โรงเรียนนานาชาติ
เวลาผ่านมาเกือบ 3 เดือน
“เป็นอะไรนั่งยิ้มอยู่คนเดียวยัยใบตอง!” เพื่อนสนิทสองคนของใบตองเดินเข้ามาตบบ่าของเธอให้รู้สึกตัวจากอาการนั่งยิ้มอยู่คนเดียว
“ไม่มีอะไร” ใบตองไม่ยอมตอบคำถามเพื่อนสนิท
“ไม่เชื่อบอกมาซะดีๆ เลยนะใบตอง” พอโดนเพื่อนสนิทตื้อไม่หยุดทำให้ใบตองยอมคายความลับของตัวเองให้เพื่อนฟัง
“กรี๊ดยัยเบลพี่สีครามโอ๊ยหล่อมาก!ฉันอยากได้” ใบตองกำลังจะพูดแต่ยัยเพื่อนสนิทที่เริ่มแรกทำตัวอยากรู้อยากเห็นเรื่องของเธอ อยู่ๆ ก็กรี๊ดขึ้นมายิ้มหวานเยิ้มโดยไม่สนใจจะฟังคำตอบที่เธอจะเล่าให้ฟังเลยสักนิด ว่าแต่ยัยนัทตี้พูดถึงพี่สีครามใช่สีครามคนเดียวกันกับที่ทำให้ฉันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ไหม เมื่อคิดแล้วก็ต้องหันหลังกลับไปมองผู้ชายที่เพื่อนกรี๊ดกร๊าด
“พะพี่สีคราม…” ใบตองมองด้วยความนิ่งอึ้งปนความตื่นเต้นเจือความโหยหาใช่โหยหาฟังไม่ผิดหรอกเพราะหลังจากวันที่พี่สีครามช่วยใบตองจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ตลอดภาคการศึกษาเธอก็บังเอิญได้เจอกับพี่สีครามบ่อยครั้งแต่เขากับทำเมินเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน ถึงแม้เธอจะยิ้มทักทายเขาก็มองผ่านด้วยความเฉยชาแบบไม่สนใจเธอเลย
“ใช่พี่ครามหรือคนส่วนใหญ่เรียกว่าพี่สีคราม ว่าแต่คนที่เอาแต่อ่านหนังสือทั้งวันแม้กระทั่งตอนเข้าห้องน้ำไปรู้จักชื่อหนุ่มฮอตที่หล่อเริดที่สุดในโรงเรียนได้ยังไง โอ้พระเจ้าเป็นไปได้ยังไงเนี้ย!?” ใบตองยิ้มเขินเพราะเหตุการณ์ตกท่อเธอก็เล่าให้เพื่อนฟังทั้งหมด แต่ไม่ได้เอ่ยถึงชื่อของรุ่นพี่ที่ช่วยเธอเอาไว้ ถ้าพวกนางสองคนรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพี่สีครามจะเป็นยังไง
“กะก็บังเอิญ…” ใบตองอ้ำอึ้งไม่กล้าเอ่ยถึงว่าไม่แค่บังเอิญแต่เธอได้ช้อนรถบิ๊กไบค์พี่สีครามกลับไปส่งถึงหน้าบ้านเลยแหละ
“รู้แหละ! แกบังเอิญได้ยินนัทตี้เล่าให้ฟังใช่ไหม เรื่องผู้ชายหล่อๆ ยัยนัทตี้สันหามาเล่ากรอกหูแกทุกวันนั่นแหละ” เบลพูดแทรกก่อนที่ใบตองจะบอกความจริงกับพวกนางสองคนไป สุดท้ายก็ไม่ได้เล่าทำเพียงเอออ่อโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ
“โอ๊ยพี่เขาเลือกนั่งโต๊ะมุมดีต่อใจเบลมากเลยค่ะ ได้สบตากันเวลากินข้าวเต็มๆ โอ๊ยกินอะไรก็อร่อยไปหมดเพราะบรรยากาศวันนี้มันดี๊ดี” ยัยเบลก็ยังคงพูดเพ้อเจ้อกรี๊ดกร๊าดกับนัทตี้สองคน ส่วนใบตองที่นั่งหันหลังให้โต๊ะของพี่สีครามไม่สามารถหันกลับไปมองได้เหมือนเพื่อนทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาตักกินข้าวในจานให้อิ่มเร็วๆ จะได้ลุกออกไปจากที่นี่
“นี่ใบตองเดี๋ยวก็สำลักหรอกตักข้าวคำใหญ่อะไรขนาดนั้น” พอนัทตี้พูดจบข้าวก็ติดคอของเธอจริงๆ จนไอสำลักออกมา
“เอาดื่มน้ำก่อนเดี๋ยวติดคอตาย เธอนี่มันมีดีแค่เรื่องเรียนจริงๆ ส่วนเรื่องอื่นเซ่อมากแม้กระทั่งตอนกินข้าวเฮ้อ”
