Share

Chapter 10 : อยาก...จูบ

last update Last Updated: 2025-03-01 14:49:34

เดอะชายน์ แกรนด์ โอเรียนเต็ลเป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่เรียกได้ว่าหรูเกินกว่าที่นายตำรวจเงินเดือนน้อยอย่างรังสิมันตุ์จะกล้าเหยียบย่างเข้ามาก็ว่าได้ ที่นี่หรูยิ่งกว่าโรงแรมณิวาลัยที่เป็นต้นทางของการเดินทางซะอีก ทันทีที่เข้ามาภายในโถงทางเดินของโรงแรมชายหนุ่มก็ต้องพิจารณาแล้วพิจารณาอีก เป็นคนระดับไหนกันนะ ถึงได้คิดจะพักในโรงแรมหรูระดับไฮโซแบบนี้

ส่งไว้แค่นี้ดีมั้ยเนี่ย ที่นี่มันช่างไม่เข้ากับเขาเอาซะเลย...

แต่ถ้าปล่อยไว้แล้วมีใครมาพาไปทำเรื่องไม่ดีล่ะ...

แบบนั้นไม่ดีแน่...

ขณะที่กำลังคิดไม่ตกคนที่ชายหนุ่มเป็นกังวลถึงก็ลืมตาขึ้นมามองทั้งที่ยังไม่ส่างดีและพึมพำถาม “งืม...ที่หนายเนี่ย”

“เดอะชายน์ แกรนด์ โอเรียนเต็ลไง”

“เหรอ...งืม ขี่หลังหน่อย” คนเมาตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะพยายามปีนป่ายขึ้นหลังอีกฝ่าย รังสิมันตุ์ร้องเสียงหลงแต่สุดท้ายก็ยอมให้สาวเจ้าขี่หลังและเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างเสียมิได้

ก็เล่นล็อคไว้แบบนี้จะทิ้งไว้ก็คงไม่ได้

เอาวะ กระเป๋าฉีกก็ต้องยอมแล้วล่ะ

“ปายที่ลิฟต์ ทางน้าน” คนที่เริ่มส่างบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่ถึงกับประคองสติได้ดีพึมพำก่อนจะชี้ไปที่ลิฟต์อย่างคนรู้จักมักคุ้นกับสถานที่เป็นอย่างดี

สิ่งที่ชายหนุ่มรู้คือที่นี่คือโรงแรมหรูราคาระดับไฮโซ แต่สิ่งที่ไม่รู้ก็คือคนที่ขี่หลังอยู่ก็คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของโรงแรมแห่งนี้ที่มักจะใช้ในการถ่ายละครและจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวละครของบริษัทที่ร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ช่องดังที่อยู่ในย่านเดียวกัน ที่นี่ศศิรินทร์มีห้องสำหรับพักอยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องเปิดห้องให้เสียเวลา

ทั้งที่ไม่รู้อะไรแต่ชายหนุ่มก็ทำตามอย่างว่าง่ายเพราะคนเมาไม่เพียงแค่ชี้ไปที่ลิฟต์ยังคงดึงคอเขาให้หันไปทางนั้นแทนที่จะตรงไปยังเคาน์เตอร์ ขืนไม่ไปตามสาวเจ้าบอกเห็นทีได้ตายเพราะหายใจไม่ออก

เข้ามาภายในลิฟต์ไม่ทันจะสอบถามใด ๆ หญิงสาวก็กดเลือกชั้นซะแล้วและก็ดิ้นลงจากหลังมาคุ้ย เอ้ย ค้นหาของในกระเป๋าโดยที่เขาได้แต่มองด้วยความไม่เข้าใจ

จะบอกว่ามีห้องอยู่แล้วอย่างนั้นหรือ?

และแล้วเขาก็ได้คำตอบเมื่อคีย์การ์ดแผ่นสีทองบ่งบอกระดับวีไอพีถูกหยิบขึ้นมาด้วยใบหน้าภาคภูมิใจเป็นที่สุด

“ในที่สุดก็เจอ ภูมิจายนายตัวเองจรีง ๆ”

ได้เห็นคนเมายิ้มภูมิใจกับเรื่องเล็ก ๆ และได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวชัด ๆ เต็ม ๆ ตาชายหนุ่มก็ชะงักนิ่งไปราวกับถูกสาป โลกทั้งใบราวกับถูกหยุดเวลาไว้ชั่วขณะ

ความรู้สึกที่จางหายไปหลายปีก็ค่อย ๆ กลับมาอีกครั้งพร้อมกับชื่อของใครคนนึงจะชัดเจนขึ้นในใจของรังสิมันตุ์

ซอโซ่?

