Home / วาย / คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ / ตอนที่4.เข้าใจคุณชายผิดไป

Share

ตอนที่4.เข้าใจคุณชายผิดไป

last update Last Updated: 2025-03-02 22:12:12

“มนุษย์ ตาข่ายกลคงเกิดปัญหาขึ้น จึงทำให้เขาติดตาข่ายได้ พวกเจ้าเดินทางล่วงหน้าไปก่อนเถิด แล้วพบกันที่เจียงหนาน”

“ขอรับ” เจ้าหน้าละอ่อนทั้งสามประสานมือคารวะนอบน้อม ก่อนมู่เฉินจะหันมาคารวะผู้ที่เขาเข้าใจว่าเป็นปีศาจ

“ข้ากับสหายต้องขอโทษด้วย ที่เข้าใจคุณชายผิดไป”

“ข้าด้วย”

“ข้าด้วย” เห็นมู่เฉินแสดงกิริยานอบน้อม ทั้งซานไป๋และจิวยี่ก็ต่างแสดงการคารวะตาม 

เจ้ามู่เฉินก็ดูสุภาพ จริงใจดีอยู่หรอก แต่เจ้าซานไป๋กับจิวยี่นี่สิ เพียงทำไปเพราะอยู่ต่อหน้าอาจารย์หรอก 

มองปราดเดียว อู๋เหริ่นชวนก็เห็นไปถึงใจของศิษย์เซียนทั้งคู่แล้ว

“ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือสาหรอก” อู๋เหริ่นชวนเอ่ยตามที่คิดจริงๆ ไม่แน่หรอก ที่เขาเดินมาติดตาข่ายดักปีศาจนี่ได้ อาจเพราะเขาเป็นบุตรประมุขพรรคมาร มีไอมรณะแผ่ออกมาจากตัวก็ได้ 

บอกตนเองแล้ว ประมุขน้อยหนุ่มก็นั่งลงตรงใต้ต้นไม้นั่นเอง รอกระทั่งบรรดาศิษย์ทั้งสามของบุรุษหนุ่มผู้นั้นจากไปแล้ว จึงเอ่ยถามเขาว่า

“ท่านรู้แล้วนี่ว่า ข้าเป็นมาร เหตุใดจึงไม่บอกศิษย์ของท่านไปล่ะ” 

“ที่เจ้าออกเดินทางมาตามลำพังเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่า ตนเองเป็นใครไม่ใช่หรือ” 

“ก็จริง” อู๋เหริ่นชวนพยักหน้าเห็นด้วย แสงแดดยามสาย สะท้อนเข้าตา พาให้ดวงตาทั้งคู่พร่าพราย แลเห็นบุรุษหนุ่มงามสง่าตรงหน้า เป็นใครอีกคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายบุรุษรูปงามผู้นี้ แต่ที่ต่างไปคือ ชายผู้นั้น สามารถเรียกกู่ฉินออกมาจากมือทั้งสองข้างได้ 

ไม่เพียงเท่านั้น เพียงแค่นิ้วมือเรียวกรีดลงบนเส้นสายทั้ง 7 กลับให้ท่วงทำนองเร่งเร้า เสียดลึกไปถึงขั้วหัวใจ จนประมุขน้อยหนุ่มสัมผัสได้ถึงความเจ็บร้าวในช่องอกข้างซ้าย จนต้องยกมือขึ้นกุมหน้าอกข้างนั้นเอาไว้ 

“เป็นอะไรไป” 

ยิ่งบุรุษหนุ่มผู้นั้น เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจือความห่วงใย   อู๋เหริ่นชวนกลับแลเห็นประกายความชิงชัง ฉายอยู่ในดวงตาดำสนิทคู่นั้น 

ประมุขน้อยหนุ่มไม่รอช้า หยัดกายลุกขึ้นได้ ก็ออกวิ่งจากที่ตรงนั้นมาอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งที่ห้วงคำนึงยังคงมีภาพบุรุษหนุ่มผู้นั้น ซัดพลังจากกู๋ฉินเข้ามา เกิดเป็นลำแสงสีฟ้าทั้ง 7 สาย พุ่งเข้ากลางหัวใจเขา 

