/ วาย / คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ / ตอนที่5. หนีตายไปกับเขา

공유

ตอนที่5. หนีตายไปกับเขา

last update 최신 업데이트: 2025-03-02 22:12:47

“เฮ้อ… ข้าไม่น่าติดร่างแหมากับเขาเลย ซวยชะมัด” ประมุขน้อยหนุ่มบ่น มองผ่านปากถ้ำออกไป แลเห็นหลัวเซียนผู้นั้น เรียกกู่ฉินออกมา ดีดบรรเลงเพียงไม่กี่ช่องเสียง ก่อนจะซัดพลังเวทย์จากสายฉินทั้ง 7 เข้าใส่ 

เพียงลำแสงพลังเวทย์จากสายฉินพุ่งเข้าใส่ มนุษย์พิษกลุ่มนั้นก็สลายกลายเป็นเถ้าทุลีไปในพริบตา 

แต่แล้ว อู๋เหริ่นชวนก็ต้องละความสนใจจากภาพตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ยินเสียงขู่ฟ่อ ดังมาจากเบื้องหลัง 

หันไปมองตามเสียง จึงแลเห็นจงอางตัวใหญ่ ศีรษะกลมมน เกล็ดบริเวณส่วนหัวใหญ่ มีเขี้ยว 2 เขี้ยวที่ขากรรไกรด้านบน พร้อมจะฉกกัดปล่อยพิษเข้าใส่เหยื่อ หน้าตาดุดัน จมูกทู่ บริเวณขอบตาบนมีเกล็ดยื่นงองุ้มออกมา มองลึกเข้าไปแลเห็นม่านตากลม ลำคอมีขนาดสมส่วน ลำตัวขนาดใหญ่เรียวยาว ขนาดเท่าลำตาล กำลังเคลื่อนใกล้เข้ามา ก่อนชูคอแผ่แม่เบี้ย ลิ้นสองแฉกแลบแผลบ ชวนให้ขยะแขยง จนต้องถอยกรูดออกมาทางปากถ้ำ แต่ก็ยังช้ากว่างูจงอางยักษ์ตัวนั้นอยู่ดี มันอ้าปากกว้าง แลเห็นเขี้ยวทั้งสองตรงขากรรไกรบนขาววับ เสียงขู่คำรามนั้น ไม่ต่างอะไรจากปีศาจร้าย 

ประมุขน้อยหนุ่มสัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อในช่องอกโลดแรง จมูกสัมผัสกลิ่นฉุนรุนแรงจากละไอพิษ ดวงตาเบิกกว้าง เห็นแล้วว่าศีรษะใหญ่โตของมันกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามา และคงได้ฉกเข้ากลางลำตัวเขาแล้ว หากหลัวเซียนไม่ซัดพลังเวทย์จากกู๋ฉินเข้าใส่

เพียงลำแสงฉิน 7 สาย พุ่งเข้าใส่ ร่างของมันก็กระเด็นไปกระแทกกับผนังถ้ำ

มันคำรามก้อง ขณะที่อู๋เหริ่นชวนวิ่งมาหลบด้านหลังหลัวเซียน มองเขาดีดบรรเลงท่วงทำนองกู่ฉินเร่งเร้า ซัดพลังเวทย์เข้าซ้ำ เรียกโลหิตแดงฉาดฉาน รินจากร่างจงอางตัวนั้น 

เพียงเห็นหยาดโลหิต รินจากลำตัวยาวของมัน ผสานกับกลิ่นคาวคลุ้งอวลไปทั่วบริเวณ อู๋เหริ่นชวนก็รู้สึกวิงเวียน ดังเช่นทุกครั้งที่เห็นเลือด ไม่ว่าจะเลือดคน หรืออะไร ก็ทำให้มือไม้สั่น ความพลุ่งพล่านก่อตัวขึ้นในจิตได้ทั้งนั้น 

