หลังแสงจางจากคันศรเซรีออน ทุกอย่างกลับมาเงียบอีกครา
นีร่าก้มมองศรในมือ — มันเบากว่าที่คิด แต่กลับแฝงพลังแปลกประหลาด คล้ายลมหายใจของทะเลยังไงยังงั้น “มันเหมาะกับเจ้า” โทรันเอ่ยพลางเดินเข้ามาใกล้ “ข้ามองเห็นไฟในดวงตาเจ้าแล้ว...อย่าดับมันล่ะ” อัลเธียพยักหน้าเบา ๆ ดวงตาของนางยังเศร้าเหมือนเดิม แต่ตอนนี้มีแววหวังปนอยู่ด้วย “จำไว้นีร่า...เจ้าคือความหวังสุดท้ายที่โลกนี้จะมี” “ข้าจะไม่ให้ความหวังของใคร...กลายเป็นฝันร้าย” นีร่าตอบเสียงหนักแน่น โทรันยิ้มมุมปากก่อนผายมือไปยังทางออก “จงกลับไปเถิด อีกไม่นาน...ลมจะเปลี่ยนทิศ” --- ด้านนอกวิหาร – ทะเลตอนเช้า แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านผิวน้ำ นีร่ากับมาริเบลกำลังว่ายขึ้นมาจากวิหารลับ ไอล่ารออยู่ก่อนแล้ว บนโขดหินกลางน้ำ ตาโตเป็นไข่เป็ด “เจ้าใช้เวลานานจนนึกว่าจมน้ำตายไปแล้ว!” มาริเบลหัวเราะ “ถ้าพี่ข้าจะตาย...คงไม่ใช่ในที่ที่มีผู้คุมกฎอยู่หรอกน่า” นีร่าเหนื่อย แต่สีหน้าสงบกว่าเดิมมาก ดวงตาเธอไม่ใช่ดวงตาของเด็กสาวอีกต่อไป อีธานยืนอยู่ไม่ไกล มือจับหินขัดดาบ เขาเงยหน้าขึ้นทันทีที่เห็นนีร่าโผล่หัวขึ้น “เจ้าปลอดภัย...” เขาว่าเบา ๆ แล้วเดินเข้ามาใกล้ “ข้าไม่เป็นไร” นีร่ายิ้มจาง ๆ “แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยน” ไอล่าชะงัก “หมายความว่าไง?” นีร่าหันมามองเพื่อนทั้งสาม “พวกเงือกกลายพันธุ์...กำลังกลับมา พวกมันไม่ได้หายไปไหน แต่หลบซ่อนอยู่ลึกกว่าที่ใครจะกล้าไปหา” มาริเบลย่นคิ้ว “แล้ว...เราจะทำยังไง?” “ข้าจะสู้” นีร่ากล่าวเรียบ ๆ “ข้าจะใช้คันศรนี่ปกป้องทุกคน — ไม่ใช่แค่เงือก แต่รวมถึงมนุษย์ด้วย” อีธานเดินมาเคียงข้าง “งั้นก็ไม่ได้มีแค่เจ้าที่สู้ ข้าก็จะอยู่ตรงนี้เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ไอล่าตบบ่ามาริเบล “ข้าก็ไม่หนี จะให้หนีไปไหนล่ะ...ข้าเป็นคนเลือกเดินทางมากับเจ้าทุกคนเองนี่นา!” นีร่าหันไปสบตาเพื่อนทั้งสาม “พวกเจ้าแน่ใจหรือ?” น้ำเสียงเธออ่อนลง “แน่ใจสิ! ข้าไม่ได้ว่ายทวนกระแสน้ำมาตั้งไกลเพื่อจะหันหลังกลับง่าย ๆ หรอกนะ” ไอล่าพูดเสียงดัง อีธานแค่นหัวเราะ “เจ้านี่พูดเหมือนโจรสลัดเลย” “ข้าก็อยากเป็นบ้างนี่!” ไอล่ากอดอก “อย่างน้อยก็มีอิสระกว่าเงือกในเมืองหลวงที่มัวแต่เถียงกันเรื่องศักดิ์ศรี!” นีร่าหัวเราะในลำคอ ก่อนมองไกลไปยังเส้นขอบฟ้า “งั้นเราต้องเริ่มเดินหมากกันใหม่...ก่อนพวกมันจะลงมือก่อนเรา” --- ค่ำวันนั้น – หัวเรือของอีธาน กลุ่มนีร่าเตรียมอาหารง่าย ๆ กินกันที่หัวเรือ อีธานย่างปลา ไอล่าตำพริกสดจนกลิ่นแรงทะลุทะเล มาริเบลล้างผักอยู่ข้าง ๆ ร้องเพลงเงือกคลอไปเบา ๆ นีร่านั่งมองคลื่นทะเล สีหน้าสงบแต่ในใจเต็มไปด้วยคำถาม “นี่” อีธานเอาปลาเสียบไม้มาวางตรงหน้า “เจ้ากินหน่อย จะได้ไม่ฟุบลงตอนยิงศรนั่นใส่ใคร” นีร่าหัวเราะ “ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่หยอกข้าแล้วซะอีก” “ข้าพยายาม...แต่ก็ยังห่วงอยู่ดี” “ข้ารู้” เธอมองเขา “ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้ามาเจ็บไปด้วย” “ถ้าเจ้าบาดเจ็บ แล้วข้าไม่เจ็บ...นั่นสิถึงจะผิด” อีธานว่าพลางนั่งลงข้าง ๆ “เราลงเรือลำเดียวกันแล้วนีร่า จะฝนตกหรือลมแรงก็ต้องรอดไปด้วยกัน” --- สิ้นคืน — คลื่นเงียบแต่หัวใจไม่เงียบ นีร่ามองคันศรเซรีออนในมือ ก่อนกอดมันไว้แน่น ในใจเธอ...ไม่ใช่แค่เป้าหมายของสงคราม แต่มันคือคำสัญญา — ว่าครั้งนี้ เธอจะไม่หนีอีกแล้ว ไม่ใช่เด็กสาวที่เอาแต่ร้องไห้ใต้ผิวน้ำ แต่เป็น “ผู้พิทักษ์” ที่พร้อมยืนหยัด...แม้จะต้องแลกด้วยทุกสิ่ง