Share

บทที่ 2

Penulis: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“ฝ่าบาทมีรับสั่ง เจิ้นเป่ยอ๋องซูจิ่งสิงคิดก่อกบฏ หลักฐานชัดเจน!”

“นับแต่นี้ไปปลดออกจากตำแหน่ง เป็นสามัญชน ยึดทรัพย์เนรเทศไปยังหนิงกู่ถ่า ผู้ใดกล้าฝ่าฝืน ฆ่าได้ไม่ละเว้น!”

ฮูหยินผู้เฒ่าทุบอกกระทืบเท้า “สกุลซูของข้าซื่อสัตย์ภักดี ไฉนเลยจะก่อกบฏได้?”

หัวหน้าหน่วยยึดทรัพย์เจียงเต๋อจื้อสบถเสียงเย็น “ฝ่าบาทมีพระกระแสรับสั่งออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง เจ้ากำลังกล่าวหาว่าฝ่าบาท ทรงวินิจฉัยผิดพลาดงั้นหรือ?”

ทุกคนไม่กล้าโวยวายอีก กอดกันร่ำไห้โอดครวญ

ทหารหลวงหลั่งไหลเข้ามา ถีบเปิดประตูเรือน ทุบทำลายข้าวของทั่วทุกสารทิศคล้ายโจรก็มิปาน ไม่ว่าที่ผ่านมาเจ้ามีตำแหน่งสูงส่งเยี่ยงไร หากถูกลงโทษยึดทรัพย์ นั่นก็คือคนต่ำต้อย

มองภาพวุ่นวายภายในจวนอ๋อง ฮูหยินผู้เฒ่าคิดห้าม แต่กลับถูกเจียงเต๋อจื้อผลักล้มลงกับพื้น กระดูกของหญิงชราเกือบหัก

ถัดมา เจียงเต๋อจื้อหรี่ตามองทางญาติฝ่ายหญิงของจวนอ๋อง

“เพื่อป้องกันมิให้พวกเจ้านำทรัพย์สินส่วนตัวออกไป ญาติฝ่ายหญิงทั้งหมดต้องเปลื้องผ้าตั้งแต่ใต้สะดือลงมาเพื่อตรวจสอบหนึ่งรอบ!”

“ไม่ได้!”

สีหน้าเหล่าญาติฝ่ายหญิงทั้งโกรธทั้งอาย

ฮูหยินผู้เฒ่าก่นด่าออกมา “เจียงเต๋อจื้อ เจ้าอย่าทำเกินเลยไปนัก ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็เกือบจะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน”

“แต่พวกเจ้ากลับดูแคลนข้า”

เจียงเต๋อจื้อถูกจี้ใจดำ เขาเคยสู่ขอบุตรีของฮูหยินผู้เฒ่าซูหวู่อวิ๋น เพียงเพื่อปีนป่ายเกาะกิ่งสูงเฉกเช่นจวนอ๋องนี้ ใครจะรู้ว่าจวนอ๋องกลับปฏิเสธเขาแล้ว!

วันนี้เขามาเพื่อลบล้างความอับอายนี้

เจียงเต๋อจื้อขยับขึ้นไปจับบุตรีคนเล็กของบ้านใหญ่สกุลซูซูหรานหร่าน ต้องการถกชุดกระโปรงของนางลง

“อย่านะ! ท่านพ่อท่านแม่ท่านพี่ช่วยข้าด้วย...”

“ข้าจะสู้ตายกับพวกเจ้า!”

ฝ่ายชายของบ้านใหญ่ยกเก้าอี้ปรี่ถลาเข้าไป แต่กลับถูกทหารหลวงขวางไว้ ทำได้เพียงมองซูหร่านหรานถูกหยามเกียรติตาแดงก่ำ

ในช่วงเวลาสำคัญนี้เอง กู้หว่านเยว่ปรากฏตัวออกมาและยื่นมือออกไป หักข้อมือเจียงเต๋อจื้อโดยตรง

“บัดซบ เจ้าเป็นใครกัน?” หน้าตานับว่างดงามมาก?

