/ วาย / ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า / บทที่ 1 (4.4) ยลโฉมครานั้น ภาพจำมิลืมเลือน

공유

บทที่ 1 (4.4) ยลโฉมครานั้น ภาพจำมิลืมเลือน

last update 최신 업데이트: 2025-01-30 18:29:48

     “ชมเกินไปแล้ว แค่คุ้นเคยเล็กน้อย ๆ เดิมข้าเป็นคนจมูกดีอยู่แล้วด้วย แต่ปกติจะได้กลิ่นขนาดนี้คงต้องทำสุราหกใส่ตัวเองกระมัง” แม่ค้าร้านน้ำตาลปั้นมองบุรุษชุดฟ้าสีพื้นที่เนื้อผ้าไม่ได้ดีมากไม่ได้หยาบมาก และค่อนข้างสะอาดสะอ้าน ดูไม่เหมือนพวกที่ชอบดื่มสุราต่างน้ำ อีกทั้งใบหน้ารูปงามที่พบยากในเมืองจางก็ดูไม่เมามายหรืออ่อนล้าอย่างกับคนที่ดื่มสุรามากจนเกินพอดีเลยสักนิด แล้วเหตุใดกลิ่นบนตัวจึงชัดเจนนัก

     “ข้าแค่ไปส่งสุราเท่านั้น” กู่ซิงอีกล่าวเรื่องจริงเพียงครึ่งส่วน ในตอนนั้นท่านน้าก็หันไปรับลูกค้าพอดีเขาจึงไม่ต้องหาเรื่องมาแก้ตัวอีก

     ครั้นพอไม่มีคนชวนคุยแล้วเขาถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนมาทำอะไรอยู่กลางตลาด

     เป็นจังหวะเดียวกับที่รถม้าสีเข้มคันหนึ่งพลันขับผ่านหน้าเขาไปพอดี คิ้วของกู่ซิงอีเลิกขึ้นเล็กน้อย รู้ได้ทันทีว่ารถคันนี้ต้องเป็นของคุณชายว่านแน่นอน เพราะตัวรถม้าออกแบบให้ค่อนข้างเตี้ยยกห่างจากพื้นไม่ถึงหนึ่งข้อศอก ดังนั้นจึงดูออกได้ง่ายว่าไม่ใช่รถม้าแบบทั่วไป และเมื่อมองตามไปก็พบว่ารถม้าได้หายเข้าไปข้างร้านว่านพอดี เลี้ยวไปในจุดอับสายตาที่คนไม่ค่อยสังเกตเห็นผ่านประตูสีน้ำตาลบานใหญ่เข้าไป

     กู่ซิงอียังคงคาบน้ำตาลปั้นรูปมังกรไว้ในปากพลางเดินไปหยุดอยู่ที่ซอยข้างร้านว่าน เมื่อมองเข้าไปกลับพบว่ามันไม่ใช่ซอยอย่างที่คิดไว้แต่แรก กลับเป็นหนึ่งในพื้นที่ของร้านแทน ด้านหน้าสุดที่เขาหยุดยืนก็คือประตูเปิดปิดบานใหญ่

     ตัวเขายืนอยู่หน้าประตูแล้วหันไปมองในมุมด้านข้างไม่ได้ยืนตัวตรงมองอย่างโจ่งแจ้ง ทำคล้ายเดินผ่านแล้วหันไปมองพอดี แต่ในตอนนั้นดันเป็นจังหวะเดียวกับที่มีคนผู้หนึ่งเอากระดานแผ่นหนึ่งมาเชื่อมไปบนรถม้า หลังจากนั้นก็มีคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นถูกพาลงมา

     ลมของสารทฤดูช่วงนี้ค่อนข้างพัดแรง ยามนี้สายลมหอบหนึ่งซึ่งไร้ที่มาที่ไปอย่างแน่ชัดก็พลันผ่านร่างของเขาไป หอบลอยเข้าไปทางบริเวณด้านในที่รถม้าของตระกูลว่านจอดอยู่

