Beranda / วาย / ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า / บทที่ 4 (1.2) ใครบางคนที่พบเจอมิห่าง

Share

บทที่ 4 (1.2) ใครบางคนที่พบเจอมิห่าง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-24 14:42:29

     สองสามวันผ่านไปก็ไร้วี่แววว่าฉีหย่าจะทำงานสำเร็จ ในตอนนั้นร้านว่านรับสมัครบ่าวชายไปทำงานที่จวนตระกูลว่านพอดี กู่ซิงอีจึงรีบไปเสนอหน้าก่อนใคร แถมด้วยความฉลาดพูดของเขาก็ทำให้ได้งานในทันที

     กู่ซิงอีพอย้ายเข้ามาในจวนก็ส่งข่าวให้ฉีหย่าหาเรื่องมาที่จวนตระกูลว่านให้ได้ในสองสามวันนี้ เพราะเขาได้ข่าวว่าทางการสั่งห้ามออกจากบ้านเป็นเวลาเจ็ดวันหากเลยยามซวี [1] ไปแล้ว ดังนั้นจะต้องหาเรื่องให้นางรั้งอยู่จนถึงยามนั้นเพื่อให้นางพักที่จวนตระกูลว่านให้ได้ ([1] ยามซวี คือช่วงเวลา 19.00-20.59 น.)

     ความจริงถ้ามีเวลามากกว่านี้กู่ซิงอีคิดว่าคงให้นางค่อย ๆ เอาชนะใจคุณชายว่าน แต่เพราะระยะเวลากระชั้นชิดเกินไป ต้องรีบหาทางให้ทั้งคู่ได้เจอกันก่อน

     ตกดึกคืนนั้นกู่ซิงอีกลับได้รับหน้าที่เพิ่มเติมคือต้องไปเดินตรวจตรารอบจวนแทนคนเก่าที่เกิดหกล้มจนเดินไม่ได้ขึ้นมากะทันหัน

     จวนตระกูลว่านค่อนข้างใหญ่โต จึงแบ่งการเดินตรวจเวรออกเป็นสองฝั่ง ในแต่ละรอบจะมีคนเดินตรวจตราทีละสองคน

     กู่ซิงอีแต่เดิมก็เป็นคนมีความจำเป็นเลิศ บ่าวชายอีกคนที่ทำงานในวันนี้ด้วยกันบอกเส้นทางเพียงครั้งเดียวเขาก็รู้ว่าตนต้องไปทางไหนบ้าง แถมก่อนหน้านี้ก็เคยแอบมาปีนดูจวนตระกูลว่านอยู่ครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นจึงจำทางได้อย่างแม่นยำ

     แต่ที่ไม่คาดคิดก็คือว่าส่วนที่ตนต้องไปดูแลคือบริเวณที่มีเรือนของคุณชายว่านรวมอยู่ด้วย และสิ่งที่บ่าวชายคนนั้นเตือนมาก็มีเพียงว่า

     ‘หากเจอคุณชายให้ระวังท่าทีของเจ้าให้ดี อย่าไปมองคุณชายมากนัก ยิ่งตรงขาด้วยแล้วยิ่งอย่าไปมอง คุณชายดูสุขุมเยือกเย็นก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าใกล้ได้ง่าย และก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ก็แทบไม่มีใครรับมือไหว หากเจอก็แค่ทำความเคารพแล้วทำหน้าที่ของเจ้าต่อไป ถ้าคุณชายเรียกใช้ค่อยทำตามที่เขาสั่ง อย่าไปเสนอหน้าประจบประแจง’

     ความจริงแล้วมีอย่างหนึ่งที่บ่าวชายบอกไม่หมด เรื่องที่ว่าก็คือส่วนที่กู่ซิงอีต้องไปดูแลนั้นเป็นอีกฝั่งหนึ่งแต่เขาสลับเองโดยไม่ได้บอก ก็คุณชายว่านน่ากลัวขนาดนั้นแม้นเขาจะเจอคุณชายบ่อยครั้งก็ไม่คุ้นชินเสียที ดียิ่งนักที่วันนี้ได้เด็กใหม่มาทำงาน จึงถือโอกาสเปลี่ยนตำแหน่งการเดินตรวจตราเสียเลย