“ย่าของเจ้า ชายาเจิ้นเป่ยอ๋อง!”

กู้หว่านเยว่กำลังแทะน่องไก่หนึ่งชิ้น ท่าทางไม่เรียบร้อย เผยความโอหังอย่างเห็นได้ชัด “เจียงเต๋อจื้อ ฝ่าบาทให้เจ้ายึดทรัพย์ มิได้ให้เจ้าสร้างความอับอายให้ญาติของท่านอ๋อง หากเจ้าอาจหาญฝ่าฝืนราชโองการ ทุกคนในจวนอ๋องเราก็ขอพังพินาศไปพร้อมเจ้า!”

ซูหรานหร่านที่มีคราบน้ำตาเกลื่อนหน้ารีบยกแจกันดอกไม้ ยืนเคียงข้างกู้หว่านเยว่

คนของบ้านอื่น ๆ ก็ยกขึ้นมาด้วย คนของบ้านรองเชื่องช้าอยู่ครู่หนึ่ง มีเพียงครอบครัวของบ้านสี่แสร้งประคองฮูหยินผู้เฒ่า มิได้ลุกขึ้นยืนไปด้วยกัน

แต่นี่ก็เพียงพอให้เจียงเต๋อจื้อสั่นสะท้านแล้ว มองกู้หว่านเยว่อย่างขุ่นเคืองแวบหนึ่ง ระบายโทสะทั้งหมดลงบนตัวผู้อยู่ใต้อาณัติ

“ยังเหม่ออันใดอยู่อีก ไปยึดของให้หมด เหล็กแม้แผ่นเดียวก็อย่าให้เหลือ!”

สกุลซูทำกิจการมานับร้อยปี เงินทองของมีค่าในคลังต้องมีไม่น้อย จะได้อาศัยโอกาสนี้ตักตวงผลประโยชน์ให้ตนเอง

ส่วนกู้หว่านเยว่หรือ ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ เพียงคนเดียว ระหว่างทางถูกเนรเทศยังมีวิธีจัดการนาง

เจียงเต๋อจื้อผลิยิ้ม รอสมบัติถูกยกมาวางตรงหน้า

แต่ใครรู้ ทหารหลวงที่มายึดทรัพย์เพิ่งเข้าเรือนได้ไม่นาน ก็ต้องวิ่งออกมาอย่างตกตะลึงรับมือไม่ทัน

“ท่านแม่ทัพ แย่แล้ว ไฟไหม้คลังแล้ว!”

“เปลวเพลิงใหญ่เกินไป พวกผู้น้อยไม่สามารถเข้าไปได้”

“นอกจากคลังเก็บของ เรือนทุกหลัง ห้องครัว ยุ้งฉางก็ล้วนไหม้ทั้งหมดแล้ว...”

“...”

“ไม่นะ สมบัติของข้า!” เจียงเต๋อจื้อเบิกตากว้างมองเปลวเพลิงที่กำลังโหมกระหน่ำ ผลักทุกคนออกพุ่งกระโจนเข้าไปอย่างมิอาจหักใจ ต้องการช่วงชิงสมบัติออกมาสักเล็กน้อย

ถูกเปลวเพลิงบังคับให้ถอยกลับ หนีตะลีตะลานออกมา

เห็นว่าไม่สามารถหาผลประโยชน์ได้แม้แต่น้อย เขาโมโหจนตัวสั่น ชาไปหมดทั้งตัว

ไม่รู้เลยว่านี่ก็คือฝีมือของกู้หว่านเยว่ เพราะนางกังวลว่าคนยึดทรัพย์ค้นหาเงินไม่พบ แล้วจะลงโทษซูจิ่งสิงข้อห้าโยกย้ายทรัพย์สิน จึงวางเพลิงเผาคลังจนมอดไหม้

“เหตุใดจู่ๆ ไฟก็ไหม้ พวกเจ้าตั้งใจวางเพลิงใช่หรือไม่!” เจียงเต๋อจื้อบันดาลโทสะใส่ทุกคนในจวนอ๋อง

ทุกคนตกใจจนตัวสั่นเทิ้ม “ใต้เท้าปรักปรำแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พวกเราไหนเลยจะมีเวลาไปวางเพลิง?”