     ว่านฟู่เฉิงที่เพิ่งถูกพาลงมาจากรถม้าก็ถูกสายลมระลอกนั้นพัดผ่านร่างไปพอดี กลิ่นหอมที่ลอยมาตามสายลมและอบอวลรอบกายของเขาอยู่เพียงชั่วอึดใจก็ทำให้เขาหันมามองทางหน้าประตูทันทีด้วยความสงสัย

     กู่ซิงอีที่กำลังคาบมังกรปั้นซึ่งเหลือครึ่งตัวไว้ในปากพลันชะงัก สายตาสบประสานกับคนบนเก้าอี้รถเข็นเข้าพอดี มือนิ่งค้างไม่ได้ดึงไม้กลับคืนไป

     ในหัวพลันนึกถึงเสียงของเสี่ยวลู่และท่าทางจริงจังของนางขึ้นมา

     ‘รูปงามยิ่งนัก!’

     ไม่ผิดจากที่นางกล่าวเลยสักนิด

     ว่านฟู่เฉิงมีรูปหน้าคมคาย กลิ่นอายที่ปกคลุมรอบตัวดังหยกล้ำค่า แววตาเฉยชาเข้าขั้นเย็นเยียบราวกับปราศจากสิ่งใดที่ต้องเป็นกังวล ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ทว่าปากที่เป็นสีธรรมชาติซึ่งกำลังกดลงเล็กน้อย บวกกับคิ้วได้รูปที่มุ่นเข้าหากันกลับทำให้เจ้าตัวดูไม่พอใจกับอะไรบางสิ่งอย่างออกนอกหน้าขัดกับแววตาเฉยเมยนั้นยิ่งนัก

     กู่ซิงอีไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนผู้หนึ่งต่อให้ทำหน้าตาไม่พอใจแต่ก็งดงามได้ถึงเพียงนี้ หรืออาจเป็นเพราะรูปร่างผอมและอาภรณ์สีเขียวปักดิ้นทองทำให้เจ้าตัวดูมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเดิมเลยไม่ทำให้ผู้ได้แย้มยลรู้สึกหวาดหวั่นเท่าไรนัก

     กู่ซิงอีรั้งสติรีบหันหน้ากลับไปมองตรง ขยับเท้าเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงชายเสื้อตัวยาวที่สวมใส่พลิ้วไหวอยู่ด้านหลัง

     สายลมพลันพัดพากลิ่นที่เหลืออยู่บริเวณด้านหน้าประตูตรงเข้าไปด้านในอีกระลอกหนึ่ง

     “...” ว่านฟู่เฉิงคิ้วขมวดเข้าหากันมากขึ้นอีกนิด นึกสงสัยว่ากลิ่นหอมที่ตรึงอยู่ในใจของเขานี่คือกลิ่นอะไร และมาจากคนผู้นั้นหรือไม่

     “คุณชายไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าขอรับ” หลี่เซียวคนสนิทเพียงคนเดียวของว่านฟู่เฉิงที่ยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้รถเข็นก็ถามด้วยความระมัดระวัง

     ว่านฟู่เฉิงกลับส่ายหน้าแผ่วเบาแล้วยกมือขึ้นให้หลี่เซียวพาตัวเองเข้าไปด้านใน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ บทส่งท้าย ตราบจนนิรันดร์

