Share

บทที่ 20 บอกความจริงพ่อแม่

Penulis: sanvittayam
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-06 14:50:54

บทที่ 20 บอกความจริงพ่อแม่

ถังลู่เหมยคิดว่าคนบ้านใหญ่ที่ดีกับบ้านรองและเธอคงมีเพียงถังเจี้ยนเฉียยวคนนี้เท่านั้น จึงคุยเล่นกับเขาได้อย่างสนิทใจ

“อาเหมยหายแล้ว นอนมากเบื่อ ๆ” เธอยังคงพูดจาเหมือนเดิม แต่ไม่โมโหร้ายใส่เหมือนกับคนอื่น ๆ ของบ้านรอง

“เอานี่ลูกอม เอาไว้กิน พี่ไปทำงานก่อนนะ” ชายหนุ่มพักครู่ใหญ่แล้วเลยต้องรีบกลับไปทำงาน เพราะนี่ก็ใกล้ถึงเวลาพักเที่ยงของทุกคนแล้วเหมือนกัน แต่ก่อนจะไปไม่ลืมที่จะมอบลูกอมที่เด็ก ๆ ชอบให้กับน้องสาวจากบ้านรอง เขาเชื่อว่าแม้ร่างกายของเธอจะไม่ต่างจากหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ความคิดเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งท่านั้น ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมย่าและคนอื่น ๆ ถึงได้ทำร้ายเธอที่ไร้เดียงสาเช่นนี้

แววตาของชายหนุ่มมองถังลู่เหมยด้วยความอ่อนโยน ด้วยสัญชาตญาณของเธอเอง ก็ไม่รู้สึกถึงภัยอันตรายจากชายคนนี้ เธอจึงยื่นมือมารับและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณพี่เฉียว อาเหมยไม่ดื้อ นั่งเงียบ ๆ นะ”

เมื่อได้รับคำสัญญา ถังเจี้ยนเฉียวก็เบาใจและหมดห่วงเรื่องอันตราย คนเราไว้ใจใครไม่ได้หรอก ยิ่งน้องสาวคนนี้ไร้เดียงสาและไม่สามารถช่วยตัวเองได้ หากมีใครล่อลวงไปจะเอาแรงที่ไหนไปสู้ล่ะ

จากนั้นเขาจึงกลับไปทำงานและปล่อยถังลู่เหมยนั่งเล่นดินเล่นหญ้าตามลำพัง

กรี๊งงงงสัญญาณบ่งบอกว่าถึงเวลาพักเที่ยงดังขึ้น พอเห็นว่าพ่อแม่กำลังเดินมาทางนี้ ถังลู่เหมยจึงร้องเรียกและโบกมือให้อย่างดีใจ

“พ่อแม่ พี่ใหญ่ อาเหมยอยู่นี่ ฮ่า ๆ ๆ” ที่ต้องกระโดดเรียกแบบนี้ เพราะทุกครั้งที่ร่างเดิมมาที่นี่มักจะทำแบบนี้เสมอ หากเธอนั่งเฉยรอให้ทุกคนเดินมาถึง คงเป็นเรื่องที่แปลกตาของทุกคน

“วันนี้ลู่เหมยของเราอารมณ์ดีมากเลย สงสัยหายป่วยแล้ว”

ชาวบ้านที่เอ็นดูถังลู่เหมยหัวเราะชอบใจกับท่าทางที่อารมณ์ดีของเธอ

“อาเหมยหายแล้ว ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวหันไปตอบแต่ก็ยังคงแสดงท่าทางเหมือนคนสติไม่ดีด้วยการยิ้มแป้นส่งไปให้ ก่อนจะรีบวิ่งไปหาพี่ชาย เพราะกลัวว่าจะหลุดเป็นคนปกติให้ชาวบ้านเห็น

“ทำไมมาถึงที่นี่ล่ะ เรานัดกันบนเขานี่นา” ชายหนุ่มกระซิบถามน้องสาวเพื่อให้ได้ยินกันสองคน

“ฉันจะบอกความจริงกับพ่อแม่ พาท่านทั้งสองขึ้นเขาด้วยนะ” หญิงสาวตอบกลับเสียงเบาเหมือนกัน จากนั้นจึงทำทีแสร้งหัวเราะขึ้นมา

“อืม” ถังอี้คุนตอบกลับเพียงเท่านั้น แต่ภายในใจนั้นดีใจมาก ที่น้องสาวตัดสินใจบอกทุกอย่างกับพ่อแม่

