วานิล อายุ 30 ปี เธอเป็นเจ้าของกิจการกาสิโนแทบจะทั้งหมดในประเทศ อดีตเธอเคยติดคุก เพราะถูกใส่ร้ายจากคนที่เธอรักมาก เธอต้องติดคุกเพราะหลักฐานมัดตัวแน่น คนรักที่รับปากบอกจะช่วยกลับหนีหายเหมือนตายจาก เธอต้องติดคุกฟรีอยู่ห้าปี แถมยังถูกย่ำยีจากผู้คุมอีกต่างหาก พอพ้นโทษเธอก็เดินหน้าเอาคืนคนที่มันทำให้เธอต้องเป็นคนมีประวัติไม่ดี เอาคืนมันทุกคน
View MoreCasino Will
หญิงสาวหน้าตาสะสวย เดินตรงเข้าไปด้วยท่าทางที่สง่างาม มีความมั่นใจ หน้านิ่งๆ ที่ไม่ไหวติงกับใครที่เดินผ่านหรือกำลังมอง มันเป็นเอกลักษณ์เอามากๆ เธอสวยมีเสน่ห์ภายนอกดึงดูดแม้กระทั่งเพศเดียวกัน แต่คนที่รู้จักเธอจริงๆ แน่นอนว่าจะไม่เข้ามายุ่ง เพราะรู้ว่าเธอนั้นเป็นคนแบบไหน นอกจากคนที่จะไม่รู้จริงๆ
"สวัสดีค่ะคุณวานิล"
"อืม วันนี้เป็นยังไงบ้าง"
"ปกติดีค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อย"
"คอยดูแลด้วยล่ะ มีปัญหาอะไรไปเรียกฉันที่ห้อง"
"ค่ะคุณวานิล"
มีปัญหาที่ว่าก็จะเป็นพวกลูกค้าที่มาเล่นเสียเองแต่กลับโทษว่าที่นี่โกง โวยวายไม่ยอม ผู้จัดการมาคุยก็ไม่ยอม จะทำลายข้าวของจนต้องให้การ์ดล็อคตัวไว้ และวานิลก็ต้องลงมาจัดการเอง
หญิงสาวเข้าไปนั่งทำงานที่ห้องทำงานของตัวเอง ภายในห้องเย็นเฉียบเธอกำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น เธออยู่คนเดียว เพราะไม่ชอบให้ใครมายุ่งในเวลางาน ทุกอย่างจึงเงียบสงบ น้อยนักที่จะมีคนได้เข้ามาที่นี่ นอกจากผู้จัดการที่เอางานมาส่งหรือคนที่เธออนุญาตแล้วจริงๆ
วานิล อายุ 30 ปี เธอเป็นเจ้าของกิจการกาสิโนแทบจะทั้งหมดในประเทศ อดีตเธอเคยติดคุก เพราะถูกใส่ร้ายจากคนที่เธอรักมาก เธอต้องติดคุกเพราะหลักฐานมัดตัวแน่น คนรักที่รับปากบอกจะช่วยกลับหนีหายเหมือนตายจาก เธอต้องติดคุกฟรีอยู่ห้าปี แถมยังถูกย่ำยีจากผู้คุมอีกต่างหาก พอพ้นโทษเธอก็เดินหน้าเอาคืนคนที่มันทำให้เธอต้องเป็นคนมีประวัติไม่ดี เอาคืนมันทุกคน
ปัจจุบันเธอผันตัวมาเป็นคนใหม่ แต่ก็ยังคงร่างเดิมของผู้หญิงเย็นชาไว้อยู่ เธอไม่อยากมีความรัก เธอเกลียดมัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเห็นใครรักกันแล้วเธอจะต้องทำลาย ใครมีรักดีเธอก็ดีใจด้วย แต่สำหรับเธอแล้วนั้นมันไม่มีวันเป็นไปได้
ความรักสำหรับเธอมันคือการทรยศ หักหลัง เลวร้าย
สิ่งที่เธอพบเจอมามันเรียกว่าเลวร้ายยังน้อยไปเลย มันไม่แปลกที่เธอจะปิดกั้นหัวใจตัวเองทุกอย่าง ถ้ารักมันทำให้เธอต้องมีน้ำตา เธอยอมไม่มีความรักและเข้มแข็งจะดีกว่า
เวลาต่อมา
ก๊อกๆ ๆ ~
"เข้ามา"
"คุณวานิลครับ"
"มีอะไร?"