“...มารร้ายเช่นเจ้า อย่าได้มีชีวิตอยู่เลย ตายซะเถอะ…” น้ำเสียงห้วนห้าวตวาดก้อง คล้ายดังอยู่ข้างหูนี่เอง ขณะสองเท้าก้าวเร่งรวดเร็ว ไม่สนใจเลยว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่จะถูกกิ่งไม้หนามระหว่างทาง เกี่ยวจนขาดวิ่น

แต่แล้ว เท้าทั้งสองก็พลันหยุดนิ่ง ตรึงอยู่กับที่ มิอาจก้าวไปข้างหน้าได้ดังใจ เพียงแค่ถูกบุรุษหนุ่มผู้นั้นร่ายคาถาใส่ 

“ปล่อยข้า” ยามนี้ คงมีเพียงปากเท่านั้น ที่ยังขยับได้ 

“เหตุใดต้องวิ่งหนีข้า ข้าไม่ได้คิดจะทำร้ายเจ้าสักหน่อย” 

“แต่ข้าเห็นกับตาว่า เจ้ากำลังจะทำร้ายข้านี่” เถียงข้างๆ คูๆ ออกไปแล้ว อู๋เหริ่นชวนก็ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เห็นเกิดขึ้นจริง หรือแค่ภาพลวงตา

“เจ้ากับข้า ไม่มีความแค้นต่อกัน เหตุใดข้าต้องทำร้ายเจ้าด้วยเล่า อีกอย่าง ข้าเองก็ไม่รู้แม้แต่ชื่อเจ้า เจ้าเองก็ไม่รู้จักข้า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำร้ายกัน”

“จริงด้วย” อู่เหริ่นชวนนึกคล้อยตาม จริงอย่างที่เขาพูดนั่นละ เขาคิดไปได้อย่างไรกันนะว่า ตนเองกำลังจะถูกเขาทำร้าย 

“เจ้าคงเป็น ประมุขน้อย อู๋เหริ่นชวนแห่งเคหาสน์พันดาวใช่หรือไม่”

อู่เหริ่นชวนพยักหน้ารับ ในเมื่อบุรุษหนุ่มผู้นี้ใช้พลังเวทย์อ่านความทรงจำของเขาไปแล้ว ก็คงรู้ทุกอย่างสิ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไรอีก 

“แล้วท่านล่ะ เป็นใคร”

“หลัวเซียน แห่งตำหนักฉางชุน เขาเซียนกู่”

“ที่แท้ก็พวกเซียนนี่เอง มิน่าถึงได้เที่ยววางตาข่ายดักปีศาจซะทั่วป่า” 

“ข้าต้องขออภัยแทนศิษย์ของข้าอีกครั้งด้วย พวกเขากำลังตามล่าปีศาจจงอางอยู่” 

“งั้นหรือ” อู๋เหริ่นชวนเสมองไปทางอื่น ไม่รู้ทำไมจึงรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าพวกเผ่าเซียนขึ้นมาครามครัน โดยเฉพาะคนวางท่างามสง่าเป็นหนักหนาตรงหน้า เห็นแล้ว ขวางหูขวางตาชะมัด 

“หากไม่มีธุระอะไรแล้ว ก็ปล่อยข้าได้แล้ว” 

หลัวเซียนพยักหน้ารับ วาดฝ่ามือในอากาศ ร่ายคาถาครู่เดียว ร่างกายอู๋เหริ่นชวนก็กลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

“ข้าลาล่ะ หวังว่า เราจะไม่ต้องพบกันอีก” ประมุขน้อยหนุ่มยิ้มยียวน หากยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้าออกไป ก็ต้องหยุดกึก เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวแหวกอากาศใกล้เข้ามา ตามมาด้วยชายชุดดำกลุ่มหนึ่ง สวมหมวกไหมพรมรูปหน้าหัวกะโหลกสีขาว เหินกายด้วยวิชาตัวเบาใกล้เข้ามา 