     กู่ซิงอีพอได้ฟังก็เพียงรับคำ

     ระหว่างเดินสำรวจจวนก็คิดไปด้วยถึงคำที่บ่าวชายเตือน เรื่องที่ว่า ‘อย่ามองขาของคุณชายว่าน ก่อนคุณชายว่านจะมาถึงจุดที่สุขุมเยือกเย็นขนาดนี้ได้ก็ไม่มีใครรับมือไหว’

     ช่วงที่ผ่านมาเขาก็สืบข่าวมาบ้างแล้ว คุณชายว่านไม่ได้พิการตั้งแต่กำเนิด แต่ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริง ดังนั้นการที่คนผู้หนึ่งเคยเดินได้แต่กลับต้องมาพิการก็เป็นเรื่องปกติที่จะทำใจยอมรับได้ยาก

     อีกข้อหนึ่งที่กู่ซิงอีจำขึ้นใจก็คือเรื่องอย่าไปเสนอหน้าให้มากนัก ...หรือว่าแม่นางฉีหย่าจะแสดงเกินหน้าเกินตากว่าคนที่จะมาของานทำออกไปกันแน่นะ นางจึงถูกมองออกตั้งแต่แรก มิน่าคุณชายว่านถึงไม่สนใจแม่นางฉีหย่าเลยสักนิด

     ทว่าระหว่างนั้นความคิดของกู่ซิงอีก็ชะงักลงไปเพราะได้ยินเสียงบางอย่างตกลงกระทบพื้นอย่างแรง

     เขารีบเดินไปดูจุดที่คิดว่าเสียงน่าจะมาจากทางนั้น ครั้นเมื่อยกโคมไฟในมือส่องไปก็ได้เห็นเก้าอี้ตัวหนึ่งที่มีล้อติดอยู่ด้วยล้มคว่ำไปข้างหน้า

     เอ๊ะ หรือว่า...

     เท้าไวเท่าความคิด กู่ซิงอีก้าวเพียงสามก้าวก็ถึงลานกว้างข้างต้นพลับ พอมาถึงจึงเพิ่งจะเห็นคนที่นั่งกองอยู่กับพื้นตรงหน้าเก้าอี้รถเข็นซึ่งถูกบดบังไปในตอนแรก

     “คุณชาย...” เขากล่าวเรียกเสียงเบา

     ว่านฟู่เฉิงกัดฟันแน่นไม่พูดไม่จา ไม่คิดว่าตนเองจะเลื่อนล้อไปโดนหินจนติดขยับไปไหนไม่ได้ พอขยับไม่ได้แล้วเผลอออกแรงมากไปเลยคว่ำไปด้านหน้าทั้งคนทั้งเก้าอี้ หากเขาไม่ดื้อรั้นแล้วเรียกหลี่เซียวมาด้วยกันก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ หรือหากเมื่อครู่รู้ว่ากำลังแขนของตนเลื่อนรถเข็นออกเองไม่ได้ก็ควรจะตะโกนเรียกหาหลี่เซียวเสียเดียวนั้น

     กระทั่งยามที่ล้มแล้วก็ไม่กล้าส่งเสียงร้องเพราะกลัวเสียหน้า ใครจะไปรู้ว่าบ่าวในจวนจะมาเห็นเข้าพอดี ความอึดอัดผสมปนเปเข้ามาในความรู้สึก แต่ในตอนที่กำมือแน่นเพื่อระบายอารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจอยู่กลับพบว่าเก้าอี้รถเข็นของตนถูกยกขึ้นไปแล้ว จากนั้นร่างของเขาก็โดนอุ้มขึ้นมาในภายหลัง

     ว่านฟู่เฉิงเบิกตาโตตกใจ เกร็งไปทั้งร่าง มองเห็นพื้นลอยห่างออกไปจากตัวเอง ยังไม่ทันถูกสายลมโอบล้อมอย่างเต็มที่ ตัวเขาก็ถูกวางลงบนเก้าอี้รถเข็นของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     กลิ่นหอมที่มีความเปรี้ยวเล็กน้อยกำจายอยู่รอบตัวก่อนจะผละออกไปในทันที ต่อมาก็พบว่าคนที่อุ้มเขาขึ้นมากำลังก้มลงไปหยิบผ้าห่มที่ทำจากผ้าไหมสีฟ้าของเขาขึ้นมาสลัดเศษฝุ่นออกแล้วคลุมขาให้เขาตามเดิม

