“ฉันขอพักค่ะ! ขอพักก่อนได้โปรด”
เธอดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างและหันไปมองชุดคลุมของตัวเอง หมอมาร์คเดินมาหยิบและโยนให้เธอ เขายังเปลือยอยู่และดูเหมือนเจ้าอาวุธร้ายประจำตัวของเขานั่นยังไม่มีท่าว่าจะอ่อนตัวลงเลยสักนิด
“น้ำอยู่ในตู้เย็นเอาขึ้นมาเผื่อผมด้วย แต่ผมดื่มน้ำอุณหภูมิห้องไม่แช่เย็น นี่คุณลุกไหวหรือเปล่าเนี่ย”
“ค่ะ ๆ ทราบแล้วค่ะ”
เฟรย์รีบดึงชุดคลุมมาสวมและเดินลงจากเตียงทันที แต่เมื่อเดินลงมาได้ก็ล้มลงไปจนเขาดึงเธอขึ้นมาได้ทัน ชุดคลุมที่สวมไม่ดีนักหลุดออกมา หน้าอกและรอยแดงทั้งตัวทำให้หมอมาร์ครู้สึกคอแห้งขึ้นมาอีกครั้ง
“สภาพนี้นะเหรอจะเดินลงไปเอาน้ำแค่ลุกก็จะร่วงแล้ว รออยู่นี่เดี๋ยวผมไปเอามาให้”
“แต่ว่า…ว้าย!”
เธอพยายามเดินและก็ล้มเข้ามาในอ้อมกอดเขาอีกครั้ง หมอมาร์คแทบจะอดใจไม่ไหว ยิ่งอยู่ใกล้เธอแบบนี้เขาก็ยิ่งไม่อยากทำอย่างอื่น นอกจากจับเธอกินทั้งคืน
“ไปนั่งรอดี ๆ เรื่องอื่นยังไม่ต้องสนใจ หน้าที่ของคุณคืนนี้คือเรื่องบนเตียงเข้าใจไหม”
“แค่คืนนี้ใช่ไหมคะ”
“ใครบอกคุณ”
“แต่ว่า!”
‘ฉันจะยืนไม่ไหวอยู่แล้วนะอีตาหมอบ้า ยังจะทำอีกเหรอ’
“มองผมแบบนั้นทำไม นั่งรอเฉย ๆ เดี๋ยวผมรีบกลับมา”
เขาเดินไปคว้าผ้าคลุมมาสวมทับแบบลวก ๆ และเดินออกไปเอาน้ำมาให้เธอดื่มถึงบนเตียงและยังเทให้เธออีกด้วย แต่ตอนที่เขาเข้ามาเธอก็สวมชุดคลุมเรียบร้อยแล้ว
“จำเป็นต้องสวมแบบมิดชิดขนาดนั้นเชียวเหรอ อีกเดี๋ยวก็ต้องถอดออกแล้ว ดื่มน้ำสิ”
เธอยื่นมือมารับแก้วจากเขา แต่หมอมาร์คไม่ได้ยื่นให้เธอ เขาเดินเข้ามาหาและถือแก้วเอาไว้
“ให้เธอหยิบเองก็คงจะทำน้ำหก เสียเวลาเช็ด ผมป้อนเองอ้าปากสิ”
เขาค่อย ๆ ป้อนน้ำให้เธอ เฟรย์ไม่คุ้นกับการทำแบบนี้เอาเสียเลยแต่ก็ขัดขืนไม่ได้ เธอยอมให้เขาป้อนจนหมดแก้ว
“เอาอีกไหม”
เธอพยักหน้า เขาจึงได้หันมาแสยะยิ้ม
“หึ คงเสียน้ำไปเยอะสินะเมื่อกี้นี้”