เจียงเต๋อจื้อก็รู้ว่าพวกเขามิได้ทำ แต่เพราะไม่ได้แม้เหมาเดียว ทำให้เขาโมโหจนปวดแปลบไปหมดทุกส่วน

ขณะเดียวกัน เสียงตะโกนก็ดังขึ้นที่ภายนอกประตู “ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”

ซูจิ่งสิงสีหน้าซีดเผือด ถูกประคองลงจากม้า เพียงผ่านเข้าจวน ก็เกือบล้มลงกับพื้น

“ท่านอ๋อง ท่านกลับมาเสียที”

ทุกคนในจวนอ๋องล้วนหันมองเขา รีบถลันเข้าไปต้องการคำอธิบาย ถามไถ่ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ไม่สนใจว่าเขาได้รับโทษถูกโบยจนใกล้ตายแล้ว

มีเพียงมารดาแท้ๆ สมองไม่ดีนางหยางและกู้หว่านเยว่ขยับขึ้นไปตรวจอาการของเขา โชคดีที่ก่อนหน้านี้กินยาถอนพิษ นับว่ารักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่ขาทั้งสองข้างของเขานี้...

“ท่านอ๋อง ขาของท่านยังมีความรู้สึกอยู่หรือไม่?”

ซูจิ่งสิงสติเลือนราง เจ็บปวดจนพูดไม่ออกแม้คำเดียว

เพื่อมิให้ราษฎรของต้าฉีต้องลำบากเพราะสงคราม เขาเลือกกล้ำกลืนฝืนทน

แต่คิดไม่ถึง วิธีการของฮ่องเต้ร้ายกาจถึงเพียงนี้ ทีแรกสั่งโบยเขาหนึ่งร้อยไม้ ถัดมาสั่งกรอกสุราพิษให้เขา

คิดถึงถ้อยคำของกู้หว่านเยว่ในตอนเช้า หรือนางรู้อยู่แล้วว่าวันนี้จะเกิดเรื่องใดขึ้น?

“ซูจิ่งสิงเจ้ามาถูกเวลายิ่งนัก ว่าเจ้าสั่งให้คนเผาจวนใช่หรือไม่?!”

เจียงเต๋อจื้อกำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ หยิบแส้ฟาดลงบนตัวซูจิ่งสิง คนเพิ่งถูกลงทัณฑ์มา ไหนเลยจะทนรับไหว ร่างกายกระตุกอย่างเจ็บปวด

นางหยางร้อนใจเข้าไปจับเขาไว้ “ไป เจ้าไป...”

ทว่าเจียงเต๋อจื้อจะยอมเลิกราได้อย่างไร เขาเห็นซูจิ่งสิงอยู่เหนือกว่าจนคุ้นชินแล้ว วันนี้เห็นเขาหมดอำนาจ ลำพองใจอยู่ภายในใจไม่รู้ตั้งเท่าใด ฟาดแส้แรงขึ้นเรื่อย ๆ

หยางซื่อเห็นลูกชายเจ็บปวดจนเหงื่อผุดทั่วทั้งสรรพางค์กาย เดินวนไปมาอยู่กับที่อย่างรับมือไม่ทัน ทันใดนั้นร่างกายหยุดชะงัก หันเข้าหาเจียงเต๋อจื้อแล้วคุกเข่าลงไป “ขอร้องท่าน อย่า อย่าตีอาจิ่ง เขาเจ็บ เขาเจ็บ...”

“ท่านแม่ ลุกขึ้น...”

