กลางทะเลต้องห้าม —
คลื่นนิ่งผิดปกติ ลมก็ดันเงียบอย่างน่าผิดสังเกต กลิ่นคาวน้ำลอยขึ้นมาจากผืนน้ำที่ดำปี๋ ราวกับมันไม่ใช่น้ำทะเล...แต่เป็นเลือด กัปตันแบร์กตันยืนบนหัวเรือ เสื้อโค้ทยาวปลิวไสว ดวงตาใต้เงาหมวกมองต่ำ ข้างเขาคือ บรอล และ เดร็กซ์ ที่คอยประคองหีบไม้เก่า ๆ ใบหนึ่ง “เจ้าแน่ใจนะกัปตัน...ว่าอยากเปิดมันตรงนี้?” บรอลถามเสียงอ้อมแอ้ม “ถ้าเจ้ากลัว ก็กลับไปกอดถังเกลือบนเรือเถอะ” แบร์กตันพูดนิ่ง ๆ แล้วตวัดสายตามอง บรอลกลืนน้ำลายเงียบ ๆ เดร็กซ์หัวเราะเบา ๆ ก่อนเสริม “ของแบบนี้...แค่กลิ่นยังสั่นกระดูกคนได้” แบร์กตันยกฝาหีบขึ้น...กลิ่นสาปเน่าผสมเลือดทะเลพุ่งวาบออกมา ข้างในมีเพียงขวดแก้วใบหนึ่ง — บรรจุ เลือดของเงือกกลายพันธุ์ สีดำข้นที่ยังคุกรุ่นไปด้วยแรงสาปเก่าแก่ “ของนี่...พวกคุมกฎมันฝังลึกจนไม่มีใครกล้าแตะ” เขาเอ่ยเสียงต่ำ “แต่มันยังหายใจอยู่ ข้าได้ยินเสียงมันเรียกข้า...ตั้งแต่วันที่นีร่ารอดจากกับดักข้า” เขาเทหยดเลือดลงทะเล... ทันใดนั้น — ผิวน้ำเริ่มหมุนวน เสียงกรีดร้องบางอย่างแว่วขึ้นจากใต้ทะเล และแล้ว... บางสิ่ง ก็โผล่ขึ้นมาจากความมืด เงาร่างสูงโปร่ง ผิวลื่นดั่งปลา ดวงตาสีเงินไร้ตาดำ มันไม่มีใบหน้า มีแต่ช่องปากยาวแสยะยิ้มจนเห็นฟันหลายชั้น มันคือ "ชาราธีน" — ปีศาจเงือกเก่าแก่ ผู้ถูกขังอยู่ใต้หลืบลึกตั้งแต่สงครามครั้งก่อน “กลิ่นเลือดนั่น...คือของข้า” เสียงของมันแทรกเข้ามาในหัวพวกเขา ไม่ผ่านปากแต่ดังชัดราวคนกระซิบอยู่ข้างหู แบร์กตันไม่ขยับแม้แต่น้อย เขายกคางขึ้น “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากกลับขึ้นมา อยากเอาคืนพวกที่ตรึงเจ้าลงใต้น้ำมาหลายร้อยปี” “...แล้วเจ้าจะให้สิ่งใดแก่ข้า กัปตัน?” ชาราธีนแค่นเสียงหัวเราะ แบร์กตันยกมือขึ้น แล้วกล่าวด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยเจตนาอันแน่วแน่ “ข้าจะให้เจ้า ‘เสรีภาพ’ ...ข้าจะเปิดทางให้เจ้าขึ้นฝั่งอีกครั้ง” “แล้วเจ้าเอาอะไรตอบแทน?” แบร์กตันยิ้มมุมปาก “ข้าอยากได้หัวของนีร่า...กับคันศรเซรีออน” ชาราธีนเงียบไปชั่วครู่ ก่อนร่างมันจะค่อย ๆ ละลายกลับสู่ผืนน้ำ ทิ้งไว้เพียงเสียงกระซิบ > “ข้าจะตามกลิ่นเลือดนั่นไป… แล้วพวกเจ้า...