Home / มาเฟีย / กลรักซาตานร้าย / บทที่ 4 ซาตานจำแลง

Share

บทที่ 4 ซาตานจำแลง

last update Last Updated: 2025-04-15 10:48:24

ภายในบ้านหลังใหญ่ระดับมหาเศรษฐีของหมู่บ้านชื่อดัง ที่รู้ๆ กันว่าบ้านแต่ละหลังในย่านนี้ราคาครึ่งร้อยล้านขึ้นทุกหลัง คนมีอันจะกินหาซื้อบ้านไว้อยู่บ้างตามอารมณ์ เพราะไม่อยากให้เงินนอนจมในธนาคารกินดอกอย่างเดียว จึงเอามาสร้างบ้านและซื้อความสุขแบบฟุ่มเฟือยตามประสาคนรวยล้นฟ้า 

ลูคัส นิรัตน์ศยางค์กูล บาร์ตัน ชายหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน มาดเข้ม ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย อายุยี่สิบแปดปี ใบหน้าที่ดูหล่อเหลา แต่ยามร้ายก็เหมือนซาตานจำแลงลงมา คุณชายของบ้านนิรัตน์ศยางค์กูลกำลังก้าวลงจากเครื่องบินเล็กส่วนตัว ซึ่งเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของชายหนุ่มที่จอดอยู่ในลานจอดกว้างของสนามหญ้าสีเขียวหลังบ้าน ที่มีพื้นที่รวมบ้านและสนามก็ขนาดเกือบยี่สิบไร่เห็นจะได้ เมื่อก้าวลงจากเครื่องบินเล็ก ชายหนุ่มก็ก้าวขึ้นรถกอล์ฟแล้วขับมุ่งตรงไปยังประตูบ้านทันที

“นายน้อยขับเครื่องบินเป็นยังไงบ้างครับ” คนที่รอรับเมื่อเห็นรถกอล์ฟแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านก็รีบวิ่งมาหาพร้อมเอ่ยถามนายน้อยของบ้านทันที 

“ก็ดี” ชายหนุ่มเอ่ยตอบเสียงเรียบ มองคนขับรถที่อายุมากกว่าเขาห้าปี แต่ทำตัวนอบน้อมเพราะมีคำว่าเจ้านายและลูกน้องเป็นเส้นแบ่งอยู่

“ลูคัส หลานย่ากลับมาแล้วเหรอจ๊ะ” มาดามมิเชลที่ได้ยินเสียงหลานชายของเธอที่หน้าบ้านก็รีบเดินมาหาทันที แต่คนเป็นหลานกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง มองย่าผ่านแว่นกันแดดราคาแพงที่สวมกั้นสายตา ก่อนจะยกมือไหว้ตามแบบไทยใบหน้านิ่งๆ เช่นเคย แทนที่จะรับไหว้แต่มาดามมิเชลกลับยืนเฉยเมย เพราะวัฒนธรรมแบบนี้ทำให้เธอคิดถึงผู้หญิงที่เกลียดเข้ากระดูกดำคนนั้น 

“คุณย่า...มาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ลูคัสเอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษที่คุ้นหู ก่อนจะขมวดคิ้วนิดหน่อย เพราะปรกติมาดามมิเชลจะอยู่ที่ออสเตรเลีย ไม่ชอบมาเมืองไทยด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้ทำไมถึงมาแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้าด้วย

“ห้านาทีก่อน ย่าคิดถึง พอว่างเราอยู่แต่เมืองไทย ไปทำงานที่บ่อน้ำมันก็ไม่แวะไปหาย่าบ้างเลย” ชายหนุ่มดูจะส่ายหน้าให้กับการเรียกร้องความสนใจของมาดามมิเชล ใช่ว่าครอบครัวนี้จะมีเขาเป็นหลานเพียงคนเดียวเสียเมื่อไหร่ 

“พักนี้ยุ่งๆ น่ะครับ” 

“จ้ะ...ย่าไม่ได้ว่าอะไร เพราะคำพูดนี้ได้ยินจากสองพ่อลูกมาเกือบตลอดชีวิตแล้ว” มาดามมิเชลเอ่ยถึงลูกชายของเธอด้วย เพราะอดัมคือลูกชายที่เธอรักมากและเสียใจมากที่สุดในบรรดาลูกทั้งห้าคนของเธอก็ว่าได้ 

“คุณย่าแวะมาเที่ยวหรือว่า...” ลูคัสไม่ได้เอ่ยขึ้น เพราะพอจะเดาอะไรออกแล้วในตอนนี้ ย่าของเขาไม่มีวันมาเที่ยวเมืองไทยแบบไม่มีแผนอย่างแน่นอน ต้องมีอะไรซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้ายิ้มๆ ของหญิงวัยเกือบเจ็ดสิบห้าปีคนนี้แน่นอน เพราะถึงย่าเขาจะอายุมาก แต่ความเป็นอยู่ที่ดีร่างกายจึงยังแข็งแรง

“มาหาเราโดยเฉพาะ แต่...คราวนี้ย่าพาวิคตอเรียมาเที่ยวเมืองไทยด้วย” มาดามมิเชลเอ่ยบอก เพียงเอ่ยชื่อหญิงสาวหน้าตาสวยที่ชื่อวิคตอเรียก็ก้าวออกมายืนข้างๆ นัยน์ตาสีเขียวมรกตของหญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพอใจ แต่ก็เอียงอายอยู่ในที 

“ญาติฝั่งไหนอีกล่ะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามแบบไม่ไว้หน้าผู้เป็นย่า เพราะรู้ว่านี่คือการจับคู่ในแบบฉบับมาดามมิเชล ที่ชอบหาหญิงสาวคนนั้นคนนี้มาแนะนำหลานชายอย่างเขาเสมอ ถ้าถูกใจเขาก็ควงด้วย นอนด้วย จากนั้นก็ทางใครทางมัน 

“ทำเป็นรู้ดีนะพ่อหลานชาย หนูวิคตอเรียเป็นหลานของเพื่อนย่า การศึกษาดี ดีกรีไม่เบา แถมยังเป็นนางแบบด้วยนะจ๊ะ” ได้ทีมาดาม  มิเชลก็อวยหญิงสาวที่เลือกมาครั้งนี้ยกใหญ่ วิคตอเรียนั้นได้แต่ยืนยิ้มเขิน แต่สายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าชายหนุ่มแม้แต่น้อย 

“นางแบบ” ลูคัสทวนในสิ่งที่เขาสนใจเป็นพิเศษ คนนี้น่าสนใจไม่เบา ชายหนุ่มยิ้มมุมปากออกมานิดหน่อยแลดูเจ้าเล่ห์แต่ก็น่ามอง 

“สวัสดีค่ะ” คำทักทายของวิคตอเรียที่เป็นภาษาไทยทำเอามาดามมิเชลขมวดคิ้ว เพราะไม่รู้หญิงสาวไปเรียนมาจากไหน คงอยากเอาอกเอาใจหลานชายเธอ แต่หารู้ไม่ว่าเธอนั้นไม่ชอบสักนิด

“พลาด” ลูคัสส่ายหน้าให้ วิคตอเรียงงมากกับอาการของชายหนุ่ม เพราะเหมือนเธอทำอะไรไม่ถูก ทั้งๆ ที่คำทักทายนี้เธออุตส่าห์ฝึกมาเป็นนานเพื่อพูดกับเขาโดยเฉพาะ

“พลาดอะไรคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม เพื่อความกระจ่าง

“ถ้าคุณจะเข้าทางย่าผม ไม่ควรเรียนรู้ความเป็นไทย” 

“ทำไมคะ ก็ในเมื่อคุณลูคัสอยู่เมืองไทย เรียนรู้ภาษาไทยไม่เห็นแปลก” วิคตอเรียมองไปยังมาดามมิเชล เพื่อขอคำตอบว่าเธอทำอะไรผิดตรงไหน 

