Home / วาย / ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า / บทที่ 2 (1.3) สุดท้ายก็ไม่กล้าอยู่ดี

Share

บทที่ 2 (1.3) สุดท้ายก็ไม่กล้าอยู่ดี

last update Last Updated: 2025-01-30 18:31:42

     จวนตระกูลเซี่ยจะว่าใหญ่โตก็คือใหญ่โต แต่การดูแลค่อนข้างหละหลวม หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะว่ากู่ซิงอีเข้าออกบ่อยจนชินไปแล้ว รู้ว่าควรเข้าที่ใด รู้ว่าที่หลบอยู่ตรงไหน และรู้ว่าควรมาเวลาใด ดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะแอบย่องเข้ามาเหมือนโจรผู้หนึ่ง

     ยามปกติกู่ซิงอีมักจะหลบซ่อนบนต้นไม้ใกล้บานหน้าต่างห้องของเซี่ยลู่หลินแล้วใช้หินสามก้อนโยนไปกระทบหน้าต่างตามจังหวะ แต่สารทฤดูดำเนินมาครึ่งทางแล้วใบไม้จึงเริ่มร่วงหล่นใกล้หมดต้น จะหลบอย่างไรก็หลบไม่มิด ดังนั้นวันนี้กู่ซิงอีจึงเดินมาเคาะบานหน้าต่างของสหายตามจังหวะเดียวกับที่ใช้หินโยน เคาะหนึ่งครั้งเว้นไปสักพัก ช่วงเวลาที่เว้นไปก็หันมองซ้ายขวาและด้านหน้าตลอดเพื่อไม่ให้ถูกจับได้

     เซี่ยลู่หลินกับเขาเป็นสหายกันมานานแบ่งแยกออกอย่างชัดเจนว่าไม่เคยคิดเกินเลย นับเป็นสหายที่ล่มหัวจมท้ายจนรู้ใจ แต่อย่างไรเสียคนทั่วไปก็คงมองว่าบุรุษและสตรีที่ไหนจะเป็นเพื่อนกันได้ แม้นพวกเขาไม่คิดอันใดแต่คนนอกย่อมต้องคิดแน่ กู่ซิงอีนึกถึงชื่อเสียงของเซี่ยลู่หลินมาก่อนเสมอจะทำให้สหายเสียชื่อไม่ได้ เวลาแอบย่องมาเล่นด้วยกันที่จวนตระกูลเซี่ยจึงต้องคอยระวังอยู่ตลอด

     ทว่าครานี้ต่างออกไปจากเดิมเล็กน้อย เขายังไม่ทันเคาะครั้งที่สาม เสียงเท้าหนัก ๆ ก็วิ่งมาอย่างรีบร้อน

     ถามว่ากู่ซิงอีได้ยินไหม ย่อมได้ยิน แต่ถอยออกจากหน้าต่างทันหรือไม่ ย่อมไม่ทัน

     เมื่อเสียงเท้าหยุดลงหน้าต่างก็ถูกผลักออก ร่างสูงโปร่งที่ยืนชิดหน้าต่างอยู่จึงถูกกระแทกเข้าอย่างจัง ดีที่กู่ซิงอียังทรงตัวได้อยู่บ้างเพราะรู้ด้วยว่าจะโดนกระแทก แม้จะเจ็บมากแต่เขาพยายามกลั้นเสียงร้องไว้สุดฤทธิ์

     “อาอี! เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย” เซี่ยลู่หลินคราแรกมีสีหน้าดีใจแต่ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นกระวนกระวายเมื่อเห็นท่าทางบิดเอวของสหาย “อ๊ะ! ข้าเปิดหน้าต่างกระแทกเจ้าหรือ เจ็บมากหรือไม่ เข้ามาก่อน ๆ”

     “...” กู่ซิงอีจับเอวด้วยความเจ็บพลางพยักหน้าให้อีกฝ่ายแล้วเดินเข้าไปหา ไม่ลืมยกนิ้วชี้ขึ้นจรดริมฝีปากบอกให้เซี่ยลู่หลินเบาเสียงลง

     เมื่อทั้งคู่เข้ามานั่งในห้องกันแล้วก็เริ่มปรึกษาเรื่องที่จะช่วยไม่ให้เซี่ยลู่หลินต้องหมั้นหมายกับตระกูลว่าน

     “วางยาพิษเลยดีหรือไม่” เซี่ยลู่หลินเสนอเองจบก็ส่ายหน้าระรัว นางไม่อยากแต่งก็จริงแต่ไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร และอีกอย่างใช่ว่าจะเข้าถึงตัวคุณชายว่านได้ง่าย เรื่องวางยาอย่าได้คิดถึงอีกเลย

