ต่อให้ถูกปรามาสว่าเป็นโคแก่ ลูอิสก็เมินเฉย เพราะตัวเขา ณ เวลานี้ก็ไม่ต่างจากโคแก่จริง ๆ
Lihat lebih banyakลูอิส วาเลนส์ ชายหนุ่มเลือดผสมสัญชาติไทย-อังกฤษ วัย 32 ปี ในชุดสูทสีเข้ม ก้าวลงจากรถเบนซ์คันงาม ที่ลูกน้องคนสนิทเปิดประตูให้ ทุกวันเขาจะต้องเข้าไปนั่งบริหารงานโรงแรม แต่วันนี้แตกต่างจากทุกวันที่ผ่านมา เพราะต้องเข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนวาเลนส์ อินเตอร์เนชันแนล ต่อจากบิดาที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง และวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เขาได้มาที่นี่ในฐานะ ผอ.คนใหม่ ส่วนโรงแรมก็ได้ให้น้องชายอย่างลูเซียสเข้ามาบริหารแทน
“นายกลับไปก่อนเลยเจฟ” ลูอิสบอกลูกน้องคนสนิทที่ยืนอยู่ข้างหลัง “จะไม่ให้ผมอยู่ด้วยเหรอครับบอส เผื่อมีอไรผมจะได้ช่วยบอสได้” เจฟถามบอสหนุ่มรูปหล่ออย่างเป็นห่วง ถ้าเขาอยู่ด้วยยังสามารถช่วยงานได้ “ไม่ต้อง ตอนเย็นค่อยมารับฉัน กลับไปได้แล้ว มีอะไรฉันจะโทรหาเอง” เขามาทำงานเป็น ผอ.ไม่จำเป็นต้องมีผู้ติดตาม ลูอิสพูดจบก็ก้าวเดินเข้าไปในตึกผู้บริหารทันที “หนูดี วันนี้ไปกินชาบูกันฉันอยากกินอะ ยัยวีต้าก็บอกว่าอยากกิน” สาวน้อยผิวขาวร่างท้วมนั่งเขย่าแขนเพื่อนคนสวย อย่างอ้อนๆ “หวานแกนี่จะชวนฉันกินทุกเย็นเลยรึไง เมื่อวานขนม วันนี้ชาบู พรุ่งนี้อะไรอีกละยัยอ้วน” หนูดีแกล้งหยิกพุงเพื่อนเบาๆ อย่างมันเขี้ยว “พรุ่งนี้ยังคิดไม่ออกเอาวันนี้ก่อนละกัน” หนูดีมองเพื่อนแล้วส่ายศีรษะไปมา “หนูดี! หวานนน” สองสาวหันไปมองตามเสียงเรียก แล้วก็เห็นว่าวีต้าเพื่อนรักอีกคนหนึ่งของพวกเธอกำลังวิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาด้วยท่าทางตื่นตูมสุดๆ “มีอะไรร้องเรียกซะเสียงดังลั่นเลย คนอื่นแตกตื่นกันหมดแกนี่” หนูดีเหลียวมองรอบๆ ตัว ก็เห็นว่ามีคนมองมาทางพวกเธอเยอะ เลยก้มศีรษะให้เป็นเชิงขอโทษที่เสียงดัง “คืองี้ แป๊บนะ” วีต้าขยับแว่นให้เข้าที่เข้าทางแล้วพูดต่อ “ยัยฟ้าญาติแกถูกเรียกตัวไปห้อง ผอ.ยัยนั่นไปตบแย่งผู้ชายกับรุ่นน้องเกรด 11 ฉันเข้าห้องน้ำแล้วได้ยินเขาคุยกันเลยรีบวิ่งมาเล่าให้พวกแกฟังเนี่ย เหนื่อยชะมัด” วีต้าหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอย่างกระหาย “ไปดูกัน” หนูดีลุกขึ้นเดินนำเพื่อนทั้งสองไปยังตึกผู้บริหาร จริงๆ แล้วเธอกับฟ้าใสไม่ค่อยจะถูกกัน แม้จะอยู่บ้านเดียวกันแต่ฟ้าใสก็ชอบหาเรื่องชวนทะเลาะได้ตลอดเวลา