เฟรย์ไม่ได้ตอบแต่หน้าแดงจัดเมื่อเขาพูดออกมาแบบนี้ ตอนนี้เองที่รู้สึกว่าปวดหนึบที่ท้องน้อยเพราะผ่านคืนแรกมาพร้อมกับเขา แม้ว่าจะมีการ์ดสำหรับเข้าออกในหมู่บ้านหรู แต่ตอนนี้เธอก็คงไม่มีปัญญาเดินออกไปเองอยู่ดี
“อิ่มแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ”
“จะไปไหน มองหาอะไร”
“คือว่า... จะเข้าห้องน้ำ”
“อ่อ เข้าไปสิใช้ห้องน้ำของผมก็ได้จะได้ไม่เสียเวลา”
“คุณหมอคะ คืนนี้…”
“ทำไมเหรอ”
“ฉันต้องไปทำงานพรุ่งนี้เช้า”
“งั้นเหรอ แล้วยังไงล่ะ”
“นี่ก็เริ่มดึกแล้ว”
“ใช่ ดึกแล้ว”
“คืนนี้ฉันขอกลับก่อนได้ไหมคะ”
“จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่เหรอ รีบไปสิ”
เธอไม่พูดอะไรอีก เพราะดูเหมือนว่าพูดอะไรไปเขาก็ไม่ได้ฟังเธอเลย เขาเอาแต่ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก ตั้งแต่เดินเข้าห้องของเขาจนถึงตอนนี้ เธอยังไม่มีโอกาสได้คุยกับเขาเรื่องอาการของแม่เลยสักนิด เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าหมอมาร์คกำลังทำอะไรบางอย่างกับโทรศัพท์มือถือและเมื่อหันกลับมาเจอเธอ เขาก็วางมันลงที่โต๊ะ
“เสร็จแล้วเหรอ”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับเลยนะคะ”
“ผมยังไม่ได้บอกว่าจะให้คุณกลับ ลืมไปแล้วเหรอว่ามาที่นี่เพราะอะไร และต้องทำอะไรตามข้อตกลงของเรา ยังไม่ได้คุยกันอย่างละเอียดเลยนี่”
ตอนนี้เองที่เธอรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว นี่เขาคงไม่คิดที่จะจับเธอขึ้นเตียงอีกหรอกนะ เพราะตอนนี้บนเตียงก็แทบจะนอนต่อไม่ได้แล้วเพราะความดุดันของคุณหมอเจ้าของห้อง
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปใส่เสื้อผ้ามาก่อน”
“ไม่ต้อง เสียเวลาถอดนั่งลงก่อนสิ”
“นั่งเหรอคะ แต่ว่าตอนนี้”
“เตียงยับแล้วพรุ่งนี้ก็คงต้องเปลี่ยนผ้าปูใหม่ งั้นก็ย้ายไปคุยที่ห้องเล็กก็ได้ ไปสิ”
“เอ่อ...”