    ค่ำคืนวันนี้ไร้ดวงจันทร์คอยส่องแสงอย่างเคย ทางเบื้องหน้ามืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน แต่กู่‍ซิง‍อีกลับไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะยามนี้เขาได้ขี่อยู่บนหลังผู้อื่น ลำตัวแนบชิดกับคนที่กำลังเดินอยู่จนไร้ช่องว่างระหว่างกาย รับรู้ได้ถึงแผ่นหลังที่สั่นไหวเบา ‍ๆ‍ ทำให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนอยู่กับตนเสมอ กู่‍ซิง‍อีกระชับอ้อมแขนที่เกี่ยวคอคนออกแรงอยู่เพิ่มขึ้นอีกนิด “อีกนานหรือไม่” เขาเอ่ยถามออกไปเพราะรู้สึกว่าตนถูกแบกมาไกลมากแล้ว กระนั้นว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเดิน “เสี่ยว‍อี เหนื่อยแล้วหรือ” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเดินช้าลงและย่ำเท้าด้วยความเบา ด้วยเกรงว่าตนอาจจะเดินเร็วไปจนตัวสะเทือนทำให้คนที่อยู่บนหลังรู้สึกไม่สบายตัว “ข้าจะเหนื่อยได้อย่างไร ท่านเป็นคนแบกข้าอยู่นะ” กู่‍ซิง‍อีซบคางลงที่ไหล่ของว่าน‍ฟู่‍เฉิง ใจจริงแล้วเขาอยากให้เวลาหยุดอยู่เช่นนี้ตลอดไปเลยต่างหาก ถึงได้กำลังกลัวว่าจุดหมายปลายทางจะมาถึงเร็วเกินไป กระนั้นก็ยังอดห่วงว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงจะหนักอยู่ดีเลยไม่ได้บอกความในใจออกไป กู่‍ซิง‍อีเพิ่งได้รู้ว่าเมื่อก่อนตอนที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงถูกเขาแบกขึ้นบนหลังเดินไ

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 10 กาลก่อนท่านเป็นคนเอ่ย ว่าข้าไร้มารยาท

    หลี่เซียวที่กำลังเดินอยู่ในจวนก็พบกับคุณชายของตนกำลังเดินมาหาด้วยท่าทางเร่งรีบ เขาไม่ได้เดินไปหาอย่างที่ควรจะเป็น กลับรอคุณชายเดินเข้ามาหาตนที่หยุดรออยู่ก่อนแล้วแทน พลางคิดในใจว่า เอาอีกแล้ว ‍!‍ “เห็นเสี่ยว‍อีของข้าหรือไม่” นั่นไง จะมีสิ่งใดที่เขาเดาผิดไปจากท่าทางเร่งรีบของคุณชายได้อีก ‍!‍ “เมื่อ‍ครู่พอคุณชายกู่เตรียมรากบัวต้มน้ำตาลอยู่ในครัวเสร็จแล้วคิดจะถือนำไปให้คุณชายด้วยตัวเอง แต่ไม่ทันระวังเผลอสะดุดจนของในมือหกรดตัวเอง ตอนนี้น่าจะกำลังไปเปลี่ยนชุดขอรับ” “สะดุดหรือ ‍!‍ แล้วเสี่ยว‍อีบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงพูดค่อนข้างเร็วอย่างหาได้อยาก แทบจะยืนไม่ติดที่อยู่แล้ว ตอนนี้ร่างกายอยู่ตรงนี้แต่หัวใจกลับลอยไปไกลแล้ว “ไม่เป็นอะไรมากขอรับ คุณชายกู่ทรงตัวได้ทันจึงไม่ได้ล้มพับไปกับพื้น แถมรากบัวก็มิได้ร้อนมากและก็เพียงเปื้อนโดนปลายอาภรณ์เล็กน้อยเท่านั้น” สิ่งที่หลี่เซียวไม่ได้กล่าวจนหมดก็คือกู่‍ซิง‍อีนั้นร้อนรนขนาดไหนหลังจากทำขนมหกใส่ตัวเอง เอ่ยปากบ่นอยู่หลายประโยคว่าชุดนั้นคุณชายเป็นคนเลือกให้ตนเองกับมือแถมยังแพงมากด้วย ครั้นบ่นเสร็จก็รีบจาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 9 ถูกจับได้เสียแล้ว

