@บ้านสิริราญานุกุล
หลังจากแยกตัวกับเพื่อนๆชายหนุ่มก็ขับรถตรงกลับบ้านทันที และเมื่อย่างกายเข้ามาภายในบ้านผู้เป็นแม่ก็เรียกเขาเข้าไปหาทันที “กวินท์มานี่ก่อนสิลูกแม่มีเรื่องคุยด้วย”
“....” ร่างสูงโปร่งที่กำลังก้าวเท้าขึ้นบันใดหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นแม่ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงบนโซหาข้างผู้เป็นพ่อในห้องโถงเงียบๆ
“พรุ่งนี้ลูกว่างไหมแม่มีนัดสังสรรค์กับครอบเจ้าสัวกัญชัยอยากให้ลูกไปด้วยกัน”
“ไม่ว่างครับ” ชายหนุ่มลอบถอนหายใจออกมาเบาๆระคนเบื่อหน่าย ก่อนปฏิเสธไปสาเหตุที่ผู้เป็นแม่ชวนเขาไปด้วยคงไม่พ้นเรื่องหาลูกสะใภ้คงคิดจะจับคู่ให้เขากับลูกสาวเจ้าสัวเหมือนเช่นที่ผ่านมา
“ลูกอายุไม่ใช่น้อยๆแล้วนะกวินท์พ่อกับแม่ก็แก่ตัวลงทุกวันแต่งงานมีหลานให้แม่สักคนไม่ได้เหรอ” คุณหญิงอมรรัตน์เริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อบุตรชายปฏิเสธการนัดดูตัวครั้งนี้เธออุตส่าห์นัดหมายกับเจ้าสัวกัญชัยเป็นมั่นเป็นเหมาะ
“อย่าไปบังคับลูกเลยคุณหญิง” ประมุขของบ้านที่นั่งเงียบมานานพูดปามคุณหญิงอมรรัตน์ผู้เป็นภรรยาเพราะรู้ว่าบุตรชายไม่ค่อยพอใจนักที่ผู้เป็นแม่เอาแต่คอยจับคู่ให้เขากับคนโน่นทีคนนี้ทีถึงแม้ใบหน้าของบุตรชายจะเรียบนิ่งไม่แสดงอาการใดๆออกมาแต่คนเป็นพ่ออย่างเขาก็พอเดาได้
“คุณก็เป็นสะแบบนี้ตามใจลูกแล้วเมื่อไรฉันจะได้อุ้มหลานกันละคะ”
“คุณรอมาได้ตั้งนานรออีกสักหน่อยจะเป็นไรไป”
“คุณนี่ชอบขัดคอฉันจริงๆเลย” คุณหญิงอมรรัตน์มองค้อนสามีสลับกับบุตรชายด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องโถง
“ไม่ต้องสนใจคำพูดของแม่เขานักหรอก” เสกสรรค์เอ่ยพร้อมกับตบไหล่บุตรชายเมื่อภรรยาหายหลังไปแล้ว
“...” ชายหนุ่มเพียงพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะลุกเดินขึ้นห้องนอนตัวเอง เขาเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาก่อนจะล้วงไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาต่อสายหาเจนภพผู้ช่วยคนสนิท
(เจนภพโทรเรียกเด็กที่ชื่อแก้วตาให้ฉันหน่อย)
(เออ..ดูเหมือนทางเด็กคนนั้นจะมีปัญหานะครับคุณกวินท์)
(ปัญหาอะไร) คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเมื่อได้ยินคำพูดคนปลายสาย
(เมื่อวานเธอโทรมาบอกว่าอยากคุยเรื่องสัญญาใหม่)
(แล้วยังไง)
(ผมนัดคุยกับเธอคืนนี้สองทุ่มที่เดอะปริ้นเซสคลับครับ)
นิ้วเรียวกดวางสายทันทีที่เจนภพพูดจบ ใบหน้าเรียบนิ่งเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมด้วยความไม่พอใจทุกเรื่องในชีวิตของเขาต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย และต้องไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง ทว่าดูท่าตอนนี้เด็กสาวที่ชื่อแก้วตาจะเริ่มทำลายบรรทัดฐานของเขาแล้ว