เขาเดินมาจับตัวเธอและพาเดินออกไปที่ห้องนอนของเธอ ซึ่งใช้เป็นห้องเปลี่ยนชุด เมื่อเข้ามาก็เปิดเครื่องปรับอากาศและพาเธอมานั่งที่เตียงซึ่งเล็กกว่าห้องของเขาเล็กน้อย
“คุณหมอคะ”
“เธอต้องมาค้างที่นี่อย่างน้อยสัปดาห์ละห้าวัน หรือมากกว่านั้นถ้าผมเรียกคุณก็ต้องมา ไม่มีข้ออ้างอะไรทั้งนั้น ถ้ามีธุระก็แจ้งล่วงหน้าก่อน งานที่เหลือผมบอกไปแล้วตอนพาคุณมาถึง มีอะไรจะถามไหม”
“แล้วถ้าฉันมีธุระด่วน แบบว่าด่วนจริง ๆ อย่างที่เลี่ยงไม่ได้ละคะ”
“ก็บอกผมมา ถ้าเหตุผลฟังขึ้นก็จะไม่ว่าอะไร”
“แล้วเรื่องของคุณแม่…”
“ผมจัดตารางการผ่าตัดเอาไว้แล้ว หลังจากนั้นจะมีพยาบาลมาแจ้งเรื่องห้องพักและจะมีตารางสำหรับพักฟื้น เตรียมตัวกายภาพบำบัดและตรวจรายเดือน ไม่ต้องห่วงเพราะผมจะให้คนแจ้งความคืบหน้าคุณเป็นระยะ”
“คุณแม่จะได้ผ่าตัดเลยไหมคะ แล้วรวมระยะเวลาที่ต้องรักษานานไหมคะ แล้ว…”
“นั่นก็ขึ้นอยู่กับอาการโดยรวมของผู้ป่วยว่ารับการรักษาหลังการผ่าตัดได้มากแค่ไหน ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรก็จะฟื้นฟูได้รวดเร็ว แต่ถ้ายังมีอาการแทรกซ้อนก็ต้องทำการรักษาต่อเนื่อง เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม สัญญานี้จะสิ้นสุดก็ต่อเมื่อแม่ของคุณออกจากโรงพยาบาล”
“ฉันคิดว่า… แค่ครั้งเดียว”
“อะไรนะ”
“คือว่า…”
เฟรย์ไม่กล้าพูดออกมา เธอเข้าใจไปเองว่าเขาต้องการแลกการดูแลรักษาพยาบาลให้แม่กับการนอนกับเธอแค่ครั้งเดียว แต่นี่มันเกินสิ่งที่เธอคิดเอาไว้ ไม่คิดว่าคุณหมอจะโหดร้ายกับเธอแบบนี้
“ครั้งเดียวงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นผมก็ผ่าตัดให้แม่คุณครั้งเดียวแล้วจบกัน คุณคิดว่ามันง่ายแบบนั้นเลยเหรอ”
“ฉัน… แล้วเรื่องนี้…”
“จนกว่าผมจะพอใจหรือเบื่อคุณไปเอง ไม่ต้องห่วงหรอกเพราะผมเองก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนได้เกินหนึ่งเดือนเหมือนกัน แต่ถ้าผมติดใจคุณและยังต้องการ จนกว่าที่แม่ของคุณจะออกจากโรงพยาบาล คุณก็ต้องทำหน้าที่นี้ให้จบเข้าใจไหม ถามแบบนี้ไม่ใช่ว่าคุณมีแฟนอยู่แล้วหรอกนะ นี่ผมคงไม่ได้แอบกินเมียของคนอื่นอยู่มั้ง”
“ไม่ใช่นะ! ฉัน… ฉันยังไม่มีแฟนคุณหมอพูดบ้าอะไร”
“อ้อ งั้นก็ดีเพราะนี่คือเงื่อนไขถัดไป”
“อะไรนะคะ ยังไม่หมดเหรอ”
“นอกจากจะต้องทำงานบ้าน ดูแลเรื่องทุกอย่างในบ้านแล้ว ระหว่างนี้ห้ามมีคนอื่น ห้ามพาคนอื่นมาที่บ้านนี้และห้ามมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นเพราะผม… รักสะอาดและไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร เข้าใจใช่ไหม”
“เห็นแก่ตัว”
“ว่าอะไรนะ”
“คุณหมอไม่คิดว่านี่มันออกจะเกินไปหน่อยไหมคะ ห้ามคบกับคนอื่นงั้นเหรอ แล้วถ้าฉันพอมีเงินจ่ายค่ารักษาคุณแม่แล้วอยากยกเลิกสัญญานี้ละคะ”
“ก็มาคุยกันก่อน แต่ผมไม่รับปากว่าจะยอมยกเลิกให้ ในเมื่อคุณเป็นคนที่เสนอเงื่อนไขนี้ขึ้นมาเอง ก็ควรจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุด เพราะผมไม่ชอบคนหนีปัญหา”
“ฉันไม่ได้หนีปัญหา แต่ถ้าหาก…”
“พอได้แล้ว คุณเป็นคนเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเอง มาตอนนี้ผมไม่รับแลกเปลี่ยนเงื่อนไขอื่น ในเมื่อกล้าพูดก็ต้องกล้ารับผิดชอบในสิ่งที่จะเกิดขึ้น”
“ไม่คิดว่าคุณหมอจะเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ คุณไม่มีความเห็นใจผู้ป่วยเลยเหรอคะ”
“เรื่องความเห็นอกเห็นใจแน่นอนว่าผมมี ถ้าไม่มีก็คงไม่รับช่วยเหลือคุณแบบนี้ นี่ยังมาต่อว่าผมได้อีกเหรอกล้ามากเลยนะ”
“คุณ!”
