“ขอบคุณครับป้าปริก”
“แต่หนู...” แพรวพรรณพยายามจะค้าน
“ถ้าแกจะปฏิเสธละก็ แกหยุดพูดไปได้เลย แกรู้ไม่ใช่เหรอว่าบ้านเราถือเรื่องพวกนี้แค่ไหน”
แพรวพรรณจนด้วยคำแก้ตัว เพราะสายตาของป้าจับจ้องอยู่ที่รอยแดงบนร่างเธอไม่วางตา และเพราะสายตาของท่านทำให้เธอเหลือบมองตนเองเป็นเหตุให้เธอเถียงอะไรไม่ออกได้แต่ยอมปล่อยให้ท่านและพฤทธิ์จัดการกันไปอย่างที่เห็นควร หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจแรง ๆ
พฤทธิ์ทำได้อย่างที่พูดจริง ๆ เมื่อสองวันต่อมาเขาและบิดามารดาเดินทางมาสู่ขอแพรวพรรณถึงขอนแก่น ใบหน้าคมเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มยินดีในขณะที่หญิงสาวทำหน้าง้ำไม่จริงจังนักใส่เขาตลอดเวลาที่ผู้ใหญ่พูดคุยตกลงกันสาว ๆ แถวบ้านของเธอต่างพากันมาแอบมองดูชายหนุ่มรูปหล่อชาวกรุงกันหน้าสลอน
พิธี “กินดอง” ตามภาษาพื้นเมืองที่เรียกพิธีแต่งงานซึ่งมีความหมายว่า จะดองเป็นวงศาคณาญาติต่อกันในกาลข้างหน้า เริ่มต้นด้วย “ประเพณีกินดอง” เริ่มตั้งแต่ การสู่ขอ การหมั้น และการแต่งงาน และในพิธีที่พฤทธิ์ชอบมากก็คงเป็นช่วงพิธีที่ให้ฝ่ายชายขึ้นบนเรือนของฝ่ายหญิงตามลำพังสองต่อสองในยามค่ำคืน แม้จะเป็นแค่พิธีเพื่อให้ฝ่ายชายพูดคุยกับฝ่ายหญิงเพื่อสู่ขอเธอแต่งงานก็ตา