ซูจิ่งสิงจับแขนนางหยาง แววตาเยียบเย็น แม้ว่าต้องกลายเป็นนักโทษ แต่ความน่าเกรงขามที่หลงเหลือจากสนามรบยังทำให้เจียงเต๋อจื้อกริ่งเกรงตกใจได้ดังเดิม

ไม่รอให้เจียงเต๋อจื้อไหวตัวทัน กู้หว่านเยว่ถลันขึ้นมาจากทางด้านข้าง จับคอเสื้อเหวี่ยงหมัดทีหนึ่ง ต่อยสันจมูกของเขาจนหัก

“โอ๊ย ช่วยด้วย!”

เจียงเต๋อจื้อร้องโอดครวญ พยายามดิ้นหนี คนบอบบางอ่อนแอเฉกเช่นกู้หว่านเยว่กลับมีแรงมากจนคนตกใจ หักแขนทั้งสองข้างของเขาอย่างแรง ต่อยจนฟันหน้าของเขาร่วงทั้งแถว

“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้ารังแกคนของข้ากู้หว่านเยว่ ใครมอบความกล้าให้เจ้า!”

ต่อยเสร็จ รังเกียจมือตนเองสกปรก โยนเขาทิ้งทันที

กระแทกกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ถลันเข้ามาพอดี

“ท่านแม่ทัพเกิดเรื่องแล้ว วังหลวงถูกปล้น ฝ่าบาทรับสั่งให้ท่านเข้าวังด่วน!”

หา?

คนยึดทรัพย์ถูกตีแสกหน้าแล้ว วังหลวงยังจะถูกปล้นทรัพย์สินอีกหรือ?

เจียงเต๋อจื้อโมโหจนกระอักเลือด รีบเดินทางเข้าวัง ก่อนจากไปยังพูดทิ้งท้ายไว้ให้กู้หว่านเยว่หนึ่งประโยค ไม่มีวันปล่อยให้นางอยู่อย่างเป็นสุข!

ส่วนพวกที่เหลือล้วนตกตะลึงเพราะวรยุทธ์ของกู้หว่านเยว่ กลืนน้ำลายแล้วก็กลืนน้ำลายอีก ขยับออกห่างจากนางเงียบๆ

เว้นเสียแต่ซูจิ่งสิง สายตายามสบมองนางเปี่ยมไปด้วยความซับซ้อน ครู่ถัดมาก็หมดสติไป

ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ก็ร้องตะโกนเสียงดัง

“จัดเรียงแถวนับจำนวน เตรียมตัวออกเดินทาง”

ชายถูกเนรเทศล้วนต้องถูกตีตรวนที่คอ หญิงล่ามโซ่ที่ขาป้องกันการหลบหนี นักโทษทำผิดร้ายแรงยังต้องสักอักษรคำว่าทาสลงบนหน้า

สกุลซูเพียงถูกลดฐานะเป็นสามัญชน ไปเริ่มชีวิตใหม่ที่หนิงกู่ถ่า มิใช่นักโทษ ดังนั้นจึงไม่ต้องถูกลงทัณฑ์เหล่านี้

ถัดจากเสียงคร่ำครวญ ประตูบานใหญ่ถูกปิดป้ายผนึกไว้ แผ่นป้ายสีแดงอมทองร่วงหล่นลงพื้น จวนเจิ้นเป่ยอ๋องล่มสลายแล้ว

ทว่านี่ยังไม่พอ เพียงก้าวพ้นประตู ทุกคนก็ถูกราษฎรล้อมเอาไว้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (4)
goodnovel comment avatar
Kunticha
น่าอ่านสนุกดี
goodnovel comment avatar
Wiphawee
สนุกค่ะน่าติดตามขอบคุณมาก
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
สนุกมากค่ะขอบคุณที่เขียนนิยายให้อ่านสนุกสนุกแบบนี้ขอบคุณมากๆค่ะ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1916

