"ฉันมีทางเลือกให้เธอสามทาง หนึ่งหาเงินมาคืนฉันภายในสองวัน สองให้น้องสาวเธอทำงานตามสัญญา สาม...." "ข้อสามอะไรคุณเงียบทำไม" "เธอมาทำงานแทนน้องสาว" กวินท์ อาจารย์หนุ่มสุดเนี้ยบ นิสัยสุขุมเยือกเย็น เคร่งครัดไปทุกระเบียดนิ้วแม้กระทั่งเรื่องบนเตียง แก้มหวาน นักศึกษาสาวสู้ชีวิตที่ต้องตกกระไดพลอยโจรเพราะสัญญาว่าจ้างบ้าบอของน้องสาวและเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกกับเธอไม่รู้จบเมื่อเจ้าของสัญญาก็คืออาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ของห้องเธอนั้นเอง
Lihat lebih banyak"สัญญาว่าจ้าง นางสาวชนัญชิดา วิจิตรดี ข้อปฏิบัติและข้อตกลงตลอดระยะเวลาทำงาน ในหนึ่งอาทิตย์ต้องคอยปรนนิบัติผู้ว่าจ้างอย่างน้อยสามวันหรือแล้วแต่ผู้ว่าจ้างจะเรียกใช้ ดูแลรักษาร่างกายตัวเองให้สะอาดสะอ้านทุกครั้งก่อนมาพบผู้ว่าจ้าง ทำตามทุกคำสั่งของผู้ว่าจ้างโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในสัญญาลูกจ้างห้ามยุ่งเกี่ยวหรือมีสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนสัญญาถือเป็นโมฆะ ผู้ว่าจ้างจะจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาททุกวันที่ 1 ของเดือน ห้ามลูกจ้างตกหลุมรักผู้ว่าจ้าง ห้ามลูกจ้างล้ำเส้นหรือก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของผู้ว่าจ้าง หากมีข้อตกลงหรือข้อปฏิบัติเพิ่มเติมผู้ว่าจ้างจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง"
แก้มหวานสาวสวยในชุดนักศึกษา เข่าอ่อนยวบทรุดลงไปนั่งกองกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรงเมื่ออ่านเอกสารในมือจบ น้ำสีใสพลันไหลออกจากตาคู่สวยด้วยความรู้สึกเสียใจปนสับสน ชื่อที่อยู่บนกระดาษแผ่นนี้ก็คือชื่อน้องสาวของเธอนั่นเอง เธอไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่าน้องสาววัยสิบแปดปีที่ดูไร้เดียงสาไม่เคยออกนอกลู่นอกทางจะกล้าทำงานอย่างว่า ทว่าลายเซ็นที่เขียนกำกับอยู่บนกระดาษก็ทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นน้องสาวจริง ๆ เธอจำลายมือได้ดี
“พ่อแม่แก้มขอโทษ แก้มทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง” มือเล็กยกขึ้นกำเสื้อนักศึกษาบริเวณหน้าอกแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เธอรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวในหัวใจเป็นอย่างมากที่ไม่สามารถดูแลน้องให้ดีตามคำสั่งเสียสุดท้ายก่อนที่พ่อแม่จะตายได้
ในสมองของเธอเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามว่าทำไมน้องสาวถึงทำแบบนี้ทั้งที่เธอก็รักและดูแลไม่เคยขาดตกบกพร่องหรือน้อยหน้าเพื่อนรุ่นเดียวกัน เธอยอมเหนื่อยทั้งเรียนทั้งทำงานไปด้วยแต่ก็ไม่เคยปริปากบ่น เงินที่ได้มาจากการทำงานก็เก็บอดออมเอาไว้ให้น้องสาวใช้เป็นทุนการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ส่วนตัวเธอเป็นนักศึกษาทุนเรียนดีจึงลดภาระไปได้เยอะ
ตึก ตึก