“อาเหมย มาทำไมลูก เดี๋ยวก็ไข้กลับหรอก” ถังเยี่ยแม้จะรู้ว่าลูกสาวหายป่วยแล้ว แต่ถ้ามาเจอแดดแรง ๆ แบบนี้จะไข้กลับเอาได้

“อาเหมยมาเที่ยว” เธอพูดเพียงเท่านี้ ก่อนที่ถังอี้คุนจะพูดเสียเอง

“พ่อกับแม่ตามผมมาก่อนเถอะครับ ผมมีเรื่องจะบอก มาทางนี้หน่อยครับ” ถังอี้คุนไปใกล้ ๆ และเรียกพ่อกับแม่ให้เดินตามเขามา

“อืม” ถังเยี่ยตอบรับ การที่ลูกชายพูดแบบนี้นั้นย่อมเป็นเรื่องสำคัญ และคงไม่อยากให้ใครได้ยิน จึงหันไปสบตากับภรรยาและพยักหน้าให้เธอ

ทั้งคู่เดินตามลูกทั้งสองคนไป โดยไม่มีใครถามอะไรอีก ส่วนชาวบ้านคนอื่นก็ไม่สนใจ คิดว่าสี่คนพ่อลูกคงกลับบ้าน หรือไม่ก็ไปหาของป่ามาทำอาหารเหมือนหลาย ๆ ครั้งที่เคยทำ

ไม่นานทั้งหมดเดินมาถึงป่าบนเขา สถานที่ที่สองพี่น้องเคยขุดต้นโสมและเห็ดหลินจือไปขาย

“ลูกพาพ่อกับแม่มาที่นี่ทำไมหรือ” ถังเยี่ยเอ่ยถามลูกชายอย่างสงสัย

“เราเดินเข้าไปด้านในอีกสักหน่อยเถอะนะครับ” ถังอี้คุนยังไม่ตอบแต่กลับพาพ่อกับแม่มาด้านในอีก เพราะกลัวว่าจะมีชาวบ้านอยู่แถวนี้แล้วจะได้ยินเรื่องทั้งหมด ซึ่งคงจะไม่ดีแน่

เมื่อมาถึงที่ลับตาคนแล้ว ถังอี้คุนจึงสบตากับน้องสาวก่อนจะพยักหน้าให้เธอเล็กน้อย

“พ่อ แม่ ฉันหายบ้าแล้วค่ะ อาเหมยคนนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว” ถังลู่เหมยมองหน้าพ่อแม่แล้วพูดขึ้นมาด้วยท่าทีของคนปกติ ไม่มีท่าทางของคนสติไม่สมประกอบเลยแม้แต่น้อย

“จริงหรือลูก” ถังเยี่ยกับเหนียงฟางถามขึ้นพร้อมกัน

“จริงค่ะแม่ ฉันหายบ้าแล้วจริงๆ” หญิงสาวพูดขึ้นสีหน้าจริงจัง

ถังเยี่ยกับเหนียงฟางดีใจจนน้ำตาไหล เพราะสิ่งที่ทั้งสองคนเฝ้าขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นก็คือให้ลูกสาวกลับมาเป็นเหมือนคนปกติทั่วไป เพราะห่วงว่าเมื่อไรที่ทั้งสองหมดอายุขัยหรือตายไปก่อน ลูกสาวคนนี้จะอยู่อย่างไร คิดห่วงไปถึงลูกชายว่าถ้าน้องสาวยังเป็นอย่างนี้ เขาคงไม่ยอมแต่งงาน เพราะถังอี้คุนรักน้องสาวคนนี้มาก

“แม่ดีใจเหลือเกินอาเหมย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยลูกแล้ว” เหนียงฟางเดินเข้ามาพร้อมทั้งน้ำตา เธอใช้มือทั้งสองข้างลูบหน้าตาลูกสาวด้วยความรักใคร่

“พ่อดีใจมากเหมือนกัน สิบกว่าปีมานี้ ไม่มีสักวันที่พ่อจะละทิ้งความคิดที่จะขอเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พ่อภาวนาให้ลูกสาวของพ่อหายจากอาการเหล่านั้น พ่อเฝ้าโทษตัวเองที่ดูแลแม่ของลูกไม่ดี จนทำให้ลูกต้องเกิดมาผิดปกติ” น้ำตาของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวไหลออกมาไม่หยุด เพราะเขารู้สึกผิดอย่างมาก 

