“มีต กลับมาแล้วเหรอลูก”
“ครับแม่ แล้วน้ากิ่งไปไหนเหรอครับ” ทันทีที่ได้ยินเสียงรถของลูกชายเลี้ยวมาจอดในตัวบ้าน พลอยก็รีบวางมือจากงานบ้านทุกอย่างแล้วออกมาเจอหน้าลูกชายของเธอทันที “มีตไม่โกรธแม่แล้วใช่ไหมลูก แม่ขอโทษที่แม่โกหกมีตเรื่องพาสต้า แต่แม่ยืนยันได้นะลูกว่าแม่กับพาส..” “พอก่อนนะครับแม่ ผมยังไม่อยากคุยอะไรเรื่องนี้ ผมเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ขอตัวไปพักก่อน” “ได้เลยลูก ไปอาบน้ำอาบท่านอนพักนะ แล้วเดี่ยวแม่กับน้ากิ่งทำมื้อเย็นเสร็จจะขึ้นไปเรียก” “ขอบคุณครับ” พลอยไม่อยากซักไซ้อะไรลูกชายของเธอมาก แค่ช่วงที่เขาไม่อยู่เธอเองก็เป็นห่วงจนไม่เป็นอันกินอันนอน และการที่แฟนมีตยอมกลับมาบ้านสำหรับเธอ มันคือสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆ เธอเองก็ไม่อยากพูดถึงด้วยเช่นกัน ถ้าหากมันไม่จำเป็น “พาสต้าอยู่หรือเปล่า” “อยู่ครับ” พาสต้าปรากฏตัวขึ้นที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งของแฟนมีต “พรุ่งนี้ผมจะไปที่โรงเรียนมัธยมของเฟลเล่ คุณจะไปกับผมไหม” “แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าโรงเรียนมันอยู่ที่ไหน” “ก็จากตราบนชุดนักเรียนของเขานั่นแหละมันเคยเป็นโรงเรียนชายล้วนแล้วก็อยู่ไม่ได้ไกลจากที่ทำงานผมเท่าไหร่” “แล้วคุณจะไปทำอะไร” “อย่างน้อยๆ โรงเรียนก็ต้องมีข้อมูลของนักเรียนของเขาอยู่ทั้งนั้น ผมว่าเราคงจะได้อะไรมาเพิ่มเติมบ้างแน่ๆ” แฟนมีตบอกอย่างมั่นใจ เขาให้เพื่อนที่เป็นอาจารย์ช่วยสืบหาข้อมูลของโรงเรียนจากชุดที่เฟลเล่ใส่ จนรู้ว่าโรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนชายล้วนที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพ แต่ตอนนี้ปรับเปลี่ยนระบบมาเป็นแบบสหศึกษาพร้อมกับเปลี่ยนชื่อโรงเรียนไปด้วยเขาถึงไม่พบข้อมูลในตอนแรก โชคดีว่าเพื่อนของแฟนมีตพอจะมีข้อมูลอยู่บ้าง สุดท้ายจึงตามจนเจอว่าปัจจุบันโรงเรียนแห่งนั้นมีชื่อว่าอะไรและตั้งอยู่ที่ไหน “งั้นผมไปด้วยครับ” วันรุ่งขึ้น แฟนมีตออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าเพื่อเข้าไปที่โรงเรียนตามข้อมูลที่ได้รับจากเพื่อนมา โรงเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ซึ่งอันที่จริงแล้วเขาเองก็เคยขับรถผ่านอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับมันเลย “สวัสดีครับผมมาขอพบอาจารย์นวลที่นัดกันเอาไว้เมื่อวาน” “อ๋อคุณแฟนมีตเพื่อนของอาจารย์แดนไทใช่ไหมคะ” “ใช่ครับ ยังไงผมรบกวนด้วยนะครับ” “เชิญทางนี้เลยค่ะอาจารย์นวลรออยู่ที่ห้อง” เจ้าหน้าที่หน้าประตูโรงเรียนเดินนำแฟนมีตขึ้นไปยังชั้นสองของอาคารที่ตั้งอยู่ด้านหลัง