วันถัดมา
วานิลกำลังนั่งอ่านเอกสารการสมัครงานของเด็กเสิร์ฟคนใหม่ วันนี้ที่เธอมาแต่เช้าก็เพราะเรื่องนี้ ทั้งที่เป็นแค่เด็กเสิร์ฟแต่ทำไมเธอถึงสนใจในตัวได้มากขนาดนี้นะ เป็นเพราะหน้าตาดี หรือเอกลักษณ์น้ำหอมที่เธอได้กลิ่นจากตัวของเขา หรือว่าอย่างอื่นแต่เธอไม่เคยให้ความสนใจจะอ่านข้อมูลส่วนตัวการสมัครงานแบบนี้เลย
เธอไม่ได้มีความรู้สึกตื่นเต้น ใจเต้นกับเพศตรงข้ามมานานมากๆ แล้ว
ก๊อกๆๆๆ ~
แกร๊ก!!
วานิลรีบคว่ำเอกสารลงกับโต๊ะ เงยหน้าขึ้นมองคนที่เข้ามาใหม่ เด็กเสิร์ฟเจ้าของประวัติการสมัครงานที่เธอกำลังดูอยู่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ
"ผมเอาเครื่องดื่มมาส่งครับ ผู้จัดการสั่งให้เอามา"
"เขาไม่ได้บอกนายเหรอ ว่าถ้าฉันยังไม่อนุญาต ก็ยังเข้ามาไม่ได้" เธอพูดเสียงเรียบ สายตาจ้องมองคนตรงหน้าอย่างเย็นชา
"ขะ ขอโทษครับ คือผมไม่รู้ ข้างหน้าไม่มีใครอยู่เลย"
"ช่างมันเถอะ เอาวางไว้แล้วนายก็ออกไปซะ"
"เอ่อครับ"
เธอทำเป็นไม่สนใจ แต่ความจริงก็ให้ความสนใจไม่น้อยเลย แค่รู้สึกแปลกๆ ในหลายๆอย่างในตัวของผู้ชายคนนี้ ทั้งหน้าตารูปร่าง ดูดีเกินกว่าจะมาเป็นแค่เด็กเสิร์ฟแท้ๆ
ผ่านไปสักพัก
ก๊อกๆๆ ~
"เข้ามา"
"คุณวานิลเรียกพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"นายหายไปไหนมา?"
"อ๋อ พอดีผมปวดท้อง เลยไปเข้าห้องน้ำกระทันหันครับ"
"......" เธอไม่ได้ตอบกลับอะไร ต่อให้จะโกรธไปก็เท่านั้นแหละ
อีกอย่างถ้าคิดกลับกัน ผู้ชายคนนั้นก็เป็นเด็กใหม่ของที่นี่ คงยังไม่ค่อยรู้กฎอะไร และส่วนใหญ่คนที่ขึ้นมาเสิร์ฟน้ำด้านบนให้กับแขก VIP หรือแม้กระทั่งเธอ ก็จะเป็นพนักงานคนเดิมๆ ที่รู้กฎเป็นอย่างดี
"วันนี้มีประชุมใช่ไหม?"
"ครับ ผมให้คนของเราจัดเตรียมสถานที่เอาไว้เรียบร้อยแล้วครับ"
"อือ ถึงเวลาเดี๋ยวฉันออกไป"
"ครับ"
ประชุมที่ว่าของเธอ ก็เป็นประชุมขององค์กร ซึ่งทุกคนจะมารวมตัวกันที่นี่ เธอเองก็เป็นหนึ่งในคนขององค์กรเช่นกัน เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้อยู่ในองค์กรนี้
***************
ตกดึกในวันเดียวกัน
ฟู่ว~
หญิงสาวกำลังยืนสูบบุหรี่ หลังจากที่เพิ่งจะเสร็จการประชุม ระหว่างนี้ก็กำลังรอลูกน้องคนสนิทขับรถมารับเพื่อที่จะกลับบ้าน
เธอสูบบุหรี่เป็นบางครั้ง ในวันไหนที่รู้สึกเหนื่อยล้า รู้สึกเครียด ไม่สบายใจ เธอก็มักจะมาสูบบุหรี่อยู่คนเดียวแบบนี้
"สวัสดีครับ"
"......" หญิงสาวหันไปมองตามเสียง เจ้าของประโยคทักทายเธอคือเด็กเสิร์ฟที่เข้ามาใหม่ เธอมองนิ่งๆ ไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับ
"ผมขอยืมไฟแช็กหน่อยสิครับ"
"......" เธอไม่ได้ตอบอะไรอีกเช่นเคย แต่ก็หยิบไฟแช็กออกจากกระเป๋าและยื่นให้กับคนตรงหน้าแต่โดยดี
"ผมคิดว่าเจ้าของที่นี่เป็นผู้ชายซะอีกนะครับเนี่ย"
"เป็นผู้หญิงแล้วมันยังไง"
"ก็ไม่นะครับ ผมแค่รู้สึกแปลกใจ"
"....." เธอไม่ได้ตอบ