พ่อกับแม่ของเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ทำให้คุณลุงพ่อของฟ้าใสที่เป็นพี่ชายของพ่อรับเธอมาดูแล คุณลุงรักเธอไม่ต่างจากลูกแต่คุณป้าแม่ของฟ้าใสนั้นไม่ชอบเธอ ถึงแม้จะไม่ชอบก็ต้องทนให้เธออยู่บ้านด้วย เนื่องจากคุณลุงไม่ยอมให้เธอไปอยู่ที่อื่นตามความต้องการของลูกและเมีย “แล้วยัยฟ้ามันตบแย่งผู้ชายคนไหววะวีต้า” “ไม่รู้วะ แล้วนั่นแกจะรีบเดินไปไหนดูดี รอพวกฉันด้วยสิ” วีต้าดึงแขนอวบของหวานให้วิ่งตามเพื่อน ที่เดินนำไปหลายก้าวแล้ว “พวกแกก็อย่ามัวแต่คุยกันสิ รีบๆเดินตามมาเร็วๆ” หนูดีหันหลังมาพูดแล้วเดินเร็วเข้าไปในตึกโดยมีหวานกับวีต้าวิ่งตามมาติดๆ สายตาคมจ้องมองนักเรียนสาวที่เป็นคู่กรณีกันนิ่ง ใบหน้าหล่อนั้นเรียบเฉยอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูก สองสาวคู่กรณีนั้นก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสลดแม้แต่น้อย นั่งหน้าเชิด คอตั้ง ส่งสายตาจิกกัดกันเป็นระยะ ใบหน้าของทั้งสองคนมีรอยแดงจากนิ้วมือ เสื้อผ้านั้นหลุดลุ่ย ผมเผ้ายุ่งเหยิง เป็นภาพที่ไม่น่ามองสักนิด “ทุเรศชะมัด” เสียงทุ้มพึมพำออกมา เป็น ผอ.วันแรกก็เจอเรื่องน่าปวดหัวซะแล้ว “ฉันจะเรียกผู้ปกครองของพวกเธอมา แล้วจะสั่งพักการเรียน” ลูอิสลุกขึ้นยืน เอามือล้วงกระเป๋า “หนูไม่ผิด ผอ. จะสั่งพักการเรียนก็สั่งพักยัยแพรวาไปคนเดียว” ฟ้าใสพูดขึ้นเสียงดัง มองตาขวางไปยังแพรวา “เหอะ! กล้าพูดนะว่าตัวเองไม่ผิด ไม่กระดากปากบ้างเหรอ” แพรวาสวนขึ้นอย่างไม่ยอม ลูอิสมองนักเรียนสองคนที่เถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร อย่างไม่สบอารมณ์ “พวกเธอนี่ยังไม่สำนึกสินะ ตบตีกันในโรงเรียนจนถูกเรียกตัวเข้ามาพบแบบนี้ ยังปากเก่งกันได้นี่น่านับถือในความด้านของหน้าจริงๆ” แขนแกร่งเท้าลงบนโต๊ะทำงาน วาจาเจ็บแสบที่ลูอิสพูดออกมาทำให้เด็กสาวทั้งสองคนถึงกับสะอึก “ถ้าเป็นแบบนี้ฉันว่า ฉันเปลี่ยนบทลงโทษจากพักการเรียนเป็น ไปล้างห้องน้ำทุกพักกลางวัน และตอนเย็นตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน เผื่อพวกเธอจะได้รักและสามัคคีกันมากขึ้น ถ้าขัดคำสั่งหรือไม่ทำตามฉันจะไล่พวกเธอออก แล้วจะเชิญพ่อแม่ของเธอสองคนมารับรู้พฤติกรรมแย่ๆ มราพวกเธอได้ก่อเอาไว้” “อะไรนะคะ” สองเสียงประสานกันดังลั่นอย่างตกใจ “หนูทำไม่ได้ เกิดมายังไม่เคยต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้เลย แล้วอยู่ๆ ผอ.