ร่างสูงโปร่งหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะส่าวเท้าเดินออกไปขึ้นรถแอสตัน มาร์ติน บีดีเอส ซุปเปอร์เลจเจราราคาหลายสิบล้านมุ่งตรงสู่เดอะปริ้นเซสคลับด้วยความเร็ว
@The Princess Club
หญิงสาวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีซีดเดินนวยนาดเข้าไปในคลับโดยมีเพื่อนสาวเดินตามหลังมาติดๆ ก่อนที่มิราจะเอื้อมมือไปกระตุกเสื้อคนด้านหน้าเบาๆ ทำให้เธอหยุดชะงักหันกลับมาถามด้วยความสงสัย “มีอะไรมิรา”
“แกดูการแต่งตัวของแกกับผู้หญิงคนอื่นในคลับสิแตกต่างกันขนาดไหนฉันให้แกเปลี่ยนชุดทำไมแกไม่ยอมเปลี่ยน” มิรามองการแต่งตัวของเพื่อนสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะจับหน้าเพื่อนสาวให้หันมองกลุ่มสาวสวยในชุดเดรสหลากสีที่ยืนโยกย้ายตามจังหวะดนตรี ทว่าแก้มหวานหาได้สนใจไม่ว่าตัวเองจะดูดีในสายตาคนอื่นหรือไม่เธอแค่ต้องการมาคุยธุระให้จบๆไป “ฉันแค่มาธุระไม่ได้มาเที่ยวสักหน่อยแกเลิกบ่นได้แล้ว”
มิราถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อนสาว ก่อนจะถามเรื่องอื่นแทน “เขาได้บอกไหมว่าให้ไปเจอส่วนไหนของคลับ”
“ห้องวีไอพีสาม”
“ฉันรู้จักเดี่ยวพาไป” สิ้นสุดคำพูดมิราก็เดินนำเพื่อนสาวขึ้นมายังห้องวีไอพีสามที่ตั้งอยู่ชั้นสองของคลับ “ห้องนี้แหละแก้มเข้าไปเถอะฉันขอนั่งดื่มรอด้านนอก”
แก้มหวานเพียงพยักหน้ารับก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตู 2-3ครั้งแล้วค่อยๆเปิดประตูเข้าไป ขาเรียวเล็กก้าวมาหยุดตรงหน้าหนุ่มวัย28ปี มือเล็กยกขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม "สวัสดีค่ะคุณเจนภพฉันแก้มหวานพี่สาวแก้วตาค่ะ"
"เชิญนั่งครับ" เจนภพพยักหน้ารับ ก่อนเชื้อเชิญให้หญิงสาวนั่งแล้วถามไถ่ถึงจุดประสงค์ที่เธอนัดเจอเขาคืนนี้ “คุณแก้มหวานมีอะไรจะคุยกับผมครับ”
คนโดนถามผ่อนลมหายใจเข้าออกเบาๆเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง ก่อนบอกธุระของตัวเองไป "ฉันจะขอยกเลิกสัญญาของน้องสาวค่ะ"
"ผมขอตัวสักครู่” เจนภพนิ่งเงียบสักพักก่อนจะลุกเดินออกไปหาเจ้านายที่นั่งดูการสนทนาของเขากับหญิงสาวผ่านกล้องอยู่ห้องข้างๆ
“ไปไหนของเขา” แก้มหวานได้แต่มองตามหลังด้วยความงุนงง ทว่าเธอหารู้ไม่ว่าทุกคำพูดทุกท่วงท่าของเธอโดนใครบางคนจับจ้องผ่านกล้องที่ถูกติดตั้งไว้ในห้อง
‘แกร็ก’
ผ่านไปกว่าสิบนาทีประตูห้องก็ถูกเปิดออกเจนภพเดินเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งลงที่เดิมแล้วพูดขึ้น “เจ้านายผมบอกว่าหากยกเลิกสัญญาต้องคืนเงินค่าเลี้ยงดูจำนวนสองล้านที่น้องสาวของคุณขอเบิกล่วงมาก่อน”
“อะ..อะไรนะคะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มพูด เงินสองล้านไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ทว่าทำไมน้องสาวกลับไม่พูดถึงเรื่องนี้สักคำเธอทั้งตกใจและสงสัยในเวลาเดียวกัน
สีหน้าและสายตาของหญิงสาวบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังสับสนทำให้เจนภพต้องเอาหลักฐานการโอนเงินให้เธอดูเพื่อยืนยัน “นี่ครับหลักฐาน”
“...” ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรงชื่อและนามสกุลที่โชว์ร่าอยู่บนสลิปการโอนเงินคือชื่อแก้วตาจริงๆ เธอถอนหายใจออกมาอย่างหนักอกก่อนจะขอปลีกตัวโทรหาน้องสาว “ขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ”
“ครับ”
ร่างบางหยัดกายลุกเดินไปเข้าห้องน้ำทันทีที่ได้รับอนุญาตมือเล็กหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างขึ้นมาต่อสายหาน้องสาวด้วยความร้อนรนใจ
(แก้วเงินสองล้านที่แก้วขอเบิกจากผู้ว่าจ้างยังอยู่ครบไหม) เสียงหวานกรอกลงตามสายทันทีเมื่อปลายสายกดรับ
(เงินอะไรพี่แก้มแก้วงงไปหมดแล้ว) ปลายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงงุนงง
(ก็คนที่พี่มาเจรจาด้วยบอกว่าแก้วขอเบิกเงินล่วงหน้าจากเขาไปสองล้านหลักฐานก็มีชัดเจน)
(ไม่พี่แก้มหลังจากเซ็นสัญญาเสร็จแก้วก็ไม่เคยติดต่อเขาเลย แก้วสาบานได้)
(โอเคๆพี่วางสายก่อนไว้ค่อยคุยกันที่บ้าน)
หญิงสาวรู้สึกสับสนงุนงงเป็นอย่างมากเมื่อน้องสาวยืนยันว่าไม่รู้เรื่องเงินสองล้านจริงๆ ไม่รู้ว่าตัวเองควรเชื่อคำพูดของน้องสาวหรือหลักฐานที่เห็นดี เธอถอนหายใจออกมาระคนหนักใจ ก่อนวางสายจากน้องสาวแล้วเดินออกไปนั่งลงที่เดิม ดวงตากลมโตจับจ้องชายหนุ่มที่นั่งตรงหน้าอย่างจับพิรุธ ก่อนพูดขึ้น “น้องสาวฉันบอกว่าเขาไม่เคยโทรมาของเบิกเงินล่วงหน้าจากคุณค่ะ”
“ทำไมจะไม่เคยก็ผมเป็นคนรับสายเองแล้วก็โอนเงินให้เงินกับมือคุณก็เห็นหลักฐานแล้วนิครับ คุณลองกลับไปคุยกับน้องสาวให้รู้เรื่องก่อนค่อยมาคุยกับผมใหม่แต่อย่าให้นานนักเจ้านายผมไม่ได้ใจดี”
“แล้วทำไมเจ้านายคุณไม่มาคุยเองละคะ” หญิงสาวอดที่จะย้อนถามไม่ได้เมื่อชายหนุ่มเอ่ยถึงเจ้านายของเขา ทว่าเธอกลับโดนเขามองด้วยแววตาดุดัน
“ผมไม่จำเป็นต้องบอกคุณ” เจนภพพูดทิ้งท้ายก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องทิ้งให้ร่างบางนั่งเกาหัวด้วยความงุนงงแค่เธอถามถึงเจ้านายของเขาทำไมต้องโกรธ
“เป็นผีหรือไงทำตัวลึกลับแปลกทั้งเจ้านายลูกน้อง” เสียงหวานบ่นอุบอิบกับตัวเองเบาๆก่อนจะลุกเดินออกไปหาเพื่อนสาวที่นั่งดื่มอยู่ชั้นล่างของคลับ เธอถึงกับถอนหายใจออกมาระคนหนักอกเมื่อเห็นแก้วค็อกเทลที่วางเรียงรายบนโต๊ะ “หยุดดื่มได้แล้วมิรา”
“ขอดื่มแก้วนี้ให้หมดก่อน” มิราเอ่ยเสียงยานพร้อมกับยกแก้วค็อกเทลขึ้นหวังจะดื่มให้หมดแต่ก็โดนแก้มหวานแย่งไปดื่มแทนจนหมดซึ่งทุกการเคลื่อนไหวของหญิงสาวมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่จากชั้นสองของคลับ
กวินท์จับจ้องร่างบางที่กำลังประคองเพื่อนสาวเดินออกจากคลับด้วยแววตาเรียบนิ่งจนลับสายตาเขาจึงเดินกลับเข้ามานั่งในห้องเหมือนเดิม มือหนายกแก้วไวน์ขึ้นมาแกว่งเล่นอย่างใจเย็นสมองก็ครุ่นคิดเรื่องของผู้หญิงที่เพิ่งเดินจากไปเขาอยากรู้เหมือนกันว่าเงินสองล้านของเขาหายไปไหนหรือที่จริงแล้วเธอกับน้องสาวเล่นตุกติกกันแน่