จะรู้ว่า คลื่นที่แท้จริงมันโหดร้ายแค่ไหน” --- บรอลขยับตัวไม่กล้าแม้แต่หายใจ เดร็กซ์หันมามองแบร์กตัน “ข้าไม่รู้ว่าเอ็งกำลังทำดีหรือทำลายโลกกันแน่…” แบร์กตันหัวเราะเบา ๆ แล้วหันหลังกลับ “ก็ลองดูสิ…ว่าระหว่างข้ากับปีศาจตัวนั้น ใครจะกินหัวมันก่อน” หมู่บ้านชาวประมง – ยามค่ำ คลื่นซัดกระทบหาดเบา ๆ ไฟจากตะเกียงน้ำมันตามบ้านไม้ริมฝั่งเริ่มจุดขึ้น นีร่าเดินขึ้นฝั่งพร้อมอีธาน มาริเบล และไอล่า พวกเขาเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร ทุกคนต่างรับรู้...ว่าความเงียบของคืนนี้ อาจเป็นความเงียบก่อนพายุ อีธานถอนใจเบา ๆ เมื่อเหยียบพื้นไม้หน้าบ้าน “กลับมาจนได้…” “ข้ารู้ว่ามันยังไม่จบหรอก” นีร่าเอ่ย “พวกของแบร์กตันต้องไม่หยุดแค่นั้นแน่ ข้าว่ามันกำลังหาทางขึ้นฝั่ง...หรืออาจมีคนบนบกช่วยมันอยู่” มาริเบลหน้าซีด เธอเกาะแขนอีธานแน่น “ถ้ามันมาที่นี่ เราจะทำยังไงดี?” อีธานเหล่มองนีร่า ก่อนตอบ “ก็เตรียมตัวสู้ไงล่ะ เจ้าไม่ใช่เด็กสาวธรรมดาแล้วนะนีร่า เจ้าเป็น...ผู้ถือศรโบราณอะไรนั่นนี่นา” “ศรเซรีออน” นีร่าเอ่ยเบา ๆ “แต่มันยังไม่พอหรอก ถ้าข้าไม่รู้ว่าจะยิงไปที่ใคร...หรือยิงเพื่ออะไร” ไอล่าเดินมานั่งข้าง ๆ พลางถอนหายใจ “แล้วเราต้องทำอะไรล่ะตอนนี้ จะออกไปสู้เลยหรือ?” “ยัง” นีร่าตอบ “คืนนี้ข้าจะใช้เวลาคิด หาข้อมูล หาว่าใครในหมู่บ้านนี้เคยเกี่ยวข้องกับพวกของแบร์กตัน...ใครเคยขายข่าว หรือเคยเดินเรือให้มัน” อีธานพยักหน้า “พวกนั้นมีแน่ ข้าเคยได้ยินลุงโทบี้บ่นว่า เคยมีพวกเรือผีผ่านแถวนี้ แล้วมีใครบางคนเอาอาหารไปให้มันกลางดึก” นีร่าเงียบไปครู่ ก่อนเอ่ย “ข้าจะออกไปตอนฟ้าสาง ไปถามลุงโทบี้...เจ้าไปกับข้าไหมอีธาน?” เขายิ้มมุมปาก “แน่นอน ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าหายไปอีกรอบหรอก” มาริเบลกับไอล่ามองหน้ากันแล้วหลุดยิ้ม “เอ้อ...กลิ่นความรักนี่มันแรงไม่เบาเลยเนอะ” ไอล่าแซว นีร่าหน้าแดง “บ้า! ข้าแค่...ไว้ใจเขาแค่นั้น” มาริเบลหัวเราะเบา ๆ “ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนีร่า เจ้าโตขึ้นนะ” นีร่าพูดเสียงอ่อย “ข้าไม่ได้อยากโต...แต่ข้ามีหน้าที่ที่ต้องทำ” ลมทะเลยามค่ำเริ่มแรง เปลวไฟในตะเกียงโอนเอนไปตามแรงลม แต่แววตานีร่า...กลับมั่นคงยิ่งกว่าเคย คืนนี้พวกเขาจะวางแผน และพรุ่งนี้...จะเริ่มเคลื่อนไหว