     ทั้งคู่พอปรึกษากันไปสักพักก็ไม่ได้ข้อสรุปเสียที มีหลายเรื่องที่น่าจะเป็นไปไม่ได้ และหลายเรื่องที่รุนแรงเกินไป อย่างเช่นเรื่องวางยาปลุกกำหนัดแล้วส่งสตรีคนอื่นไปให้ก็ยังคิดกันออกมาได้ ทว่าแค่อีกฝ่ายเดินไม่ได้ก็น่าเห็นใจมากพอแล้ว ด้วยสามัญสำนึกทั้งสองจึงปัดตกเรื่องนั้นไป

     “มอมสุราเล่าเป็นอย่างไร” เซี่ยลู่หลินดวงตาเป็นประกาย คิดแล้วเรื่องนี้น่าจะเข้าท่า “ในเมื่อเราก็ไม่อยากบีบบังคับเขาเช่นนั้นก็แค่จัดฉาก”

     กู่ซิงอียิ้มให้กับสหายและอีกฝ่ายก็ยิ้มให้ตนเช่นกัน แต่แล้วก็ห่อไหล่ลงด้วยความเศร้าอย่างพร้อมเพรียง เพราะต่างก็ทำไม่ลงจริง ๆ แม้นในหัวจะผุดเรื่องชั่วช้าได้มากมายเพียงไร แต่เอาเข้าจริงก็ไม่กล้าลงมือกระทำ

     “เช่นนั้นหากไม่ได้ฝืนใจ แล้วเต็มใจเล่า” กู่ซิงอีเสนอ

     ทั้งคู่พยักหน้าพร้อมเพรียงกัน

     เซี่ยลู่หลินเบาใจถึงขั้นจับแขนของกู่ซิงอีมาเขย่าสองสามที เอ่ยชมไม่หยุดปาก ก่อนจะพูดอีกว่า “ก็แค่ต้องหาใครสักคนมายั่วยวนคุณชายว่าน!”

     ที่เหลือก็ขึ้นอยู่ที่ว่าจะหาใครมาก็เท่านั้น หากเป็นคุณหนูมีฐานะแผนนี้อาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย คุณหนูเหล่านั้นหน้าบางยิ่งนัก จะออกจากบ้านบางทีใส่โต่วลี่ [1] ปิดทั้งศีรษะ บ้างก็ใส่ผ้าปิดบังไปครึ่งหน้า ดังนั้นจึงต้องหาใครสักคนที่มีความกล้าพอและเดือดร้อนเรื่องเงินจนยินดีทำเรื่องผิดไปกับพวกเขาเพื่อไปเป็นหนูตกถังข้าวสารอีกที นอกเหนือจากนั้นยังต้องดูเรื่องหน้าตาอีกด้วย [1] โต่วลี่ หมวกไม้ไผ่สานที่มีผ้าบางปิดรอบด้าน

     “เวลาเราเหลือน้อยมาก จะจ้างคนมาแล้วให้แม่เล้ามาสอนการยั่วยวนบุรุษคงไม่ทัน จำต้องหาใครสักคนที่เคยเรียนรู้เรื่องเหล่านี้มาบ้างแล้ว อาจจะเป็นคนที่อยู่ในหอนางโคมแดงมาก่อนเจ้าว่าเป็นอย่างไร” กู่ซิงอีกล่าว

     “คุณชายว่านเกิดจากตระกูลใหญ่ คงไม่สุ่มสี่สุ่มห้ามิดูตาม้าตาเรือ ดังนั้นจำต้องไม่ใช่คนที่เคยผ่านงานในหอโคมแดงมาแล้ว หรือว่าเราควรไถ่ตัวใครสักคนที่กำลังฝึกฝนอยู่กับแม่เล้าแทน?” เซี่ยลู่หลินเป็นคุณหนูตระกูลร่ำรวยย่อมไม่เคยไปย่านโคมแดง แต่ก็พอได้ยินมาบ้างว่าก่อนจะเริ่มรับแขกสตรีเหล่านั้นต้องผ่านการฝึกฝนก่อน “แต่ติดอยู่ที่ว่าคนที่ฝึกส่วนมากมักเด็กเกินไป” นางกล่าวเสริม

     “คุณชายว่านอาจชอบดรุณีน้อยที่เลยวัยปักปิ่นมาไม่นานก็ได้”