เพียงได้ระยะพอสมควร ชายชุดดำกลุ่มนั้นก็ชักกระบี่ออกจากฝัก กระบี่คมวับยามต้องแสงตะวัน พาให้อู๋เหริ่นชวนหวาดกลัวจนก้าวขาไม่ออกเสียอย่างนั้น 

“หนีไป!” หลัวเซียนออกคำสั่งเฉียบขาด หยิบพัดจากกระเป๋าเสื้อออกมาสะบัด ซัดออกไป พัดนั้นก็พุ่งไปในอากาศดุจอาวุธคมกริบ เข้าทำร้ายชายชุดดำกลุ่มนั้นล้มลง พร้อมกับเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด 

แต่แทนที่พวกเขาจะล่าถอย กลับลุกขึ้นมา พร้อมกับละไอพิษสีเขียวเจิดจ้า พุ่งออกมาจากส่วนที่ถูกพัดเวทย์ทำร้าย ทั้งลำตัว แขนทั้งสองข้าง

แม้อู๋เหริ่นชวนจะไม่มีวรยุทธ ไร้ซึ่งเคล็ดวิชาใดป้องกันตนเอง แต่ก็อ่านตำราทั้งหอคัมภีร์มาหมดแล้ว เพียงแค่เห็นก็นึกรู้ในทันทีว่า สิ่งที่เห็นคืออะไร

“มนุษย์พิษ! หนีเร็ว!” 

หลัวเซียนเองก็คงรู้เช่นกัน จึงเข้ามาโอบเอวประมุขน้อยหนุ่มไว้ แล้วพาเหินกายหนีมาด้วยกัน 

สองบุรุษเหินกายลัดเลาะมาตามแนวป่ารกครึ้ม จนแทบมองไม่เห็นแสงตะวันส่องผ่านใบไม้ลงมา ขณะที่กลุ่มมนุษย์พิษเหินกายตามมาอย่างไม่ลดละ

“พวกมันตามมาแล้ว” ประมุขน้อยหนุ่มหันมองไปเบื้องหลังด้วยความหวาดหวั่น 

ฉับพลันหลัวเซียนก็พาเขาพลิ้วกายลงกลางป่า มีโพรงถ้ำเล็กๆ ตั้งอยู่ไม่ไกล 

“เข้าไปหลบในนั้นก่อน ทางนี้ข้าจัดการเอง” 

อู๋เหริ่นชวนจึงต้องรักษาตัวรอดไว้ก่อน วิ่งเข้าไปในถ้ำ 

น่าแปลกที่พวกมนุษย์พิษกลับไม่ได้สนใจว่าเขาจะหนีไปไหนอีก ดูเหมือนเป้าหมายของพวกมันจะมีเพียงหลัวเซียนคนเดียวเท่านั้น 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่68 เคียงคู่ใต้หมู่ดาว (จบบริบูรณ์)

    “หยุดมือได้แล้ว เจ้าไม่เหน็ดเหนื่อยบ้างหรือ”หลัวเซียนไม่เอ่ยเปล่า แกล้งหลบรัศมีกระบี่ไม่พ้น พาให้คมกระบี่ถากชายเสื้อของเขาขาดเป็นทางยาวอู๋เหริ่นชวนเบิกตากว้าง แรกทีเดียวเขาเข้าใจว่าทำร้ายอีกฝ่ายเข้าแล้ว จึงยอมหหยุดมือในทันใด“หยุดเถอะ เจ้าทำชายเสื้อข้าขาดหมดแล้ว”“ยังสู้ไม่หนำใจเลย เจ้าก็ยอมแพ้เสียแล้ว ไม่สนุกเลย” อู๋เหริ่นชวนสอดกระบี่เก็บเข้าฝัก แล้วเดินมาประจันหน้ากับคนถูกทำชายเสื้อขาด“หายโมโหแล้วใช่หรือไม่ ข้าจะได้บอกเรื่องหนึ่งกับเจ้า”“อึม” อู๋เหริ่นชวนพยักหน้ารับ แล้วก็แทบไม่อยากเชื่อหูตนเองกับสิ่งที่ได้ยิน“ข้าสละตำแหน่งประมุขเผ่าเซียนแล้ว หลังจากประชุมผู้นำเซียนยุทธจากสำนักต่างๆ ทุกคนเห็นว่า ควรมีการเลือกสรรประมุขขึ้นมาใหม่ ข้าสนับสนุนให้เจ้าสำนักเจียงเหวิน ขึ้นเป็นผู้นำเผ่าเซียนคนต่อไป”“แล้วเจ้าล่ะ”“ส่วนข้า ก็จะออกท่องโลกกว้าง ดังที่ได้ปรารถนาเอาไว้แต่แรก จากนั้นก็จะกลับไปบำเพ็ญเซียนที่ตำหนักฉางชุน”“เจ้าจะถือสันโดษงั้นหรือ”ฟังเจตนารมณ์ของอีกฝ่ายแล้ว ประมุขน้อยหนุ่มก็ใจหาย เขาจะไปขัดขวางการบรรลุเซียนของหลัวเซียนได้อย่างไรกัน“ข้าเพียงอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย หลังเสร็จจากสอ