หลายเดือนต่อมาอ๊วกกก! เสียงอาเจียนดังเล็ดออกมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนของแก้มหวานกับกวินท์ เจ้าของเสียงอาเจียนหาใช่หญิงสาวไม่แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ยืนอาเจียนหน้าอ่างล้างหน้าจนหมดไส้หมดพุงเขามีอาการแบบนี้มา 2วันติดๆ แล้วก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร"พี่กวินท์เป็นอะไรมากไหมคะ แก้มว่าไปหาหมอดีกว่าพี่เป็นแบบนี้มา 2-3วันแล้วนะ" แก้มหวานเดินเข้าไปลูบหลังให้แฟนหนุ่มเบาๆ พร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของเขาผ่านกระจกกวินท์ใช้มือกรอกน้ำล้างปากก่อนแหงนหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ระบายอาการคลื่นไส้ในอกแล้วหันไปพูดกับแฟนสาวด้วยใบหน้าอิดโรย "ก็ดีเหมือนกันครับ""ค่ะ" ใบหน้าสวยเพียงพยักรับน้อยๆ มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแกร่งไว้แล้วประคองเขาเดินออกจากห้องน้ำพาไปนั่งลงริมเตียงจากนั้นจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อออกมายื่นให้เขาเปลี่ยน "นี่ค่ะเสื้อ""ขอบคุณครับ" กวินท์รับเสื้อจากมือแฟนสาวมาวางลงข้างตัวแล้วสอดมือเข้าไปรั้งเอวคอดกิ่วของร่างบางที่ยืนตรงหน้าเข้ามาแนบชิดทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ระดับหน้าท้องแบนราบพอดี ก่อนเขาจะแหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าแฟนสาวพลางนึกขอบคุณใน
"พี่ยังไม่ตอบแก้มเลยนะคะรู้ได้ยังไงว่าแก้มอยู่ที่นี่" แก้มหวานหันไปถามอาจารย์หนุ่มอีกครั้งขณะกำลังเดินไปหาน้องสาวกับเพื่อนริมชายหาดหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเป็นที่พอใจของอาจารย์หนุ่มแล้วเธอยังคงคาใจอยู่อยากจะรู้ว่าเขาตามหาเธอถูกได้ยังไง"ผมก็หลอกถามจากเพื่อนคุณยังไงละ" กวินท์ตอบหน้าระรื่นก่อนยกยิ้มมุมปากเขาก็แค่ส่งไลน์ไปหาเพื่อนของหญิงสาวบอกให้ทั้งสองเอาโปรเจคมาให้เขาดู แต่เพื่อนของเธอบอกว่าไม่สะดวกเพราะมาเที่ยวพัทยาเขาเลยได้รู้แล้วแสร้งตีเนียนถามข้อมูลไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าเธอพักอยู่รีสอร์ทนี้"พี่นี่มันจริงๆ เลย" เธอถึงกับกรอกตามองบนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับความเจ้าเล่ห์ของเขา ทว่าอีกคนกลับหัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมยื่นมือไปโอบไหล่มน "ผัวคุณฉลาดไหมละ""เจ้าเล่ห์สิไม่ว่า หลอกล่อเก่ง แผนเยอะ""ก็บอกแล้วไงว่าผมเจ้าเล่ห์กับเด็กดื้ออย่างคุณคนเดียว""เพราะพี่เจ้าเล่ห์ไงแก้มก็เลยต้องดื้อ กับคนอื่นแก้มเชื่อฟังจะตาย""ผมต้องดีใจไหมที่คุณดื้อกับผมคนเดียว""ต้องดีใจสิคะ""ระวังจะโดนผมลากขึ้นไปกำราบบนเตียงนะเด็กดื้อ""คนบ้าชอบพูดจาทะลึ่งอยู่เรื่อย""ผมพูดจริงทำจริงไม่ได้ทะลึ่ง" "พอเลยไม่พูดเ