สองสามีภรรยาดีใจเหลือเกินที่ถังลู่เหมยหายป่วยแล้ว

“ฉันก็ดีใจ มากอดกันหน่อยค่ะ พ่อแม่ พี่ใหญ่ด้วยนะคะ” ถังลู่เหมยพูดขึ้น จากนั้นสี่คนพอแม่ลูกกอดกันด้วยความดีใจ

หลังจากกอดกันสักพักก พอผละออกจากกัน ถังลู่เหมยจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พ่อกับแม่ฟังไม่ต่างจากที่เล่าให้พี่ชายเลยแม้แต่น้อย

“ยังมีอีกเรื่องนะคะ เมื่อเช้าฉันฝันถึงของวิเศษ จึงตัดสินใจพิสูจน์ดู ทำให้รู้ว่ามันคือเรื่องจริง เดี๋ยวฉันจะทำให้ดู พ่อกับแม่อย่าตกใจนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็เรียกอาหารออกมาหลายอย่าง

“ลูกทำได้อย่างไร หรือว่าท่านตาคนนั้นมอบของวิเศษให้ลูก” ถังเยี่ยถามขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นยินดี

“ค่ะพ่อ ท่านตามอบมิติวิเศษให้ฉัน ซึ่งในมิติมีบ้านหลังใหญ่ มีห้องนอนมากมาย ฉันจะลองพาทุกคนเข้าไปด้านในนะคะ ถ้าเข้าไปได้ ตกกลางคืนเราจะได้มีห้องส่วนตัวนอนพักผ่อน” หญิงสาวจับมือพ่อกับแม่ไว้ โดยมีถังอี้คุนจับมือพ่อกับแม่คนละข้าง

ถังลู่เหมยนึกถึงมิติในใจนั้น หวังว่าจะพาทุกคนเข้าไปได้ พอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทั้งหมดเข้ามาอยู่เซฟเฮ้าล์จริง ๆ

“ฉันพาทุกคนเข้ามาได้จริง ๆ ด้วย” หญิงสาวส่งเสียงอย่างดีใจ แต่พอมองหน้าคนในครอบครัวก็สีหน้าของทั้งสามคนตื่นตระหนกไปหมดแล้ว

“อัศจรรย์เหลือเกิน ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณท่านตาคนนั้นด้วยที่เมตตาลูก” ถังเยี่ยพูดขึ้นมาอย่างดีใจ เขาไม่เคยเห็นสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้มาก่อน

“ก่อนอื่นฉันต้องบอกพ่อกับแม่ก่อนว่า แม้ว่าฉันจะหายป่วยแล้วแต่ฉันยังคงต้องแกล้งบ้าเหมือนเดิม และสิ่งที่ฉันต้องการอีกอย่างก็คือ ฉันต้องการให้พ่อจัดการเรื่องแยกบ้าน เพื่อให้พวกเรามีชีวิตเป็นของตัวเอง” ถังลู่เหมยบอกถึงความต้องการของเธอออกมา และหวังว่าพ่อกับแม่จะเห็นด้วย

“พ่อตกลงและเห็นด้วยกับสิ่งที่ลูกพูดมา พ่อจะทำทุกอย่าง เพื่อให้เราได้แยกบ้านกัน และความลับที่ลูกมีของวิเศษ มันจะตายไปพร้อมกับพ่อ พ่อสัญญา” ถังเยี่ยรับปากด้วยความหนักแน่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

นี่จึงทำให้สามแม่ลูกพากันตกตะลึง และไม่คิดว่าเขาจะเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยวขนาดนี้

“แม่ก็เหมือนกัน แม่จะเก็บความลับนี้ไว้จนถึงวันตาย”

พอได้ยินว่าพ่อกับแม่รับปาก ถังอี้คุนและถังลู่เหมยส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ก่อนที่คนเป็นพี่จะบอกเรื่องสำคัญกับพ่อแม่

“ผมและน้องมีเรื่องจะบอกครับ เมื่อวานเราสองพี่น้องนำโสมและเห็ดหลินจือไปขาย เลยได้เงินมา ตอนนี้บ้านเรามีเงินเกือบแสนหยวนแล้วนะครับ ”