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่67 เคียงบ่าเคียงไหล่

    “เหตุใดจึงแค้นเล่า เขาจำเรื่องราวในภพก่อนได้อย่างนั้นหรือ” ผู้ฟังนิทานวัยสิบหกปีผู้หนึ่งเอ่ยถามขัดจังหวะขึ้น“ย่อมจำได้อยู่แล้ว ก็จอมมารอู๋เซียงอี๋ได้อธิษฐานต่อแม่น้ำวั่งชวน หอวั่งเซียง สะพานไน่เหอเอาไว้ ก่อนดื่มน้ำแกงยายเมิ่งไว้นี่นาว่า จะไม่ขอลืมเลือนหนี้แค้นที่ปรมาจารย์หรงอ้ายเสียนได้ก่อไว้ไปชั่วชีวิต”“เช่นนั้น เขาทำอย่างไร อย่าบอกนะว่า หาทางเอาชีวิตหลัวเซียนน่ะ” หนุ่มน้อยอีกคนถามขึ้นบ้าง“เจ้าหนุ่ม อย่าเพิ่งขัดจังหวะสิ เดิมทีประมุขน้อยอู๋เหริ่นชวนก็หมายเอาชีวิตหลัวเซียนอยู่หรอก ทว่าเหตุการณ์กลับตาลปัตร หลัวเซียนกลับเป็นคนช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ระหว่างที่ประมุขน้อยอู๋เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงปักบุปผาที่เจียงหนานขณะประมุขน้อยเดินหลงอยู่ในป่า ได้ถูกปีศาจงูจงอางจับตัวไปกักขังไว้ในถ้ำ หลัวเซียนตามไปช่วย ฆ่าปีศาจงูด้วยกู่ฉินพิฆาต ทั้งยังปกป้องประมุขน้อยอู๋ จนตนเองได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้แล้ว ประมุขน้อยยังจะทวงหนี้แค้นได้อีกเรอะ...”ฟังเรื่องราวจริงบ้างเท็จบ้าง ปนเปกันไปนั่นแล้ว อู๋เหริ่นชวนก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทียกกาสุราขึ้นดื่ม แล้วก็ต้องขัดใจนัก เมื่อพบว่าไม่มีสุราเหลืออยู่เลย