ชายหนุ่มขมวดคิ้วครู่นึงก่อนจะเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วและส่ายหน้า ไม่ดีแล้วสิ ขืนไม่แยกตัวไปตอนนี้ไม่ดีแน่

ทำไมถึงมาเจอกันในสภาพนี้นะ เราควรเจอกันในสถานการณ์ที่ดีกว่านี้...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงจะดี

ชายหนุ่มมองท่าทีของหญิงสาวอีกครั้งอย่างไม่วางตา ภาวนาอยากให้เวลาที่อยู่ในลิฟต์มันนานสักชั่วโมงสองชั่วโมงเพื่อที่จะได้พิจารณาเธอชัด ๆ ทว่าความคิดเพ้อเจ้อก็ถูกขัดขวางด้วยเสียงสัญญาณแจ้งเตือนของลิฟต์ที่ดังขึ้นในชั่วพริบตาต่อมา

ติ่ง!

ถึงชั้นที่ต้องการแล้ว และก็ถึงเลาที่ต้องแยกจาก เขามองใบหน้าแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์น้ำเมาก่อนจะตัดใจ

“ผมส่งคุณตรงนี้นะ”

“อืม” คนเมาตอบรับแล้วก็ก้าวเดินออกจากลิฟต์ ทว่าแค่ก้าวแรกก็เซจนเสียหลักซะแล้ว ท่อนแขนแข็งแรงรีบยื่นไปรับไว้ก่อนที่คนเมาจะได้ลงไปกองกับพื้น เพียงชั่ววินาทีนั้นความรู้สึกราวกับโลกทั้งใบหยุดอยู่ตรงนั้นก็เกิดขึ้นกับทั้งเขาและเธอ

ศศิรินทร์แทบลืมหายใจเมื่อถูกโอบเอวเอาไว้ ความอบอุ่นราวกับแสงแดดในเช้าที่อากาศกำลังพอดีทำให้หญิงสาวแทนจะคิดอะไรไม่ออก สติสตังค์ที่ไม่เต็มร้อยยังคงไม่เต็มร้อยอยู่เช่นเดิม

ติ่ง!

แล้วเสียงแจ้งเตือนของลิตฟ์ก็ดังขึ้นตอีกครั้งเรียกสติให้คนทั้งคู่ให้กลับมา...แม้ว่าจะยังไม่เต็มร้อยเพราะฤทธิ์ของน้ำเมาก็ตาม

“เอ่อ...ให้ไปส่งที่ห้องมั้ย?”

“แหะ ๆ” เธอไม่ตอบ ทำเพียงหัวเราะแห้ง ๆ และยื่นแขนมาคล้องคอชายหนุ่มเอาไว้และบอกเล่าออกไป “เดินไม่หวาย”

ตอนแรกชายหนุ่มคิดลังเลว่าจะไปส่งให้ถึงห้องดีมั้ยหรือว่าควรแยกไปดี แต่แล้วก็ต้องลบความคิดที่จะแยกกลับเมื่อการกระทำและคำพูดของคนเมาไม่ได้มีท่าทีจะให้เขาแยกไปเลย

ผับผ่าสิ ไม่รักษาเนื้อรักษาตัวเอาซะเลย

ไว้ใจอะไรเขาขนาดนั้นกัน...เขายังไม่ไว้ใจตัวเองเลย

นายตำรวจหนุ่มถอนหายใจอย่างคนหมดหนทางก่อนจะช้อนอุ้มคนเมาและก้าวออกจากลิฟต์ก้าวเดินไปจนถึงประตูห้องที่มีหมายเลขอยู่บนคีย์การ์ด เขาเปลี่ยนจากการอุ้มมาเป็นวางหญิงสาวให้ลงยืนและใช้คีย์การ์ดเปิดประตูห้องให้ก่อนจะหันกลับมามองคนที่อาศัยลำตัวซีกซ้ายของเขาเป็นหลักพิงกาย