กวินท์ยืนจับจ้องแผ่นหลังร่างบางในชุดบิกินี่ด้วยแววตาดุดัน ใช้ลิ้นดันกระพุงแก้มอย่างไม่สบอารมณ์เขารู้สึกหัวเสีย และโกรธเอามากๆ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ไม่ให้ตัวเองขาดสติใช้อารมณ์เข้านำเหมือนในคืนนั้นอีก เขาผ่อนลมหายใจแล้วเดินอ้อมไปยืนข้างหน้าร่างบางที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงก้มหน้ามองดิน คิ้วเข้มถึงกับขมวดชนกันเป็นปมเมื่อเห็นหน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักออกมานอกบรา ไหนจะหน้าท้องขาวเนียนเรียวขาสวยนั้นอีก บิกินี่ทูพีชเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งสัดส่วนทุกอย่างชัดเจนไปหมดผู้ชายคนใดได้เห็นก็คงคิดดีไม่ได้"ทำไมใส่ชุดแบบนี้มันโป็มากรู้ไหม" เขาอดที่จะเอ็ดหญิงสาวไม่ได้อยากจะจับเธอตีก้นให้เข็ดหลาบว่าไม่ควรแต่งตัวแบบนี้อีกแต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ ก่อนถอดเสื้อแจ็กเก็ตมาห่อตัวเธอจนมิดชิด"ว๊าย!" แก้มหวานที่ยืนมองการกระทำของอาจารย์หนุ่มอย่างงงๆ ร้องอุทานด้วยความตกใจในตอนที่เขาจับตัวเธอขึ้นอุ้มพาดบ่าจนหัวห้อยโต่งเตงไม่แคร์สายตาคนที่เดินผ่านไปมา หรือสายตาน้องสาวกับเพื่อนสาวของเธอที่ยืนอ้าปากค้างมองด้วยความงุนงงสักนิด"คุณกวินท์ปล่อยแก้มลงนะคนมองหมดแล้ว" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มเบาๆ ด้วยความอับอายเธอไม
"พี่แก้มดีขึ้นแล้วเหรอคะ" เสียงของแก้วตาทำให้แก้มหวานที่ยืนทอดสายตามองทะเลด้วยใจเหม่อลอยสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด ก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับไประบายยิ้มตอบน้องสาว "พี่ดีขึ้นแล้ว""งั้นไปหาอะไรกินกันเถอะเริ่มหิวแล้วอะ" มิราเอ่ยชวนทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนสาวสดชื่นขึ้นกว่าก่อนหน้านี้พร้อมใช้มือลูบวนไปมาบนท้อง "งั้นก็ไปหาอะไรกินกัน" หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับการท่าทางของเพื่อนสาวก่อนเดินไปโอบไหล่เพื่อนสาวกับน้องสาวแล้วเดินพาออกจากห้อง@ร้านอาหารทั้งสามคนเลือกมาทานอาหารทะเลร้านใกล้ๆ กับรีสอร์ทที่เดินเลียบชายหาดมาเพียง 200เมตรก็ถึงเพราะได้ชื่นชมบรรยากาศระหว่างเดินมาด้วย เมื่อได้ออกมาพปปะผู้คนข้างนอกได้ชื่นชมกับบรรยากาศริมทะเลก็ทำให้แก้มหวานรู้สึกดี และผ่อนคลายมากขึ้นลืมเรื่องอาจารย์หนุ่มไปชั่วขณะหลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสามคนก็พากันตะเวนเที่ยวทั่วเมืองพัทยาจนค่ำจึงกลับห้องมาพักผ่อน"พรุ่งนี้เล่นน้ำกันไหม" มิราเอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาในห้องแล้ว "ไปสิคะพี่มิรา" แก้วตาตอบตกลงอย่างไม่รอช้าก่อนหันไปพูดกับพี่สาวต่อ "มาทะเลทั้งทีไม่ได้เล่นน้ำก็เหมือนมาไม่ถ
