้ว” ผมรีบพูดออกไปคล้ายคนร้อนรน“เคลียร์? ไอ้สัส! เมื่อกี้มึงเรียกว่าเคลียร์เหรอวะ!” ไอ้เทียนขึ้นเสียงใส่ผมคำว่า ‘เคลียร์’ ของผมในสายตาไอ้เทียนคงเห็นว่าผมกำลังรังแกน้องมันอืม แต่ก็นะ เมื่อกี้ผมเกือบรังแกไฉ่หงอีกรอบอย่างที่มันคิดนั่นแหละ“เออ นั่นล่ะเรียกเคลียร์ น้องมึงยอมให้กูรับผิดชอบแล้ว”และนั่นคือบทสนทนาที่จบลงของลูกผู้ชายอย่างผม[End part]หลังจากพายุคลั่งของพวกผู้ชายหายไป ในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง มอม้ารับหน้าที่พาทิวลิปที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นตามฉันออกไปด้านนอก ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงฉันกับแก้มใสสองคน“หงส์ เจ้ขอโทษ” เสียงขอโทษที่ฉันไม่รู้ต้นสายปลายเหตุถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากอมชมพูระเรื่อ“...” ฉันเงียบแต
[Lantian’s part]“พอ แยกๆ” เสียงคมเข้มของไททันดังขึ้น“กูบอกมึงว่ายังไง กูบอกว่ายังไงห๊ะ!” ผมตะคอกหน้าไอ้ยูกิ แม้พวกเพื่อนๆ ของมันจะแยกพวกเราออกจากกันแล้วก็ตามผมว่าจะไม่ระเบิดอารมณ์กับมันแล้วนะ แต่ครั้งนี้ไม่ไหว ใครเห็นผู้ชายคนอื่นกำลังคร่อมร่างน้องสาวตัวเองอยู่จะไม่ของขึ้นได้วะ ครั้งนั้นผมไม่รู้ไม่เห็นเลยดูว่าผมใจเย็นไม่ใส่ใจอะไรใช่ไหม มันถึงได้กล้าหยามหน้าผมแบบนี้“ถุ้ย!” เสียงถ่มน้ำลายของไอ้ยูกิดังขึ้นมันยกมือเช็ดเลือดตรงมุมปากที่ปริ่มออกมาเล็กน้อยออก สองตาคมเข้มของมันยังคงจ้องมองผม ไม่ใช่แววตาเกลียด โกรธ แต่มันมองผมด้วยสายตาธรรมดาๆ เหมือนกับชอบใจที่เห็นผมระเบิดอารมณ์ใส่มันแม่งเป็นมาโซคิสหรือไงวะ สงสัยจะชอบความเจ็บปวด“มึงขัดคำสั่งกู” ผมชี้หน้ายูกิ พร้อมจะกระโจนใส่มันอีกรอบแต่ติดตรงกรุงโซลมันรั้งแขนผมไว้ ส่วนอีกข้างเป็นเอฟวัน“คุยดีๆ สิวะ กัดกันยังกับน้องมึงถูกไอ้ยูกิจับกินงั้นแหละ” เสียงไททันที่อายุเยอะสุดพูดขึ้น ไอ้ห่า! สาบานว่ามึงไม่รู้ ดันมาเสือกพูดถูกจุดมากสัสสงสัยเมื่อกี้พวกมันคงไม่ทันเห็นว่าไอ้ยูกิกำลังคร่อมน้องสาวผมอยู่เพราะผมพรุ่งปรี่เข้าไปกระชากมันลงมาก่อนล่ะมั้ง “กร