“ทำหน้าดุคิดว่าจะขู่ใครเหรอ คุณคิดว่าหมอต้องเป็นคนดีและมีคุณธรรม ช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทนและทำตัวเหมือนพระเอกในซีรีส์ที่เพ้อฝันนั่นหรือไง ขอโทษนะผู้ชายในฝันแบบนั้นไม่มีในชีวิตจริงหรอก โลกนี้มันมีแต่ข้อแลกเปลี่ยน ใครอ่อนแอก็แพ้ไปเท่านั้นเอง”
เฟรย์ตัวสั่นด้วยความโกรธ เธออยากจะฟาดหน้าหมอหน้าหล่อแต่ใจทรามคนนี้เหลือเกิน หากไม่คิดว่าเขาต้องรักษาให้แม่เธอคงอยากจะฆ่าเขาตรงนี้และเดินออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ
“ผมชอบสีหน้าโกรธของคุณตอนนี้มาก มันปลุกอารมณ์ของผมขึ้นมา ลองจับดูสิมันแข็งอีกแล้วอย่ามัวเสียเวลาเลยนะ เวลานี้กำลังดีเลย ถอดชุดเกะกะนี่ออกได้แล้ว”
เฟรย์น้ำตารื้นและหันไปกอดมาร์คแน่นขึ้นพร้อมกับสะอื้น หมอรัตติกาลบอกแล้วว่าช่วงนี้อารมณ์ของเธอจะค่อนข้างอ่อนไหวง่าย ให้เขาปรับตัวให้ทัน ถึงเธอจะเหวี่ยงวีนใส่เขาหรือร้องไห้โดยไม่รู้สาเหตุบ่อย ๆ หรือบ่นมากกว่าปกติ แต่สำหรับหมอมาร์คแล้วก็ไม่เคยมองว่าเธอน่าเบื่อเลยสักนิดสองเดือนถัดมา / งานหมั้น“เจ้าบ่าวมองกล้องหน่อยครับ สวยมาก”“เหนื่อยหรือยัง”“นิดหน่อยค่ะ”“คุณหมอคะ แขกเข้าไปข้างในหมดแล้ว คุณแม่ให้มาตามค่ะ”“ขอบใจนะแคท”“มาฉันพยุงแกไปเอง ยังไหวอยู่ไหมปวดเท้าหรือเปล่า ฉันจะเอารองเท้ามาเปลี่ยนให้”“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็ถอดแล้ว”“เดี๋ยวผมจัดการเอง คุณเข้าไปก่อนเถอะขอบคุณมากนะครับแคท”“ไม่เป็นไรค่ะหมอ งั้นฉันเข้าไปก่อนนะ”“ได้ ๆ ไปเถอะขอบใจนะแคท”แคทเดินเข้าไปรอในห้องโถงในบ้านซึ่งเป็นเรือนหอของทั้งคู่แล้ว แต่วันนี้ตกแต่งใหม่ และมีโต๊ะอาหารในเต็นท์เย็นที่สั่งมาเป็นพิเศษในสวนเพื่อรองรับแขกที่เป็นญาติ ๆ ในงานหมั้น ส่วนตอนเย็นเป็นงานฉลองสมรสที่จัดที่โรงแรม“ไปเถอะ เข้าไปข้างในกัน”“ค่ะ เอ๊ะ หมอคะ”หมอมาร์ครวบตัวเจ้าสาวในชุดไทยสีทอง ซึ่งเป็นสีเข้าชุดกับชุดเจ้าบ่าวของเขาเข้าไปในบ้าน หลังจากยืนร