     การกระทำนั้นรวดเร็วมากนัก ไม่ทันให้เขาได้พูดสิ่งใดหรือได้มองว่าคนผู้นั้นแสดงสีหน้าดูแคลนตนหรือไม่ บ่าวชายก็หยิบโคมไฟที่วางกับพื้นขึ้นมาแล้วจากไป

     “เดี๋ยวก่อน” เขาเอ่ยเรียกไว้

     ความจริงแล้วกู่ซิงอีก็ไม่อยากพบเจ้านายของตนมากนักเพราะกลัวอีกฝ่ายจะจำหน้าได้ แต่พอถูกเรียกก็เลี่ยงไม่ได้จำต้องหันกลับไปทว่าเขาก็ก้มหน้าลงต่ำไว้ตลอด แถมยื่นโคมไฟออกห่างจากตัวเองอีกเล็กน้อย ดึงผ้าคาดที่หน้าผากลงมาต่ำกว่าเดิม แม้นรู้ว่าคงไม่ได้ช่วยพรางใบหน้าตนเองเท่าไรนักก็ตาม “คุณชายมีสิ่งใดให้บ่าวรับใช้ เชิญกล่าวมาได้เลยขอรับ”

     “ล้อรถคงใช้งานไม่ได้แล้ว” ว่านฟู่เฉิงกล่าวแค่นั้น ไม่ได้บอกให้อีกฝ่ายพาตนกลับไป ด้วยคิดว่าบ่าวตรวจเวรคนนี้คงเข้าใจว่าต้องทำอย่างไร ที่เขาไม่อยากกล่าวมากความก็เพราะรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่ต้องพึ่งพาคนอื่นอีกแล้ว ความจริงก็เสียหน้าตั้งแต่มีคนมาเจอว่าตนเองล้มลงไปกองกับพื้นแล้วนั่นแหละ

     ในใจของเขายังมีกองไฟเล็ก ๆ ปะทุอยู่ตลอดเวลา เป็นความรู้สึกอึดอัดที่รู้ว่าบ่าวคนนี้ไม่ได้เป็นผู้กระทำแต่ตนก็ไม่อาจละทิ้งความรู้สึกโกรธออกไปได้เลย เพราะเมื่อครู่แทนที่เขาจะถูกพยุงขึ้นมาแต่ดันโดนอุ้มอย่างกับสตรีเสียอย่างนั้น จึงยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

     ทว่าว่านฟู่เฉิงยามนี้แม้โกรธมากเพียงไรสีหน้าก็ยังคงราบเรียบเยือกเย็น มีเพียงหัวคิ้วที่ชนกันเล็กน้อยเท่านั้นที่พอจะทำให้คนมองออกว่ากำลังอารมณ์ไม่ดี

     กู่ซิงอีรับคำ “ขอรับ” แล้วเดินกลับมาที่เดิม เขาวางโคมไฟลงข้างตัวก่อนจะย่อตัวลงมองล้อเก้าอี้รถเข็น พบว่าล้อหลุดออกมาจากข้อต่อจริง ๆ จึงยกมือขึ้นแล้วออกแรงทุบข้อต่อกลับเข้าไปดัง ‘ปั้ก’ เสร็จเรียบร้อยทันที “เรียบร้อยแล้วขอรับ” กู่ซิงอีกล่าวเสียงเรียบ


     ตำนานเมียออกผัวไม่เกินจริง 5555

     ละตัวพ่อก็ไม่ชอบให้ใครมาโดนตัว คนน้องก็อุ้มลอย วาง จบปิ้ง! ไม่ทันได้ด่า ไม่ทันได้หยุบหัว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ บทส่งท้าย ตราบจนนิรันดร์