"เกิดเรื่องอีกแล้วครับ ตอนนี้การ์ดของเราควบคุมไว้อยู่"
"ลากมันออกไปสิ อย่าให้มันกลับเข้ามาอีก" เธอตอบกลับเสียงเย็นชา คิดจะมาก่อกวนที่นี่ทางเดียวก็ถูกโยนออกไปเท่านั้น แต่ถ้ายังขืนทำให้ลูกค้าคนอื่นๆ ต้องเดือดร้อนต่อเธอก็จะให้การ์ดจัดการขั้นเด็ดขาดเช่นกัน
"เขาบอกว่าต้องการจะคุยกับคุณวานิลครับ ไม่งั้นเขาจะกลับมาอีก ขู่จะเล่นงานเราด้วยครับ"
"....." หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานตัวโปรดและเดินออกไปด้านล่าง
พอไปถึงเธอก็เห็นผู้ชายคนนึงกำลังโวยวายอยู่ท่ามกลางการ์ดที่เข้ามาล็อคตัว
"ฉันมาแล้ว"
"นี่ใช่มั้ยเจ้าของ?"
"มีเรื่องอะไร มาโวยวายรบกวนลูกค้าฉันทำไม?"
"ตอนแรกก็มีนะ แต่เห็นเจ้าของสวยแบบนี้แล้ว...มันน่าดีจัง ไม่มีปัญหาก็ได้แต่แลกกับ..."
เธอถูกผู้ชายที่มาก่อกวนมองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่แทะโลมอย่างหยาบโลน
"ไปนอนกับผมสิครับ แล้วผมจะไม่เอาเรื่อง แล้วก็จะช่วยจัดการให้ด้วยเรื่องตำรวจให้ด้วย"
"....." วานิลยืนมองสายตาของเธอจ้องแข็งกร้าวเพราะกำลังไม่พอใจ เธอเกลียดผู้ชายที่ให้ค่าผู้หญิงแบบนี้ ยิ่งมาพูดกับเธอแบบนี้ต่อหน้าคนนับสิบอีก อย่าคิดว่าจะได้กลับออกไปแบบไม่เจออะไร
"เอากับผม.."
เพี๊ยะ!!
ใบหน้าของชายคนนั้นหันไปตามแรงตบ มือของวานิลฟาดลงไปอย่างหนักบนแก้มของเขา จนมีรอยแดงฉานเป็นรูปนิ้วมือของเธอ และทันทีที่ผู้ชายคนนั้นอ้าปากพูดก็เห็นว่าเลือดนั้นกลบปากไม่น้อยเลย
"อีเวรมึง!" ชายคนนั้นพุ่งปรี่จะเข้ามาเอาคืน แต่ถูกการ์ดล็อคไว้ก่อน ต่อให้จะพยายามดิ้นมากแค่ไหนก็เท่านั้นแหละ
"ไม่ต้องมาเสนอหน้าช่วย เอาตัวเองให้รอดก่อน"
"ทำไมมึงจะฆ่ากูเหรอ?"
"....." วานิลไม่ได้ตอบ เธอมองไปที่การ์ดที่ยืนอยู่ ก่อนที่ชายคนนั้นจะถูกลากออกไป โดยที่ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างรู้กันดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น
กฎก็คือกฎ ทำผิดกฎก็ต้องลงโทษ จะหนักจะเบาก็ขึ้นอยู่กับว่า สำนึกมากน้อยแค่ไหน
นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอก เธอชินกับการเจอเรื่องแบบนี้แล้วล่ะ แต่ก็อย่างที่เธอบอก เธอไม่ต้องการให้ใครมาวุ่นวายทำให้ลูกค้าคนอื่นต้องเดือดร้อน เพราะแบบนั้นเธอถึงได้ตั้งกฎเด็ดขาดเอาไว้แบบนี้
"คุณวานิลไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ" บอดี้การ์ดคนสนิทที่คอยติดตามเอ่ยถามขึ้น
"ฉันไม่เป็นอะไร"
เธอยังไม่ได้กลับขึ้นไปบนห้องทำงาน ถึงคนที่ก่อความวุ่นวายจะถูกลากออกไปแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไร เพราะยังมีลูกค้าหลายคนยังคงตกใจอยู่
วานิลมองไปรอบๆ ตัวเอง ทุกอย่างก็ดูปกติ แต่เหมือนจะมีบางอย่างที่สะดุดสายตาของเธอ จนทำให้เธอสบตาอยู่ครู่นึง ท่ามกลางผู้คนที่กำลังยืนมอง มีผู้ชายคนนึงที่หน้าตาดีเอามากๆ ใส่ชุดฟอร์มของที่นี่ ซึ่งเป็นชุดพนักงานเสิร์ฟ กำลังมองเธออยู่
"นั่นใคร?"