“ถึงอยู่ แต่ใช่ว่าจะชอบ ใช่ไหมครับมาดามมิเชล” พูดจบลูคัสก็เดินผ่านคนทั้งคู่เข้าไปในบ้าน ชายหนุ่มเก็บความรู้สึกเก่งมาแต่ไหนแต่ไร เขาไม่ชอบผู้หญิงไทย ด้วยเพราะคำพูดของย่าที่เฝ้าพูดกรอกหูมาตลอดจนถึงตอนนี้ 

“ใช่ ฉันไม่ชอบคนไทย โดยเฉพาะผู้หญิงไทย” มาดามมิเชลเอ่ยบอก แต่ก็ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริงทั้งหมด 

“เอ๊ะ! ไม่ชอบแล้ว...” หญิงสาวผู้มาใหม่สับสน ไม่เข้าใจในหลายๆ เรื่อง 

“ถ้าเธออยากเป็นหลานสะใภ้ฉัน อย่าสนใจประเทศนี้แม้แต่น้อย เพราะฉันไม่ชอบ เข้าใจไหมจ๊ะ?” ยังไม่ทันที่สาวมั่นอย่างวิคตอเรียจะเอ่ยถามอะไรต่อ มาดามมิเชลก็เอ่ยค้านขึ้น ก่อนจะส่งยิ้มมาให้เพื่อสกัดคำถามทั้งปวง

“เอ่อ...ค่ะ” วิคตอเรียเอ่ยรับคำ หญิงสาวดูแปลกใจมาก ทำไมมาดามมิเชลถึงไม่ชอบคนไทยหรือทุกอย่างที่เป็นของคนไทย ทั้งที่มีบ้านอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ ไม่ชอบแล้วจะมาอยู่ทำไม เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ซึ่งก็ได้ข่าวมาเหมือนกันว่ามารดาของลูคัสเป็นหญิงชาวไทย แต่ทำไมถึงไม่ชอบคนและประเทศนี้ วิคตอเรียที่ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน 

แต่ตอนนี้เธอนั้นสนใจแต่ตัวลูคัสคนเดียว นอกนั้นไม่ได้อยู่ในสายตา ไม่คิดว่าการตัดสินใจมากับมาดามมิเชลครั้งนี้ เธอจะได้เจอพ่อหนุ่มในฝันเข้าให้ แค่สบตาสีน้ำตาลอ่อนของเขาเมื่อครู่ มันก็ทำให้เธอร้อนไปทั้งตัวก็ว่าได้ อยากให้เขาใช้สายตาแบบนั้นเล้าโลมยามเธอเปลือยเปล่าเสียจริง 

ก๊อก! ก๊อก!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลรักซาตานร้าย   บทที่ 68 ดูแล

    บทที่ 68ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้อง คว้าผ้าห่มของตัวเองขึ้นมาอุ้ม ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้องนอนนาตาเซียแล้วห่มผ้าห่มนวมให้เธออีกชั้น จากนั้นก็ไปนั่งข้างๆ เธอ หยิบยาอีกชุดที่น้ำอ้อยจัดมาให้ส่งเข้าปากตามด้วยน้ำ เพราะเขาไม่อยากติดหวัดจากยายจอมดื้อเหมือนกันลูคัสคอยหมั่นเปลี่ยนผ้าที่หน้าผากให้พร้อมทั้งเช็ดเนื้อเช็ดตัวจุดที่พอจะเช็ดได้ ไม่ละลาบละล้วงเข้าไปจุดใต้เสื้อผ้าแต่อย่างใด แม้ภายในห้องจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเหงื่อไหลเต็มตัว แต่ชายหนุ่มก็ไม่บ่นสักคำ เพราะไม่อยากเปิดแอร์ให้ตัวเองสบายแต่นาตาเซียแย่ ทั้งที่จะกลับไปห้องแล้วให้น้ำอ้อยมาดูแลต่อก็ได้ แต่ลูคัสกลับไม่ทำแบบนั้น“ผมคิดยังไงกับน้องสาวคุณกันแน่” ขณะมองหน้านาตาเซีย ลูคัสก็เอ่ยกับตัวเองก่อนจะนึกถึงนาเดียร์ พี่สาวของนาตาเซีย คนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะช่วยชีวิตผู้ชายอย่างเขา ครั้งแรกที่ได้พบนาตาเซีย เขาปรี่เข้าไปกอดและจูบเธอ เพราะคิดว่าคือนาเดียร์ แต่พอได้รู้จักตัวตนทั้งคู่แทบไม่เหมือนกันด้วยซ้ำ คนพี่นั้นห้าว แต่ภายในที่เขาสัมผัสกลับอ่อนหวานเรียบร้อย ส่วนคนน้อง ภายนอกดูเรียบร