     เซี่ยลู่หลินตีแขนสหายไปหนึ่งที “ดูเอาเถิด เจ้าไร้คนต้องตาต้องใจก็แล้วไปเถอะ แต่เรื่องแค่นี้ก็ยังไม่รู้ เสียทีที่เกิดเป็นบุรุษ รู้ไหมว่าหากจะยั่วยวนบุรุษเพศก็จำต้องมีรูปร่างอ่อนช้อย ทรวดทรงองค์เอวเล็กบาง หน้าอก...” เซี่ยลู่หลินหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้น ใบหน้าเริ่มขึ้นสีแดงจาง แสร้งกระแอมไอด้วยความขัดเขิน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ บทส่งท้าย ตราบจนนิรันดร์

    ค่ำคืนวันนี้ไร้ดวงจันทร์คอยส่องแสงอย่างเคย ทางเบื้องหน้ามืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน แต่กู่‍ซิง‍อีกลับไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะยามนี้เขาได้ขี่อยู่บนหลังผู้อื่น ลำตัวแนบชิดกับคนที่กำลังเดินอยู่จนไร้ช่องว่างระหว่างกาย รับรู้ได้ถึงแผ่นหลังที่สั่นไหวเบา ‍ๆ‍ ทำให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนอยู่กับตนเสมอ กู่‍ซิง‍อีกระชับอ้อมแขนที่เกี่ยวคอคนออกแรงอยู่เพิ่มขึ้นอีกนิด “อีกนานหรือไม่” เขาเอ่ยถามออกไปเพราะรู้สึกว่าตนถูกแบกมาไกลมากแล้ว กระนั้นว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเดิน “เสี่ยว‍อี เหนื่อยแล้วหรือ” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเดินช้าลงและย่ำเท้าด้วยความเบา ด้วยเกรงว่าตนอาจจะเดินเร็วไปจนตัวสะเทือนทำให้คนที่อยู่บนหลังรู้สึกไม่สบายตัว “ข้าจะเหนื่อยได้อย่างไร ท่านเป็นคนแบกข้าอยู่นะ” กู่‍ซิง‍อีซบคางลงที่ไหล่ของว่าน‍ฟู่‍เฉิง ใจจริงแล้วเขาอยากให้เวลาหยุดอยู่เช่นนี้ตลอดไปเลยต่างหาก ถึงได้กำลังกลัวว่าจุดหมายปลายทางจะมาถึงเร็วเกินไป กระนั้นก็ยังอดห่วงว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงจะหนักอยู่ดีเลยไม่ได้บอกความในใจออกไป กู่‍ซิง‍อีเพิ่งได้รู้ว่าเมื่อก่อนตอนที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงถูกเขาแบกขึ้นบนหลังเดินไ

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 10 กาลก่อนท่านเป็นคนเอ่ย ว่าข้าไร้มารยาท

    หลี่เซียวที่กำลังเดินอยู่ในจวนก็พบกับคุณชายของตนกำลังเดินมาหาด้วยท่าทางเร่งรีบ เขาไม่ได้เดินไปหาอย่างที่ควรจะเป็น กลับรอคุณชายเดินเข้ามาหาตนที่หยุดรออยู่ก่อนแล้วแทน พลางคิดในใจว่า เอาอีกแล้ว ‍!‍ “เห็นเสี่ยว‍อีของข้าหรือไม่” นั่นไง จะมีสิ่งใดที่เขาเดาผิดไปจากท่าทางเร่งรีบของคุณชายได้อีก ‍!‍ “เมื่อ‍ครู่พอคุณชายกู่เตรียมรากบัวต้มน้ำตาลอยู่ในครัวเสร็จแล้วคิดจะถือนำไปให้คุณชายด้วยตัวเอง แต่ไม่ทันระวังเผลอสะดุดจนของในมือหกรดตัวเอง ตอนนี้น่าจะกำลังไปเปลี่ยนชุดขอรับ” “สะดุดหรือ ‍!‍ แล้วเสี่ยว‍อีบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงพูดค่อนข้างเร็วอย่างหาได้อยาก แทบจะยืนไม่ติดที่อยู่แล้ว ตอนนี้ร่างกายอยู่ตรงนี้แต่หัวใจกลับลอยไปไกลแล้ว “ไม่เป็นอะไรมากขอรับ คุณชายกู่ทรงตัวได้ทันจึงไม่ได้ล้มพับไปกับพื้น แถมรากบัวก็มิได้ร้อนมากและก็เพียงเปื้อนโดนปลายอาภรณ์เล็กน้อยเท่านั้น” สิ่งที่หลี่เซียวไม่ได้กล่าวจนหมดก็คือกู่‍ซิง‍อีนั้นร้อนรนขนาดไหนหลังจากทำขนมหกใส่ตัวเอง เอ่ยปากบ่นอยู่หลายประโยคว่าชุดนั้นคุณชายเป็นคนเลือกให้ตนเองกับมือแถมยังแพงมากด้วย ครั้นบ่นเสร็จก็รีบจาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 9 ถูกจับได้เสียแล้ว