"เรื่องเมื่อวาน ดูเหมือนจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ นะครับ"
"มันไม่ใช่หน้าที่ของนายที่จะต้องใส่ใจ ทำหน้าที่ของตัวเองให้มันดีก็พอ"
"ผมขอโทษครับ"
"ชื่ออะไรล่ะ ฉันจะได้เรียกถูก"
"ชื่อรัณครับ ชื่อเต็มๆ คือศรัณย์"
"......" ความจริงก็รู้แล้วแหละ ดูจากใบสมัครก็รู้หมดแล้วทุกอย่าง ชื่อจริง นามสกุล บ้านเลขที่ แม้กระทั่งอายุ ที่เด็กกว่าเธออยู่หลายปี
บรืน~
ไม่นานนักรถคันหรูที่ลูกน้องของเธอไปขับมารับก็จอดอยู่ตรงหน้า หญิงสาวรีบขึ้นรถไปทันที ส่วนเด็กเสิร์ฟก็ได้แต่ยืนมองพร้อมกับกำไฟแช็กในมือเอาไว้แน่น เขาตั้งใจตีเนียนไม่คืนให้กับเธอ เพื่อที่จะหาข้ออ้างเจอกับเธออีก
บนรถ
"คุณวานิล กำลังคุยอยู่กับเด็กใหม่เหรอครับ?"
"ไม่ได้คุยอะไร เขาแค่มาขอยืมไฟแช็ก"
"อ๋อ"
"เรน..."
"ครับ"
"สำหรับนายคิดว่าความรักมันเป็นยังไง เลวร้ายไหม หรือว่ามันสวยงาม"
"ความรักก็ต้องสวยงามสิครับ แต่ผมว่ามันก็ไม่เสมอไปสำหรับทุกคนหรอก เพราะบางคนก็ไม่ได้มองว่าความรักมันสวยงาม"
"......" ไอ้อย่างหลังมันเป็นแบบเดียวกับเธอสินะ เพราะเธอก็ไม่ได้มองว่าความรักมันสวยงามอะไรเลย สำหรับเธอความรักคือความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ สิ่งเลวร้ายกับหัวใจความรู้สึก หากใครเอาความรู้สึกลงไปเล่นกับสิ่งนี้แล้ว แน่นอนว่ามันจะทั้งเจ็บและผิดหวัง เหมือนตายทั้งเป็นเลย
วานิลกลับมาถึงบ้านเธอก็เข้าห้องนอนของตัวเองทันที ที่นี่เธออยู่คนเดียว เพราะตัวเองไม่ได้มีญาติพี่น้องที่ไหนแล้ว จะมีก็แต่เพื่อนๆ ในองค์กรเท่านั้น
หญิงสาวถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก จนร่างกายของเธอเปลือยเปล่า เผยให้เห็นรอยสักเกอิชาบนแผ่นหลังเต็มหลัง ก่อนจะเข้าไปนั่งแช่น้ำในอ่างน้ำพร้อมกับจิบไวน์ไปด้วย
เธอก็เป็นผู้หญิงของเธอแบบนี้ หลายคนมองว่าเธอแรงและร้าย แต่ใครจะไปรู้ ว่ากว่าจะมาเป็นเธอเหมือนทุกวันนี้ได้ต้องผ่านมรสุมอะไรมาบ้าง
บางคนแค่เห็นว่าเป็นผู้หญิงมีรอยสัก ก็เป็นผู้หญิงไม่ดีแล้ว
แต่สำหรับเธอไม่ใช่เลย บางคนไม่ได้สักอะไรเลย เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน ใส่ชุดสูท ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนที่แสนดี แต่ลับหลังคนเลวๆ คนนึงเลยนี่เอง
วานิลไม่เคยมีแฟนหรือคนที่รักอีกเลยหลังจากที่พ้นโทษออกมา เธอเดินหน้าเอาคืนคนที่มันทำให้เธอต้องแปดเปื้อน เอาคืนคนที่มันทำให้เธอต้องฝังใจตลอดระยะเวลาที่อยู่ในแดนนรกนั่น ทั้งที่เธอไม่ได้มีความผิด เธอไม่ได้เป็นคนทำผิด แต่กลับต้องมารับโทษ ต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายระหว่างที่อยู่ที่นั่น
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ถึงตอนนี้เธอจะจัดการให้พวกมันลงนรกไปแล้วก็ตาม
ความจริงเธอไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเลย เธอก็แค่ผู้หญิงคนนึง ผู้หญิงที่เรียบร้อยคนนึง และมีแฟนที่หน้าตาดีคนนึงและยังแสนดีมักอีกด้วย แต่ทว่าสิ่งนั้นก็แค่รูปลักษณ์ภายนอก ใครจะไปรู้ แฟนที่แสนดีของเธอที่ต่อหน้าเธอบอกว่าเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ แต่กลับเป็นเจ้าพ่อค้ายาเถื่อนรายใหญ่ที่สุดที่ตำรวจกำลังตามตัว แต่เพราะความรวย เงินจึงช่วยทุกอย่างได้ สุดท้ายเธอถึงต้องรับกรรม เป็นแพะรับบาป ทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เวลาต่อมาสนามบินประเทศไทย"ระวังนะครับตะวัน" ฉันร้องห้ามลูกชาย เมื่อลงมาจากเครื่องเจ้าตัวก็วิ่งไปรอบๆ เหมือนกำลังตื่นเต้น ก็ปกติแหละสำหรับเด็กที่เพิ่งจะได้ออกมาจากโลกของตัวเอง ตะวันไม่เคยไปเที่ยวไหนไกลขนาดนี้มาก่อนเลย"มันแปลกตามากเลยครับแม่""ตะวันครับตะวัน""ปล่อยเถอะครับ แกยังไม่เคยเห็น คนของผมก็อยู่กันเยอะแยะ เขาไม่ปล่อยให้นายน้อยของเขาคลาดสายตาหรอก""....." ฉันไม่ได้ตอบอะไร ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ แต่คนเป็นแม่อ่ะ ยังไงก็ห่วงลูกอยู่แล้ว"รถจอดอยู่ทางนี้ครับ" ลูกน้องของเขาเดินมาบอก"มากันเถอะครับนิล ตะวันครับมาขึ้นรถเร็ว""ครับคุณพ่อ"สมกับเป็นเขาจริงๆ นะ แค่เจ้านายกลับมาจากต่างประเทศ ลูกน้องนี่ขนกันมารุมล้อมต้อนรับราวกับว่าจะมีคนมาดักทำร้ายงั้นแหละ ฉันอุตส่าห์จะกลับมาอย่างเงียบๆ แต่นี่คงไม่เงียบแล้วล่ะจะว่าไปหลายปีที่ฉันไม่เคยได้กลับมา อะไรต่อมิอะไรมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกันเลยนะเนี่ย มันดูแปลกตาไปเยอะเลย แม้บางอย่างจะอยู่ที่เดิม แต่ก็ปรับเปลี่ยนไปไม่ใช่น้อย"เราจะไปที่ไหนกันครับคุณพ่อ""บ้านของพ่อไงครับ""แล้วแม่นิลมีบ้านที่นี่ไหมครับ""มีครับ""เราจะไปเที่ยวไหนกันบ้างค
เช้าแสนสดใสของวันรุ่งขึ้น"เฮือก!!" วานิลสะดุ้งตื่น เธอรีบลุกขึ้นและมองรอบๆ ตัวเอง พอเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นจนสว่างจ้าแล้วเธอก็รู้ได้ทันทีว่า มันสายมากแล้ว "รัณ!"ร่างบางรีบลุกขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดู ให้ตายสินี่มันจะสิบโมงแล้ว เธอนอนตื่นสายขนาดนี้ได้ยังไงกัน"ให้ตายสิโอ้ย! ตื่นสายได้ยังไงวะเนี่ย!" เธอบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่กำลังเร่งรีบแต่งตัว เพราะเธอจะลงไปสภาพแบบนี้ไม่ได้หรอกพอแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบเดินออกไปที่ประตู แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เปิดออกไปประตูก็ถูกผลักเปิดเข้ามาซะก่อนแกร๊ก~"คุณ!""ตื่นแล้วเหรอครับ ผมว่าจะขึ้นมาดูอยู่พอดี" ศรัณย์พูด"ตะวันล่ะคุณ?""ไปเรียนแล้วครับ""ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ นี่ฉันสายเลยนะ ไหนจะต้องเปิดร้านอีก""ไม่เห็นต้องเร่งรีบเลยครับ พนักงานของคุณเขาจัดการกันเรียบร้อยหมดแล้วนะครับ""....""ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วครับ ลงมากินข้าวสิ ผมเตรียมให้แล้ว""เฮ้อ...ตกใจหมด!""ตกใจทำไมครับ มีผมอยู่ทั้งคนนะครับ""ปกติฉันเป็นคนไม่ตื่นสายนะ เล่นมาตื่นสายแบบนี้ ใครบ้างจะไม่ตกใจ""มากินข้าวเถอะครับ""อืม..."วานิลรีบเดินตามศรัณย์ลงไปด้านล่าง เขาทำอาหารไว้ให