“หา!!” คราวนี้สองสามีภรรยาล้มตึงไปกับพื้น เมื่อได้ยินว่าบ้านตนเองมีเงินเกือบแสนหยวน

“พ่อ / แม่” สองพี่น้องร้องเรียกพ่อแม่ด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปพยุงพ่อกับแม่ที่เป็นลมไปแล้วด้วยความตื่นตระหนก

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์

    บทส่งท้าย ครอบครัวที่สมบูรณ์หลังจากวันนั้นนี่ก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว เรื่องที่ช่ายจื่อเฉิงจัดการก็เงียบไปเหมือนกัน ไม่มีใครรู้ว่าเขาจบเรื่องนี้ด้วยวิธีใด และไม่มีใครได้พบเห็นสามแม่ลูกนั้นอีกเลย บ้างก็ว่าปี้เจียวหลานหนีตามใครบางคนไปส่วนทั้งสองคนนั้นก็มีข่าวลือว่าไม่ใช่ลูกของนายท่านช่าย ในวงสังคมต่างพูดถึงเรื่องนี้และมีข่าวลือแตกต่างกันไปคนละแบบ ซึ่งไม่รู้ว่าอันไหนคือเรื่องจริง อันไหนคือเรื่องเท็จ แต่สิ่งที่จริงนั้นคือทั้งสามคนหายไปจากวงสังคมของปักกิ่ง“ความโหดร้ายของช่ายจื่อเฉิงไม่มีใครเทียบได้หรอก สมัยที่เขายังเป็นหนุ่มก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นฝีมือ กว่าเขาจะไต่เต้าขึ้นมาได้จนมีทุกอย่างเหมือนทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เล่น ๆ เหมือนกัน” ฉินจิ้งเหยาพูดขึ้นมาท่ามกลางทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง“ช่างมันเถอะค่ะคุณลุง อย่างไรเรื่องราวก็จบลงแล้ว ฉันเองก็ไม่อยากรับรู้ว่าสามคนแม่ลูกนั่นไปอยู่ที่ไหน ขอแค่ไม่มาวุ่นวายกับพวกเราก็พอแล้วค่ะ”ช่ายเหมยฮวาพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ เธอไม่อยากรับรู้อะไรมากนัก แต่คิดว่าทั้งสามคนคงยังมีชีวิตอยู่ เพราะตอนนี้เธอเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ จึงขอร้องพ่อไปว่าไม่ว่าพ่อจะจัดการสาม

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 87 ได้เวลาจัดการให้สิ้นซาก

    บทที่ 87 ได้เวลาจัดการให้สิ้นซาก“พี่รู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ ลางสังหรณ์มันบอกอะไรแปลก ๆ ทำให้พี่ไม่สบายใจ เลยอยากกลับมาเยี่ยมคุณพ่อ” เธอตอบกลับน้องสะใภ้ไปตามตรงเพราะสายตาซ่อนความกังวลไว้ไม่มิด“อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะคะ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เดี๋ยวรอพี่หยางกลับมาก่อนค่อยปรึกษากันอีกทีว่าจะทำอย่างไร” ถังลู่เหมยพูดขึ้นและจับมือพี่สะใภ้ไว้เพื่อปลอบโยน จะว่าไปเรื่องนี้เธอก็ไม่รู้สถานการณ์ในบ้านตระกูลช่ายเลย เพราะไม่เคยสอบถามสามีถึงเรื่องบ้านของพี่สะใภ้ เธอรู้เพียงว่าพี่สะใภ้ใหญ่นั้นไม่ลงรอยกันกับแม่เลี้ยงตนเอง รวมถึงน้องทั้งสองคนที่เกิดจากแม่เลี้ยงด้วย“เรื่องตระกูลช่าย ลุงสืบมาให้เรียบร้อยแล้ว รอหลานมาจัดการด้วยตนเอง แต่ยังไม่มีเวลาที่จะส่งข่าวไป ไม่คิดว่าวันนี้เหมยฮวาจะมาด้วยตนเอง” จังหวะนั้นนายท่านฉินที่เดินลงมาจากชั้นบนก็พูดขึ้น แม้จะมีรอยยิ้มบนใบหน้าแต่แววตาก็ฉายแววกังวลออกมาเรื่องที่เขาให้คนสืบไว้นั้นจะว่าดีก็ดี จะว่าร้ายก็ร้าย แต่ถึงอย่างไรให้หลานสาวตัดสินใจด้วยตนเองดีกว่า อีกอย่างเขากับน้องเขยก็ไม่ได้สนิทติดเชื้อกันมากนัก จะมาให้เจ้ากี้เจ้าการเรื่องในครอบครัวอีกฝ่ายก็คงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้ง