เสียงรองเท้านักเรียนกระทบพื้นดังมาแต่ไกล ทำให้ร่างบางที่นั่งก้มหน้าร้องไห้รีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกลวก ๆ ก่อนลุกเดินไปหย่อนสะโพกนั่งลงบนเตียง เธอแหงนหน้าสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาต่อหน้าน้องสาว ทว่าน้ำตาเจ้ากรรมพลันไหลออกมาอย่างสุดจะกลั้นเพียงแค่เห็นใบหน้าใสซื่อของคนที่เป็นดั่งดวงใจ ความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามาจนเกินต้านทาน
แก้วตาที่เห็นพี่สาวปล่อยโฮออกมารู้สึกตกใจไม่น้อย เธอรีบวางกระเป๋านักเรียนลงบนโต๊ะแล้ววิ่งเข้าไปหย่อนสะโพกนั่งลงข้าง ๆ พร้อมกับถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่เห็นพี่สาวร้องไห้ “พี่แก้มเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไม”
“ทะ…ทำไมแก้วทำแบบนี้ พี่ดูแลแก้วไม่ดีเหรอถึงต้องเป็นเด็กเสี่ยตอบพี่มาสิ ตอบพี่มา” แก้มหวานหันหน้ามองน้องสาวด้วยแววตาเสียใจปนตัดพ้อ ก่อนยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกลวก ๆ แล้วหยิบกระดาษสัญญาว่าจ้างยื่นไปตรงหน้าน้องสาว
แก้วตาตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอพยายามเก็บซ่อนสัญญาว่าจ้างแผ่นนี้ไว้อย่างดีเพราะไม่อยากให้พี่สาวเห็น แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่สาวรู้ได้ยังไง น้ำสีใสค่อย ๆ เอ่อคลอขอบตาจนพร่ามัวเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นสาเหตุทำให้พี่สาวร้องไห้ ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามา เธอก็แค่อยากช่วยแบ่งเบาภาระพอเห็นว่าเพื่อนในกลุ่มเดียวกันทำงานแล้วได้เงินดีเลยอยากทำด้วย เพื่อน ๆ ของเธอบอกว่าแค่ไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง อยู่เป็นเพื่อนผู้ว่าจ้างก็ได้เงินมาใช้แบบสบาย ๆ แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่างานที่เพื่อนทำก็คือเป็นเด็กเสี่ย กว่าจะรู้ก็สายไปเสียแล้วเมื่อเธอดันใจร้อนตกลงเซ็นสัญญาโดยไม่อ่านรายละเอียดให้ดีเสียก่อน
“แก้วขอโทษที่ทำให้พี่เสียใจ พี่ดูแลแก้วดีมากไม่เคยต้องให้แก้วลำบากเลยสักครั้ง แก้วรู้ว่าพี่เหนื่อย เวลาพักผ่อนก็แทบจะไม่มี ตอนนี้แก้วก็เรียนจบมอหกแล้ว แก้วเลยอยากช่วยแบ่งเบาภาระบ้างแต่ไม่คิดว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้”
“แล้วทำไมแก้วไม่บอกพี่ พี่จะได้ช่วยแนะนำงานดี ๆ ให้ ไม่ใช่งานขายเกียรติขายศักดิ์ศรีของตัวเองแบบนี้” ความเสียใจ ความรู้สึกแย่ ๆ ที่สุมอยู่ในใจแก้มหวานมลายหายไปสิ้น เมื่อได้ยินคำพูดของน้องสาว มือเล็กลูบลงบนศีรษะเล็กทุยเชิงปลอบประโลม
“แก้วมันโง่ที่คิดอะไรตื้น ๆ แก้วเห็นเพื่อนทำงานสบาย ๆ แต่มีเงินใช้อู้ฟู้ เลยอยากทำด้วยแก้วไม่คิดว่าจะเป็นงานอย่างว่า แก้วมันเห็นแก่เงิน”
“อย่าว่าตัวเองแบบนั้น แก้วไม่ได้เห็นแก่เงิน แก้วแค่อยากช่วยพี่แต่เพียงแค่เลือกงานผิด”
“แล้วแก้วจะทำยังไงดีคะ ตอนนี้แก้วไม่อยากทำแล้ว แต่แก้วก็เซ็นสัญญากับเขาไปแล้วถ้ายกเลิกสัญญาคงมีปัญหาแน่ ๆ ค่ะพี่แก้ม”
“แก้วเริ่มทำงานนี้สักครั้งหรือยัง ตอบพี่มาตามตรง”
“ยังค่ะพี่แก้ม คนที่ว่าจ้างแก้วบินไปดูงานต่างประเทศซะก่อน เลยยังไม่ได้ทำอะไร”