อู่เหริ่นชวนสูดปากเบาๆ ส่ายหน้าช้าๆ เรียกสติตนเอง รู้ดีว่า สิงที่เกิดขึ้นมิใช่ความรู้สึกของคนกลัวเลือดธรรมดา แต่มันคือจิตมารภายในที่พลุ่งพล่านยากจะควบคุม ไม่ต่างอะไรจากสัตว์ร้ายกระหายเลือด ดวงตาดำสนิทเมื่อแรก แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเจิดจ้า ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นดำสนิทดังเดิมนั้น พาให้ประมุขน้อยหนุ่มต้องเบือนหน้าไปทางอื่น สับฝีเท้าเร็วๆ ออกจากที่ตรงนั้นมา เพื่อมิให้ตนเองต้องเห็น จมูกต้องสัมผัสกับกลิ่นคาวเลือดนั่นอีก 

อู๋เหริ่นชวนไม่รู้ตัวเลยว่า ตนเองวิ่งมาไกลเท่าไหร่แล้ว พร้อมกันนั้น เหตุการณ์หนึ่งก็ผ่านเข้ามาฉายชัดในห้วงคำนึง…

มันเป็นภาพของตัวเขาเอง กับจิ้งจอกเซียนหนุ่มผู้หนึ่ง จำแลงกายเป็นมนุษย์ หน้าตาละม้ายคล้ายกับหลัวเซียนผู้นั้น กำลังต่อสู้กับปีศาจงู ในร่างจำแลงของมนุษย์ผู้หญิง 

หน้าตานางดูหมดจดงดงาม ราวเทพธิดาจำแลง แต่งกายด้วยอาภรณ์สีชมพูอ่อน เพียงแรกเห็นก็ชวนให้บุรุษต่างหลงไหลแล้ว ถ้าหากว่านางจะไม่สร้างความเดือดร้อน ด้วยการจับบุรุษหนุ่มไปขังไว้ในถ้ำ บนเขาสูง ร่วมเสพสังวาส และกลืนกินพลังชีวิตของบุรุษหนุ่มพวกนั้นไป 

หนึ่งบุรุษมารกับจิ้งจอกเซียนหนุ่มในห้วงคำนึงผู้เดินทางไปยังหมู่บ้านกลางป่าเขา จึงต้องขึ้นไปปราบปีศาจงูนางนั้น 

บุรุษสวมอาภรณ์ดำ พลิ้วกายเข้ามาในถ้ำ ชักกระบี่หยกโลหิตเข้าต่อกรกับพลังเวทย์ปีศาจของนางงูร้าย 

ขณะที่จิ้งจอกเซียนสวมอาภรณ์ขาว เรียกกู่ฉิน 7 สายออกมา บรรเลง เร่งทำนองศึก แล้วซัดพลังกู่ฉินเข้าใส่นางเช่นกัน

สองพลังเซียนมาร ประสานรุกรุนแรง ที่สุดแล้วกระบี่หยกโลหิตก็พุ่งเข้าแทงทะลุกลางหัวใจนาง

ขณะที่พลังกู่ฉินก็ทำให้ร่างของนาง สลายกลายเป็นเถ้าธุลีเช่นกัน 

ทว่าหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จิ้งจอกเซียนอาภรณ์ขาวกลับน้อมรับความดีความชอบนั้นแต่เพียงผู้เดียว 

เขาประสานมือขึ้นคารวะนอบน้อม ต่อหน้าชาวบ้านในหมู่บ้านกลางป่าเขานั้น ดวงตาทั้งคู่นิ่งสนิท ยามขยับริมฝีปาก บอกกับชาวบ้านออกไปว่า เขาเองเป็นคนปราบปีศาจงูนางนั้นแต่เพียงผู้เดียว 

“ขอบคุณท่านเซียนมากนะขอรับ ที่ช่วยปกป้องหมู่บ้านของพวกเราให้พ้นภัยในครั้งนี้” ผู้นำหมู่บ้านสูงวัย เรือนผมแซมหงอก ใบหน้าสี่เหลี่ยม ประสานมือแสดงการคารวะจากใจ

“ไม่ทราบว่าท่านเซียนมีนามว่าอะไรหรือขอรับ ข้าใคร่ขอทราบชื่อของท่านผู้มีพระคุณด้วย”

“ข้า หรงอ้ายเสียน”