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 86 ครอบครัวพร้อมหน้า

    บทที่ 86 ครอบครัวพร้อมหน้าหญิงสาวที่ถูกมัดอยู่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเรียบนิ่ง แต่ดวงตานั้นกลับแข็งกร้าวขึ้นเรื่อย ๆ พูดจบถังลู่เหมยก็ลุกขึ้น พร้อมกับเชือกที่มัดแขนอยู่ก็หลุดออกอย่างง่ายดาย จากนั้นจึงเดินมายืนประจันหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาดุดัน ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงลอดไรฟันออกมาว่า “แบบนี้ฉันคงปล่อยให้เธอใช้ชีวิตตามใจชอบอีกไม่ได้แล้วนะ หลี่ซิงหง”“ทะ ทำไมแกไม่ได้ถูกมัดไว้เหรอ” หลี่ซินหงเห็นอย่างนั้นก็ตกใจสุดขีด เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือก ก่อนจะมองรอบ ๆ และเมื่อเห็นว่าชายฉกรรจ์ที่คิดว่าเป็นคนของตนเองไปยืนอยู่ด้านหลังของอีกฝ่าย ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอติดกับดักแล้ว ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงที่เคียดแค้น“แกก็ไม่ใช่คนที่นี่สินะ แกมัน...”คราวนี้ถังลู่เหมยไม่ตอบคำถามนี้ และไม่รออีกฝ่ายพูดจนจบประโยค เธอเลือกที่จะเดินไปใกล้กว่าเดิม ก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยมว่า “หุบปากของหล่อนให้สนิท ถ้าพูดเรื่องนี้ออกมาแม้แต่คำเดียว วันนั้นจะเป็นวันที่เธอพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต เพราะฉันจะตัดลิ้นของเธอออกมาย่างให้หมากิน จำไว้”พูดจบเธอเดินไปหาสามีที่ยืนฟังเรื่องราวทั้งหมด ก่อนจะมีเ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 85 จัดการขั้นเด็ดขาด

    บทที่ 85 จัดการขั้นเด็ดขาดถังลู่เหมยและป๋ายหลานกลับบ้านด้วยรถยนต์ของตระกูลฉินเหมือนเดิม แต่ในขณะที่กำลังนั่งรถอยู่นั้น ก็มีรถยนต์ขับตามมาหนึ่งคัน ก่อนที่รถคันนั้นจะขับแซงขึ้นมาและปาดหน้าให้รถที่ถังลู่เหมยนั่งอยู่จอดลงอย่างกะทันหัน“เกิดอะไรขึ้น” ป๋ายหลานถามขึ้นด้วยความตกใจ พร้อมกับกุมมือลูกสะใภ้ไว้แน่น“มีรถมาจอดปาดหน้ารถของเราครับคุณนาย น่าจะเป็นโจรมาปล้น” คนขับรถวัยกลางคนตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย“ตายแล้ว แล้วเราจะทำยังไงดีละเนี่ย” ป๋ายหลานพูดขึ้นมาอย่างตกใจมากกว่าเดิม แม้ว่าเรื่องนี้ลูกชายกับสะใภ้บอกว่ามันอาจจะเกิดขึ้นและทั้งสองหาทางแก้ไขไว้แล้วก็ตาม“ไม่ต้องกลัวนะคะ คุณแม่อยู่ในรถก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปดูเอง” ถังลู่เหมยบีบมือของแม่สามีเบาๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทีปกติ โดยไม่มีอาการหวาดกลัวใด ๆ เลย“ระวังตัวด้วยนะอาเหมย” ป๋ายหลานบอกกับลูกสะใภ้อย่างเป็นห่วง“ค่ะคุณแม่” หญิงสาวรับปากแม่สามี จากนั้นก็พูดกับคนขับรถว่า“ลุงไม่ต้องลงไปหรอกค่ะ ดูแล้วพวกมันมาไม่กี่คนเอง เดี๋ยวฉันจัดการได้ อีกอย่างมีคนของพี่หยางตงแอบติดตามมาด้วย แต่หากเกิดอะไรขึ้นก็รีบพาคุณแม่ไปยังที่ปลอดภัยห