พื้นที่โดยรอบของอาคารนี้ไม่มีนักเรียนอยู่เลย ห้องส่วนใหญ่คล้ายพวกห้องปฏิบัติการอื่นๆ มากกว่า บรรยากาศจึงดูเงียบสงบ ไม่วุ่นวายเหมือนอาคารอื่นๆ ที่เขาเดินผ่านมา “อาจารย์รออยู่ด้านใน เชิญตามสบายนะคะ” “ขอบคุณมากครับ” แฟนมีตเปิดประตูเข้าไป ซึ่งภายในห้องตอนนี้นอกจากอาจารย์นวลคนที่เขามาขอเข้าพบจะนั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว พาสต้าเองก็อยู่ในห้องนั้นเช่นเดียวกัน “สวัสดีค่ะคุณแฟนมีต” “สวัสดีครับอาจารย์ มาขอรวบกวนหน่อยนะครับ” “ไม่เป็นอะไรเลยค่ะ จริงๆ ดิฉันกันอาจารย์แดนไทก็เป็นเพื่อนที่เรียนครูมาด้วยกัน” อาจารย์นวลตอบอย่างสุภาพ “ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะครับ พอดีผมอยากจะหาประวัติศิษย์เก่าของโรงเรียนนี้สักหน่อย” “ใครเหรอคะ” “คือเขาเป็นนักเรียนของที่นี่ตั้งแต่สมัยที่โรงเรียนยังขึ้นเป็นชายล้วนอยู่เลยครับ น่าจะหลายสิบปีแล้วเหมือนกัน” แฟนมีตยื่นโทรศัพท์มือถือที่บันทึกภาพถ่ายของเฟลเล่เอาไว้ ก่อนที่จะส่งมันไปให้กับอาจารย์นวล “นานมากเลยนะคะ จริงๆ ฐานข้อมูลของโรงเรียนในระบบเก็บเอาไว้เต็มที่ก็ไม่เกินสิบห้าปี” “จริงเหรอครับ แบบนี้ก็คงไม่มีข้อมูลของนักเรียนคนนี้แล้วใช่ไหมครับ” “ถ้าในระบบก็คงจะเป็นแบบนั้นค่ะ แต่โรงเรียนจะมีการทำหนังสือรุ่นของแต่ละปีเป็นที่ระลึกให้กับนักเรียนในวันจบการศึกษา และหนังสือพวกนั้นก็จะเก็บเอาไว้ที่ห้องสมุดของโรงเรียนเพื่อให้รุ่นใหม่ๆ ได้มาเปิดดูกันค่ะ” ดูเหมือนว่าแฟนมีตจะเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว “คุณแฟนมีตลองไปดูที่ห้องสมุดของโรงเรียนนะคะ น่าจะพอได้อะไรจากหนังสือรุ่นบ้าง” “ขอบคุณอาจารย์นวลมากนะครับ” “ยินดีค่ะ” แฟนมีตออกมาจากห้องพักของอาจารย์นวลแล้วเดินไปอีกฝั่งตามป้ายบอกเส้นทางของอาคารห้องสมุดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกันสักเท่าไหร่ “ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าพวกหนังสือรุ่นเก่าๆ ของโรงเรียนอยู่ตรงไหนเหรอครับ” แฟนมีตเดินไปถามข้อมูลกับบรรณารักษ์ “ด้านในสุดค่ะ หมวดประวัติศาสตร์โรงเรียน” “ขอบคุณครับ” แฟนมีตไม่รอช้ารีบเดินไปยังจุดที่บรรณารักษ์บอกในทันที “แล้วปีที่เฟลเล่จบมันปีไหนกันวะเนี่ยย” “ถ้าในข่าวที่เราอ่านเขาหายตัวไปประมาณ 30 ปีก่อน ผมถูกยิงเมื่อตอนพ.