  • กลรักซาตานร้าย   บทที่ 67 ประโยคสุดท้าย

    บทที่ 67“ให้ตาย...ไม่สบายจนได้สิ” ลูคัสบ่นกับตัวเอง ก่อนจะรั้งผ้าห่มนวมขึ้นห่มให้หญิงสาว ชายหนุ่มเดินมาที่ประตู ลากโต๊ะทำงานเล็กๆ ที่นาตาเซียเอามากั้นเขาเป็นแน่กลับไปวางที่เดิม เปิดประตูแล้วก้าวลงไปชั้นล่างก็เห็นน้ำอ้อยยืนมองอยู่“พยาบาลของป้าไม่สบาย”“ตายจริง คงติดหวัดจากป้าแน่ๆ เดี๋ยวป้าขอขึ้นไปดูนาตาเซียหน่อย” คนฟังยกมือทาบอก“ผมดูแลเอง ป้าช่วยหายากับทำข้าวต้มแล้วยกขึ้นไปให้ผมด้วยแล้วกัน” พูดจบลูคัสก็ก้าวยาวๆ เข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำแข็งในช่องฟรีซใส่ลงถ้วยแก้วใบใหญ่ จากนั้นก็เทน้ำเปล่าลงไปอีกครั้ง ท่าทางรีบร้อนแต่ก็คล่องแคล่ว“รีบหน่อยนะป้า” ก่อนจะกลับขึ้นไปชั้นบน ลูคัสยังหันมาย้ำกับน้ำอ้อยอีกครั้ง แล้วเดินกลับขึ้นไป“ค่ะ” น้ำอ้อยเอ่ยรับด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วปลีกตัวไปทำตามที่ลูคัสบอก สงสัยคราวนี้จะได้รู้ใจตัวเองเป็นแน่ว่าคิดยังไงกับนาตาเซีย หวังเหลือเกินว่าคนทั้งคู่จะเกิดมาเพื่อกันและกันเมื่อเข้ามาในห้องนอนของนาตาเซีย ลูคัสก็เดินเข้าไปใ