    ด้วยเพราะรู้ว่ากู่‍ซิง‍อีหลับลึกขนาดไหน ว่าน‍ฟู่‍เฉิงจึงใช้เรื่องนี้ในการแอบเอาเปรียบกู่‍ซิง‍อีอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเมื่อคืนที่เขาตื่นมากลางดึกและพบว่ามีใครแอบขยับมาซุกกายแนบชิดตนอยู่ แบบนั้นมีหรือจะอดใจไหว เผลอกัดกู่‍ซิง‍อีไปหลายทีจนกระทั่งอีกฝ่ายส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเหมือนจะรู้สึกตัวเขาถึงได้แสร้งหลับลงไปตามเดิม แต่กลับไม่ได้ปล่อยคนในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ เมื่อก่อนจะแอบทำทีไรต้องหักห้ามใจตลอด แต่บัดนี้ทั้งคู่ตบแต่งกันแล้ว เขาขอเชยชมสักนิดก็คงไม่เป็นไรกระมัง แต่อาจเพราะเผลอตัวมากไป กลับกระทำการไม่แนบเนียน โดนจับได้ตั้งแต่อีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมา “คุณ‍ชาย‍ว่าน เมื่อคืนทำอะไรแปลก ‍ๆ‍ หรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงหันมองคนที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง เพราะกู่‍ซิง‍อีขี้ร้อนเป็นทุนเดิมเวลาสวมเสื้อผ้านอนมักจะมัดหลวม ‍ๆ‍ พอตื่นนอนมาทีไรเสื้อผ้าที่มัดไม่แน่นก็จะหลุดลุ่ยอย่างเช่นตอนนี้ อาภรณ์ที่เปิดกว้างเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียนบางส่วนที่มีรอยช้ำจาง ‍ๆ‍ ผมดำเงาชี้ฟูเล็กน้อย ดวงตาก็หรี่เล็กลงยังไม่ทันลืมตาได้เต็มที่ แต่กลับถามเหมือนรู้บางอย่างเช่นนี้ เล่นเอาคนที่กำลังยกน้ำชาไปให้รู้สึกร

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.2 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา

    รุ่งอรุณก่อนวันงานเทศกาลฉีเฉียว “เสี่ยว‍อี เจ้ากำลังจะไปที่ใด” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาและกำลังลุกขึ้นนั่งก็ทันได้เห็นกู่‍ซิง‍อีที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเข้าพอดี แถมดูท่าทางรีบร้อนเหมือนจะออกไปจากห้อง เมื่อถามเสร็จเขาก็เบนสายตามองดูท้องฟ้าข้างนอกหน้าต่าง ฟ้ายังไม่ทันสว่างเท่าไรนักน่าจะเลยยามเฉิน[1]มาเพียงไม่นาน ([1] ยามเฉิน คือ 07.00 – 08.59 น. ) แน่นอนว่าปกติทั้งสองคนต่างพากันตื่นเช้ากว่านี้นัก แต่เมื่อวานคุยกันแล้วว่าจะหยุดทำงานสามวัน เหตุใดกู่‍ซิง‍อีถึงลุกมาแต่งตัวคล้ายจะไปทำงานอีก ต่อให้ปกติพวกเขาจะสลับทำงานที่จวนและที่ร้านว่าน และวันนี้คือวันที่ต้องทำงานที่จวน ทว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยากให้ดูไม่มีความน่าสงสัยจึงเปลี่ยนเป็นหยุดงานทั้งหมดแทน คำกล่าวเช่นนั้นก็รวมถึงงานที่จวนก็ไม่ต้องทำมิใช่หรือ หยุดก็คือหยุด ไหนเลยกลับคาดไม่ถึงว่ากู่‍ซิง‍อีจะไม่เข้าใจสิ่งที่หมายถึงให้หยุดอยู่จวนจริง ‍ๆ‍ ครั้นพอได้เห็นอีกฝ่ายแต่งตัวก็คิดว่าจะออกไปที่ห้องทำงาน “ไปร้านขนมไฉ่ที่ข้าชอบอย่างไรเล่า นานครั้งเราถึงจะว่างในช่วงเช้าแบบนี้ รอบนี้ก็ไม่ต้องวานให้คนอื่นไปต่อแถวแทน ได้

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (4.4)