หรงอ้ายเสียน...ปรมาจารย์จิ้งจอกเซียนผู้นั้นหรือ? หากไม่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ด้วยตาตนเอง คนรุ่นหลังเช่นอู๋เหริ่นชวน คงไม่รู้ว่าภายใต้รูปลักษณ์สง่างามเบื้องนอก เขาจะซุกซ่อนความเห็นแก่ตัวเอาไว้อย่างแนบเนียน

ทั้งที่บุรุษอาภรณ์ดำผู้นั้น สู้อุตส่าห์ร่วมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไปด้วยกัน ทว่ายามมีความดีความชอบ เขากลับรับความดีความชอบนั้นแต่เพียงผู้เดียว 

ขนาดปรมาจารย์ผู้ได้รับความเคารพนับถือจากคนเผ่าเซียน ยังเห็นแก่ตัว มีหรือพวกคนเผ่าเซียนชั้นสูงอย่างลูกหลานตระกูลหลัวจะไม่มีนิสัยดุจเดียวกัน 

เพียงแค่คิด ความชิงชังก็ก่อตัวขึ้นในอก 

เหตุใดกัน เขาจึงมองเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือบุรุษอาภรณ์ดำจะต้องการให้เขาชิงชังคนเผ่าเซียน โดยเฉพาะลูกหลานตระกูลหลัว ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ 

อู๋เหริ่นชวนครุ่นคิด หากยังไม่ทันจะได้คำตอบให้กับตนเอง ก็รู้สึกปวดหนึบที่ขมับทั้งสองข้าง 

พร้อมกันนั้น เสียงทุ้มห้าวของใครคนหนึ่งก็ดังก้องอยู่ในโสดประสาท

“...เซียงอี๋ เจ้าจงเกลียดชังข้าเถิด ขอให้ความเกลียดชัง จงฝังลึกลงไปในแก่นวิญญาณของเจ้า อย่าได้เห็นแก่มิตรภาพระหว่างเราอีกเลย…”

จากนั้น สติสัมปชัญญะของเขาก็ดับวูบไป พร้อมกับร่างสูงล้มลง และคงกองกับพื้นแล้ว หากหลัวเซียนไม่ปราดเข้ามารับร่างของเขาเอาไว้ได้เสียก่อน

“ประมุขน้อยอู๋ เจ้าฟื้นสิ” ดวงตาคมประดุจเหยี่ยวฉายความกังวลแวบหนึ่ง ยามคลำหาชีพจรตรงข้อมือ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเพียงแค่หมดสติ มิได้มีสิ่งใดผิดปกติ จึงแบกร่างของเขา เหินกายออกมาจากป่าแห่งนั้น 

ครึ่งชั่วยามต่อมา จึงมาหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จัดการวางอู่เหริ่นชวนลง แล้วเดินมายังลำธารใกล้ๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา ชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่68 เคียงคู่ใต้หมู่ดาว (จบบริบูรณ์)

    “หยุดมือได้แล้ว เจ้าไม่เหน็ดเหนื่อยบ้างหรือ”หลัวเซียนไม่เอ่ยเปล่า แกล้งหลบรัศมีกระบี่ไม่พ้น พาให้คมกระบี่ถากชายเสื้อของเขาขาดเป็นทางยาวอู๋เหริ่นชวนเบิกตากว้าง แรกทีเดียวเขาเข้าใจว่าทำร้ายอีกฝ่ายเข้าแล้ว จึงยอมหหยุดมือในทันใด“หยุดเถอะ เจ้าทำชายเสื้อข้าขาดหมดแล้ว”“ยังสู้ไม่หนำใจเลย เจ้าก็ยอมแพ้เสียแล้ว ไม่สนุกเลย” อู๋เหริ่นชวนสอดกระบี่เก็บเข้าฝัก แล้วเดินมาประจันหน้ากับคนถูกทำชายเสื้อขาด“หายโมโหแล้วใช่หรือไม่ ข้าจะได้บอกเรื่องหนึ่งกับเจ้า”“อึม” อู๋เหริ่นชวนพยักหน้ารับ แล้วก็แทบไม่อยากเชื่อหูตนเองกับสิ่งที่ได้ยิน“ข้าสละตำแหน่งประมุขเผ่าเซียนแล้ว หลังจากประชุมผู้นำเซียนยุทธจากสำนักต่างๆ ทุกคนเห็นว่า ควรมีการเลือกสรรประมุขขึ้นมาใหม่ ข้าสนับสนุนให้เจ้าสำนักเจียงเหวิน ขึ้นเป็นผู้นำเผ่าเซียนคนต่อไป”“แล้วเจ้าล่ะ”“ส่วนข้า ก็จะออกท่องโลกกว้าง ดังที่ได้ปรารถนาเอาไว้แต่แรก จากนั้นก็จะกลับไปบำเพ็ญเซียนที่ตำหนักฉางชุน”“เจ้าจะถือสันโดษงั้นหรือ”ฟังเจตนารมณ์ของอีกฝ่ายแล้ว ประมุขน้อยหนุ่มก็ใจหาย เขาจะไปขัดขวางการบรรลุเซียนของหลัวเซียนได้อย่างไรกัน“ข้าเพียงอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย หลังเสร็จจากสอ