ศ.25×× บวกลบกลับไปก่อนหน้านั้น 4-5 ปี ก็น่าจะช่วงประมาณ 25×× ถึง 25×× นะ” พาสต้าช่วยแฟนมีตวิเคราะจนคิดว่าน่าจะเป็นปีที่ใกล้เคียงที่สุด ก่อนที่แฟนมีตจะกวาดสายตาหาหนังสือรุ่นตรงหน้า และได้มันออกมาถึงสามเล่มด้วยกัน “เป็นชุดเดียวกับที่เฟลเล่ใส่จริงๆ ด้วย” แฟนมีตไล่เรียงสายตาดูใบหน้าของเด็กนักเรียนที่ปรากฎอยู่ในหนังสืออย่างละเอียดเพราะเขาไม่อยากรีบร้อนจนเผลอมองข้ามอะไรไป “ปีๆ หนึ่งมีนักเรียนจบการศึกษารวมปีละยี่สิบห้อง ห้องหนึ่งมีนักเรียนไม่ต่ำกว่าสี่สิบคน ผมคงได้นั่งดูจนตาแฉะแน่ๆ คุณเองก็ช่วยมองหาด้วยนะพาสต้าจะได้ไม่พลาด” “ครับ ผมช่วยดูอยู่” พาสต้ามายืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้ของแฟนมีต เขาเองก็กำลังทำในสิ่งที่เขาคิดว่าพอจะช่วยแฟนมีตได้เช่นกัน “นั่นไง เฟลเล่..ห้องสาม” พาสต้าชี้ไปที่รูปนักเรียนคนหนึ่งอย่างตื่นเต้น “จริงด้วย เก่งมากเลยพาสต้า นายภวินนิตา เพียงสิงขร ชื่อเล่นเฟลเล่ เป็นบุตรชายคนเล็กของนางเรนิสา และนายภานุ นักเรียนดีเด่นประจำปี” แฟนมีตไล่อ่านข้อมูลส่วนตัวที่ระบุไว้ที่หน้าหนังสือรุ่น “ชื่อนั่นเป็นชื่อพ่อกับแม่ของผมเหรอ” “ก็ถ้าเฟลเล่คือน้องชายคุณ เรนิสากับภานุก็คงจะเป็นพ่อกับแม่ของคุณด้วยเหมือนกัน เดี๋ยวผมถ่ายรูปพวกนี้เก็บเอาไว้ก่อนแล้วเราค่อยกลับบ้านไปปรึกษากันอีกทีว่าควรจะทำยังไง” แฟนมีตเก็บรวบรวมทุกอย่างเท่าที่พอจะหาได้ในเวลานี้ ก่อนจะตรงกลับมาที่บ้านของเขา “มีตไปไหนมาเหรอลูก แม่เห็นลูกขับรถออกไปแต่เช้า” “ไปทำธุระมานิดหน่อย แม่ครับผมมีเรื่องจะถาม” “เรื่องอะไร” “แม่รู้จักคนที่ชื่อเรนิสากับภานุไหมครับ” พลอยยืนนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะก้มหน้าหลบสายตาของลูกชาย “แม่ห้ามปิดบังอะไรผมอีกนะครับ ผมขอร้อง” “แม่ไม่ได้จะปิดบัง แม่ก็แค่สงสัยว่าทำไมมีตถึงอยากรู้เรื่องอะไรพวกนี้นัก” “แม่พูดแบบนี้แปลว่าแม่รู้ใช่ไหมครับว่าเขาสองคนคือใคร” พลอยเดินนำลูกชายไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น “เขาเป็นพ่อกับแม่ของพาสต้า” “แล้วตอนนี้เขาสองคนอยู่ที่ไหนครับ แม่พอจะรู้จักบ้านของพวกเขาไหม” “มีตใจเย็นๆ แล้วฟังแม่ก่อนนะ คือแม่รู้จักพวกเขาแค่ในฐานะที่เขาเป็นพ่อกับแม่ของพาสต้าเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นแม่ไม่รู้เลย ทั้งสองคนค่อนข้างเป็นคนเก็บตัว ขนาดงานโรงเรียนที่พาสต้าได้รางวัล ก็ยังไม่เคยเห็นเขาสองคนมาให้กำลังใจลูกชายของเขาเลย” “แล้วแม่เคยได้ยินเรื่องที่คนเขาลือกันว่าคุณเรนิสากับคุณภานุ แอบทำการทดลองยาอายุวัฒนะบ้างหรือเปล่าครับ” แฟนมีตตัดสินใจถามลอยออกไปตามตรง ตอนนี้มันคงหมดเวลาที่จะมาอ้ำอึ้ง ปั้นหน้าพูดเรื่องโกหกใส่กันอีกแล้ว “แม่ก็เคยได้ยินพาสต้าเขาพูดถึงนะ” “เขาพูดว่าอะไรบ้างเหรอครับ” “เขาบอกว่าพ่อกับแม่ของเขาแอบทำการทดลองโดยเอายาที่ทำให้เขากับคนในบ้านกิน” ทั้งบ้านตกอยู่ในความเงียบแม้แต่พาสต้าที่ยืนฟังอยู่ใกล้ๆ ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา “แล้วพาสต้าเขาก็ยอมกินเหรอคับ” “ไม่นะ พาสต้าหนีออกมาจากบ้านนั้น เพราะช่วงนั้นเขาเองก็เริ่มมีชื่อเสียงแต่ก็มาเกิดเรื่องโดนยิงเสียชีวิตก่อน” “มีเรื่องอะไรของพาสต้าที่แม่รู้อีกไหมครับ” บางทีข้อมูลที่ดีที่สุดก็อาจจะมาจากคนใกล้ตัวของเขาคนนี้ก็เป็นได้ “ก็ทั่วไปนะ พาสต้าเขาก็ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องที่บ้านของเขาเท่าไหร่” “ตอนนั้นแม่สนิทกับพาสต้ามากไหมครับ” “ก็ถือว่าสนิทนะ เรียนมัธยมมาด้วยกันจนจบมหาวิทยาลัยเลยล่ะ ก็ก่อนที่เขาจะไปเป็นนักแสดงแล้วก็กลายมาเป็นนักร้องดัง” “แล้วแม่รู้จักพี่น้องของเขาบ้างไหมครับผมได้ยินมาว่าเขามีพี่สาวกับน้องชายแต่ผมลองหาข้อมูลจากในอินเตอร์เน็ตดูก็ไม่เห็นเจออะไรเลยนอกจากข่าวเหตุการณ์ในคืนวันงานคอนเสิร์ตของเขา” แฟนมีตพยายามใช้คำที่ดูจะไม่เป็นการทำร้ายจิตใจของพาสต้า เพราะเขารู้ว่าคงไม่มีใครอยากจะมายืนฟังเรื่องราวของตัวเองโดยที่ถูกพูดว่าเป็นบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้วแน่ๆ “พี่สาวของพาสต้าเหรอ รู้สึกว่าจะชื่อเพนเน่นะ เป็นหมอ ส่วนน้องชายพาสต้าเคยบอกว่าน้องเขาหนีออกจากบ้านไปเพราะทนที่บ้านกดดันเรื่องเรียนไม่ไหว” “เฟลเล่หรือเปล่าครับน้องชายของเขา” “ใช่นะ ชื่อบ้านนี้เขาเรียกยากแต่แม่คิดว่าน่าจะใช่” พลอยนั่งคิดทบทวนเรื่องราวเพื่อนเก่าในอดีตของเธอช้าๆ เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ลูกชายของเธอถึงสนใจเรื่องของพาสต้าขึ้นมา “มีตบอกแม่ได้ไหมว่าอยากรู้เรื่องพวกนี้ไปทำไม” “ผมก็แค่สงสัยครับ ว่าพาสต้าเขาเป็นใครกันแน่ อีกอย่างพอไปหาเรื่องของเขาในอินเตอร์เน็ตแล้วไม่เจออะไรมันก็ยิ่งน่าแปลก นักร้องที่ดังขนาดนั้นแต่ไม่มีเรื่องอะไรของเขาเลย” “มีตไม่ได้กำลังจะตามหาเรื่องเขากับแม่ใช่ไหมลูก” พลอยถามลูกชายของเธอไปตามตรง เธอไม่อยากให้เรื่องนี้มันมาค้างคาจนกลายเป็นรอยร้าวระหว่างเธอกับลูกชาย “ผมเชื่อแม่ครับว่าเขาไม่ได้เป็นพ่อของผม แต่ผมก็ยังมีเรื่องอื่นเกี่ยวกับเขาที่ผมเองอยากจะรู้เหมือนกัน” พาสต้าไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว นับตั้งแต่วินาทีที่พลอยถามแฟนมีตเกี่ยวกับเรื่องพ่อของเขา “แม่ไม่เคยอยากโกหกอะไรมีตเลยนะ ส่วนเรื่องที่แม่บอกว่าแม่เป็นแฟนคลับพาสต้าแม่ก็ไม่ได้โกหก แค่สถานะเบื้องหลังของเราที่เป็นเพื่อนสนิทกัน มันก็คือส่วนหนึ่งด้วยเหมือนกัน” “ช่างมันเถอะครับ ผมขอตัวขึ้นไปทำงานสักหน่อยนะครับ” พลอยมองตามหลังลูกชายที่เดินกลับขึ้นไปชั้นบน โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า เรื่องที่เธอกับแฟนมีตคุยกัน มีบุคคลอื่นที่แอบยืนฟังอยู่ตั้งแต่ต้นจบจน : - TBC - #hgdคุณผีที่รัก“มีตกลับมาแล้วเหรอลูกแม่เห็นข่าวเรื่องที่บ้านของพาสต้า มีตไม่เป็นอะไรใช่ไหม”“ผมสบายดีครับแม่”พลอยแทบไม่เป็นอันทำอะไรในตอนที่ข่าวหน้าจอทีวีกำลังรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลเพียงสิงขรเธอสังหรณ์ใจว่าลูกชายของเธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่พอได้เห็นว่าแฟนมีตปลอดภัยดีเธอจึงยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ“ว่าแต่แม่เถอะครับเป็นไงบ้างผมไม่อยู่ตั้งสามวัน” “แม่จะเป็นอะไร ก็สบายมากๆ เลยไงมีทั้งน้ากิ่ง อาเวลมาช่วยดูแลแม่อยู่ตั้งสองคน”“จริงเหรอครับแล้วตอนนี้น้ากิ่งเขาอยู่ที่ไหน”แฟนมีตมองไปรอบๆ บ้าน เห็นแค่เพียงเวลที่กำลังนั่งซ่อมวิทยุตัวเก่งให้แม่ของเขาอยู่ที่มุมห้อง“เหมือนจะอยู่ในห้องนอนนะเห็นว่าเข้าไปหาอะไรสักอย่าง”“งั้นเหรอครับ ขอไปทักทายสักหน่อยดีกว่าจะได้รู้ว่าหลานรักกลับมาแล้ว”แฟนมีตเดินตรงไปยังห้องรับรองที่เขาเป็นคนจัดเอาไว้เพื่อให้กิ่งแก้วใช้เป็นที่นอนชั่วคราวระหว่างรอต่อเติมบ้าน“น้ากิ่งเขาไม่อยู่แล้วนิครับ เสื้อผ้าก็ไม่มี”“หมายความว่ายังไงลูก”“เป็นไปได้ยังไงก็ก่อนที่พลอยจะเข้าไปล้างจานในครัวอายังเห็นเขาอยู่ในห้องเลยนะ”พลอยกับเวลรีบตามลูกชายเข้าไป ถึงได้เห็นว่าภายในห้องไม่มีแม้แต
“พาสต้าคุณโอเคหรือเปล่า”หลังจากที่น้ำหนาวและพายุขอตัวกลับ แฟนมีตก็รีบขึ้นมาดูอาการของพาสต้าทันที“ดีขึ้นแล้วครับ เป็นยังไงบ้างน้ำหนาวกับพายุได้เรื่องหรือเปล่า”“ยิ่งกว่าได้เรื่องอีก อย่างแรกผมกู้คืนคลิปวิดีโอจากในมือถือตัวเองได้แล้วนะ ตอนนี้ผมเก็บไฟล์ทั้งหมดใส่ไดร์ฟเรียบร้อยแล้ว”แฟนมีตพูดพร้อมกับโชว์แฟลชไดร์ฟสีดำในมืออันเป็นหลักฐานสำคัญ“ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องเครื่องติดตามพี่เพนเน่มีตัวส่งสัญญาณอีกหนึ่งตัวที่พายุเก็บเอาไว้ ตอนนี้กำลังดูว่าสัญญาณรถของพี่เพนเน่จะไปอยู่ที่ไหน”“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป”“หลังจากที่ผมแน่ใจแล้วว่าของทุกอย่างในโกดังมันถูกย้ายไปไว้ที่ไหน ผมจะส่งเรื่องทั้งหมดให้กับตำรวจและให้เขาเข้าไปจัดการ ถึงตอนนั้นคุณน่าจะเข้าไปใกล้ร่างของคุณได้แล้ว”แฟนมีตบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แต่พาสต้ากลับดูท่าทางคิดหนัก ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นสิ่งที่เขารอคอยมันมาตลอด แต่เวลานี้เขากลับดูไม่ได้ดีใจกับมันเสียเลย“คุณต้องรีบหาวิธีกลับเขาร่างให้เร็วที่สุด คุณสัญญากับผมได้ไหมพาสต้า”“สัญญาอะไรเหรอครับ”“คุณต้องกลับเข้าร่างของคุณให้ได้นะ มันไม่ใช่เพราะว่าผมอุตส่าห์ลงทุนช่วยคุณมาถึงตอนนี้”“แล้ว