@คอนโดมิรา"ฮึก ฮื่อ" เสียงสะอื้นไห้ดังระงมเบาๆ ภายในห้องนอนของคอนโดมิราแก้มหวานเลือกหนีอาจารย์หนุ่มมาหลบที่คอนโดเพื่อนสาวเพราะคิดว่าเขาคงไม่รู้แน่นอน เธอปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจ และผิดหวังหลั่งไหลออกมาเพื่อชะล้างความรู้สึกแย่ให้หมดไป และหลังจากนั้นเธอจะเริ่มต้นใหม่"คนปากเสียมาว่าแก้มแบบนั้นได้ไง แก้มไม่ชอบคุณแล้ว" ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่เธอนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนรู้สึกดีขึ้นจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ ดวงตากลมโตฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นในทันตาเมื่อสิ้นเสียงงึมงำ ก่อนจะลุกลงจากเตียงเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วเดินกลับมาหย่อนสะโพกนั่งริมเตียง มือเล็กเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างออกมาเปิดเครื่องหลังจากที่เธอปิดเครื่องหนีอาจารย์หนุ่มก่อนหน้านี้เพื่อโทรบอกน้องสาว ทว่าเพียงแค่เปิดเครื่องเท่านั้นข้อความพยายามติดต่อจากเขาก็เด้งเข้ามาในมือถือระรัวเกือบสิบข้อความแต่เธอหาได้สนใจไม่กลับปัดข้อความเขาทิ้งแล้วต่อสายหาน้องสาว ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(ว่าไงคะพี่แก้ม)(คืนนี้พี่นอนห้องพี่มิรานะแก้ว)(ค่ะ..เมื่อกี้เจ้านายพี่เขามาตามหาพี่
"แก้มหวาน!" กวินท์เดินปรี่ไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนคุยกับผู้ชายหน้าระรื่นด้วยอารมณ์เดือดดาล มือหนาเอื้อมไปจับแขนเล็กแล้วกระชากให้ออกห่างเตชินเจ้านายเก่าของเธออย่างแรงจนเธอเซถลาปะทะลำตัวของเขาเต็มๆปึก!"อ๊ะ..คุณกวินท์" แก้มหวานเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนแหงนมองหน้าอาจารย์หนุ่มด้วยความรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทว่าเธอก็ต้องลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงลำคออึกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าแดงก่ำ และแววตาเกรี้ยวกราดของเขาที่จับจ้องเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "คุณฟังแก้มก่อนได้ไหม""โอ๊ย! แก้มเจ็บนะ" เธอพยายามข่มไม่ให้ตัวเองตื่นกลัวกับท่าทางเกรี้ยวกราดของร่างสูงตรงหน้า ก่อนเปล่งเสียงพูดเพืื่ออธิบายให้เขาเข้าใจ ทว่าเธอก็ต้องร้องท้วงด้วยความรู้สึกเจ็บพร้อมใช้อีกมือแกะมือหนาออกในตอนที่มือหนาออกแรงบีบแขนของเธอแรงๆ ราวกับจะให้มันแหลกคามือยังไงยังงั้น แต่แรงอันน้อยนิดของเธอหาได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนออกจากแขนเธอสักนิดไม่ "ผมคนเดียวมันไม่ถึงใจใช่ไหมถึงได้ระริกระรี้กับผู้ชายคนอื่นอีก" กวินท์โกรธและหึงจนหน้ามืดตามัวไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มจับจ้องหน้าเธอสลับกับชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนพรั่งพรูคำ