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่66 โปรดเล่า

    “ข้านำกระจกหมื่นลี้จากห้องใต้หอคัมภีร์ออกมาไว้ที่ห้องข้า รู้ว่าเจ้าถูกจับตัวมายังเขาเซียนกู่ จึงเร่งเดินทางมาที่นี่ ข้ารู้ว่าอาจช่วยอะไรเจ้าไม่ได้มาก แต่ก็มิอาจนิ่งดูดายได้”“ช่วยอะไรไม่ได้ที่ไหนกัน เจ้ามาได้ถูกเวลาพอดีเลยต่างหาก”“องค์ชาย” หลัวเซียนประสานมือคารวะนอบน้อม“โปรดเล่าให้ทุกท่าน ณ ที่นี้ฟังทีว่า ตอนข้าไปยังแคว้นไป่ลี่นั้น เป็นอย่างไรบ้าง” หลัวเซียนเอ่ยขึ้นบ้าง หลังจากเป็นฝ่ายเงียบงันมาครู่ใหญ่“ทุกท่าน ข้าคือองค์ชายหนิงจิ้ง รัชทายาทแห่งแคว้นไป่ลี่ ทั้งสองท่านนี้ เป็นสหายของข้า ตอนข้าออกไปล่าสัตว์นั้น บังเอิญได้ยินเสียงฉิน ท่วงทำนองไพเราะดังแว่วมา จึงตามเสียงฉินไป จนได้พบกับหลัวเซียนและอู๋เหริ่นชวน ดวงตาของเขาพิการทั้งสองข้าง แต่ก็มีฝีมือดีดฉินล้ำเลิศนัก ข้าจึงเชิญเขาไปเป็นแขกที่วังไป่ลี่ แม้ข้าจะมิได้เป็นเซียนยุทธเช่นทุกท่าน เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แต่ก็ถือสัจจะเป็นที่ตั้ง มิใช่เพียงกษัตริย์ที่ตรัสแล้วไม่คืนคำ แม้แต่รัชทายาทเช่นข้า ก็เช่นกัน”ฟังคำตรัสขององค์ชายแล้ว บรรดาเซียนยุทธก็ต่างประจักษ์ถึงความจริงว่า หลัวจุ้นซินอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจริงแท้แน่นอน“เมื

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่65 พยานความชั่วช้า

    “ประมุขอู๋ ท่านคงไม่ปกป้องตัวหายนะผู้นี้ จนไม่นึกถึงความสงบสุขของทั้งสองเผ่าหรอกนะ”“ตัวหายนะที่เจ้าอ้างถึง คือบุตรชายคนเดียวของข้า เหตุใดข้าจะปกป้องเขาไม่ได้เล่า” ประมุขอู๋ลี่หมิงประกาศกร้าว“ท่านเจ้าสำนักเกาคงยังไม่ทราบว่า ข้าได้ฝึกวิชาในคัมภีร์มหาเวทย์สำเร็จแล้ว ต่อให้ข้ากลายเป็นวิหคโลหิต ก็ยังสามารถควบคุมตนเองได้ ไม่ทำร้ายผู้อื่นอีก”“ลมปากของเจ้า ผู้ใดเชื่อก็โง่เต็มทีแล้ว” เจ้าสำนักเกาฉียังคงดื้อดึง ไม่ฟังเหตุผลอยู่นั่นเอง“เรื่องบาดหมางระหว่างสำนักของท่านกับข้า หากจะโทษ ก็ต้องโทษบรรดาศิษย์ของพวกท่าน ที่นินทาศิษย์พี่ของข้า ข้าจึงเล่นงานตอบด้วยพิษเห็ดหัวเราะ เรื่องเล็กๆ เพียงเท่านั้น ท่านยังอุตส่าห์เก็บมาใส่ใจ มองข้าด้วยอคติ จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นเรื่องของคนทั้งเผ่าเลยเรอะ แทนที่ท่านจะกล่าวโทษข้า ด้วยอคติส่วนตัวเช่นนี้ มิสู้รามือสักนิด แล้วใคร่ครวญให้ดีก่อนดีหรือไม่ขอรับ”“ไม่ต้องมาสั่งสอนข้า!” เจ้าสำนักเกาฉีตวาดลั่น ยกมือเป็นสัญญาณให้บรรดาศิษย์ของตนดาหน้าเข้าหาคนพรรคมารโลหิต ทว่าเจียงเหวินกลับมิอาจนิ่งดูดายได้ รีบร้องห้ามขึ้นเสียก่อน“ช้าก่อน!”“เจ้าสำนักเจียง ท่านเองก็เข้าข้างปร