    ถึงแม้ข้างกายข้าจะไม่ขาดคน แต่ในเมื่อองค์หญิงน้อยเป็นผู้แนะนำ เช่นนั้นก็รับไว้ ให้เขาอยู่ทำงานกับข้าก็แล้วกันถูซื่อดีใจจนเนื้อเต้น “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ขอบคุณองค์หญิงน้อย”ฮั่วหยุนกล่าว “เจ้าตามข้ามา”ถูซื่อพยักหน้า รีบเดินตามหลังอีกฝ่าย และจากไปพร้อมกันเมื่อเห็นฮั่วหยุนพาชาวบ้านเหล่านั้นจากไป กู้หว่านเยว่ก็มองไปยังซูจิ่งสิง “ท่านพี่ ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหนกัน?”“ข้ามีค่ายทหารอยู่ใกล้ ๆ พวกเราไปพักผ่อนที่นั่นกันก่อน”ซูจิ่งสิงกล่าวพลางหันไปสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่เบื้องหลัง ให้นำคบเพลิงมาจุดไฟเผาอุโมงค์เหมือง“ไปกัน”เมื่อเห็นเปลวไฟลุกโชนอยู่ด้านหลัง ซูจิ่งสิงก็ยื่นมือให้กู้หว่านเยว่ โอบนางขึ้นบนหลังม้าแล้วทะยานจากไปอย่างรวดเร็ว“นี่ พวกท่านรอข้าด้วยสิ” หนานโย่วตะโกนไล่หลัง รีบปีนขึ้นม้าอย่างทุลักทุเล จากนั้นตามพวกเขาไปทั้งสองคนขี่ม้าเร็วสีเงินขาวตัวเดียวกัน กู้หว่านเยว่ไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายทั้งกายและใจเช่นนี้มาก่อน นางเอนกายพิงอกของซูจิ่งสิงอย่างเกียจคร้าน หรี่ตามองไปข้างหน้า สัมผัสถึงเสียงหัวใจที่เต้นอยู่ด้านหลังนางหันกลับมายิ้มอย่างสดใส ประกอบกับชายหนุ่มผู้เย็นชาและ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1915

    อย่างไรเสีย เขามายังที่ราบแห่งความโกลาหลก็เพื่อกู้หว่านเยว่ ย่อมไม่ทำร้ายสหายของนางอย่างแน่นอน“เก็บอาวุธทั้งหมดขึ้นมา”ซูจิ่งสิงออกคำสั่ง ทหารที่อยู่เบื้องหลังก็รีบเก็บธนูในมือ และถอยกลับไปอย่างพร้อมเพรียงกันหนานโย่วกลืนน้ำลาย รีบมายืนอยู่ข้างกายกู้หว่านเยว่เมื่อเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรของซูจิ่งสิง เขาก็หัวเราะฮ่า ๆ พลางเอ่ยขึ้น “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม สมกับที่เป็นหัวหน้าของกองทัพซินเยว่ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริง ๆ ”ซูจิ่งสิงละสายตากลับ “องค์ชายรองเกรงใจเกินไปแล้ว”เขามองไปยังกู้หว่านเยว่ “น้องหญิง เรื่องวุ่นวายใหญ่โตเพียงนี้ ตลาดมืดจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอนที่นี่ไม่ควรอยู่นาน พวกเรารีบไปจากที่นี่กันก่อนเถิด”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “หนานโย่ว ท่านจะกลับไปก่อนพร้อมกับแม่ทัพฮั่ว หรือว่าจะไปกับข้า?”จุดประสงค์หลักของพวกเขาในครั้งนี้คือการช่วยชาวบ้านที่ถูกหลอกมา ตอนนี้ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือแล้ว ภารกิจก็ลุล่วง ถึงเวลากลับไปรายงานแล้วฮั่วหยุนวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “องค์ชายรอง ขุมกำลังทางใต้นั้นเป็นแหล่งรวมคนสารพัดประเภท ไม่ใช่สถานที่ที่ควรจะอยู่นาน พวกเรารีบกลับกันเถิดพ่ะย่ะค่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1914