“ตื่นแล้วเหรอแฟนมีต”“กี่โมงแล้ว”“น่าจะเกือบเที่ยงได้แล้วมั้ง”“อะไรนะ นี่ผมหลับไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ”แฟนมีตรีบเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนทันทีแม้จะยังรู้สึกเจ็บกับบาดแผลตามลำตัวอยู่เล็กน้อยก็ตาม“คงเพราะว่าคุณเพลียมากนั่นแหละ ตอนเช้าขอบฟ้าเข้ามาดูอาการคุณไปรอบหนึ่งแล้วนะเห็นบ่นว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก ตอนนี้เลยไม่มีใครอยู่บ้านสักคน”พาสต้าจัดการไล่เรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนที่แฟนมีตนอนหลับให้เขาฟัง“แล้วที่ร้านพี่เพนเน่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”“ผมไปมาแล้ว ร้านปิดแถมยังขึ้นป้ายว่าปิดไม่มีกำหนดอีกต่างหาก”“อะไรนะคนอย่างพี่เพนเน่เหรอจะมาปิดร้านอย่างไม่มีกำหนดแบบนี้”“ก็คงมาจากเรื่องที่คุณบุกเข้าไปในโกดังเขาเมื่อคืนนั่นแหละ ตอนนี้ที่โกดังไม่มีใครอยู่เลยสักคน”พาสต้าใช้เวลาในช่วงที่แฟนมีตได้พักผ่อนออกไปตรวจสอบทุกที่มาจนหมดเพราะไม่อยากรู้สึกว่าเขาปล่อยให้แฟนมีตมาจัดการเรื่องนี้อยู่คนเดียว และมันก็ทำให้เขารู้ว่าตอนนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดพยายามทำลายหลักฐานเพื่อหนีความผิดในครั้งนี้“เป็นไปได้ยังไง?”“พวกเขาย้ายออกจากที่นั่นไปแล้ว ไปพร้อมกับอุปกรณ์ทั้งหมดของโกดังน่าจะขนออกไปต
“อาเวลครับแม่หลับไปแล้วหรือยังครับ”แฟนมีตไม่กล้ากลับไปที่บ้านของตัวเองในเวลานี้จึงตัดสินใจมาที่บ้านของขอบฟ้าแทน‘พลอยหลับไปแล้ว อาบอกว่ามีตจะไปค้างบ้านเพื่อนพลอยเขาพยายามโทรหามีตตั้งหลายสายแต่ก็ไม่มีคนรับ’“พอดีผมทำโทรศัพท์หายครับอา นี่ผมก็มายืมโทรศัพท์ไอ้ฟ้ามันจะโทรมาฝากอาบอกแม่ด้วยแล้วกันนะครับว่าผมขออยู่บ้านฟ้ามันสักสองสามวัน พอดีฟ้ามันให้มาช่วยงาน”‘แน่ใจนะมีตว่าเราไม่ได้เป็นอะไร’เพราะน้ำเสียงแฟนมีตที่ตะกุกตะกักผิดปกติ ทำให้เวลจับผิดได้ไม่ยากว่าคนปลายสายกำลังโกหกเขาอยู่“นะครับอาทำตามที่ผมบอก”‘ก็ได้ แต่จบเรื่องนี้เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ’“ว่าแต่ทางนั้นมีอะไรน่าสงสัยหรือเปล่าครับ”เมื่อเห็นว่าเวลยอมให้ความร่วมมือ แฟนมีตจึงถามถึงเรื่องสำคัญที่ฝากเอาไว้ทันที‘ก็ไม่มีนะ กิ่งแก้วดูปกติดีไม่ได้ทำอะไร จะมีก็แค่เขาดูไม่ค่อยพอใจนิดหน่อยที่อามาอยู่ที่นี่’“จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะขอร้องให้อาหาเรื่องอยู่ที่บ้านนั้นกับแม่ไปก่อนจนกว่าผมจะกลับไป”‘มีตจะให้อาทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ’“ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ แล้วครับอา และผมก็มีอีกเรื่องสำคัญที่จะฝากให้อาช่วย”ด้วยทุกอย่างมันผิดจากแผนเดิมไปจนหมด และแ