“งั้นไม่ต้องกังวลนะ พี่จะไปคุยกับเจ้าของสัญญาบ้า ๆ นี้เอง แก้ววางใจเถอะตั้งใจเรียนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ”
“แก้วทำให้พี่เดือดร้อนอีกแล้ว แก้วขอโทษ”
“ไม่เป็นไรเก็บไว้เป็นบทเรียนนะ ต่อไปก็อย่าได้ผลุนผลันตัดสินใจอะไรอีก”
“ค่ะ แก้วรักพี่แก้มนะ”
“จ้ะ พี่ก็รักแก้วนะ”
สองคนพี่น้องสวมกอดกันด้วยความรักใคร่หลังจากพูดคุยจนเข้าใจทุกอย่างแล้ว ทว่าถึงแม้ใบหน้าของแก้มหวานจะเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแต่ภายในจิตใจของเธอกลับกังวลไม่น้อย เท่าที่ได้อ่านสัญญาบนกระดาษแผ่นนั้นผู้ว่าจ้างต้องเป็นคนที่เจ้ายศเจ้าอย่างเจ้าระเบียบมากแน่นอนการเจรจาขอยกเลิกสัญญาคงไม่ง่ายดาย
หลายเดือนต่อมาอ๊วกกก! เสียงอาเจียนดังเล็ดออกมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนของแก้มหวานกับกวินท์ เจ้าของเสียงอาเจียนหาใช่หญิงสาวไม่แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ยืนอาเจียนหน้าอ่างล้างหน้าจนหมดไส้หมดพุงเขามีอาการแบบนี้มา 2วันติดๆ แล้วก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร"พี่กวินท์เป็นอะไรมากไหมคะ แก้มว่าไปหาหมอดีกว่าพี่เป็นแบบนี้มา 2-3วันแล้วนะ" แก้มหวานเดินเข้าไปลูบหลังให้แฟนหนุ่มเบาๆ พร้อมถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดของเขาผ่านกระจกกวินท์ใช้มือกรอกน้ำล้างปากก่อนแหงนหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ระบายอาการคลื่นไส้ในอกแล้วหันไปพูดกับแฟนสาวด้วยใบหน้าอิดโรย "ก็ดีเหมือนกันครับ""ค่ะ" ใบหน้าสวยเพียงพยักรับน้อยๆ มือเล็กเอื้อมไปจับแขนแกร่งไว้แล้วประคองเขาเดินออกจากห้องน้ำพาไปนั่งลงริมเตียงจากนั้นจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อออกมายื่นให้เขาเปลี่ยน "นี่ค่ะเสื้อ""ขอบคุณครับ" กวินท์รับเสื้อจากมือแฟนสาวมาวางลงข้างตัวแล้วสอดมือเข้าไปรั้งเอวคอดกิ่วของร่างบางที่ยืนตรงหน้าเข้ามาแนบชิดทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ระดับหน้าท้องแบนราบพอดี ก่อนเขาจะแหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าแฟนสาวพลางนึกขอบคุณใน
"พี่ยังไม่ตอบแก้มเลยนะคะรู้ได้ยังไงว่าแก้มอยู่ที่นี่" แก้มหวานหันไปถามอาจารย์หนุ่มอีกครั้งขณะกำลังเดินไปหาน้องสาวกับเพื่อนริมชายหาดหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเป็นที่พอใจของอาจารย์หนุ่มแล้วเธอยังคงคาใจอยู่อยากจะรู้ว่าเขาตามหาเธอถูกได้ยังไง"ผมก็หลอกถามจากเพื่อนคุณยังไงละ" กวินท์ตอบหน้าระรื่นก่อนยกยิ้มมุมปากเขาก็แค่ส่งไลน์ไปหาเพื่อนของหญิงสาวบอกให้ทั้งสองเอาโปรเจคมาให้เขาดู แต่เพื่อนของเธอบอกว่าไม่สะดวกเพราะมาเที่ยวพัทยาเขาเลยได้รู้แล้วแสร้งตีเนียนถามข้อมูลไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าเธอพักอยู่รีสอร์ทนี้"พี่นี่มันจริงๆ เลย" เธอถึงกับกรอกตามองบนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับความเจ้าเล่ห์ของเขา