    ค่ำคืนวันนี้ไร้ดวงจันทร์คอยส่องแสงอย่างเคย ทางเบื้องหน้ามืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน แต่กู่‍ซิง‍อีกลับไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะยามนี้เขาได้ขี่อยู่บนหลังผู้อื่น ลำตัวแนบชิดกับคนที่กำลังเดินอยู่จนไร้ช่องว่างระหว่างกาย รับรู้ได้ถึงแผ่นหลังที่สั่นไหวเบา ‍ๆ‍ ทำให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนอยู่กับตนเสมอ กู่‍ซิง‍อีกระชับอ้อมแขนที่เกี่ยวคอคนออกแรงอยู่เพิ่มขึ้นอีกนิด “อีกนานหรือไม่” เขาเอ่ยถามออกไปเพราะรู้สึกว่าตนถูกแบกมาไกลมากแล้ว กระนั้นว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเดิน “เสี่ยว‍อี เหนื่อยแล้วหรือ” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเดินช้าลงและย่ำเท้าด้วยความเบา ด้วยเกรงว่าตนอาจจะเดินเร็วไปจนตัวสะเทือนทำให้คนที่อยู่บนหลังรู้สึกไม่สบายตัว “ข้าจะเหนื่อยได้อย่างไร ท่านเป็นคนแบกข้าอยู่นะ” กู่‍ซิง‍อีซบคางลงที่ไหล่ของว่าน‍ฟู่‍เฉิง ใจจริงแล้วเขาอยากให้เวลาหยุดอยู่เช่นนี้ตลอดไปเลยต่างหาก ถึงได้กำลังกลัวว่าจุดหมายปลายทางจะมาถึงเร็วเกินไป กระนั้นก็ยังอดห่วงว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงจะหนักอยู่ดีเลยไม่ได้บอกความในใจออกไป กู่‍ซิง‍อีเพิ่งได้รู้ว่าเมื่อก่อนตอนที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงถูกเขาแบกขึ้นบนหลังเดินไ

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 10 กาลก่อนท่านเป็นคนเอ่ย ว่าข้าไร้มารยาท

    หลี่เซียวที่กำลังเดินอยู่ในจวนก็พบกับคุณชายของตนกำลังเดินมาหาด้วยท่าทางเร่งรีบ เขาไม่ได้เดินไปหาอย่างที่ควรจะเป็น กลับรอคุณชายเดินเข้ามาหาตนที่หยุดรออยู่ก่อนแล้วแทน พลางคิดในใจว่า เอาอีกแล้ว ‍!‍ “เห็นเสี่ยว‍อีของข้าหรือไม่” นั่นไง จะมีสิ่งใดที่เขาเดาผิดไปจากท่าทางเร่งรีบของคุณชายได้อีก ‍!‍ “เมื่อ‍ครู่พอคุณชายกู่เตรียมรากบัวต้มน้ำตาลอยู่ในครัวเสร็จแล้วคิดจะถือนำไปให้คุณชายด้วยตัวเอง แต่ไม่ทันระวังเผลอสะดุดจนของในมือหกรดตัวเอง ตอนนี้น่าจะกำลังไปเปลี่ยนชุดขอรับ” “สะดุดหรือ ‍!‍ แล้วเสี่ยว‍อีบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงพูดค่อนข้างเร็วอย่างหาได้อยาก แทบจะยืนไม่ติดที่อยู่แล้ว ตอนนี้ร่างกายอยู่ตรงนี้แต่หัวใจกลับลอยไปไกลแล้ว “ไม่เป็นอะไรมากขอรับ คุณชายกู่ทรงตัวได้ทันจึงไม่ได้ล้มพับไปกับพื้น แถมรากบัวก็มิได้ร้อนมากและก็เพียงเปื้อนโดนปลายอาภรณ์เล็กน้อยเท่านั้น” สิ่งที่หลี่เซียวไม่ได้กล่าวจนหมดก็คือกู่‍ซิง‍อีนั้นร้อนรนขนาดไหนหลังจากทำขนมหกใส่ตัวเอง เอ่ยปากบ่นอยู่หลายประโยคว่าชุดนั้นคุณชายเป็นคนเลือกให้ตนเองกับมือแถมยังแพงมากด้วย ครั้นบ่นเสร็จก็รีบจาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 9 ถูกจับได้เสียแล้ว