    อาจเป็นเพราะว่า พวกเขาทั้งสองคนเหมาะสมกันมากเกินไปทุกคนต่างรู้จักกาลเทศะ ไม่มีใครก้าวเข้าไปรบกวนกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงโอบกอดกันต่อหน้าผู้คนเนิ่นนานเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชา พวกเขาต่างดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ได้เป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์จนกระทั่งสติสัมปชัญญะกลับคืนมา ทั้งสองจึงคลายอ้อมกอดออกจากกัน แต่ก็ยังคงไม่ปล่อยมือ ทั้งสองยังคงจ้องมองอีกฝ่าย เพื่อค้นหาความเปลี่ยนแปลงของกันและกันในช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอ“น้องหญิง เจ้าผอมลงแล้ว”ซูจิ่งสิงยื่นมือออกไป ปัดปอยผมข้างหูให้กู้หว่านเยว่อย่างอ่อนโยน สัมผัสได้ชัดเจนว่านางดูผอมลงไปไม่น้อย“ท่านพี่”กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างเขินอาย น้ำเสียงออดอ้อน “ท่านก็เปลี่ยนไปบ้างเช่นกัน”ดูสุขุมและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งยังแผ่กลิ่นอายของการต่อสู้ที่โชกเลือดออกมาเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเขามาถึงที่ราบแห่งความโกลาหลโดยไม่มีที่พึ่งพิง แต่กลับอาศัยเพียงตนเองจนกลายเป็นหัวหน้าของกองทัพซินเยว่ได้ในเวลาอันสั้น ในช่วงเวลานั้นคงต้องประสบความยากลำบากมาไม่น้อยกู้หว่านเยว่ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ น้ำเสียงก็อ่อนโยนลงไปอีกสองส่วน“แต่ก็ยังคงเป็นสามีของข้า”แม้ว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1913

    กู้หว่านเยว่ในยามนี้ ลืมไปแล้วว่าตนเองกำลังอยู่ในอุโมงค์เหมืองทางทิศใต้ นางลืมไปแล้วว่ารอบกายอาจมีอันตรายซ่อนอยู่ ในวินาทีที่ได้เห็นชายผู้นั้น ดวงตาของนางก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งอื่นใดได้อีก ราวกับว่าทั่วทั้งฟ้าดิน เหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นในนัยน์ตาสีดำของนางฉายแววสงสัย ตกตะลึง ยินดี และสุดท้ายก็ถูกความรู้สึกอุ่นใจเข้ามาทำให้ทุกอย่างสงบลง“ซูจิ่งสิง ใช่ท่านหรือไม่?”นางขยับริมฝีปากแดงระเรื่อ เอ่ยชื่อที่ซ่อนลึกอยู่ในใจ และไม่กล้าแตะต้องมาโดยตลอดออกมาดวงตาทั้งสองจ้องมองชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างแน่วแน่ น้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับกลัวว่าทุกสิ่งตรงหน้าเป็นเพียงภาพลวงตา และถ้านางส่งเสียงดังขึ้นอีกนิด ภาพลวงตานี้ก็จะแตกสลายไปแม้ว่าหลายวันที่ผ่านมา นางจะคิดอยู่ตลอดว่า หัวหน้าของกองทัพซินเยว่จะเป็นเขาหรือไม่แต่เหตุผลกลับคอยย้ำเตือนว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร?เขายังคงยุ่งอยู่กับการดูแลราษฎรในต้าฉีและปกครองบ้านเมือง จะมาหานางได้อย่างไร จะข้ามผ่านป่าซิงโตวมาได้อย่างไร?อาจเป็นเพราะรับรู้ได้ถึงความตกตะลึงของกู้หว่านเยว่ ชายที่อยู่ตรงหน้าจึงไม่ได้รีบร้อน แต่กลับยกมือขึ้น ปลายนิ้วเรียวยาววางลงบน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1912