"อุ๊บ! อื้อ!!~"วานิลทำตัวไม่ถูก จู่ๆ ศรัณย์ก็โน้มหน้าลงมาจูบปากกับเธอ เรียวลิ้นสอดเข้าไปในปากเล็ก ตวัดไปมาเหมือนควานหาอะไรในปากของเธอ"อื้ม...!!""อืม...อยู่นิ่งๆ สิครับ" น้ำเสียงของอีกฝ่ายแหบพร่า แม้เธอจะขัดขืนแต่เขาก็ไม่ได้หยุดการกระทำของตัวเองนี่มันเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เธอได้จูบกับใคร และมันก็น่าตกใจไม่น้อย เพราะตอนนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าระเบียง"อืม...""พะ พอ อืม..." วานิลพยายามเบี่ยงหน้าหลบ แต่แล้วก็ถูกเขาประคองให้กลับมาอยู่ในท่าเดิม เริ่มที่จะขัดขืนยากขึ้น เพราะมือทั้งสองข้างถูกล็อคเอาไว้ บวกกับร่างกายที่เหมือนจู่ๆ ก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาบอกไม่ถูก"ระ รัณ...!" คราวนี้เธอผลักเขาออกไปได้สำเร็จ แต่ถึงจะจูบกับเธอต่อไม่ได้ ก็ใช่ว่าเขาจะหยุดการกระทำของตัวเองเสียหน่อยจมูกโด่งเริ่มซุกไซ้ตามลำคอขาวต่อจากนั้น คลอเคลียอยู่กับใบหูของเธอจนมาถึงหน้าอก ทำอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด เหมือนกับแมวน้อยที่กำลังคลอเคลียเจ้านาย"อะ อืม...พอแล้ว""ตัวคุณหอมจัง""ระ รัณ...""ผมไม่เคยรังเกียจคุณ ผมรักคุณ ผมรักคุณ...""อะ อือ...หยะ หยุดก่อน" เพราะเขาไม่ได้พูดอย่างเดียวเนี่ยสิ มือสองข้างก็เล้าโลม จับตรงนั้นตรง
ตกกลางคืน หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแสนหวานกับศรัณย์มา วานิลกำลังนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวเงียบๆ จนกระทั่งศรัณย์เดินเข้ามา"คิดอะไรอยู่ครับ""มีเรื่องให้ต้องคิดน่ะค่ะ" วานิลตอบ"พอจะบอกผมได้ไหม ว่าคุณกำลังคิดเรื่องอะไร?""....." วานิลเงียบ ก่อนจะถอนหายใจออกมา การกระทำแบบนี้เหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเธอไปแล้ว "ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ""ครับ?""ฉันคิดว่าเรื่องนี้คุณเองก็ยังไม่รู้ และถ้าฉันเล่าออกไป คุณอาจจะรังเกียจคนอย่างฉันไปเลยก็ได้""ไม่ ผมจะไม่...""ฟังฉันก่อนสิ" วานิลรีบพูดดักขึ้น เขายังไม่รู้เลยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรให้ฟัง บางทีถ้าเขาได้ยินแล้วเขาอาจจะรับไม่ได้และเลิกรักเธอไปเลยด้วยและที่เธอเลือกที่จะพูดเอาตอนนี้ เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาเธอไม่มีความกล้าซะเลย ยิ่งเธอนึกถึงเรื่องเหล่านั้น มันก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเธออยู่ตลอด"พูดมาสิครับ...""ฉันเคยติดคุก แต่คุณคงรู้แล้ว ฉันถูกอดีตแฟนใส่ร้ายเรื่องยาเสพติด ฉันเลยต้องติดคุก เพราะไม่มีพยาน ไม่มีหลักฐาน ไม่มีคนมาช่วยเรื่องคดี""ใช่ ผมรู้เรื่องนี้แล้ว""เรื่องข้างใน...""ครับ?""ขอโทษนะ ที่เพิ่งบอกเอาตอนนี้ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงมัน ฉันก็ยังเจ็บใจอยู