    ด้วยเพราะรู้ว่ากู่‍ซิง‍อีหลับลึกขนาดไหน ว่าน‍ฟู่‍เฉิงจึงใช้เรื่องนี้ในการแอบเอาเปรียบกู่‍ซิง‍อีอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเมื่อคืนที่เขาตื่นมากลางดึกและพบว่ามีใครแอบขยับมาซุกกายแนบชิดตนอยู่ แบบนั้นมีหรือจะอดใจไหว เผลอกัดกู่‍ซิง‍อีไปหลายทีจนกระทั่งอีกฝ่ายส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเหมือนจะรู้สึกตัวเขาถึงได้แสร้งหลับลงไปตามเดิม แต่กลับไม่ได้ปล่อยคนในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ เมื่อก่อนจะแอบทำทีไรต้องหักห้ามใจตลอด แต่บัดนี้ทั้งคู่ตบแต่งกันแล้ว เขาขอเชยชมสักนิดก็คงไม่เป็นไรกระมัง แต่อาจเพราะเผลอตัวมากไป กลับกระทำการไม่แนบเนียน โดนจับได้ตั้งแต่อีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมา “คุณ‍ชาย‍ว่าน เมื่อคืนทำอะไรแปลก ‍ๆ‍ หรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงหันมองคนที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง เพราะกู่‍ซิง‍อีขี้ร้อนเป็นทุนเดิมเวลาสวมเสื้อผ้านอนมักจะมัดหลวม ‍ๆ‍ พอตื่นนอนมาทีไรเสื้อผ้าที่มัดไม่แน่นก็จะหลุดลุ่ยอย่างเช่นตอนนี้ อาภรณ์ที่เปิดกว้างเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียนบางส่วนที่มีรอยช้ำจาง ‍ๆ‍ ผมดำเงาชี้ฟูเล็กน้อย ดวงตาก็หรี่เล็กลงยังไม่ทันลืมตาได้เต็มที่ แต่กลับถามเหมือนรู้บางอย่างเช่นนี้ เล่นเอาคนที่กำลังยกน้ำชาไปให้รู้สึกร

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.2 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา

    รุ่งอรุณก่อนวันงานเทศกาลฉีเฉียว “เสี่ยว‍อี เจ้ากำลังจะไปที่ใด” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาและกำลังลุกขึ้นนั่งก็ทันได้เห็นกู่‍ซิง‍อีที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเข้าพอดี แถมดูท่าทางรีบร้อนเหมือนจะออกไปจากห้อง เมื่อถามเสร็จเขาก็เบนสายตามองดูท้องฟ้าข้างนอกหน้าต่าง ฟ้ายังไม่ทันสว่างเท่าไรนักน่าจะเลยยามเฉิน[1]มาเพียงไม่นาน ([1] ยามเฉิน คือ 07.00 – 08.59 น. ) แน่นอนว่าปกติทั้งสองคนต่างพากันตื่นเช้ากว่านี้นัก แต่เมื่อวานคุยกันแล้วว่าจะหยุดทำงานสามวัน เหตุใดกู่‍ซิง‍อีถึงลุกมาแต่งตัวคล้ายจะไปทำงานอีก ต่อให้ปกติพวกเขาจะสลับทำงานที่จวนและที่ร้านว่าน และวันนี้คือวันที่ต้องทำงานที่จวน ทว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยากให้ดูไม่มีความน่าสงสัยจึงเปลี่ยนเป็นหยุดงานทั้งหมดแทน คำกล่าวเช่นนั้นก็รวมถึงงานที่จวนก็ไม่ต้องทำมิใช่หรือ หยุดก็คือหยุด ไหนเลยกลับคาดไม่ถึงว่ากู่‍ซิง‍อีจะไม่เข้าใจสิ่งที่หมายถึงให้หยุดอยู่จวนจริง ‍ๆ‍ ครั้นพอได้เห็นอีกฝ่ายแต่งตัวก็คิดว่าจะออกไปที่ห้องทำงาน “ไปร้านขนมไฉ่ที่ข้าชอบอย่างไรเล่า นานครั้งเราถึงจะว่างในช่วงเช้าแบบนี้ รอบนี้ก็ไม่ต้องวานให้คนอื่นไปต่อแถวแทน ได้

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (4.4)