ทว่าอีกคนกลับหัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมยื่นมือไปโอบไหล่มน "ผัวคุณฉลาดไหมละ""เจ้าเล่ห์สิไม่ว่า หลอกล่อเก่ง แผนเยอะ""ก็บอกแล้วไงว่าผมเจ้าเล่ห์กับเด็กดื้ออย่างคุณคนเดียว""เพราะพี่เจ้าเล่ห์ไงแก้มก็เลยต้องดื้อ กับคนอื่นแก้มเชื่อฟังจะตาย""ผมต้องดีใจไหมที่คุณดื้อกับผมคนเดียว""ต้องดีใจสิคะ""ระวังจะโดนผมลากขึ้นไปกำราบบนเตียงนะเด็กดื้อ""คนบ้าชอบพูดจาทะลึ่งอยู่เรื่อย""ผมพูดจริงทำจริงไม่ได้ทะลึ่ง" "พอเลยไม่พูดเ
กวินท์ยืนจับจ้องแผ่นหลังร่างบางในชุดบิกินี่ด้วยแววตาดุดัน ใช้ลิ้นดันกระพุงแก้มอย่างไม่สบอารมณ์เขารู้สึกหัวเสีย และโกรธเอามากๆ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ไม่ให้ตัวเองขาดสติใช้อารมณ์เข้านำเหมือนในคืนนั้นอีก เขาผ่อนลมหายใจแล้วเดินอ้อมไปยืนข้างหน้าร่างบางที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงก้มหน้ามองดิน คิ้วเข้มถึงกับขมวดชนกันเป็นปมเมื่อเห็นหน้าอกหน้าใจที่ล้นทะลักออกมานอกบรา ไหนจะหน้าท้องขาวเนียนเรียวขาสวยนั้นอีก บิกินี่ทูพีชเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งสัดส่วนทุกอย่างชัดเจนไปหมดผู้ชายคนใดได้เห็นก็คงคิดดีไม่ได้"ทำไมใส่ชุดแบบนี้มันโป็มากรู้ไหม" เขาอดที่จะเอ็ดหญิงสาวไม่ได้อยากจะจับเธอตีก้นให้เข็ดหลาบว่าไม่ควรแต่งตัวแบบนี้อีกแต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ ก่อนถอดเสื้อแจ็กเก็ตมาห่อตัวเธอจนมิดชิด"ว๊าย!" แก้มหวานที่ยืนมองการกระทำของอาจารย์หนุ่มอย่างงงๆ ร้องอุทานด้วยความตกใจในตอนที่เขาจับตัวเธอขึ้นอุ้มพาดบ่าจนหัวห้อยโต่งเตงไม่แคร์สายตาคนที่เดินผ่านไปมา หรือสายตาน้องสาวกับเพื่อนสาวของเธอที่ยืนอ้าปากค้างมองด้วยความงุนงงสักนิด"คุณกวินท์ปล่อยแก้มลงนะคนมองหมดแล้ว" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากเอิบอิ่มเบาๆ ด้วยความอับอายเธอไม
"พี่แก้มดีขึ้นแล้วเหรอคะ" เสียงของแก้วตาทำให้แก้มหวานที่ยืนทอดสายตามองทะเลด้วยใจเหม่อลอยสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด ก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับไประบายยิ้มตอบน้องสาว "พี่ดีขึ้นแล้ว""งั้นไปหาอะไรกินกันเถอะเริ่มหิวแล้วอะ" มิราเอ่ยชวนทันทีเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนสาวสดชื่นขึ้นกว่าก่อนหน้านี้พร้อมใช้มือลูบวนไปมาบนท้อง "งั้นก็ไปหาอะไรกินกัน" หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าไปมาให้กับการท่าทางของเพื่อนสาวก่อนเดินไปโอบไหล่เพื่อนสาวกับน้องสาวแล้วเดินพาออกจากห้อง@ร้านอาหารทั้งสามคนเลือกมาทานอาหารทะเลร้านใกล้ๆ กับรีสอร์ทที่เดินเลียบชายหาดมาเพียง 200เมตรก็ถึงเพราะได้ชื่นชมบรรยากาศระหว่างเดินมาด้วย เมื่อได้ออกมาพปปะผู้คนข้างนอกได้ชื่นชมกับบรรยากาศริมทะเลก็ทำให้แก้มหวานรู้สึกดี และผ่อนคลายมากขึ้นลืมเรื่องอาจารย์หนุ่มไปชั่วขณะหลังจากทานอาหารเสร็จทั้งสามคนก็พากันตะเวนเที่ยวทั่วเมืองพัทยาจนค่ำจึงกลับห้องมาพักผ่อน"พรุ่งนี้เล่นน้ำกันไหม" มิราเอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาในห้องแล้ว "ไปสิคะพี่มิรา" แก้วตาตอบตกลงอย่างไม่รอช้าก่อนหันไปพูดกับพี่สาวต่อ "มาทะเลทั้งทีไม่ได้เล่นน้ำก็เหมือนมาไม่ถ