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่67 เคียงบ่าเคียงไหล่

    “เหตุใดจึงแค้นเล่า เขาจำเรื่องราวในภพก่อนได้อย่างนั้นหรือ” ผู้ฟังนิทานวัยสิบหกปีผู้หนึ่งเอ่ยถามขัดจังหวะขึ้น“ย่อมจำได้อยู่แล้ว ก็จอมมารอู๋เซียงอี๋ได้อธิษฐานต่อแม่น้ำวั่งชวน หอวั่งเซียง สะพานไน่เหอเอาไว้ ก่อนดื่มน้ำแกงยายเมิ่งไว้นี่นาว่า จะไม่ขอลืมเลือนหนี้แค้นที่ปรมาจารย์หรงอ้ายเสียนได้ก่อไว้ไปชั่วชีวิต”“เช่นนั้น เขาทำอย่างไร อย่าบอกนะว่า หาทางเอาชีวิตหลัวเซียนน่ะ” หนุ่มน้อยอีกคนถามขึ้นบ้าง“เจ้าหนุ่ม อย่าเพิ่งขัดจังหวะสิ เดิมทีประมุขน้อยอู๋เหริ่นชวนก็หมายเอาชีวิตหลัวเซียนอยู่หรอก ทว่าเหตุการณ์กลับตาลปัตร หลัวเซียนกลับเป็นคนช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ระหว่างที่ประมุขน้อยอู๋เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงปักบุปผาที่เจียงหนานขณะประมุขน้อยเดินหลงอยู่ในป่า ได้ถูกปีศาจงูจงอางจับตัวไปกักขังไว้ในถ้ำ หลัวเซียนตามไปช่วย ฆ่าปีศาจงูด้วยกู่ฉินพิฆาต ทั้งยังปกป้องประมุขน้อยอู๋ จนตนเองได้รับบาดเจ็บ เช่นนี้แล้ว ประมุขน้อยยังจะทวงหนี้แค้นได้อีกเรอะ...”ฟังเรื่องราวจริงบ้างเท็จบ้าง ปนเปกันไปนั่นแล้ว อู๋เหริ่นชวนก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทียกกาสุราขึ้นดื่ม แล้วก็ต้องขัดใจนัก เมื่อพบว่าไม่มีสุราเหลืออยู่เลย