"อ๋อ เด็กเสิร์ฟมาใหม่ครับ เพิ่งมาทำงานที่นี่ได้หนึ่งอาทิตย์"
"ฉันจะกลับแล้ว ไปเตรียมรถให้ฉันที"
"ได้ครับ"
ระหว่างที่บอดี้การ์ดคนสนิท เดินออกไปเอารถมารอรับเธอ วานิลก็ขึ้นไปเก็บกระเป๋าและของใช้เพื่อที่จะกลับบ้าน วันนี้เจอเรื่องไม่ค่อยดี เธอก็อารมณ์เสียไม่น้อยเลยเหมือนกัน
15 นาทีต่อมา....
ขณะที่กำลังเดินกลับ วานิลก็ได้มาเจอกับเด็กเสิร์ฟที่มาใหม่ เธอเดินผ่านกับผู้ชายคนนั้น ไม่ได้สนใจอะไร เป็นการเดินสวนกันที่ได้กลิ่นน้ำหอมจากผู้ชายคนนั้นชัดเจน ซึ่งเป็นกลิ่นน้ำหอมเดียวกับที่เธอใช้อยู่
"คุณวานิลเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?"
"เปล่า เด็กเสิร์ฟคนนั้น ใครเป็นคนรับเข้ามา"
"ผู้จัดการครับ"
" พรุ่งนี้บอกผู้จัดการ ให้ส่งเอกสารประวัติส่วนตัวของเด็กเสิร์ฟคนนั้นให้ฉันด้วย"
" มีอะไรหรือเปล่าครับ?"
" เอามาเถอะน่าไม่ต้องถาม แล้วก็เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับด้วย"
"ครับ"
ที่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะเธอไม่เคยตรวจสอบเอกสารการสมัครงานของทุกคนที่นี่เลย เพราะมันเยอะจนตรวจสอบไม่หมดต่างหาก ทุกอย่างเลยเป็นหน้าที่ของผู้จัดการ และพนักงานแผนกต่างๆ
เวลาต่อมาสนามบินประเทศไทย"ระวังนะครับตะวัน" ฉันร้องห้ามลูกชาย เมื่อลงมาจากเครื่องเจ้าตัวก็วิ่งไปรอบๆ เหมือนกำลังตื่นเต้น ก็ปกติแหละสำหรับเด็กที่เพิ่งจะได้ออกมาจากโลกของตัวเอง ตะวันไม่เคยไปเที่ยวไหนไกลขนาดนี้มาก่อนเลย"มันแปลกตามากเลยครับแม่""ตะวันครับตะวัน""ปล่อยเถอะครับ แกยังไม่เคยเห็น คนของผมก็อยู่กันเยอะแยะ เขาไม่ปล่อยให้นายน้อยของเขาคลาดสายตาหรอก""....." ฉันไม่ได้ตอบอะไร ถึงเขาจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ แต่คนเป็นแม่อ่ะ ยังไงก็ห่วงลูกอยู่แล้ว"รถจอดอยู่ทางนี้ครับ" ลูกน้องของเขาเดินมาบอก"มากันเถอะครับนิล ตะวันครับมาขึ้นรถเร็ว""ครับคุณพ่อ"สมกับเป็นเขาจริงๆ นะ แค่เจ้านายกลับมาจากต่างประเทศ ลูกน้องนี่ขนกันมารุมล้อมต้อนรับราวกับว่าจะมีคนมาดักทำร้ายงั้นแหละ ฉันอุตส่าห์จะกลับมาอย่างเงียบๆ แต่นี่คงไม่เงียบแล้วล่ะจะว่าไปหลายปีที่ฉันไม่เคยได้กลับมา อะไรต่อมิอะไรมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกันเลยนะเนี่ย มันดูแปลกตาไปเยอะเลย แม้บางอย่างจะอยู่ที่เดิม แต่ก็ปรับเปลี่ยนไปไม่ใช่น้อย"เราจะไปที่ไหนกันครับคุณพ่อ""บ้านของพ่อไงครับ""แล้วแม่นิลมีบ้านที่นี่ไหมครับ""มีครับ""เราจะไปเที่ยวไหนกันบ้างค
