หลงฉางเทียนใบหน้าเคร่งเครียด เอ่ยสีหน้าจริงจัง “ทูลหมู่โฮ่วฮองไทเฮา หากนางเหลวไหลเช่นนี้จริง กระหม่อมจะไม่ไว้นางเป็นคนแรกพ่ะย่ะค่ะ” หลงฉางเทียน
อาเสอแค่นเสียงหัวเราะ “ท่านแม่ทัพช่างคุยโม้เสียจริง ท่านเป็นขุนนางคนหนึ่ง จะไม่ไว้หมู่โฮ่วฮองไทเฮาองค์ปัจจุบันได้อย่างไร?”
หลงฉางเทียนมองอาเสอด้วยความโกรธ “เจ้าเป็นใคร? เจ้ามีสิทธิ์พูดที่นี่หรือ?”
จ่านเหยียนเอื้อมมือตบหลังมืออาเสอทีหนึ่งแล้วเอยกับหลงฉางเทียน “ท่านแม่ทัพ ทุกคำที่นางพูดล้วนเป็นตัวแทนของข้าได้”
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ที่อาเสอพูดมาก็คือสิ่งที่นางอยากจะพูด
ครั้นหลงฉางเทียนคิดได้ก็เดือดดาล แต่ติดที่สถานะของตัวเองจึงไม่กล้าระเบิดอารมณ์ ถลึงตาใส่อาเสอกับจ่านเหยียนทีหนึ่ง
ฮองเฮาลุกขึ้นยืน สาวเท้าเร็วข้างหน้า ปากก็ว่า “เจ้าเป็นใครกัน? คนอื่นสั่งสอนเจ้าไม่ได้ แต่ข้ายังสั่งสอนเจ้าไม่ได้หรือ? ถือว่ามีไทเฮาให้ท้ายก็ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา ที่นี่เจ้ามีสิทธิ์พูดหรือ?”
กล่าวจบก็สะบัดมือใส่หน้าอาเสอ ถ้อยคำของนางนี้ แค่ฟังก็รู้ว่าพูดให้จ่านเหยียนฟัง อาเสอเป็นเพียงแพะรับบาป ฮองเฮาแค้นหลงจ่านเหยียนมานานแล้ว ยามนี้จึงถามเอาความผิด แล้วนางจะไม่ระบาย