  • กลรักซาตานร้าย   บทที่ 66 อุณหภูมิปกติ

    บทที่ 66หลังจากเคลียร์งานที่ต่างเมืองเสร็จเรียบร้อย ลูคัสก็เลือกกลับเข้าบ้านก่อนในตอนเช้าตรู่ คิดว่าเที่ยงๆ ค่อยออกไปที่บริษัท เมื่อชายหนุ่มมาถึงบ้านก็เจอกับน้ำอ้อย อาการไม่สบายคงทุเลาลงมามากแล้วจึงออกมาเดินเหินได้แบบนี้ แต่ยังไงเขาก็อยากให้แม่บ้านพักผ่อนอีกหน่อย“ตื่นมาทำอะไรแต่เช้า”“ทำกับข้าวค่ะ” คนเป็นแม่บ้านหันมาตอบ ก่อนจะทำหน้าแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าลูคัสจะกลับมาเช้ามืดแบบนี้“แล้วนี่หายหรือยัง ฝืนไปเดี๋ยวก็ทรุดลงไปอีก”“ป้านอนมาตั้งสองสามวันแล้วนะคะ เบื่อจะแย่” น้ำอ้อยยิ้มให้ลูคัส เพราะอยู่ๆ เธอก็ไม่สบายซะได้ เรื่องการเจ็บป่วยนี่เดาไม่ถูกเลยจริงๆ“ผู้ช่วยล่ะ ยังไม่ลงมาอีกหรือไง?” ลูคัสมองเข้าไปในบ้าน เลยขึ้นไปข้างบนเพื่อหานาตาเซีย“ให้พักสักวัน อยู่ดูแลป้าแทบไม่ได้ขยับไปไหน”“ดีขนาดนั้นเชียว ผมนึกว่าจะอู้” ชายหนุ่มปรามาส แต่ก็รู้ว่านาตาเซียทำอะไรบ้าง เพราะเขาโทรศัพท์กลับมาที่บ้านออกจะบ่อย“น่ารักดี ที

  • กลรักซาตานร้าย   บทที่ 65 ไม่สบาย

    บทที่ 65อาการของน้ำอ้อยดีขึ้นตามลำดับหลังจากนอนซมมาสองสามวัน เพราะได้พยาบาลพิเศษอย่างนาตาเซียคอยดูแลไม่ห่าง ไข้เริ่มลดจนตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงได้แล้ว แต่นาตาเซียยังไม่ยอมให้ออกไปนั่งตากลมนอกห้องเพราะกลัวไข้กลับมาอีก ใบหน้าที่ซีดเซียวของน้ำอ้อยก็ดูมีเลือดไหลเวียนมากขึ้น ลูคัสเองก็โทรมาถามอาการน้ำอ้อยวันละสามสี่ครั้ง แต่แฝงกับการได้รู้ข่าวของนาตาเซียด้วยว่าเธอยังอยู่ที่บ้านเขา ไม่ได้หนีหายไปไหน “ขอบใจที่ดูแล” น้ำเสียงแหบๆ ของคนป่วยเอ่ยบอกนาตาเซีย ที่กำลังเป่าข้าวต้มในถ้วยเพื่อไล่ความร้อนให้เธอจนแก้มป่อง “ไม่เป็นไรค่ะ ป้าหายดีแบบนี้ค่อยหายห่วงหน่อย” นาตาเซียหันมายิ้มตอบ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเป่าข้าวต้มให้หายร้อนอีกหน่อย จากนั้นก็ใช้ช้อนตักป้อนให้น้ำอ้อย“ป้ากินเองได้” “ให้นาตาเซียป้อนน่ะดีแล้ว นะจ๊ะป้า” คำแทนตัวเองของนาตาเซียดูเปลี่ยนไป น้ำอ้อยพยักหน้าให้กับคำพูดนี้ ก่อนจะอ้าปากรับข้าวต้มกุ้งเข้าไปในปาก “ฝีมือทำกับข้าวอร่อยขึ้นมากแล้วนี่” แม้จะมีกลิ่นคาวกุ้งนิดหน่อยในข้าวต้มถ้วยนี้ แต่น้ำอ้อยก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะนาตาเซียทำกับข้าวได้ดี ดีมากกว่าเมื่อสองสามวันก่อนด้วยซ้ำ เด็กสาว