เฮือก!สัมผัสกรุ่นร้อนจากริมฝีปากหนากำลังซุกไซ้อยู่ข้างซอกหู ความนุ่มชื้นของปลายลิ้นกำลังลากไล้ดูดดึงผิวเนื้อบริเวณลำคอระหงของฉัน“อ๊ะ! อย่าทำ อื้อ” ทั้งสั่งห้าม ทั้งข่มกลั้นเสียงครางที่น่าเกลียดของตัวเองสองตาเพ่งมองไปยังบานประตูห้องผู้ป่วย กลัวจะมีใครเปิดเข้ามาเห็นฉากที่น่าอายแบบนี้ “อื้อ เธอยังหอมเหมือนเดิม”ยูกิไม่ยอมปล่อยริมฝีปากออกจากลำคอขาวเนียนฉันตอนเอ่ยประโยคนั้น นั่นยิ่งทำให้ฉันเสียวซ่านจากการเสียดสีของริมฝีปากและลมหายใจกรุ่นร้อนที่ออกมาพร้อมคำพูดเขา“ฉันเกลียดคุณ” ข่มกัดฟันบอกเขาออกไปยูกิชะงักการกระทำ แต่ก็แค่ชั่ววินาที จากนั้นเขาก็เริ่มรวบมือทั้งสองข้างฉันไปกุมไว้ที่มือหนาเพียงข้างเดียวของเขา มือที่ว่างก็เริ่มสอดแทรกเข้ามายังชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล“อ๊ะ ไม่” ทั้งเสียงสั่งห้าม ทั้งเสียงน่าอายหลุดรอดจากปากฉันอีกครั้งไม่ได้นะ ฉันไม่อยากให้มันจบลงเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว“หยุดฉันให้ได้สิไฉ่หง เก่งยั่วนักไม่ใช่ ครั้งเดียวเธอไม่นับเองนี่”งั้นสินะ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ยูกิต้องการอะไร เขาต้องการให้ฉันบอกให้เขารับผิดชอบฉันสินะไม่มีทาง! ฉันเกลียดเขาแล้ว ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมอบให้เขาม
“รีบตื่นขึ้นมาสิ มาปากเก่งด่าฉันอีกสิ ฉันอยากได้ยินเสียงด่าทอของเธอ”ความอุ่นวาบจากฝ่ามือหนาที่กำลังลูบไล้เส้นผมยาวหยักศกด้านหลังฉันช่างขัดกับคำพูดปากดีของยูกกิเสียจริง แต่การกระทำนั้นมันกำลังทำให้ความอ่อนแอเริ่มเล่นงานฉันอีกครั้งกึก พยายามกัดฟันไม่ให้เขาได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของตัวเองเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หลังจากที่เหตุการณ์เลวร้ายจบลงไปตอนไหนไม่รู้ รู้แค่ตื่นมาอีกทีฉันกำลังนอนอยู่ในห้องของตัวเอง เนื้อตัวที่คาวไปด้วยคราบต่างๆ ก่อนที่จะหมดสติหายไปจากเรือนร่างบนตัวมีเสื้อแขนยาวของฉันเองสวมทับอยู่ บ่งบอกว่ามีคนอุ้มฉันมาที่ห้องเช็ดล้างคาบสกปรกเหล่านั้นและเปลี่ยนชุดนี้ให้ตอนนั้นความรู้สึกมันตีรวนกันไปหมด ทั้งเสียใจ ดีใจ ที่อย่างน้อยคนที่เป็นคนทำร้ายน้ำใจของฉันคือคนๆ เดียวกับที่ดูแลฉันหลังจากทำเรื่องนั้นลงไปแต่จิตใจด้านลบมันมีมากกว่า ฉันเกลียดเขาไปแล้วความตื้นตันใจที่เขาเคยช่วยชีวิตไว้มันหายไปตั้งแต่เขาย่ำยีฉันเมื่อคืน ฉันจะถือซะว่าได้ตอบแทนบุญคุณเขาไปเรียบร้อยแล้ว และต่อจากนี้ไปฉันจะเลือกทางเดินของตัวเองและจะไม่กลับเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขาอีกทางใครทางมัน นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดได้ในต