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 84 ซ้อนแผน

    บทที่ 84 ซ้อนแผน“ได้สิ พี่เคยบอกแล้วว่าหากเหมยฮวาอยากไปเมื่อไร พี่ก็พร้อมจะพาไปเสมอ ถ้าอย่างนั้นเราไปปักกิ่งกันเถอะ พี่เองก็ไม่เคยได้พบพ่อตามาก่อน อย่างน้อยก็ได้ไปยกน้ำชาสักครั้งก็ยังดี” ถังอี้คุนพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนแม้ว่าเขากับภรรยาจะจดทะเบียนและแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้ว แต่เรื่องที่พบหน้ากับพ่อตานั้น เขายังไม่เคยเจอและไม่เคยยกน้ำชามาก่อน ซึ่งมันก็คงไม่ดีแน่หากใครได้รับรู้เรื่องนี้ ดังนั้นการที่ภรรยาคิดจะเดินทางไปปักกิ่งในครั้งนี้ เขาจึงเห็นว่าสมควรแล้ว“ถ้าลูกทั้งสองคนตั้งใจจะไปปักกิ่ง พ่อกับแม่ก็ตั้งใจจะไปกับลูกด้วย การเอาลูกสาวของเขามาโดยไม่มีการพูดจาสู่ขอกับพ่อของเหมยฮวา พ่อก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ไปครั้งนี้จะได้สู่และให้ทั้งสองคนยกน้ำชาให้ถูกต้อง” ถังเยี่ยพูดขึ้นมาหลังจากได้ยินความตั้งใจของลูกชายและสะใภ้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ติดอยู่ในใจของเขาและภรรยามาตลอด เขามีลูกสาวก็เข้าใจในเรื่องนี้ดี“อย่างนั้นพวกลูกหลานไปกันเถอะนะ เดี๋ยวแม่กับตาเฒ่าจะเฝ้าบ้านให้เอง” ย่าถังพูดสนับสนุนขึ้นมา เมื่อได้ยินลูกและหลานพูดถึงเรื่องที่จะไปปักกิ่งเพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้อง“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันทั้งหมด

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงบ้าที่กลายมาเป็นคุณนายตำรวจ 70s   บทที่ 83 ข่าวสำคัญ

    บทที่ 83 ข่าวสำคัญหลังจากวันนั้น นี่ก็ผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้วที่หลี่ซินหงไม่สามารถดำเนินการตามแผนการที่วางไว้ได้ นั่นก็เพราะว่าถังลู่เหมยนั้นไม่ได้ออกจากบ้านตระกูลฉินอีกเลย เพราะผู้เป็นแม่สามีได้ซื้อของมากมายมาให้เธอจนแทบจะใช้ไม่หมดอยู่แล้ว ซึ่งแม้จะอยากออกไปหาลู่ทางเพื่อทำการค้าของตนเอง แต่เธอก็ไม่ขัดขืนเพราะไม่อยากทำให้ทุกคนลำบากใจ โดยเฉพาะสามีของเธอทุกวันถังลู่เหมยจะทำอาหารให้ทุกคนในบ้านกิน และนั่งฟังแม่สามีเล่าเรื่องต่างๆ ในปักกิ่งให้ฟัง ป่ายหลานสอนมารยาทการเข้าสังคมให้เธออย่างใส่ใจ ซึ่งถังลู่เหมยก็ไม่ขัดอะไรเพราะเห็นสีหน้าของแม่สามีดูมีความสุขที่ได้สอนและจับเธอแต่งตัว“อาเหมยอีกสามวันจะมีงานสังคม โดยตระกูลฉินเป็นประธาน เธอเตรียมตัวด้วยนะ แม่จะพาอาเหมยออกงานอย่างเป็นทางการ” ป๋ายหลานเดินมาบอกลูกสะใภ้ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องโถง ถึงเรื่องที่ตระกูลฉินจะเป็นประธานในงานเลี้ยงสมาคมการค้าในครั้งนี้ และเธอตั้งใจให้สะใภ้ได้ไปร่วมงานด้วย หลายวันมานี้เธอยอมรับสะใภ้คนนี้ได้อย่างเต็มหัวใจแล้ว ถังลู่เหมยได้ยินอย่างนั้นก็อมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงดีใจเพราะนี่คือการยอมรั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status