แฟนมีตเดินลัดเลาะไปที่ด้านหลังของโกดังซึ่งอยู่ติดกับทุ่งนาของชาวบ้านรั้วสูงถูกพันเอาไว้ด้วยลวดหนาม เป็นหนทางเดียวที่เขาจะสามารถเข้าไปด้านในได้ และเขาต้องยอมเสี่ยงแฟนมีตสำรวจไปรอบๆ เพื่อความปลอดภัยว่าจะไม่มีใครมาเจอตัวของเขาก่อนที่เขาจะเข้าไปในโกดังได้หนามจากลวดเกี่ยวเข้าที่แขนและขาของชายหนุ่มจนเป็นรอยยาว โชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก จึงสามารถข้ามเข้ามาในฝั่งของโกดังได้อย่างปลอดภัย“คุณแม่มาถึงหรือยัง”“ด็อกเตอร์กำลังเดินทางมาครับ อีกประมาณ 15 นาทีจะถึง เห็นท่านแจ้งว่าวันนี้รถค่อนข้างติด”ผู้ชายวัยกลางคนเดินออกมาต้อนรับเพนเน่ที่ด้านหลังโกดังซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นที่จอดรถ ชายคนนั้นสวมชุดขาวคล้ายกับชุดป้องกันรังสีเหมือนในภาพยนต์ที่เคยเห็น“ก็จริง กว่าฉันจะมาถึงได้ก็เสียเวลาไปหลายนาทีอยู่ แล้วข้างในเป็นยังไงบ้าง”“ด็อกเตอร์สั่งปรับสูตรยาตัวใหม่ให้มีประสิทธิภาพที่แรงขึ้นกว่าเดิมสองเท่าครับ”“สองเท่าเองเหรอ?”“ใช่ครับ ฟังดูมันอาจจะน้อยนะครับคุณเพนเน่ แต่สองเท่าสำหรับยาสูตรนี้ถ้าหากเป็นคุณเพนเน่คนเดิมที่เพิ่งเคยใช้ยาตัวนี้เป็นครั้งแรกอาจจะไม่ต้องใช้ยาไปอีกเลยถึงสามเดือน”ผู้ดูแลอวดอ้างสรรพ
แฟนมีตหลับสนิทไปแล้ว ส่วนพาสต้ายังคงนอนตะแคงมองใบหน้าของเขาอยู่อย่างนั้นถ้าวันหนึ่งเขากลับเข้าร่างไปได้ เขาจะมีโอกาสมาอยู่แบบนี้อีกหรือเปล่า แฟนมีตจะหายไปจากชีวิตของเขาไหม หรือเขาจะต้องไปอยู่ที่ไหนกันแน่เรื่องที่เรนิสากับภานุทำเอาไว้มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าความจริงถูกเปิดเผยพ่อกับแม่ของเขาก็คงต้องไปชดใช้ความผิดตามกฎหมายที่ไม่รู้ว่ามันจะหนักหนามากสักแค่ไหนแต่ที่แน่ๆ มันอาจจะนานมากพอที่จะทำให้ยาอายุวัฒนะที่อยู่ในร่างกายของคนพวกนั้นหมดฤทธิ์แล้วธรรมชาติก็จะได้กลับมาทำหน้าที่ของมัน..:“แม่คะ หนูรู้สึกว่ายารอบนี้ประสิทธิภาพมันลดลงนะคะ”เพนเน่กลับมาจากร้านกาแฟ เธอรีบตรงไปหาเรนิสาที่ห้องทำงานทันที หลังจากที่เธอเจอความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย“เกิดอะไรขึ้น?”“คือหลังจากหนูรับยาไปได้ 1 สัปดาห์ร่างกายก็เริ่มรู้สึกอ่อนเพลียแล้วก็เหมือนมันจะมีอาการคล้ายๆ กับเวลายามันหมดฤทธิ์”“เป็นไปได้ยังไง ในเมื่อตัวยานี้มันสามารถดูดซึมอยู่ในร่างกายถึง 1 เดือนหรือเพราะมีอะไรผิดพลาด”เรนิสาถอดแว่นตาออกก่อนจะเดินรอบๆ ตัวของลูกสาวเธอเพื่อสำรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้น“หนูเองก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะแม่ แต่มันเป็นแบบน