“ทวงทุกเรื่องเลยนะคะ ยังไม่ทันได้เริ่มเลย”“ขอเก็บค่ามัดจำไว้ก่อนไม่ได้เหรอ”“เถียงทุกคำ กินข้าวไปเถอะค่ะ”สามวันถัดมาหมอมาร์คและเฟรย์ไปตรวจคลินิกที่เริ่มติดตั้งป้ายแล้ว เพราะเขาพึ่งได้รับใบอนุญาตมาสด ๆ ร้อน ๆ หลังจากทำเรื่องขอเปิดอย่างถูกต้องตั้งแต่ย้ายมาที่นี่เกศราถูกสั่งพักงานและย้ายไปแผนกผู้ป่วยนอก และยังถูกทัณฑ์บนเรื่องการข่มขู่พนักงานเจ้าหน้าที่คนอื่น สุดท้ายเธอทนแรงกดดันไม่ไหวเพราะแผนกผู้ป่วยนอกงานหนักและเหนื่อยกว่าเดิม จึงตัดสินใจลาออกไปแทน“ยินดีด้วยหมอมาร์ค ในที่สุดก็ได้ใบอนุญาตเปิดมาแล้วสินะ”“ต้องขอบคุณลุงมิ่งด้วย ที่อุตส่าห์ช่วยมาดูแลช่างให้ตอนรีโนเวทคลีนิก”“เอาน่า ๆ คนกันเองทั้งนั้น ขอแค่รักษาคนในบ้านฟรีก็พอ”“ไม่ได้สิครับ”""เอ๊ะ!!""ทั้งชมจันทร์ ป้าบัวลอยและลุงมิ่งส่งเสียงขึ้นมาทันที หมอมาร์คหันไปยิ้มแต่คนที่พูดกลับเป็นเฟรย์“พี่มาร์คหมายความว่าแค่คนในบ้านไม่ได้ ต้องทั้งสวนค่ะ ทั้งพนักงานและลูกจ้างทุกคน มีสิทธิ์มารักษาที่คลินิกนี้ฟรีทุกคน อย่าพึ่งตกใจสิคะ คุณก็หาเรื่องแกล้งคนแก่ เดี๋ยวแม่ก็ตกใจอีกหรอก”“ธรรมโม พ่อคุณเอ๊ยใจบุญเหลือเกิน ขอให้เจริญ ๆ เงินไหลมาเทมานะคะ”
“อุ้มไปสิคะ ตอนนี้ไม่สกปรกแล้วนี่”“รับคำสั่งครับผม”เขารวบตัวเธออุ้มและก้มลงมาจูบอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตัวคู่หมั้นสาว เขาเป็นโรครักสะอาดและไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องตัวเขา ซึ่งเมื่อกี้เขาถูกเกศราจู่โจมเข้ามาลวนลาม ดังนั้นจึงไม่กล้าแตะต้องเฟรย์จนถอดเสื้อตัวนั้นทิ้งถึงได้กลับมาจูบเธออีกครั้ง น้ำอุ่นในอ่างสุดหรูรอทั้งคู่อยู่ เทียนหอมกลิ่นโปรดของเฟรย์ถูกจุดเพื่อปรับบรรยากาศ“จุดเทียนหอมด้วยเหรอคะ”“นิดหน่อยน่ะ ผมคงต้องล้างตัวนานเลยล่ะ”“เล่าให้ฟังหน่อยสิคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น เฟรย์จะสระผมให้”เธอค่อย ๆ ขยับมานั่งขอบอ่าง เขาเอนตัวมาพิงเธอและเริ่มเล่าอีกครั้งเมื่อเฟรย์เริ่มสระผมให้เขา“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ตั้งแต่ย้ายมาที่นี่วันแรกผมก็เจอเธอในแผนก เธอทำงานเก่ง กระตือรือร้น และทุกครั้งที่ออกตรวจก็มักจะเจอทุกครั้ง ผมมารู้ทีหลังว่าเกศราข่มขู่น้องพยาบาลคนอื่น