จะมาให้หนูทำ ไม่มีทางซะหรอก ให้ยัยแพรวานี่ทำไปคนเดียวเถอะค่ะ” เหอะ! อย่าว่าแต่ล้างห้องน้ำเลย จานที่บ้านเธอยังไม่ต้องเก็บล้างเองเลย แล้วห้องน้ำสกปรกๆ แบบนี้จะมาให้เธอทำ รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น “อย่ามาโยนให้กันแบบนี้นะพี่ฟ้า ฉันก็ไม่ทำเหมือนกัน” แพรวาจิกตาใส่สาวรุ่นพี่ เมื่อเห็นฝ่ายนั้นก็จ้องหน้าเธออย่างอยู่ “หยุดกัดกันได้แล้ว! ที่นี่โรงเรียนสอนให้ความรู้กับคน ไม่ใช่โรงเรียนสอนหมานะ เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอรึไงกัน ถึงไม่เกรงกลัวอะไรเลย” อากรฟึดฟัดใส่กันในตอนแรกหายไป เมื่อโดนคำพูดเปรียบเปรยของ ผอ.หนุ่มหล่อ ไม่คาดคิดว่าหน้าตาหล่อเหลาแบบนี้จะมีปากที่คมยิ่งกว่ากรรไกรเสียอีก “ฉันพูดคำไหนคำนั้น เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่มีข้อต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น นี่ถือว่าฉันใจดีมากแล้วนะ ถ้าทำให้ฉันหงุดหงิดไปมากกว่านี้ ฉันจะไล่เธอออก ไปได้แล้ว!” ลูอิสเดินไปเปิดประตูให้นักเรียนคู่วิวาทออกไป ก็เห็นว่ามีนักเรียนยืนออกันอยู่แถวหน้าห้องทำงานของเขากันเต็มไปหมด “มีอะไรกันทำไมถึงมายืนอยู่หน้าห้องทำงานฉันเต็มไปหมด” เสียงเข้มเอ่ยถามบรรดาไทยมุงที่เริ่มจะแยกย้ายกันออกไปบ้างแล้ว “เอ่อ คือว่าพวกเราแค่อยากมาเห็น ผอ.คนใหม่นะคะ” เด็กนักเรียนผู้หญิงที่อยู่มอต้นพูดเสียงเบาด้วยท่าทางกลัวๆ “เห็นแล้วก็แยกย้ายกันไปได้แล้ว ที่นี่ไม่ใช่สวนสาธารณะที่ใครก็ขึ้นมาได้นะ พวก รปภ.นี่ยังไงถึงปล่อยให้พวกเธอขึ้นมาถึงนี่ได้” ลูอิสพูดด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง ตอนนี้ไทยมุงได้อันตธานหายไปหมดแล้ว จะเหลือก็แต่เด็กผู้หญิงสาวคนที่คาดว่าจะอยู่มอปลายยืนหลบมุมคุยกันอยู่ เพราะดูจากชุดเครื่องแบบที่สวมใส่ ลูอิสยืนกอดอกจ้องมองทั้งสามคนอย่างไม่วางตา และหนึ่งในนั้นก็ทำให้เขาเกิดความสนใจ “พวกแก” หนูดีกระตุกแขนวีต้ากับหวานที่ยืนคุยกันอย่างออกรสเรื่องฟ้าใส แต่ก็เหมือนเพื่อนเธอจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยว่าตอนนี้มีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่ที่พวกเธอ ซึ่งเธอก็พอจะเดาออกว่าคงจะเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ “อะไรของแกหนูดี” วีต้ากับหวานหันมามองเพื่อนที่สะกิดเรียกพวกเธอยิกๆ"คิดเรื่องลูกของเราอยู่ค่ะ คุณป๋าอยากมีลูกผู้หญิงอีกสักคน หนูว่ายังไงคะ พร้อมที่จะมีให้คุณป๋ารึยัง ลูกสาวเราต้องน่ารักมากแน่ๆ เชื่อสิ" ลูอิสพูดเสียงนุ่ม เอียง หน้าจูบกระหม่อมเมียที่ยื่นหน้าเข้ามาหา "หนูเชื่อค่ะว่าลูกสาวเราต้องน่ารักมากๆ ไว้รอให้บาสเตียนโตขึ้นอีกหน่อยนะคะ ตอนนี้ลูกชายเรายังเล็กอยู่เลย เราควรทิ้งระยะห่างนะคะ อย่าเพิ่งรีบทําให้ท้อง หนูไม่ว่างสิคะคุณป๋า แต่รับรองว่าหนูจะมีลูกสาวที่น่ารักๆ ให้คุณป๋าอย่างแน่นอนไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้ขอแค่เวลาเท่านั้น" หนูดีปล่อยแขนลงแล้วขยับตัวมายืนเคียงข้างสามี เธอต้องการจะมีลูกเพิ่มอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าการเป็นลูกคนเดียวมันเหงาแค่ไหน การมีลูกหลายๆคนยามแก่ชราชีวิตคงไม่เงียบเหงา นี่แหละคือสิ่งที่ปรารถนายามเธอแก่ตัวลง "อืม ก็ไม่ได้บอกว่าจะมีเลยสักหน่อย แต่ได้ยินแบบนี้แล้วค่อยโล่งใจ ก่อนหน้านี้คิดว่าหนูจะไม่ยอมมีลูกสาวตัวเล็กๆ ให้คุณป๋าได้ชื่นใจเสียแล้ว" รอยยิ้มกระจายเต็มใบหน้าหล่อ มือที่โอบอุ้มลูกชายยกร่างเล็กขึ้นหอมฟอดใหญ่ "แอ้ แอ้" ประท้วงเล็กๆ ก่อนจะยิ้มหัวเราะจนปากบานมองเห็นเหงือกใสๆ พลอยทําให้ป๊ะป๋ากับคุณแม่ยังสาวหัวเราะตามไปด้วย "ลูก
หนูดีทําอาหารอยู่ในครัว บนร่างกายสวมชุดนอนสีแดงสดสั้นจู๋โชว์หน้าอกล้นหลามกับเรียวขาขาวผ่อง เท้าบางสวมรองเท้าส้นตึกสีเดียวกับชุดยืนอยู่หน้าเตา เรียวขาแยกกว้างด้านหลังมีสามีสุดที่รักกําลังยืนซบแหย่นิ้วเข้ากับร่องหลืบของเธอไม่ว่าจะขยับกายไปทางไหนก็ตามเกาะตลอด "คุณป๋าเอานิ้วที่ยัดอยู่ในร่างกายหนูออกไปก่อนได้ไหมคะ ใส่ไว้อย่างนี้มันเสียวนะคนบ้า ไหนบอกว่าหิวข้าวไงคะ ถ้าหิวก็เอาออกจะได้รีบทําข้าวเช้าให้ทาน" หนูดีกระทุ้งข้อศอกใส่หน้าท้องแกร่ง ตื่นเช้ามาก็โดนจัดไปแล้วชุดใหญ่ พอสายเข้าหน่อยก็ร้องหิวแล้วยังบังคับให้ใส่ชุดนอนกับรองเท้าส้นตึกทําอาหารอีกต่างหาก ตั้งแต่มดลูกเข้าอู่นี่เธอก็ไม่เคยได้ว่างเว้นจากเรื่องนี้เลย ต้องเลี้ยงลูกสลับกับเอาใจสามีที่มีความต้องการอันมากล้น บ่นก็หาว่าไม่รักผัว พอไม่บ่นก็ได้ใจใหญ่ งานการก็ไปทำแป๊บๆ เผลอหน่อยเดียวก็กลับบ้านมาเลี้ยงลูก กล่อมลูกหลับก็มากล่อมเธอต่อจนไร้เรี่ยวแรงแทบทุกวัน วันหยุดเป็นไม่ได้ต้องกระเตงลูกกันมาคอนโด ไม่ใช่อะไรหรอก พามาทําหื่นโดยที่ไม่มีใครคอยมารบกวนนอกจากลูกชายตัวน้อย "อือ ก็ทําไปสิคนสวย หนูอยู่ในชุดนี้ตอนทําอาหารโคตรเซ็กซี่เลยรู้ไหมเ