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่64 คัมภีร์ที่ถูกคัดลอกใหม่

    เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ค่ายกลในเจดีย์ก็พลันหยุดทำงาน พร้อมๆ กับคนจากเผ่ามนุษย์คนสุดท้าย จบชีวิตลง ภายใต้คมกระบี่กรีดฟ้าเช่นกัน“เอาล่ะ ไม่มีผู้ใดรบกวนท่านแล้ว ซ้ำค่ายกลก็หยุดทำงานแล้ว เรามาคัดคัมภีร์กันเถอะ”หลัวจุ้นซินเสกกระดาษ พู่กัน และหมึกออกมาจากทั้งสองมือ ทั้งยังเสกโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้ขึ้นมาด้วยอู๋เหริ่นชวนยิ้มน้อยๆ หัวเราะเบาๆ ยามหย่อนกายลงบนเก้าอี้ ถือพู่กันไว้ในมือ จรดลงกับกระดาษนิ่งนึกอยู่ครู่ก็เขียนตัวอักษรลงไปเพียงอักษรตัวแรกปรากฏบนกระดาษ ปลายกระบี่กรีดฟ้าก็พุ่งมาพาดบนคอของประมุขน้อยหนุ่ม“ท่านจะทำอะไร”“ข้าต้องแน่ใจสิว่า เจ้าจะไม่แพร่งพรายเนื้อหาในคัมภีร์แก่ผู้อื่นอีก”“ท่านไม่ต้องห่วงหรอก หากข้าให้คัมภีร์แก่ท่านแล้ว ข้าจะฆ่าตัวตายเอง เก็บกระบี่ของท่านเสียก่อนเถิด หากข้าตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เขียนข้อความผิดขึ้นมาจะทำอย่างไร”นั่นละ หลัวจุ้นซินจึงต้องสอดกระบี่เก็็บ็บเข้าฝักประมุขน้อยหนุ่มจึงจรดพู่กันเขียนข้อความต่อไป บทแล้วบทเล่า ยื้อเวลาให้ถึงยามห้าย การคัดคัมภีร์จึงเสร็จสิ้นลง“เอาล่ะ ข้าคัดเสร็จแล้ว เชิญท่านฝึกวิชาในคัมภีร์บทนี้ได้เลย”หลัวจุ้นซินรับกระดาษมากมายม

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่63 สิ้นคำประกาศก้องนั้น

    “ที่ทุกท่านมาถึงเขาเซียนกู่แห่งนี้ คงเพราะเห็นข้ากลายร่างเป็นวิหคโลหิตในวันรับตำแหน่งของท่านประมุขหลัว หลายท่านคงมาเพราะคัมภีร์มหาเวทย์ในหัวข้า ข้าคิดใคร่ครวญมาตลอดทั้งคืนแล้ว ว่าควรจะให้คัมภีร์แก่ใครดี แล้วข้าก็คิดขึ้นมาได้ว่า ในฐานะที่ประมุขหลัวจุ้นซิน เป็นประมุขเผ่าเซียน เขาสมควรได้รับคัมภีร์มหาเวทย์นี้”สิ้นคำประกาศก้องนั้น เซียนยุทธทั้งหลายดูจะไม่ประหลาดใจสักเท่าไหร่ตรงกันข้ามกับคนเผ่ามนุษย์ที่ต่างมองหน้ากัน สนทนากันเบาๆ สีหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดแจ้ง“คัมภีร์มหาเวทย์เป็นของเผ่ามนุษย์ เจ้าจะให้คนเผ่าเซียนครอบครองได้อย่างไร” ชายวัยกลางคน หน้ากระดูกจากพรรคหวันซา ต่อว่าขึ้น“นั่นสิ เจ้าควรจะคืนคัมภีร์มหาเวทย์ให้เผ่ามนุษย์ แล้วฆ่าตัวตายไปซะ คัมภีร์จะได้ไม่ตกถึงมือผู้ใดอีก” ชายร่างกำยำ ดวงตาสามเหลี่ยมจากพรรคเหม่ยลี่ต่อว่าขึ้นบ้าง“ใช่ๆ” คนของแคว้นไป่ลี่เองก็เห็นด้วยกับคนเผ่าเดียวกันเช่นกัน“ข้าตัดสินใจแล้ว หากข้าไม่มอบคัมภีร์ให้ประมุขหลัว ท่านว่าจะเป็นเช่นไร ข้าเป็นคนเผ่ามาร ย่อมไม่อยากให้เกิดสงครามขึ้นระหว่างเผ่ามารกับเผ่าเซียนอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน แต่คัมภีร์

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status