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่66 โปรดเล่า

    “ข้านำกระจกหมื่นลี้จากห้องใต้หอคัมภีร์ออกมาไว้ที่ห้องข้า รู้ว่าเจ้าถูกจับตัวมายังเขาเซียนกู่ จึงเร่งเดินทางมาที่นี่ ข้ารู้ว่าอาจช่วยอะไรเจ้าไม่ได้มาก แต่ก็มิอาจนิ่งดูดายได้”“ช่วยอะไรไม่ได้ที่ไหนกัน เจ้ามาได้ถูกเวลาพอดีเลยต่างหาก”“องค์ชาย” หลัวเซียนประสานมือคารวะนอบน้อม“โปรดเล่าให้ทุกท่าน ณ ที่นี้ฟังทีว่า ตอนข้าไปยังแคว้นไป่ลี่นั้น เป็นอย่างไรบ้าง” หลัวเซียนเอ่ยขึ้นบ้าง หลังจากเป็นฝ่ายเงียบงันมาครู่ใหญ่“ทุกท่าน ข้าคือองค์ชายหนิงจิ้ง รัชทายาทแห่งแคว้นไป่ลี่ ทั้งสองท่านนี้ เป็นสหายของข้า ตอนข้าออกไปล่าสัตว์นั้น บังเอิญได้ยินเสียงฉิน ท่วงทำนองไพเราะดังแว่วมา จึงตามเสียงฉินไป จนได้พบกับหลัวเซียนและอู๋เหริ่นชวน ดวงตาของเขาพิการทั้งสองข้าง แต่ก็มีฝีมือดีดฉินล้ำเลิศนัก ข้าจึงเชิญเขาไปเป็นแขกที่วังไป่ลี่ แม้ข้าจะมิได้เป็นเซียนยุทธเช่นทุกท่าน เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แต่ก็ถือสัจจะเป็นที่ตั้ง มิใช่เพียงกษัตริย์ที่ตรัสแล้วไม่คืนคำ แม้แต่รัชทายาทเช่นข้า ก็เช่นกัน”ฟังคำตรัสขององค์ชายแล้ว บรรดาเซียนยุทธก็ต่างประจักษ์ถึงความจริงว่า หลัวจุ้นซินอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจริงแท้แน่นอน“เมื

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่65 พยานความชั่วช้า

    “ประมุขอู๋ ท่านคงไม่ปกป้องตัวหายนะผู้นี้ จนไม่นึกถึงความสงบสุขของทั้งสองเผ่าหรอกนะ”“ตัวหายนะที่เจ้าอ้างถึง คือบุตรชายคนเดียวของข้า เหตุใดข้าจะปกป้องเขาไม่ได้เล่า” ประมุขอู๋ลี่หมิงประกาศกร้าว“ท่านเจ้าสำนักเกาคงยังไม่ทราบว่า ข้าได้ฝึกวิชาในคัมภีร์มหาเวทย์สำเร็จแล้ว ต่อให้ข้ากลายเป็นวิหคโลหิต ก็ยังสามารถควบคุมตนเองได้ ไม่ทำร้ายผู้อื่นอีก”“ลมปากของเจ้า ผู้ใดเชื่อก็โง่เต็มทีแล้ว” เจ้าสำนักเกาฉียังคงดื้อดึง ไม่ฟังเหตุผลอยู่นั่นเอง“เรื่องบาดหมางระหว่างสำนักของท่านกับข้า หากจะโทษ ก็ต้องโทษบรรดาศิษย์ของพวกท่าน ที่นินทาศิษย์พี่ของข้า ข้าจึงเล่นงานตอบด้วยพิษเห็ดหัวเราะ เรื่องเล็กๆ เพียงเท่านั้น ท่านยังอุตส่าห์เก็บมาใส่ใจ มองข้าด้วยอคติ จนลุกลามใหญ่โตกลายเป็นเรื่องของคนทั้งเผ่าเลยเรอะ แทนที่ท่านจะกล่าวโทษข้า ด้วยอคติส่วนตัวเช่นนี้ มิสู้รามือสักนิด แล้วใคร่ครวญให้ดีก่อนดีหรือไม่ขอรับ”“ไม่ต้องมาสั่งสอนข้า!” เจ้าสำนักเกาฉีตวาดลั่น ยกมือเป็นสัญญาณให้บรรดาศิษย์ของตนดาหน้าเข้าหาคนพรรคมารโลหิต ทว่าเจียงเหวินกลับมิอาจนิ่งดูดายได้ รีบร้องห้ามขึ้นเสียก่อน“ช้าก่อน!”“เจ้าสำนักเจียง ท่านเองก็เข้าข้างปร