"ได้ทีแกล้งผัวใหญ่เลยนะเบบี๋ ไม่กลัวโดนถล่มหนักจนสลบคาอกคุณป๋าเหรอจ๊ะเมียจ๋า" ลูอิสจ้องแก่นกายในมือนุ่มเขม็ง ร่างกายสมบูรณ์แบบเกร็งเครียดไปทั้งตัว เขาห่างเหินมานานสําหรับกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์กับเมีย พอโดนกอบกําเต็มอุ้งมือเล็กอย่างนี้ก็แทบจะทนไม่ไหว "โดนถล่มไม่กลัว แต่กลัวจะไม่โดนถล่มมากกว่าขืนชักช้าเราอาจจะอดก็ได้นะคะคุณป๋า" คุณแม่คนสวยขยิบตา คลึงเคล้าท่อนเนื้อในมืออย่างผ่อนคลายต่าง จากสามีสุดที่รักสิ้นเชิง ความอายสูญสิ้นไปนานแล้ว ตอนนี้มีเพียงแรงปรารถนาเพียงอย่างเดียว ต้นขาอวบแบะกว้างระหว่างรูดแก่นกาย ประกายตาเจิดจ้ายามเล่นกับสิ่งที่สร้างความสุขและความทรมานให้แก่เธอไปพร้อมๆ กัน ปลายลิ้นอมชมพูกวาดเลียรอบปาก ก้มหน้าลงตํ่าเท่ากับปลายหัวชี้โด่ แล้วขยับลงไปอีกนิดจนแท่งร้อนผ่าวกระแทกริมฝีปาก "โอ้วว เบบี๋ของผัว จัดการมันให้สยบอยู่ในปากหนูเลยค่ะ เอาลิ้นเล็กๆ กับปากน้อยๆ ของหนูทํารักให้กับคุณป๋าที" ลูอิสแอ่นสะโพกไปข้างหน้าจนแก่นกายติด กับเรียวปากสีสด "อืม หนูคงช่วยคุณป๋าได้เท่านี้แหละค่ะ ให้ทํามากกว่านี้คงไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์อยากกินไอติม" หนูดียิ้มหวานแล้วปล่อยมือที่กํารอบความแ
ในวันนี้คุณหมอได้นัดตรวจสุขภาพของคุณแม่ลูกอ่อนกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หลังจากตรวจทุกอย่างเรียบร้อย ด้วยความที่ขี้เกียจฝ่าการจราจรบนท้องถนน กลับบ้าน ป๊ะป๋าสุดหล่อเลยรถเลี้ยวเข้าคอนโดแทน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของเด็กชายบาสเตียนมีครบทุกอย่างเหมือนกับที่บ้านเป๊ะ เพราะหากวันใดที่ต้องมาค้างที่คอนโดจะได้ไม่ต้องเตรียมมาจากบ้านให้ยุ่งยาก และในตอนนี้สามคนพ่อแม่ลูกก็นอนเล่นกันอยู่ที่พื้นหน้าโซฟาของห้องนั่งเล่น คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ชวนลูกน้อยไร้เดียงสาคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุขจนกระทั่งความหิวโหยเข้ามาเยือน หนูดีจึงอุ้มลูกเข้าเต้าให้ดื่มกินแหล่งอาหารชั้นเลิศ สายตาของป๊ะป๋ารูปหล่อก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมองตามตาละห้อย กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คลอเคลียอยู่แถวบริเวณเหนือหน้าอก ใช้ปากแตะผิวเนื้ออ่อนตรงเต้าข้างที่ลูกชายดูดสลับกับหอมแก้มนุ่มๆ ของลูกไปด้วย หลังจากที่ได้ชิมรสชาติของน้ำนมจากอกเมีย ทุกๆ คืนเขาก็จะต้องกินต่อจากลูก และยังช่วยลดอาการคัดเต้าของเมียเด็กได้เป็นอย่างดี เบบี๋ตัวน้อยเลยไม่ค่อยบ่นสักเท่าไหร่ เพราะตัวเองก็ไม่ต้องทรมาน "เบบี๋จ๋าหนูได้ยินที่คุณหมอพูดแล้วใช่ไหมคะ มดลูกของหนูเข้าอู่ดีแล้ว ด