เช้าแสนสดใสของวันรุ่งขึ้น"เฮือก!!" วานิลสะดุ้งตื่น เธอรีบลุกขึ้นและมองรอบๆ ตัวเอง พอเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นจนสว่างจ้าแล้วเธอก็รู้ได้ทันทีว่า มันสายมากแล้ว "รัณ!"ร่างบางรีบลุกขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดู ให้ตายสินี่มันจะสิบโมงแล้ว เธอนอนตื่นสายขนาดนี้ได้ยังไงกัน"ให้ตายสิโอ้ย! ตื่นสายได้ยังไงวะเนี่ย!" เธอบ่นพึมพำกับตัวเองขณะที่กำลังเร่งรีบแต่งตัว เพราะเธอจะลงไปสภาพแบบนี้ไม่ได้หรอกพอแต่งตัวเสร็จเธอก็รีบเดินออกไปที่ประตู แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เปิดออกไปประตูก็ถูกผลักเปิดเข้ามาซะก่อนแกร๊ก~"คุณ!""ตื่นแล้วเหรอครับ ผมว่าจะขึ้นมาดูอยู่พอดี" ศรัณย์พูด"ตะวันล่ะคุณ?""ไปเรียนแล้วครับ""ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ นี่ฉันสายเลยนะ ไหนจะต้องเปิดร้านอีก""ไม่เห็นต้องเร่งรีบเลยครับ พนักงานของคุณเขาจัดการกันเรียบร้อยหมดแล้วนะครับ""....""ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วครับ ลงมากินข้าวสิ ผมเตรียมให้แล้ว""เฮ้อ...ตกใจหมด!""ตกใจทำไมครับ มีผมอยู่ทั้งคนนะครับ""ปกติฉันเป็นคนไม่ตื่นสายนะ เล่นมาตื่นสายแบบนี้ ใครบ้างจะไม่ตกใจ""มากินข้าวเถอะครับ""อืม..."วานิลรีบเดินตามศรัณย์ลงไปด้านล่าง เขาทำอาหารไว้ให
"อุ๊บ! อื้อ!!~"วานิลทำตัวไม่ถูก จู่ๆ ศรัณย์ก็โน้มหน้าลงมาจูบปากกับเธอ เรียวลิ้นสอดเข้าไปในปากเล็ก ตวัดไปมาเหมือนควานหาอะไรในปากของเธอ"อื้ม...!!""อืม...อยู่นิ่งๆ สิครับ" น้ำเสียงของอีกฝ่ายแหบพร่า แม้เธอจะขัดขืนแต่เขาก็ไม่ได้หยุดการกระทำของตัวเองนี่มันเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เธอได้จูบกับใคร และมันก็น่าตกใจไม่น้อย เพราะตอนนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าระเบียง"อืม...""พะ พอ อืม..." วานิลพยายามเบี่ยงหน้าหลบ แต่แล้วก็ถูกเขาประคองให้กลับมาอยู่ในท่าเดิม เริ่มที่จะขัดขืนยากขึ้น เพราะมือทั้งสองข้างถูกล็อคเอาไว้ บวกกับร่างกายที่เหมือนจู่ๆ ก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาบอกไม่ถูก"ระ รัณ...!" คราวนี้เธอผลักเขาออกไปได้สำเร็จ แต่ถึงจะจูบกับเธอต่อไม่ได้ ก็ใช่ว่าเขาจะหยุดการกระทำของตัวเองเสียหน่อยจมูกโด่งเริ่มซุกไซ้ตามลำคอขาวต่อจากนั้น คลอเคลียอยู่กับใบหูของเธอจนมาถึงหน้าอก ทำอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุด เหมือนกับแมวน้อยที่กำลังคลอเคลียเจ้านาย"อะ อืม...พอแล้ว""ตัวคุณหอมจัง""ระ รัณ...""ผมไม่เคยรังเกียจคุณ ผมรักคุณ ผมรักคุณ...""อะ อือ...หยะ หยุดก่อน" เพราะเขาไม่ได้พูดอย่างเดียวเนี่ยสิ มือสองข้างก็เล้าโลม จับตรงนั้นตรง