รังสิมันตุ์สูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบหกเซนติเมตรผู้หญิงหลายคนเมื่อยืนเทียบก็สูงไม่ถึงไหล่ของเขาทว่าเธอคนนี้กลับมีส่วนสูงที่เทียบเท่ากับนักกีฬาทำให้เมื่อหันมอง ใบหน้าแดงระเรื่อของเธออยู่ใกล้แค่คืบมินำซ้ำดวงตาคู่นั้นยังจ้องมองมาที่เขาไม่ยอมละไปไหน

ดวงตาสองคู่สบประสานกันในจังหวะที่ต่างฝ่ายก็ต่างมอง วินาทีนั้นราวกับทุกอย่างบนโลกหายไปจากความคิดอีกครั้ง มีเพียงห้วงความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย

นิ้วเรียวสวยยื่นขึ้นมาสัมผัสริมฝีปากหยักเข้ารูปที่ก่อนหน้านี้เคยยิ้มส่งกำลังใจให้เธอแต่เธอมองเห็นได้ไม่ชัดพลางลูบไล้เคล้าคลึงริมฝีปากนุ่มแต่อุ่นร้อนราวกับพบเจอของเล่น

ทำไมริมฝีปากสวยจัง...

เห็นแล้วอยาก...จูบเลยแฮะ

ไม่คิดเปล่าสองแขนยังยื่นขึ้นไปประคองใบหน้าคมให้โน้มลงมาก่อนจะยื่นเรียวปากจิ้มลิ้มไปทาบทับจูบดั่งที่ใจคิด

รังสิมันตุ์ชะงักนิ่งทว่าเพียงไม่กี่อึดใจก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายประกบจูบราวกับกำลังละเลียดชิมของหวาน อ่อนโยน แผ่วเบาแต่ก็แฝงไปด้วยความร้อนแรง

ความนุ่มนุ่มจากริมฝีปากสีสวยกำลังทำให้รังสิมันตุ์ควบคุมตัวเองไม่ได้ เขารีบถอนจูบในทันทีเมื่อขบคิดขึ้นได้ถึงความไม่ถูกไม่ควร

“ผมต้องกลับแล้ว ลากะ...”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   บทส่งท้าย

    งานเลี้ยงรุ่นจัดขึ้นที่ร้านอาหารของหนึ่งในเพื่อนร่วมรุ่นในอีกสามวันต่อมา ไม่มีอะไรที่ทำให้ศศิรินทร์หนักใจได้เท่ากับธีมของงานปีที่ค่อนข้างจะแตกต่างออกไปจากทุกปีธีมชุดนักเรียนเนี่ยนะ?“ซอโซ่ แต่งตัวเสร็จหรือยัง เราเข้าไปนะ” เสียงของรังสิมันตุ์ที่อยู่ด้านนอกเรียกให้คนกำลังแต่งตัวได้สติอีกครั้ง หญิงสาวรีบร้องห้ามทันทีแต่ก็ไม่ทันจึงทำได้เพียงยกมือปิดหน้าด้วยความอับอาย“หยุดนะ อย่า...”“น่ารักออก”“แต่มัน...” ไม่มั่นใจเลยสักนิด เธออายุเลขสามแล้วนะ มาใส่ชุดเหมือนเด็กสิบเจ็ดสิบแปดแบบนี้นี่มัน...เขินชะมัดเลย“ไม่ต้องเขินหรอก เราก็ใส่ เห็นมั้ย”“เธอใส่แล้วดูดี แต่เราใส่แล้วมัน...”“สวย...สวยจนทำให้นึกถึงครั