เพื่อให้ได้ออกตรวจพร้อมกับผม และยังจัดเวรของตัวเองให้ตรงกับผมทุกครั้ง แต่นั่นมันหมายความว่าไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน”“พยายามมากจริง ๆ แล้วยังไงต่อคะ”“หลังจากนั้นเธอก็เริ่มเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ คุณจำวันแรกที่คุณแม่ไปทำกายภาพ แล
เฟรย์ยืนนิ่งเหมือนกับช็อกไป เมื่อเห็นภาพของพยาบาลสาวคนสวย อายุน่าจะพอ ๆ กับเธอ นั่งตักคู่หมั้นหนุ่มซึ่งเขารีบดันเธอจนตกจากเก้าอี้ลงพื้น“เกศรา ผมบอกคุณไปแล้วนะว่าผม…”“เพราะเธอเหรอคะ ก็แค่คู่นอนที่ไม่เหมาะสมกับคุณ ได้ข่าวว่าเป็นแค่ชาวสวนธรรมดา เธอไม่เหมาะกับคุณหมอเลยสักนิดนะคะ เกศเป็นพยาบาล ทำงานสายเดียวกันกับคุณหมอคะเกศว่า…”“เธอเป็นเมียผมไม่ใช่คนอื่น คุณเป็นบ้าอะไรถึงได้มั่นหน้าว่าผมจะชอบคนอย่างคุณได้… เฟรย์ ฟังผมก่อนนะเรื่องนี้ผมไม่ได้เริ่มเลยนะ ผมไม่มีทางทำผิดกับคุณ"“เธอเป็นใครคะ”“ฉันเป็นคนที่ทำงานกับคุณหมออติวิชญ์ทุกวัน เราสองคนทำงานด้วยกันมาตลอดตั้งแต่ที่เขาย้ายมาที่นี่ เราสองคนเข้ากันได้ดีมาก แต่เธอ! เป็นคนที่น่ารำคาญที่เอาแต่เกาะเขา!”“หุบปากนะ! เกศราดูเหมือนว่าครั้งก่อนผมจะขู่คุณเบาไปใช่ไหมว่าให้คุณเว้นระยะห่างจากผมหน่อย คุณก็เห็นว่าผมมีคู่หมั้นแล้วและกำลังจะแต่งงาน”“ไม่! ถ้าคุณหมอเจอฉันก่อน ไม่มีทางที่คุณจะเลือกเธอ เกศมั่นใจว่ามีดีกว่าผู้หญิงคนนั้น!”“เพี๊ยะ!”“เฮือก! นี่เธอ…. ตบฉันเหรอ!”“ตบนี้เพื่อดับความมั่นของเธอหน่อย”“เพี๊ยะ!”“อี…!”“ผลั่ก!”“กรี๊ด!!!!”เสียงร้องขอ
สามเดือนถัดมา “ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง ยังปวดหัวอยู่ไหมครับ”“ไม่แล้วค่ะ”“ยังกินอาหารได้ปกตินะครับ”“ค่ะคุณหมอ”“แสดงว่าการผ่าตัดได้ผลดี ไม่มีผลกระทบอะไร”“ขอบคุณค่ะ”“คุณหมอยังหนุ่มอยู่เลยนะคะเนี่ย ไม่ทราบว่าคุณหมอมีครอบครัวหรือยังคะ”ญาติผู้ป่วยหันมาถาม พร้อมกับดึงลูกสาวที่ยืนบิดเพราะความอายอยู่ข้าง ๆ แม่ อติวิชญ์ไม่ได้สนใจพวกเธอ เขาแค่ก้มลงเซ็นเอกสารบางอย่างและส่งให้พยาบาลเท่านั้น“ขอบคุณที่ถามครับ แต่ผมมีภรรยาแล้ว”ติ๊ด