ตกกลางคืน หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาแสนหวานกับศรัณย์มา วานิลกำลังนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวเงียบๆ จนกระทั่งศรัณย์เดินเข้ามา"คิดอะไรอยู่ครับ""มีเรื่องให้ต้องคิดน่ะค่ะ" วานิลตอบ"พอจะบอกผมได้ไหม ว่าคุณกำลังคิดเรื่องอะไร?""....." วานิลเงียบ ก่อนจะถอนหายใจออกมา การกระทำแบบนี้เหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของเธอไปแล้ว "ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ""ครับ?""ฉันคิดว่าเรื่องนี้คุณเองก็ยังไม่รู้ และถ้าฉันเล่าออกไป คุณอาจจะรังเกียจคนอย่างฉันไปเลยก็ได้""ไม่ ผมจะไม่...""ฟังฉันก่อนสิ" วานิลรีบพูดดักขึ้น เขายังไม่รู้เลยว่าเธอจะพูดเรื่องอะไรให้ฟัง บางทีถ้าเขาได้ยินแล้วเขาอาจจะรับไม่ได้และเลิกรักเธอไปเลยด้วยและที่เธอเลือกที่จะพูดเอาตอนนี้ เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาเธอไม่มีความกล้าซะเลย ยิ่งเธอนึกถึงเรื่องเหล่านั้น มันก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของเธออยู่ตลอด"พูดมาสิครับ...""ฉันเคยติดคุก แต่คุณคงรู้แล้ว ฉันถูกอดีตแฟนใส่ร้ายเรื่องยาเสพติด ฉันเลยต้องติดคุก เพราะไม่มีพยาน ไม่มีหลักฐาน ไม่มีคนมาช่วยเรื่องคดี""ใช่ ผมรู้เรื่องนี้แล้ว""เรื่องข้างใน...""ครับ?""ขอโทษนะ ที่เพิ่งบอกเอาตอนนี้ แต่ทุกครั้งที่นึกถึงมัน ฉันก็ยังเจ็บใจอยู
หลายเดือนต่อมาร้านดอกไม้ Tawan Flower Shop"อะไรเนี่ย?" วานิลพึมพำกับตัวเอง เพราะจู่ๆ ตรงหน้าของเธอก็มีช่อดอกไม้ใหญ่อยู่ตรงหน้า และดูเหมือนว่าจะมีคนยืนถือมันอยู่ด้วย"จ๊ะเอ๋!~""คุณ! เล่นอะไรเนี่ย ตกใจหมด!""เซอร์ไพรส์ครับ""ร้านดอกไม้อยู่ตรงนี้แท้ๆ คุณไปอุดหนุนร้านอื่นเหรอ?" ถามเสียงแข็งเหมือนหาเรื่อง"ปะ ป่าวนะครับ ผมสั่งมาจากร้านตรงที่บริษัทที่ผมไปทำงาน ซื้อจากร้านคุณ คุณก็รู้น่ะสิ แบบนั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์หรอก""......" ก็ไม่อะไรหรอก แค่แกล้งเขาเล่นก็เท่านั้นแหละ"ดอกไม้สวยๆ สำหรับคนสวยๆ ของผมครับ""อื้ม...ขอบใจนะ""หิวกาแฟจังเลยครับ""เข้าไปข้างในสิ""ไปนั่งด้วยกันนะครับ""อ๊ะ! ดะ เดี๋ยว! ฉันยังทำงานอยู่นะ!"เหมือนศรัณย์จะไม่ฟังอะไรเลย เขาจับแขนของวานิลแล้วดึงเธอเข้าไปในร้าน และตอนนี้ร้านขยับขยายไปอีกเพราะซื้อคูหาใกล้ๆ กันรวมเป็นร้านเดียวไปแล้ว เป็นร้านดอกไม้ที่มีคาเฟ่อยู่ด้วย พอจัดด้วยดอกไม้สวยๆ แล้ว เรียกลูกค้าได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคนที่ชอบมาถ่ายรูป"อะไรของคุณเนี่ย!?""พนักงานก็เต็มร้าน ไม่เห็นต้องทำเองเลยครับ""ก็คนมันว่าง จะให้ฉันทำอะไร ทำไม่ให้ฉันทำแบบนี้""ตอนนี้ไม่ว่างแล้วน