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter70 : คนในใจ

    เพราะทุกอย่างราบรื่นเกินไปศศิรินทร์จึงรู้สึกแปลก ๆ ทว่ามันก็เป็นเรื่องที่แปลกจริง ๆ จะไม่มีเรื่องมันเป็นไปไม่ได้หรอกและศศิรินทร์ก็รู้ทันทีว่าไม่ง่ายก็ตอนที่พลอยขวัญเดินเข้ามาหาในตอนที่เธออยู่เพียงลำพัง เด็กสาวยังคงมีท่าทีเชิด ๆ อยากกับนางร้ายในละครก่อนจะเอ่ยออกมา “คิดว่าทุกอย่างราบรื่นแล้วเหรอ”“คิดผิดแล้ว เพราะจริง ๆ แล้วน่ะพี่ไม่ได้หัวใจพี่ซันหรอก”“หมายความว่ายังไง”“จะบอกให้เอาบุญก็แล้วกัน พี่ซันน่ะมีคนที่รักปักใจมาตั้งแต่มัธยมแล้ว พี่อะแค่ตัวแทนเท่านั้นล่ะ” พลอยขวัญพูดแล้วก็ยกยิ้มอย่างเป็นต่อ “ไม่เชื่อก็ลองเปิดดูในลิ้นชักโต๊ะพี่ซันซิ ในนั้นน่ะมีความในใจพี่ซันส่งถึงรักปักใจของเขาอยู่ เข้าใจไว้ซะว่าพี่ก็แค่ตัวแทน ไม่ใช่คนในใจ”พูดแค่นั้นพลอยขวัญก็จากไป ศศิรินทร์พยายามไม่คิดอะไรแต่สุดท้ายก็เก็บเ

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter 69 : แม่หมู

    บ้านของรังสิมันตุ์อยู่กับอย่างเรียบง่าย พ่อของเขายังไม่เกษียณจึงยังไปทำงานพร้อมกับน้องสาวฝาแฝดของเขาอยู่ ส่วนแม่นอกจากจะไปงานต่าง ๆ ตามที่ถูกเชิญแล้วก็ยังเป็นชาวนาสวนผสม ก่อนจะไปตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารแม่แสงดาวก็พาเธอแวะไปดูข้าวในนาของท่านที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งท้อง“แต่กี้แม่โตกับแม่แล่นเล่นกันอยู่แถวนี่ล่ะ ยามหน้านากะดำนานำกัน ยามเกี่ยวข้าวกะเกี่ยวซ้อยกัน(เมื่อก่อนแม่เรากับแม่วิ่งเล่นกันอยู่แถวนี้แหละ ถึงฤดูทำนาก็ดำนาด้วยกัน ถึงเวลาเกี่ยวก็เกี่ยวช่วยกัน)” การพูดคุยกับแม่ของคนรักหญิงสาวคิดว่าคงจะไม่พ้นเรื่องวัยเด็กของเขา ทว่าเรื่องเล่าครั้งแรกของคุณนายแสงดาวไม่ใช่เรื่องของรังสิมันตุ์เหมือนที่ศศิรินทร์คิดแต่เป็นเรื่องของแม่ ๆ ที่ท่านดูจะคิดถึงเป็นอย่างมาก“ตอนน้อย ๆ แม่โตติดแม่คัก ไปไสกะไปนำกัน บางมื้อกะพากันไปป่วนผู้ใหญ่จนถืกไล่ตีนำกัน(ตอนเล็ก ๆ แม่เราติดแม่มาก ไปไหนก็ไปด้วยกัน บางวันก็พากันไปป่วนผู้ใหญ่จนถูกไล

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter68 : กลับบ้าน

    “ฉันว่าแล้วว่าสุดท้ายแกก็ต้องใจอ่อน” เสียงเจือยแจ้วของภาสกรที่ดังอยู่ไม่ได้มีท่าทีอ่อนอกอ่อนใจ หรือขัดใจกับการตัดสินใจของคนเป็นเพื่อน กลับกันภาสกรกลับยิ้มภูมิใจกับความเป็นศศิรินทร์ที่ใจดีกับคนที่ควรใจดี ถ้าศศิรินทร์ให้อภัยและช่วยเหลือคนอย่างคณิตา อันนั้นเขาคงเคือง แต่กับสุนิสา หลังจากได้ฟังถึงเหตุและผลที่ทำให้เธอคนนั้นทำเรื่องต่าง ๆ ไปแล้วก็เห็นใจอยู่เหมือนกัน คนที่ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจก็ควรได้โอกาส ถูกมั้ยล่ะแต่คนที่หลอกใช้และยุยงนั่นสิที่ไม่สมควรให้อภัย“แต่กับนังตัวยุแยง แกห้ามใจอ่อนเชียวนะโซ่ ฟ้องมันให้หนักเลย” ไม่วายโยงไปถึงคณิตาที่มีส่วนยุแยงสุนิสา กับสุนิสาเพื่อนจะให้อภัยเขาไม่ว่า แต่กับนทีที่คิดจะเลื่อนขาเก้าอี้รวมไปถึงคนอย่างคณิตา...ปล่อยไว้ไม่ได้“คราวนี้ฉันไม่อยู่เฉย ๆ แน่นอน ฉันจะฟ้องนทีให้ถึงที่สุด ส่วนคณิตา...ในเมื่อสาวเจ้ายุแยง เป่าหูคนอยู่ลับหลัง ฉันก็จะค่อย ๆ ตัดท่อน้