ติ๊ด“ผมขอตัวก่อนนะครับ”“ขอบคุณนะคะคุณหมอ”“ยินดีครับ”อติวิชญ์เดินออกมาจากห้องพักฟื้นของคนไข้ที่พึ่งทำการผ่าตัด เธอพึ่งฟื้นขึ้นมาหลังจากการผ่าตัดที่ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ญาติคนไข้กลุ่มนี้มักจะชอบซื้อของมาฝากเขาเสมอ ตั้งแต่ย้ายมาประจำอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ ก็มักจะมีญาติคนไข้แปลก ๆ เยอะมาก ห้องพักแพทย์“ที่รัก ผมมาแล้ว”“ตรวจเสร็จแล้วเหรอคะ เฟรย์คิดว่าจะนานกว่านี้เลยแค่ส่งข้อความไปให้คุณเฉย ๆ นี่ก็คิดว่าจะไปดูคุณแม่ทำกายภาพบำบัดเลย…. ที่รักคะเบาหน่อยที่นี่โรงพยาบาลนะ”“นิดเดียวน่า”หมอมาร์คดึงตัวคู่หมั้นสาวเข้ามาจูบด้วยความคิดถึง แม้ว่าทั้งสองจะย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนหอที
“คุณว่ายังไงนะคะ นี่คุณ….”เขาจอดรถและพาเธอเดินลงมา เพื่อดูตึกแถวหน้าหมู่บ้านที่เขาพาเธอขับรถวนดูอยู่สองรอบ และก็เจอทำเลที่ถูกใจ“คุณคิดว่ายังไง ที่จริงผมเองก็เบื่อชีวิตในกรุงเทพมาก ๆ อีกอย่างพอมาอยู่ที่นี่ไม่กี่วัน กลับเริ่มติดใจและไม่อยากกลับกรุงเทพเสียแล้ว”“หมอพูดจริงเหรอคะ”“ที่รักผมจะโกหกคุณได้เหรอ คุณคิดว่ายังไงจะเห็นด้วยไหมถ้าเราแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่ที่นี่ ซื้อบ้านและห้องชุดเพื่อเปิดคลินิก”“คุณไม่เสียดายงานที่โรงพยาบาลเหรอคะ”“ไม่ ผมทุ่มเทกับงานมาเกือบห้าปีเต็ม จนบางครั้งยังคิดว่าเผลอทำบางอย่างหายไป อีกอย่างพ่อแม่ของผมก็อยู่ต่างประเทศกันหมด ตอนนี้ที่ไหนมีคุณอยู่ด้วย ที่นั่นก็คือบ้านของผม”เฟรย์เข้ามากอดเขาแน่น และยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาอีกครั้ง และนึกขึ้นได้ว่าหมอมาร์คดูห้องชุดแถวสาทรเอาไว้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยถามเขาอีกเลย“ที่รักคะ เฟรย์จำได้ว่าคุณจะซื้อห้องชุด”“อ๋อ ห้องนั้นน่ะเหรอ ผมขายให้เพื่อนหมอของผมไปแล้ว เขาอยากได้ที่พักแถวนั้นพอดี ในเมื่อคุณไม่อยู่แล้วผมจะอยู่ทำไมละจริงไหม”“ถ้าอย่างนั้น...”“ไปดูที่ดินในหมู่บ้านกันเถอะ ผมอยากสร้างเองโดยไม่ต้องใช้ช่างของโครงการ ส่วนตึ