"ไหลก็ไหลสิคะ เดี๋ยวคุณป๋าจัดการเอง จะดูดไม่ให้เหลือสักหยดเลยคอยดู" ลูอิสดึงชุดนอนเกาะอกสีขาวลง น้ำนมที่ไหลออกมาจากยอดอกบวมเป่งอยู่ตรงหน้า สายตาวิบวับจ้องมองอย่างสนใจ "ทําอย่างนั้นไม่ได้นะ เดี๋ยวลูกร้องหิวขนึ้มาจะยุ่ง อื้อคุณป๋าบาสเตียนติดเต้า อ๊า อย่าแตะมัน หนู หนูเสียว ยะ...อย่า อ๊ะ เจ็บ อย่าดูดแรง" เสียงหวานครวญครา คิ้วเรียวมุ่นขมวดเข้าหากันแน่น ปลายเล็บจิกลงบนบ่า แกร่งด้วยความทรมาน เมื่อถูกครอบครองยอดอก น้ำนมไหลออกจากเต้าทะลักทลาย อีกข้างก็ถูกบีบจนไหลพุ่งออกมาเป็นสาย คุณแม่บางคน้ำนมก็แทบจะไม่มีให้ลูกได้ดูดกินจากเต้า แต่สําหรับเธอนั้นมากพอที่จะให้ลูกกินได้สบายๆ แล้วตอนนี้สามีตัวดีก็กําลังแย่งลูกกิน แถมยังบีบเล่นจนไหลเปรอะเปื้อนตามร่างกายทั้งของเขาและเธอ "อื้ม อร่อยจังเมียจ๋า วิเศษเป็นบ้าเลย ปกติเวลาดูดว่าอร่อยแล้ว แต่พอมีนมไหลออกมาแบบนี่ยิ่งอร่อยไปกันใหญ่ โอ คุณป๋าแข็งไปหมดแล้วเบบี๋ อ่า อยากให้มัน ไหลตลอดไปจริงๆ เลย พระเจ้ามันเยี่ยมจริงๆ นะ" ลูอิสพึมพําอย่างถูกใจ บีบเต้าอวบพร้อมกันสองข้างจนน้ำมันพุ่งใส่หน้าเขาพร้อมกัน "คุณป๋าจะสนุกเกินไปแล้วนะคะ อ๊ะ อย่าบีบนมเล่นแบบนี้สิคนบ
ก่อนหน้าจะครบเก้าเดือนกิจกรรมบนเตียงระหว่างคู่รักก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ ขนาดว่าท้องโตขึ้นคุณป๋าของเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดความหื่นลง จนย่างเข้าสู่เดือนที่แปดหนูดีก็ขอร้องให้ยุติเพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อลูก ลูอิสก็ต้องยอมจํานนเก็บความต้องการฝังลึกลงไปใต้ดิน รอเวลาทบต้นทบดอกหลังเมียคลอดลูกแล้ว พอถึงกําหนดคลอดหนูดีก็ต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อรอเวลาที่ปากมดลูกจะเปิดกว้าง วิธีที่เธอเลือกคลอดเป็นวิธีธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาสามีสุดหล่ออย่างลูอิสก็ได้เข้าไปให้กําลังใจจนชิดขอบเตียง จับมือเมียแน่นคอยลุ้นจนหน้าซีดอยู่ตลอดเวลา พอเมียรักเบ่งลูกออกมาสําเร็จปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก คุณป๋าผู้แข็งแกร่งก็ถึงกับเป็นลมล้มพับลงไปกับพื้นทันที พยาบาลที่อยู่ในนั้นเลยต้องรีบปฐมพยาบาลเป็นการด่วน อยู่โรงพยาบาลได้ไม่กี่วันหนูดีกับลูกก็ได้กลับมาพักฟื้นที่บ้านโดยมีลูอิสคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง บางครั้งลูเซียสก็หวังดีจะมาช่วยดูแลบ้าง แต่คนหวงลูกหวงเมียไม่ยอมให้ช่วย จัดการทําเองแทบทุกอย่าง ถ้าให้นมลูกได้เขาก็คงให้ไปแล้ว แต่ติดที่ว่าเขาไม่มีน้ำนมจะให้ลูกกิน "ลูกแม่ทานนมเก่งจังเลยค่ะ บาสเตียนชอบใช่ไหมคะ" คุณแม่ยังสาวอ้มุลูกชายวัยแ
Komen