หลายเดือนต่อมาร้านดอกไม้ Tawan Flower Shop"อะไรเนี่ย?" วานิลพึมพำกับตัวเอง เพราะจู่ๆ ตรงหน้าของเธอก็มีช่อดอกไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้า และดูเหมือนว่าจะมีคนยืนถือมันอยู่ด้วย"จ๊ะเอ๋!~""คุณ! เล่นอะไรเนี่ย ตกใจหมด!""เซอร์ไพรส์ครับ""ร้านดอกไม้อยู่ตรงนี้แท้ๆ คุณไปอุดหนุนร้านอื่นเหรอ?" ถามเสียงแข็งเหมือนหาเรื่อง"ปะ ป่าวนะครับ ผมสั่งมาจากร้านตรงที่บริษัทที่ผมไปทำงาน ซื้อจากร้านคุณ คุณก็รู้น่ะสิ แบบนั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์หรอก""......" ก็ไม่อะไรหรอก แค่แกล้งเขาเล่นก็เท่านั้นแหละ"ดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยๆ ของผมครับ""อื้ม...ขอบใจนะ""หิวกาแฟจังเลยครับ""เข้าไปข้างในสิ""ไปนั่งด้วยกันนะครับ""อ๊ะ! ดะ เดี๋ยว! ฉันยังทำงานอยู่นะ!"เหมือนศรัณย์จะไม่ฟังอะไรเลย เขาจับแขนของวานิลแล้วดึงเธอเข้าไปในร้าน และตอนนี้ร้านขยับขยายไปอีกเพราะซื้อคูหาใกล้ๆ กันรวมเป็นร้านเดียวไปแล้ว เป็นร้านดอกไม้ที่มีคาเฟ่อยู่ด้วย พอจัดด้วยดอกไม้สวยๆ แล้ว เรียกลูกค้าได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคนที่ชอบมาถ่ายรูป"อะไรของคุณเนี่ย!?""พนักงานก็เต็มร้าน ไม่เห็นต้องทำเองเลยครับ""ก็คนมันว่าง จะให้ฉันทำอะไร ทำไม่ให้ฉันทำแบบนี้""ตอนนี้ไม่ว่างแล้วน
เวลาผ่านไปร่วมเดือน"ตะวัน!!" วานิลตะโกนเรียกลูกชาย พร้อมกับเท้าเอวยืนรออยู่ตรงบันได เพราะนี่มัน 7:45 แล้วแต่ลูกชายยังมัวแต่โอ้เอ้อยู่ได้ ศรัณย์นี่แหละตัวดีเลย คอยอยู่เบื้องหลังคอยให้ท้ายกันอยู่แบบนี้ไงตะวันถึงได้เป็นแบบนี้"มาแล้วคร้าบแม่นิล..." เสียงหวานของหนุ่มน้อยดังมาแต่ไกล"สายแล้วนะ มัวทำอะไรกันอยู่!" เธอถามเสียงเข้ม"เสร็จแล้วครับ เสร็จแล้ว""คุณ...!" กำลังจะบ่นแต่ก็ถูกเขาพูดแทรกซะก่อน ราวกับว่ารู้ว่าเธอจะบ่นยังไงเลยชิงพูดก่อน"ขอโทษครับ ผมลืมดูเวลา จะรีบไปส่งเดี๋ยวนี้เลย""....." วานิลยืนมองนิ่ง ส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับสองพ่อลูกคู่นี้ที่กำลังพากันวิ่งไปที่รถ มันน่าจริงๆ เลยนะสองพ่อลูกคู่นี้"มีอะไรกันเหรอพี่นิล?" เจียอีเดินเข้ามาถาม"จะอะไรซะอีกล่ะนอกจากสองพ่อลูกคู่นี้""หึหึ ดูเขาเข้ากันได้ดีเลยนะ" เจียอีหัวเราะใส่ ตอนแรกที่รู้ความจริงว่าพ่อของตะวันเป็นใครก็ตกใจอยู่นะ แต่ตอนนี้ก็ชินแล้วล่ะ"เข้ากันได้ดีเกินน่ะสิ หัวจะปวด โอ้ยยย!""เอาน่าพี่ อย่าไปเคร่งนักเลย""พี่ไม่ได้เคร่งนะ แต่เขากำลังจะทำให้ตะวันเสียคน ตะวันเคยตรงเวลา มีระเบียบเรียบร้อย แต่พอมีเขาที่ทำให้ทุกอย่าง ตะวันเปลี