    อีกทั้งด้ายแดงที่เด่นชัดแม้อยู่ห่างไกลกันถึงเพียงนี้จากข้อมือแต่ละข้างของว่าน‍ฟู่‍เฉิงและกู่‍ซิง‍อีก็ดูคล้ายกันยิ่งนัก คนแอบมองจิตใจลนลานรีบหันกลับไปด้วยดวงตาเบิกโพลง ก้าวเดินตามหลังคนนำทางไปติด ‍ๆ‍ ด้วยท่าทางที่เร่งรีบขึ้นกว่าเดิมราวกับกำลังโดนไฟไล่เผาก้นมา สิ่งที่คนภายนอกกล่าวมาเรื่องฮูหยินของตระ‍กูล‍ว่านไม่มีที่มาที่ไปที่แน่ชัดหลอมรวมกับการกระทำของคนทั้งสองด้านหลัง และยังบวกกับก่อนหน้านี้ที่ได้พูดคุยกับกู่‍ซิง‍อีก็คล้ายว่างานทั้งหมดของตระ‍กูล‍ว่านได้ตกอยู่ในมือกู่‍ซิง‍อีแล้ว ดังนั้นทุกอย่างที่นึกขึ้นได้จึงไม่ใช่ตนคิดไปเองแน่ ‍ๆ‍ ทว่าเซี่ย‍หลี่‍จวินแม้จะได้ล่วงรู้ความลับเรื่องนี้เข้าแต่ก็ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศให้คนอื่นได้รับรู้หรอก เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก เนื่องจากตระ‍กูล‍ว่านเป็นคนเปิดเส้นทางหลายสายให้เขา ดังนั้นนอกจากแตะว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งห้ามทำให้กู่‍ซิง‍อีไม่พอใจอีกด้วย ‍!‍ ถ้าล่วงรู้อนาคตได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินมาเป็นแบบนี้เขาคงจะเห็นใจกู่‍ซิง‍อีอีกสักหน่อย บางทีตัวเขาอาจได้ผลประโยชน์มากกว่าให้บุตรสาวของตนตบแต่งกับน้องชายบุญธรรมของว่าน‍ฟู่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (3+4.)

    “ขอรับ ‍!‍” หลี่เซียวรีบร้อนรับคำก่อนจากไป ฉี‍หย่าหันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจ นางจะถูกปฏิบัติอย่างนี้จริง ‍ๆ‍ หรือ นางไม่งดงามหรือไรทำไมคุณ‍ชาย‍ว่านถึงไม่คิดจะสนใจหรือเมตตานางสักนิด แม้จะต้องยอมรับว่าสองคนตรงหน้านางรูปงามไร้ที่ติ แต่นางไม่คิดว่าตนเองจะด้อยค่าถึงเพียงนี้ ‍!‍ จังหวะนั้นเองประตูห้องบานเดิมพลันเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นนาย‍ท่าน‍เซี่ยเดินออกมา พอเห็นบ่าวในจวนของตนที่นั่งกองกับพื้นก็ฉงน ที่แท้คนที่ส่งเสียงดังเมื่อ‍ครู่ก็คือฉี‍หย่าสาวรับใช้ที่บุตรสาวทิ้งไว้ที่จวนเมื่อสองปีก่อน สตรีนางนี้แม้หน้าตาจะงดงามแต่กลับทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง มีดีแค่ดนตรีกับร่ายรำ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกับการทำงานในจวนได้เล่า ดังนั้นสำหรับเขาแล้วนางแทบไม่มีสิ่งใดให้ใช้งานได้เลย ตัวเขาแทบไม่อยากพามาทว่านางก็ดื้อดึงขอตามมาจนได้ เขายังกลัวว่าฮูหยินของตนจะเข้าใจผิดด้วยซ้ำ บัดนี้ยังจะมาสร้างความเดือดร้อนให้อีก ช่างน่าขายหน้าจริง ‍ๆ‍ เซี่ย‍หลี่‍จวินหันมองว่าน‍ฟู่‍เฉิงด้วยความระวัง กลัวว่าสิ่งที่เคยสัญญาไว้จะถูกยกเลิกเพียงเพราะบ่าวรับใช้ในจวนของตนเอง “คุณ‍ชาย‍ว่าน เป็นข้าไม่อบรมบ่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status