    “ระบบ ช่วยข้าตรวจนับสมบัติที แล้วนำของที่ดูออกว่าเป็นของโจรชัด ๆ ไปลงในแพลตฟอร์มซื้อขาย”กู้หว่านเยว่สั่งการ คนของหนานโย่วน่าจะมาถึงแล้ว“ขอรับ” น้ำเสียงของระบบพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อยอย่างน่าประหลาดทหารม้าของกองทัพซินเยว่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้ เพียงครู่เดียว ก็สามารถกำจัดหน่วยลาดตระเวนที่ปากถ้ำได้ทั้งหมด ขณะนี้ ชาวบ้านที่อยู่ข้างในก็เพิ่งหาทางออกเจอและวิ่งออกมา เมื่อเห็นศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่นอกถ้ำ ต่างก็ตกตะลึงกันไปหมด “คนตายแล้ว คนตายแล้ว!”“รีบหนีเร็ว!”ทุกคนต่างพยายามวิ่งออกไปข้างนอกหนานโย่วหายใจติดขัด เขามองไปยังคนของกองทัพซินเยว่ ที่สำคัญคือเขาไม่รู้ว่าคนเหล่านี้มาที่นี่เพื่ออะไร หากพวกเขามาเพื่อสังหารชาวบ้าน ก็คงไม่ดีแน่ยังดีที่ชายผู้เป็นหัวหน้าโบกมือ คนของกองทัพซินเยว่ก็ถอยออกไปอย่างพร้อมเพรียง เปิดทางให้ชาวบ้านเหล่านี้“กลับไปยังมาตุภูมิของพวกเจ้าเถิด ต่อไปอย่าได้ถูกหลอกอีก”ชายผู้นั้นเอ่ยปาก น้ำเสียงทุ้มลึกน่าฟังเป็นพิเศษเหล่าชาวบ้านเพิ่งจะตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วชายผู้นี้มาเพื่อช่วยพวกเขา ต่างก็รีบคุกเข่าลงกับพื้นทันที“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยชีวิตพวกเร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1911

    วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทีแรกเหล่าสหายที่อยู่นอกอุโมงค์เหมืองก็หมดสติไปครึ่งหนึ่งโดยไร้สาเหตุ จากนั้นก็มีกองทัพหนึ่งกองทัพมาอีก หรือว่าพวกเขาไปล่วงเกินใครเข้าโดยไม่ตั้งใจ?หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนคิดไปในทิศทางเดียวกับหนานโย่วอย่างรวดเร็ว เขาคาดเดาว่าที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะพวกเขาลักพาตัวคนที่ไม่ควรลักพาตัวหรือไม่ จึงทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้“เฮ้ย!”หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนโบกมือทั้งสองข้าง พยายามจะเจรจา“อย่าเพิ่งวู่วาม มีอะไรก็พูดคุยกันดี ๆ พวกท่านต้องการอะไรก็บอกมาดูก่อนหากพวกเราพอจะทำให้ได้ ก็จะพยายามอย่างเต็มที่”เขาคิดว่า หากพลาดพลั้งจับคนของอีกฝ่ายมาผิด ก็แค่ปล่อยตัวไป ไม่จำเป็นต้องล่วงเกินกองทัพทั้งกองทัพ เพื่อคนเพียงคนเดียวหากเป็นที่รังเก่าของพวกเขาอย่างตลาดมืด แน่นอนว่าย่อมไม่กลัวกองทัพเพียงกองทัพเดียวทว่าวันนี้ในอุโมงค์เหมืองของพวกเขาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมากเกินไป เขาจึงกังวลว่าอีกฝ่ายจะมีไม้ตายอยู่อีกสู้จับมือเป็นมิตรอาจจะดีกว่า ไม่แน่ว่าอาจได้สหายเพิ่มขึ้นมาอีกคนชายที่อยู่บนหลังม้าสีเงินขาวพลันยกมือซ้ายขึ้นเล็กน้อย ทหารม้าที่อยู่ด้านหลังก็หยุดลงอย่าง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status