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter67 : อุบัติเหตุใหญ่

    ตาคู่คมจดจ้องมองเรือนกายเล็กที่หลับไหลไร้สติมีสายระระโยงระยางรอบกายอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวดพลางกุมมือเล็กเอาไว้ด้วยดวงตาแดงก่ำ“ตื่นขึ้นมาได้มั้ยโซ่ เราคิดถึงเธอเหลือเกิน”“อึก” เสียงสะอื้นจากกฤติกาและพิชญาดาไม่ได้เข้าหูของรังสิมันตุ์แม้แต่น้อย เขาแนบหน้าลงกับนิ้วเรียวสวยที่ไร้ความเคลื่อนไหวปากก็พึมพำเรียกชื่อหญิงสาวไม่ยอมหยุดจนคนที่ลอบสังเกตการอยู่อดสงสารไม่ได้ ก็น่าสงสารอยู่หรอกนะที่หญิงคนรักมีสภาพเจ้าหญิงนิทราแบบนี้ แต่ก็สมควรแล้ว...ตาย ๆไปซะเลยก็ดีท่ามกลางความโศกเศร้ากระแสข่าวใหญ่ บิ๊กบอสแห่งเดอะชายน์ เอนเตอเทนเมนต์ประสบอุบัติเหตุใหญ่จนอยู่ในอาการโคม่าก็แพร่ว่อนโลกโซเชียล ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั้งทางดีและไม่ดี มีทั้งข่าวว่าอาการไม่ได้หนักอย่างที่เป็นข่าวและข่าวว่าบิ๊กบอสของชายน์ได้จากไปแล้วข่าวที่ออกมาทำให้ทั้งบริษัทปั่นป

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter66 : ไร้เรี่ยวแรง

    ความสัมพันธ์ที่เหมือนจะเร็วเกินไปเหมือนจะค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นหลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันจริงจัง พอนึกย้อนกลับและถามตัวเองว่าคิดผิดหรือเปล่าที่เลือกรังสิมันตุ์มาเป็นคู่ชีวิตที่จะจับมือกันไปตลอด ในตอนนี้ไม่มีความลังเลอีกแล้วและคำตอบของเธอก็คือ...เธอคิดไม่ผิดเลยที่เลือกเขาเผลอแป๊บเดียวก็เดินด้วยกันมาได้กว่าสองเดือนแล้ว แต่การเดินทางด้วยกันตลอดระยะเวลาสองเดือนกลับไม่เคยมีการทะเลาะหรือความคิดเห็นไม่ตรงกันร้ายแรงเกิดขึ้น รังสิมันตุ์ในเวลาทำงานเขานิ่งสุขุม และค่อนข้างจะดุสมกับที่เป็นพี่รองของทีมซึ่งมีภาวะผู้นำรองลงมาจากคนเป็นพี่ใหญ่ ส่วนเวลาอยู่ด้วยกันเขากลับทำตัวเป็นเหมือนเด็กชายที่อยู่ในโอวาทบ้าง เกเรบ้าง แต่ก็ไม่เคยขัดใจจริงจังเวลามีเรื่องอะไรเขามักจะให้เธอเป็นคนตัดสินใจและออกความเห็นบ้าง แต่ก็ไม่เคยขัดใจหรือมีท่าทีต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ออกจะยอมให้เธอหลายส่วนทำเอาเพื่อนร่วมงานเขาแทบจะหาว่าพี่รองกลัวเมียไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status