@คอนโดมิรา"ฮึก ฮื่อ" เสียงสะอื้นไห้ดังระงมเบาๆ ภายในห้องนอนของคอนโดมิราแก้มหวานเลือกหนีอาจารย์หนุ่มมาหลบที่คอนโดเพื่อนสาวเพราะคิดว่าเขาคงไม่รู้แน่นอน เธอปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจ และผิดหวังหลั่งไหลออกมาเพื่อชะล้างความรู้สึกแย่ให้หมดไป และหลังจากนั้นเธอจะเริ่มต้นใหม่"คนปากเสียมาว่าแก้มแบบนั้นได้ไง แก้มไม่ชอบคุณแล้ว" ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่เธอนอนร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนรู้สึกดีขึ้นจึงหยัดกายลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มลวกๆ ดวงตากลมโตฉายแววเด็ดเดี่ยวขึ้นในทันตาเมื่อสิ้นเสียงงึมงำ ก่อนจะลุกลงจากเตียงเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วเดินกลับมาหย่อนสะโพกนั่งริมเตียง มือเล็กเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายข้างออกมาเปิดเครื่องหลังจากที่เธอปิดเครื่องหนีอาจารย์หนุ่มก่อนหน้านี้เพื่อโทรบอกน้องสาว ทว่าเพียงแค่เปิดเครื่องเท่านั้นข้อความพยายามติดต่อจากเขาก็เด้งเข้ามาในมือถือระรัวเกือบสิบข้อความแต่เธอหาได้สนใจไม่กลับปัดข้อความเขาทิ้งแล้วต่อสายหาน้องสาว ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(ว่าไงคะพี่แก้ม)(คืนนี้พี่นอนห้องพี่มิรานะแก้ว)(ค่ะ..เมื่อกี้เจ้านายพี่เขามาตามหาพี่
"แก้มหวาน!" กวินท์เดินปรี่ไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนคุยกับผู้ชายหน้าระรื่นด้วยอารมณ์เดือดดาล มือหนาเอื้อมไปจับแขนเล็กแล้วกระชากให้ออกห่างเตชินเจ้านายเก่าของเธออย่างแรงจนเธอเซถลาปะทะลำตัวของเขาเต็มๆปึก!"อ๊ะ..คุณกวินท์" แก้มหวานเบ้หน้าออกมาด้วยความเจ็บ ก่อนแหงนมองหน้าอาจารย์หนุ่มด้วยความรู้สึกตกใจเล็กน้อย ทว่าเธอก็ต้องลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงลำคออึกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าแดงก่ำ และแววตาเกรี้ยวกราดของเขาที่จับจ้องเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ "คุณฟังแก้มก่อนได้ไหม""โอ๊ย! แก้มเจ็บนะ" เธอพยายามข่มไม่ให้ตัวเองตื่นกลัวกับท่าทางเกรี้ยวกราดของร่างสูงตรงหน้า ก่อนเปล่งเสียงพูดเพืื่ออธิบายให้เขาเข้าใจ ทว่าเธอก็ต้องร้องท้วงด้วยความรู้สึกเจ็บพร้อมใช้อีกมือแกะมือหนาออกในตอนที่มือหนาออกแรงบีบแขนของเธอแรงๆ ราวกับจะให้มันแหลกคามือยังไงยังงั้น แต่แรงอันน้อยนิดของเธอหาได้ทำให้มือหนาขยับเขยื้อนออกจากแขนเธอสักนิดไม่ "ผมคนเดียวมันไม่ถึงใจใช่ไหมถึงได้ระริกระรี้กับผู้ชายคนอื่นอีก" กวินท์โกรธและหึงจนหน้ามืดตามัวไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว เขาใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มจับจ้องหน้าเธอสลับกับชายหนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนพรั่งพรูคำ
Komen