“แกทำไมบ่นเหมือนคนแก่เลยนัทตี้ฮึก!” ใบตองหลุดหัวเราะเพื่อนสนิทที่บ่นเหมือนยายของเธอเลยทั้งที่พวกเธออายุสิบสี่ปีกันเอง
“ใบตองแกเซ่อจริง!!” สองเสียงประสานกันต่อว่าใบตองแล้วหัวเราะล้อเลียนเห็นเป็นเรื่องตลกประจำกลุ่ม
“ว่าแต่พี่สีครามนี่เรียนอยู่เกรดไหนเหรอจะเรียนจบปีนี้ไหม” ใบตองแกล้งเลียบเคียงถามข้อมูลจากสองเพื่อนสนิทที่รู้ทุกเรื่องของคนหน้าตาดีในโรงเรียน
“ยังไม่จบ พี่เขาเรียนอยู่เกรด11 ปีหน้าขึ้นเกรด12 โอ๊ยพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เศร้าพรุ่งนี้สอบไฟนอลวันสุดท้ายแล้วพวกเราก็จะเรียนจบเกรด9แล้ว เหลือเวลาอีกแค่1ปีที่พวกเราจะได้เฝ้ามองหน้าหล่อๆ ของกลุ่มพี่สีครามเฮ้อเศร้า ในขนาดที่พวกเรายังจะต้องเรียนที่นี่ไปอีกนานหลายปี” นัทตี้เป็นคนตอบคำถามใบตองแต่ทำท่าร้องไห้ซบกันสองคนกับเบลเหมือนเป็นเรื่องสุดช้ำที่สุดในวัย15ปีของพวกนางสองคน
ใบตองถึงกับแอบกลอกตาแล้วเกาท้ายทอยตัวเองด้วยความงงว่ามันใช่เรื่องน่าเศร้าขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงเธอจะแอบปลื้มพี่ครามไม่สิน่าจะชอบมากๆ เลยแหละ แต่อาการก็ไม่เท่าเพื่อนสนิทอีกสองคนที่ชอบกรี๊ดผู้ชายหล่อทุกคนในโรงเรียนนี่เรียกว่าอาการน่าจะหนักกว่าเธอเยอะมากไปแล้ว
เธอแอบลุกขึ้นหยิบจานข้าวไปเก็บกะจะหนีขึ้นห้องเรียนไปอ่านหนังสือทบทวนก่อนสอบคาบบ่ายดีกว่า ค่อยๆ เดินย่องเบาออกจากโต๊ะไม่ให้ยัยสองคนนั้นรู้ตัว ก้าวเบาๆ จนแน่ใจว่าห่างออกมาเยอะแล้วเลยยืดตัวเต็มแล้วเดินปกติ แต่พอมองตรงไปข้างหน้าอยู่ๆ พี่เจบีก็ยืนเป็นกำแพงหนาขว้างเอาไว้ คนที่พึ่งคิดว่าแอบหนีเพื่อนรอดแล้วกับซนเข้ากับอกกว้างของอีกคนที่ยืนถือแก้วน้ำอัดลมที่ซื้อเสร็จและกำลังจะเดินกลับไปนั่งโต๊ะกินข้าวของตัวเอง
“น้องทำไมชอบซุ่มซ่ามอีกแล้วครับ!” พี่สีครามที่ตอนนี้เสื้อนักเรียนสีขาวของเขาเปื้อนไปด้วยน้ำอัดลมที่หกเลอะเต็มจากที่โดนใบตองเดินซนเข้าเต็มๆ
“นะหนูขอโทษค่ะพี่สีคราม” ใบตองยกมือขึ้นไหว้เขาด้วยความสั่นกลัวในสิ่งที่ตัวเองซุ่มซ่าม แต่ก่อนที่พี่สีครามจะได้พูดอะไรขึ้นมา เพื่อนของเขาก็เดินเข้ามาเสียก่อน “ไอ้สีครามรีบเลยอาจารย์เรียกให้ขึ้นไปสอบก่อนเวลา ไอ้หัวหน้าห้องพึ่งโทรมาบอกเมื่อกี้”
“เอ่อๆ มึงไปก่อนเลยเดี๋ยวกูตามไป” พี่สีครามหันไปพูดกับเพื่อนของเขา แล้วหันกลับมามองหน้าใบตองด้วยสายตาดุดันแล้วก็ถอดหายใจ ก่อนที่เขาจะเดินผ่านใบตอง “ซื้อเสื้อใหม่มาชดใช้ให้พี่ด้วยเอาไซส์ใหญ่ที่สุด แล้วเอาไปวางไว้รถบิ๊กไบค์คันสีดำที่จอดอยู่ข้างรั่วโรงเรียนหลังเธอสอบเสร็จนะเข้าใจไหม”
“ดะได้ค่ะพี่สีคราม” พอพี่สีครามเดินห่างออกไปใบตองก็มองตามหลังเขาจดลับห่างไปจากระยะสายตา แล้วดึงสายตากลับมาเลือกที่จะเดินไปซื้อเสื้อนักเรียนชดใช้ให้พี่สีครามแทนที่จะรีบขึ้นไปอ่านหนังสือทบทวนก่อนเข้าสอบอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ในคราวแรก