    ด้วยเพราะรู้ว่ากู่‍ซิง‍อีหลับลึกขนาดไหน ว่าน‍ฟู่‍เฉิงจึงใช้เรื่องนี้ในการแอบเอาเปรียบกู่‍ซิง‍อีอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเมื่อคืนที่เขาตื่นมากลางดึกและพบว่ามีใครแอบขยับมาซุกกายแนบชิดตนอยู่ แบบนั้นมีหรือจะอดใจไหว เผลอกัดกู่‍ซิง‍อีไปหลายทีจนกระทั่งอีกฝ่ายส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเหมือนจะรู้สึกตัวเขาถึงได้แสร้งหลับลงไปตามเดิม แต่กลับไม่ได้ปล่อยคนในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ เมื่อก่อนจะแอบทำทีไรต้องหักห้ามใจตลอด แต่บัดนี้ทั้งคู่ตบแต่งกันแล้ว เขาขอเชยชมสักนิดก็คงไม่เป็นไรกระมัง แต่อาจเพราะเผลอตัวมากไป กลับกระทำการไม่แนบเนียน โดนจับได้ตั้งแต่อีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมา “คุณ‍ชาย‍ว่าน เมื่อคืนทำอะไรแปลก ‍ๆ‍ หรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงหันมองคนที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง เพราะกู่‍ซิง‍อีขี้ร้อนเป็นทุนเดิมเวลาสวมเสื้อผ้านอนมักจะมัดหลวม ‍ๆ‍ พอตื่นนอนมาทีไรเสื้อผ้าที่มัดไม่แน่นก็จะหลุดลุ่ยอย่างเช่นตอนนี้ อาภรณ์ที่เปิดกว้างเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียนบางส่วนที่มีรอยช้ำจาง ‍ๆ‍ ผมดำเงาชี้ฟูเล็กน้อย ดวงตาก็หรี่เล็กลงยังไม่ทันลืมตาได้เต็มที่ แต่กลับถามเหมือนรู้บางอย่างเช่นนี้ เล่นเอาคนที่กำลังยกน้ำชาไปให้รู้สึกร

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.2 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา

    รุ่งอรุณก่อนวันงานเทศกาลฉีเฉียว “เสี่ยว‍อี เจ้ากำลังจะไปที่ใด” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาและกำลังลุกขึ้นนั่งก็ทันได้เห็นกู่‍ซิง‍อีที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเข้าพอดี แถมดูท่าทางรีบร้อนเหมือนจะออกไปจากห้อง เมื่อถามเสร็จเขาก็เบนสายตามองดูท้องฟ้าข้างนอกหน้าต่าง ฟ้ายังไม่ทันสว่างเท่าไรนักน่าจะเลยยามเฉิน[1]มาเพียงไม่นาน ([1] ยามเฉิน คือ 07.00 – 08.59 น. ) แน่นอนว่าปกติทั้งสองคนต่างพากันตื่นเช้ากว่านี้นัก แต่เมื่อวานคุยกันแล้วว่าจะหยุดทำงานสามวัน เหตุใดกู่‍ซิง‍อีถึงลุกมาแต่งตัวคล้ายจะไปทำงานอีก ต่อให้ปกติพวกเขาจะสลับทำงานที่จวนและที่ร้านว่าน และวันนี้คือวันที่ต้องทำงานที่จวน ทว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยากให้ดูไม่มีความน่าสงสัยจึงเปลี่ยนเป็นหยุดงานทั้งหมดแทน คำกล่าวเช่นนั้นก็รวมถึงงานที่จวนก็ไม่ต้องทำมิใช่หรือ หยุดก็คือหยุด ไหนเลยกลับคาดไม่ถึงว่ากู่‍ซิง‍อีจะไม่เข้าใจสิ่งที่หมายถึงให้หยุดอยู่จวนจริง ‍ๆ‍ ครั้นพอได้เห็นอีกฝ่ายแต่งตัวก็คิดว่าจะออกไปที่ห้องทำงาน “ไปร้านขนมไฉ่ที่ข้าชอบอย่างไรเล่า นานครั้งเราถึงจะว่างในช่วงเช้าแบบนี้ รอบนี้ก็ไม่ต้องวานให้คนอื่นไปต่อแถวแทน ได้