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่64 คัมภีร์ที่ถูกคัดลอกใหม่

    เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ค่ายกลในเจดีย์ก็พลันหยุดทำงาน พร้อมๆ กับคนจากเผ่ามนุษย์คนสุดท้าย จบชีวิตลง ภายใต้คมกระบี่กรีดฟ้าเช่นกัน“เอาล่ะ ไม่มีผู้ใดรบกวนท่านแล้ว ซ้ำค่ายกลก็หยุดทำงานแล้ว เรามาคัดคัมภีร์กันเถอะ”หลัวจุ้นซินเสกกระดาษ พู่กัน และหมึกออกมาจากทั้งสองมือ ทั้งยังเสกโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเก้าอี้ขึ้นมาด้วยอู๋เหริ่นชวนยิ้มน้อยๆ หัวเราะเบาๆ ยามหย่อนกายลงบนเก้าอี้ ถือพู่กันไว้ในมือ จรดลงกับกระดาษนิ่งนึกอยู่ครู่ก็เขียนตัวอักษรลงไปเพียงอักษรตัวแรกปรากฏบนกระดาษ ปลายกระบี่กรีดฟ้าก็พุ่งมาพาดบนคอของประมุขน้อยหนุ่ม“ท่านจะทำอะไร”“ข้าต้องแน่ใจสิว่า เจ้าจะไม่แพร่งพรายเนื้อหาในคัมภีร์แก่ผู้อื่นอีก”“ท่านไม่ต้องห่วงหรอก หากข้าให้คัมภีร์แก่ท่านแล้ว ข้าจะฆ่าตัวตายเอง เก็บกระบี่ของท่านเสียก่อนเถิด หากข้าตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เขียนข้อความผิดขึ้นมาจะทำอย่างไร”นั่นละ หลัวจุ้นซินจึงต้องสอดกระบี่เก็็บ็บเข้าฝักประมุขน้อยหนุ่มจึงจรดพู่กันเขียนข้อความต่อไป บทแล้วบทเล่า ยื้อเวลาให้ถึงยามห้าย การคัดคัมภีร์จึงเสร็จสิ้นลง“เอาล่ะ ข้าคัดเสร็จแล้ว เชิญท่านฝึกวิชาในคัมภีร์บทนี้ได้เลย”หลัวจุ้นซินรับกระดาษมากมายม

  • คนของข้าคือจอมมารไร้ใจ   ตอนที่63 สิ้นคำประกาศก้องนั้น

    “ที่ทุกท่านมาถึงเขาเซียนกู่แห่งนี้ คงเพราะเห็นข้ากลายร่างเป็นวิหคโลหิตในวันรับตำแหน่งของท่านประมุขหลัว หลายท่านคงมาเพราะคัมภีร์มหาเวทย์ในหัวข้า ข้าคิดใคร่ครวญมาตลอดทั้งคืนแล้ว ว่าควรจะให้คัมภีร์แก่ใครดี แล้วข้าก็คิดขึ้นมาได้ว่า ในฐานะที่ประมุขหลัวจุ้นซิน เป็นประมุขเผ่าเซียน เขาสมควรได้รับคัมภีร์มหาเวทย์นี้”สิ้นคำประกาศก้องนั้น เซียนยุทธทั้งหลายดูจะไม่ประหลาดใจสักเท่าไหร่ตรงกันข้ามกับคนเผ่ามนุษย์ที่ต่างมองหน้ากัน สนทนากันเบาๆ สีหน้าและแววตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดแจ้ง“คัมภีร์มหาเวทย์เป็นของเผ่ามนุษย์ เจ้าจะให้คนเผ่าเซียนครอบครองได้อย่างไร” ชายวัยกลางคน หน้ากระดูกจากพรรคหวันซา ต่อว่าขึ้น“นั่นสิ เจ้าควรจะคืนคัมภีร์มหาเวทย์ให้เผ่ามนุษย์ แล้วฆ่าตัวตายไปซะ คัมภีร์จะได้ไม่ตกถึงมือผู้ใดอีก” ชายร่างกำยำ ดวงตาสามเหลี่ยมจากพรรคเหม่ยลี่ต่อว่าขึ้นบ้าง“ใช่ๆ” คนของแคว้นไป่ลี่เองก็เห็นด้วยกับคนเผ่าเดียวกันเช่นกัน“ข้าตัดสินใจแล้ว หากข้าไม่มอบคัมภีร์ให้ประมุขหลัว ท่านว่าจะเป็นเช่นไร ข้าเป็นคนเผ่ามาร ย่อมไม่อยากให้เกิดสงครามขึ้นระหว่างเผ่ามารกับเผ่าเซียนอีกเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน แต่คัมภีร์

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status