    อีกทั้งด้ายแดงที่เด่นชัดแม้อยู่ห่างไกลกันถึงเพียงนี้จากข้อมือแต่ละข้างของว่าน‍ฟู่‍เฉิงและกู่‍ซิง‍อีก็ดูคล้ายกันยิ่งนัก คนแอบมองจิตใจลนลานรีบหันกลับไปด้วยดวงตาเบิกโพลง ก้าวเดินตามหลังคนนำทางไปติด ‍ๆ‍ ด้วยท่าทางที่เร่งรีบขึ้นกว่าเดิมราวกับกำลังโดนไฟไล่เผาก้นมา สิ่งที่คนภายนอกกล่าวมาเรื่องฮูหยินของตระ‍กูล‍ว่านไม่มีที่มาที่ไปที่แน่ชัดหลอมรวมกับการกระทำของคนทั้งสองด้านหลัง และยังบวกกับก่อนหน้านี้ที่ได้พูดคุยกับกู่‍ซิง‍อีก็คล้ายว่างานทั้งหมดของตระ‍กูล‍ว่านได้ตกอยู่ในมือกู่‍ซิง‍อีแล้ว ดังนั้นทุกอย่างที่นึกขึ้นได้จึงไม่ใช่ตนคิดไปเองแน่ ‍ๆ‍ ทว่าเซี่ย‍หลี่‍จวินแม้จะได้ล่วงรู้ความลับเรื่องนี้เข้าแต่ก็ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศให้คนอื่นได้รับรู้หรอก เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก เนื่องจากตระ‍กูล‍ว่านเป็นคนเปิดเส้นทางหลายสายให้เขา ดังนั้นนอกจากแตะว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งห้ามทำให้กู่‍ซิง‍อีไม่พอใจอีกด้วย ‍!‍ ถ้าล่วงรู้อนาคตได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินมาเป็นแบบนี้เขาคงจะเห็นใจกู่‍ซิง‍อีอีกสักหน่อย บางทีตัวเขาอาจได้ผลประโยชน์มากกว่าให้บุตรสาวของตนตบแต่งกับน้องชายบุญธรรมของว่าน‍ฟู่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (3+4.)

    “ขอรับ ‍!‍” หลี่เซียวรีบร้อนรับคำก่อนจากไป ฉี‍หย่าหันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจ นางจะถูกปฏิบัติอย่างนี้จริง ‍ๆ‍ หรือ นางไม่งดงามหรือไรทำไมคุณ‍ชาย‍ว่านถึงไม่คิดจะสนใจหรือเมตตานางสักนิด แม้จะต้องยอมรับว่าสองคนตรงหน้านางรูปงามไร้ที่ติ แต่นางไม่คิดว่าตนเองจะด้อยค่าถึงเพียงนี้ ‍!‍ จังหวะนั้นเองประตูห้องบานเดิมพลันเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นนาย‍ท่าน‍เซี่ยเดินออกมา พอเห็นบ่าวในจวนของตนที่นั่งกองกับพื้นก็ฉงน ที่แท้คนที่ส่งเสียงดังเมื่อ‍ครู่ก็คือฉี‍หย่าสาวรับใช้ที่บุตรสาวทิ้งไว้ที่จวนเมื่อสองปีก่อน สตรีนางนี้แม้หน้าตาจะงดงามแต่กลับทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง มีดีแค่ดนตรีกับร่ายรำ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกับการทำงานในจวนได้เล่า ดังนั้นสำหรับเขาแล้วนางแทบไม่มีสิ่งใดให้ใช้งานได้เลย ตัวเขาแทบไม่อยากพามาทว่านางก็ดื้อดึงขอตามมาจนได้ เขายังกลัวว่าฮูหยินของตนจะเข้าใจผิดด้วยซ้ำ บัดนี้ยังจะมาสร้างความเดือดร้อนให้อีก ช่างน่าขายหน้าจริง ‍ๆ‍ เซี่ย‍หลี่‍จวินหันมองว่าน‍ฟู่‍เฉิงด้วยความระวัง กลัวว่าสิ่งที่เคยสัญญาไว้จะถูกยกเลิกเพียงเพราะบ่าวรับใช้ในจวนของตนเอง “คุณ‍ชาย‍ว่าน เป็นข้าไม่อบรมบ่

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status