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (4.4)

    อีกทั้งด้ายแดงที่เด่นชัดแม้อยู่ห่างไกลกันถึงเพียงนี้จากข้อมือแต่ละข้างของว่าน‍ฟู่‍เฉิงและกู่‍ซิง‍อีก็ดูคล้ายกันยิ่งนัก คนแอบมองจิตใจลนลานรีบหันกลับไปด้วยดวงตาเบิกโพลง ก้าวเดินตามหลังคนนำทางไปติด ‍ๆ‍ ด้วยท่าทางที่เร่งรีบขึ้นกว่าเดิมราวกับกำลังโดนไฟไล่เผาก้นมา สิ่งที่คนภายนอกกล่าวมาเรื่องฮูหยินของตระ‍กูล‍ว่านไม่มีที่มาที่ไปที่แน่ชัดหลอมรวมกับการกระทำของคนทั้งสองด้านหลัง และยังบวกกับก่อนหน้านี้ที่ได้พูดคุยกับกู่‍ซิง‍อีก็คล้ายว่างานทั้งหมดของตระ‍กูล‍ว่านได้ตกอยู่ในมือกู่‍ซิง‍อีแล้ว ดังนั้นทุกอย่างที่นึกขึ้นได้จึงไม่ใช่ตนคิดไปเองแน่ ‍ๆ‍ ทว่าเซี่ย‍หลี่‍จวินแม้จะได้ล่วงรู้ความลับเรื่องนี้เข้าแต่ก็ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศให้คนอื่นได้รับรู้หรอก เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก เนื่องจากตระ‍กูล‍ว่านเป็นคนเปิดเส้นทางหลายสายให้เขา ดังนั้นนอกจากแตะว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งห้ามทำให้กู่‍ซิง‍อีไม่พอใจอีกด้วย ‍!‍ ถ้าล่วงรู้อนาคตได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินมาเป็นแบบนี้เขาคงจะเห็นใจกู่‍ซิง‍อีอีกสักหน่อย บางทีตัวเขาอาจได้ผลประโยชน์มากกว่าให้บุตรสาวของตนตบแต่งกับน้องชายบุญธรรมของว่าน‍ฟู่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (3+4.)

    “ขอรับ ‍!‍” หลี่เซียวรีบร้อนรับคำก่อนจากไป ฉี‍หย่าหันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจ นางจะถูกปฏิบัติอย่างนี้จริง ‍ๆ‍ หรือ นางไม่งดงามหรือไรทำไมคุณ‍ชาย‍ว่านถึงไม่คิดจะสนใจหรือเมตตานางสักนิด แม้จะต้องยอมรับว่าสองคนตรงหน้านางรูปงามไร้ที่ติ แต่นางไม่คิดว่าตนเองจะด้อยค่าถึงเพียงนี้ ‍!‍ จังหวะนั้นเองประตูห้องบานเดิมพลันเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นนาย‍ท่าน‍เซี่ยเดินออกมา พอเห็นบ่าวในจวนของตนที่นั่งกองกับพื้นก็ฉงน ที่แท้คนที่ส่งเสียงดังเมื่อ‍ครู่ก็คือฉี‍หย่าสาวรับใช้ที่บุตรสาวทิ้งไว้ที่จวนเมื่อสองปีก่อน สตรีนางนี้แม้หน้าตาจะงดงามแต่กลับทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง มีดีแค่ดนตรีกับร่ายรำ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกับการทำงานในจวนได้เล่า ดังนั้นสำหรับเขาแล้วนางแทบไม่มีสิ่งใดให้ใช้งานได้เลย ตัวเขาแทบไม่อยากพามาทว่านางก็ดื้อดึงขอตามมาจนได้ เขายังกลัวว่าฮูหยินของตนจะเข้าใจผิดด้วยซ้ำ บัดนี้ยังจะมาสร้างความเดือดร้อนให้อีก ช่างน่าขายหน้าจริง ‍ๆ‍ เซี่ย‍หลี่‍จวินหันมองว่าน‍ฟู่‍เฉิงด้วยความระวัง กลัวว่าสิ่งที่เคยสัญญาไว้จะถูกยกเลิกเพียงเพราะบ่าวรับใช้ในจวนของตนเอง “คุณ‍ชาย‍ว่าน เป็นข้าไม่อบรมบ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status