เวลาผ่านไปร่วมเดือน"ตะวัน!!" วานิลตะโกนเรียกลูกชาย พร้อมกับเท้าเอวยืนรออยู่ตรงบันได เพราะนี่มัน 7:45 แล้วแต่ลูกชายยังมัวแต่โอ้เอ้อยู่ได้ ศรัณย์นี่แหละตัวดีเลย คอยอยู่เบื้องหลังคอยให้ท้ายกันอยู่แบบนี้ไงตะวันถึงได้เป็นแบบนี้"มาแล้วคร้าบแม่นิล..." เสียงหวานของหนุ่มน้อยดังมาแต่ไกล"สายแล้วนะ มัวทำอะไรกันอยู่!" เธอถามเสียงเข้ม"เสร็จแล้วครับ เสร็จแล้ว""คุณ...!" กำลังจะบ่นแต่ก็ถูกเขาพูดแทรกซะก่อน ราวกับว่ารู้ว่าเธอจะบ่นยังไงเลยชิงพูดก่อน"ขอโทษครับ ผมลืมดูเวลา จะรีบไปส่งเดี๋ยวนี้เลย""....." วานิลยืนมองนิ่ง ส่ายหน้าเล็กน้อยให้กับสองพ่อลูกคู่นี้ที่กำลังพากันวิ่งไปที่รถ มันน่าจริงๆ เลยนะสองพ่อลูกคู่นี้"มีอะไรกันเหรอพี่นิล?" เจียอีเดินเข้ามาถาม"จะอะไรซะอีกล่ะนอกจากสองพ่อลูกคู่นี้""หึหึ ดูเขาเข้ากันได้ดีเลยนะ" เจียอีหัวเราะใส่ ตอนแรกที่รู้ความจริงว่าพ่อของตะวันเป็นใครก็ตกใจอยู่นะ แต่ตอนนี้ก็ชินแล้วล่ะ"เข้ากันได้ดีเกินน่ะสิ หัวจะปวด โอ้ยยย!""เอาน่าพี่ อย่าไปเคร่งนักเลย""พี่ไม่ได้เคร่งนะ แต่เขากำลังจะทำให้ตะวันเสียคน ตะวันเคยตรงเวลา มีระเบียบเรียบร้อย แต่พอมีเขาที่ทำให้ทุกอย่าง ตะวันเปลี
ตอนเช้าวันถัดมา"ตะวันดูมีความสุขนะครับ" ศรัณย์เอ่ยขึ้น ขณะที่กำลังยืนมองลูกชายวิ่งเล่นอยู่กับบอดีการ์ดของเขา แกดูสนุกสนานมีความสุขเอามากๆ เลย"เขาเป็นเด็กที่แบบ ไม่ค่อยชอบเล่นกับเด็กวัยเดียวกันเท่าไหร่" วานิลตอบ"เหมือนกับคุณเลย""อืม...เหมือนฉัน""ดีนะครับ เพราะคุณเป็นคนที่แข็งแกร่ง เป็นคนที่จิตใจแข็งแรง เป็นคนที่เก่ง อดทน""......""ผมอยากให้คุณกับลูก ย้ายมาอยู่ที่นี่จัง""ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้ ฉันต้องทำงาน""ถ้าอะไรมันลงตัวมากกว่านี้ ตึกนั้นก็ทำเป็นร้านไปเลยดีกว่าไหม ห้องข้างบนก็ทำเป็นที่เก็บของ ส่วนคุณกับลูกก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ มีแม่บ้านคอยจัดการงานบ้านให้ คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเยอะ""เรื่องนั้นฉันยังไม่คิดหรอก มันไกลเกินที่ฉันจะคิด""......" ศรัณย์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเข้าใจเธออยู่ จะย้ายบ้านอะไรทั้งทีมันก็ต้องมีความพร้อม ไม่ใช่ปุบปับจะย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย ถึงมันจะไม่ได้ไกลกันก็ตาม"เข้าไปข้างในกันดีกว่าครับ ผมมีอะไรให้คุณดูด้วย""อะไร?"ศรัณย์พาวานิลไปที่ห้องทำงานของเขา ก่อนจะยกกล่องบางอย่างออกมาจากชั้นบนตู้ จากนั้นก็หยิบของในกล่องออกมา ซึ่งมันเป็นอัลบั้มรูปถ่ายเก่าๆ หลายใบมาก"เอ