  • กลรักซาตานร้าย   บทที่ 64 ฉายเดี่ยว

    บทที่ 64 “ผมไม่ได้มามือเปล่า ตอนนี้สามารถเลี้ยงดูละออได้เป็นอย่างดี ถ้าผมพูดไม่จริงให้เอาชีวิตผมไปได้เลย”“คุณอดัม” ละออมองหน้าอดัม ทำไมต้องเอาชีวิตมาพูดเล่นแบบนี้ด้วย “ผมเชื่อว่าคนอย่างคุณจะดูแลละออได้” แมทธิวพยักหน้าให้ แค่เห็นแววตาของอดัมที่มองละออก็แทบไม่ต้องพูดอะไรแล้ว“ครับ...จะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะพาละออไปหาลูกชายของเราสองคน”“ลูกชาย” ดารียะห์งงเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้“เรามีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ตอนนี้อายุย่างเข้ายี่สิบเก้าปีแล้ว” อดัมเอ่ยบอกสองคนตรงหน้าให้รับรู้ เพราะเขาไม่ได้จะปิดบังอยู่แล้ว “แต่ฉันยังมีห่วงอยู่ที่นี่” ละออค้าน แม้จะอยากไปหาลูคัส แต่ห่วงของเธอก็คือนาตาเซีย “อะไร...ผมพอจะช่วยได้หรือเปล่า?” แขกของบ้านเอ่ยอาสา “เรื่องนาตาเซียไม่ต้องเป็นห่วงไปละออ ไม่นานเราก็จะได้ข่าวดี...เชื่อสิ” แมทธิวเอ่ยให้ละออคลายกังวลเรื่องนี้ เพราะรู้ว่าละออนั้นรักนาตาเซียไม่แพ้พ่อและแม่แท้ๆ อย่างพวกเขา “เกิดอะไรขึ้นครับ พอจะบอกผมได้ไหม เผื่อจะช่วยเหลือได้” คำพูดของอดัม ทำให้ดารียะห์ยิ้มออกมา เพราะรู้สึกขอบคุณที่คนเพิ่งจะรู้จักกัน แสดงออกถึงความห่วงใยต่อลูกสาวเธอมากมายขนาดนี้ “ลู

  • กลรักซาตานร้าย   บทที่ 63 ประชดประชัน

    บทที่ 63“ฉันก็อยากทำแบบนั้น แต่...แต่ฉันกลัว” ความอ่อนแอของละออถูกถ่ายทอดออกมาเป็นหยดน้ำตา ความอัดอั้นและหวาดกลัวเกิดขึ้นมาหลายปี ความคิดถึงโหยหาคนที่รัก อยากกลับไปใจแทบขาด แต่กลับไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกไป ขนาดไปถึงเมืองไทยกลับยืนนิ่งไม่ทำตามที่ใจอยากทำ เพราะกลัวคนที่รักจะเป็นอันตราย “ผมจะคอยปกป้องคุณเอง ให้ผมได้ทำแบบนั้น” อดัมเอ่ยให้คำมั่นสัญญา ครั้งนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาต้องทำให้ได้ เขาจะคอยปกป้องละออและลูคัสด้วยชีวิต จะไม่ยอมให้ใครมาพรากจากแม้คนคนนั้นจะเป็นแม่ของตนเองก็ตาม เพราะเวลากว่ายี่สิบแปดปีที่ผ่านมา มันนานเกินพอแล้ว“ขอบคุณนะคะ” ละออเอ่ยขอบคุณในอ้อมกอดของสามี แม้จะดีใจที่ได้พบอดัม แต่เธอก็ยังมีความกังวลอยู่ ถึงจะยิ้มได้แต่ใช่ว่าจะมีความสุขนัก “ที่นี่เป็นยังไงบ้าง ไปไงมาไงคุณถึงมาทำงานด้วย” หนุ่มใหญ่ผละร่างของภรรยาที่ตอนนี้อวบขึ้นจากเมื่อก่อน คงเป็นเพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ว่ายังไงละออก็ยังดูสวยในสายตาของเขาเสมอ อวบๆ มีน้ำมีนวลแบบนี้ กอดแล้วอุ่นดีออก “พอฉันออกจากโรงพยาบาล ก็กลับไปที่บ้านเกิดที่ต่างจังหวัด ได้พบญาติห่างๆ คนหนึ่งที่จะมาทำงานที่บรูไน ฉันกลัวว่ามาดา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status