บ้านพักของศรัณย์ตกกลางคืน"ฝันดีนะครับคนเก่ง""ครับคุณพ่อ""นอนหลับนะครับ พรุ่งนี้เรามีกิจกรรมรออยู่""ตะวันมีความสุขจังเลยครับ""พ่อก็มีความสุขมากครับ" ศรัณย์หอมหัวของลูกชายครั้งแล้วครั้งเล่า มันมีความสุขมากจริงๆ สุขแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะพาตะวันกับวานิลไปที่บ้านของเขาทุกหลังที่มีเลยด้วยซ้ำ"คุณพ่อไปนอนกับแม่นิลใช่ไหมครับ""ใช่ครับ""อย่าทะเลาะกันนะครับ""โอเคครับผม ไม่ทะเลาะกันแน่นอน""ฝันดีครับ พ่อรัณ..""ฝันดีครับตะวันของพ่อ"หลังจากที่ส่งลูกชายเข้านอนเรียบร้อยแล้วศรัณย์ก็กลับเข้ามาที่ห้องนอนของตัวเอง"ตะวันหลับละเหรอ?" วานิลเอ่ยถาม เพราะเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอกับเขาพอดี เธอกำลังเช็ดผมที่กำลังเปียก"อื้ม หลับแล้ว""แกเป็นยังไงบ้าง""ชอบห้องนอนมากเลยล่ะครับ""คุณไปอาบน้ำสิ""เดี๋ยวผมเช็ดผมให้ก่อนดีกว่าครับ"วานิลยังไม่ทันได้พูดอะไรศรัณย์ก็เดินมาแย่งผ้าเช็ดผมของเธอไปก่อนแล้ว เขากำลังเช็ดผมให้กับเธอ มองหน้าของเธอผ่านกระจกตรงหน้า"คุณชอบไหม?""ชอบอะไร?""ที่นี่ไงครับ คุณชอบไหม""ฉันมาก็เพราะตะวันอยากมาแค่นั้น""บอกว่าชอบสักนิดก็ได้นะครับ""ฉันเป็นคนที่พูดตามใจ
วันหยุดสุดสัปดาห์สุดท้ายก็ได้มาจริงๆ แถมต้องมาพักค้างคืนด้วย เพราะลูกชายตัวดีดันอยากนอนพักค้างคืน เพราะอยากเล่นน้ำ อยากวิ่งเล่น วานิลเองก็ขัดใจลูกชายไม่ได้ เธอเลยต้องเออออตามไปด้วยเลยศรัณย์ขับรถพาเธอมาที่บ้านหลังนึง ซึ่งมันอยู่นอกชานเมือง ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่อะไร แต่ดูแล้วก็ร่มรื่น และดูเงียบสงบดีไม่น้อยเลย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบวุ่นวายกับใครแหละ"นี่บ้านของคุณเหรอ?""ครับ มีแม่บ้านอยู่ ผมจ้างพวกเขามาคอยดูแล อยู่กับผมมานานแล้วเหมือนกันครับ""คุณไม่ค่อยกลับมาแบบนี้ เขาไม่พากันลาออกหมดหรือไง""ผมก็ไม่ได้ว่านี่ครับ เขาทำงานข้างนอกได้ แต่พอผมกลับมา พวกเขาก็ต้องมาทำงานบ้านให้กับผม""ชิ! เป็นคนรวยนี่มันดีจริงๆ นะ""พูดอย่างกับตัวเองไม่เคยรวย เป็นถึงเจ้าแม่บ่อนเชียวนะ""อย่าพูดให้ลูกได้ยินนะ! นั่นมันก็แค่อดีต ก็แค่โชคหล่นทับ""หึหึ~""เลิกพูดเรื่องนี้นะ ไม่งั้นฉันทุบหัวคุณแน่"ศรัณย์มองแต่ไม่ได้ตอบอะไร เขาได้แต่ยิ้ม และก็นึกในใจ ว่าเธอก็ยังเป็นเธอเหมือนเดิม ผู้หญิงที่ปากแรงแต่ความจริงเป็นคนใจดี ถึงจะกล้าถามอย่างที่ปากตัวเองพูดจริงๆ ก็เถอะ"เข้าไปในบ้านสิครับตะวัน""ครับ"เด็กน้อยรีบวิ่งนำหน้
Comments