ตอนที่ 3
สะใภ้รับจ้าง
“ดูเหมือนคุณกำลังกลัว....ว่าแต่ชื่ออะไรไม่คิดจะแนะนำตัวให้อนาคตสามีฟังเลยหรือไง”
ภูริดลขับรถไปรับพิรฎายังบริเวณที่เธอนัดหมาย หญิงสาวไม่ยอมบอกที่อยู่เธอให้เหตุผลแค่เพียงว่าเธอเช่าห้องพักอยู่ถึงไม่อยากให้เขาเข้าไปวุ่นวายเกรงใจคนที่เช่าห้องอยู่ด้วยกัน
“พิรฎาเรียกพิมพ์เฉย ๆ ก็ได้ค่ะชีวิตของฉันก็ไม่มีอะไรมากเกิดและเติบโตที่ต่างจังหวัดและเข้ามาเรียนกรุงเทพ ฯ เมื่อพ่อกับแม่เสียชีวิตไปหมดโดยได้รับทุนการศึกษาจากครูที่โรงเรียนแล้วก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ คุณสบายใจได้ว่าฉันไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนที่จะมาแสดงตัวให้ครอบครัวของคุณรู้ว่าเรื่องราวของเราไม่เป็นความจริง”
หญิงสาวเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่แทบจะไม่มีความจริงในชีวิตเลยมีเพียงแค่ชื่อของเธอเท่านั้นที่เป็นความจริงนอกนั้นเธอก็แต่งเรื่องเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจและเธอเองไม่มีทางที่จะให้ภูริดลรู้ว่าความจริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของเจ้าของกิจการใหญ่โตเพราะถ้าชายหนุ่มได้รู้ความจริงเขาคงไม่มีทางเลือกเธอมาเป็นภรรยารับจ้างเด็ดขาด
“ฉันรอฟังชีวิตของสามีในอนาคตอยู่นะคะช่วยเล่าทุกอย่างให้ฟังโดยละเอียดเพราะถ้าคุณพ่อของคุณถามขึ้นมาฉันกลัวจะตอบไม่ได้และมันก็จะไม่ใช่ความผิดของฉันเพราะคุณเองไม่เคยบอก”
ชายหนุ่มเล่าเรื่องราวความจริงของชีวิตของเขาเริ่มตั้งแต่ตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงสาเหตุที่ท่านต้องจากไป นารีแม่เลี้ยงที่ภูริดลสวมแว่นตามองอีกฝ่ายแต่ในแง่ร้ายถูกชายหนุ่มเล่าให้ หญิงสาวฟัง เขาคิดว่าสาเหตุที่บิดาเอาเรื่องอยากให้เขามีครอบครัวมาข่มขู่ในเรื่องของการโอนทรัพย์สินมรดกน่าจะเป็นแผนการของนารีที่รู้อยู่แล้วว่าเขาคงไม่มีทางมีครอบครัวเธอจึงหวังจะได้สมบัติทั้งหมด
“คุณคิดมากไปหรือเปล่าถ้าเขาต้องการสมบัติจากพ่อคุณจริง ๆ ไม่เห็นต้องยั่วยุใช้เหตุผลอื่นเลยเพราะแค่ในฐานะภรรยาเขาก็สามารถได้สมบัติตามสิทธิ์อยู่แล้ว”
พิมรดาไม่เห็นด้วยกับความคิดของภูริดลตั้งแต่วันแรกที่เธอได้ยินเรื่องราวนี้แต่ก็เสนอความคิดไปเพียงแค่ครั้งเดียวก็ถูกอีกฝ่ายส่งสายตาไม่พอใจมองมาทันที เธอจึงเลือกที่จะสงบปากสงบคำเพราะความจริงแล้วเรื่องนี้เธอเองก็ไม่สามารถตัดสินอะไรได้เพราะเธอยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้เจอคนทั้งคู่
“ฉันก็พูดไปอย่างนั้นแหละฉันคงไม่รู้หรอกว่าใครเป็นอย่างไรเพราะบางครั้งตัวฉันเองยังรู้จักตัวเองได้ไม่ดีด้วยซ้ำ คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมที่เลือกฉัน”
“เธอหมายความว่าอย่างไร” คนขับหันมามองด้วยความสงสัย
“พูดตรง ๆ เลยนะฉันไม่ค่อยชอบพูดอ้อม เราสองคนต้องมีอะไรกันทั้ง ๆ ที่คุณกับฉันเคยเจอกันแค่ 2 ครั้งเท่านั้นคุณคิดว่าเราจะนอนด้วยกันได้ด้วยหรอ”
ชายหนุ่มอดที่จะขำออกมาไม่ได้ เขาเริ่มเชื่อแล้วว่าหญิงสาวท่าทางก๋ากั่นที่นั่งมาข้าง ๆ กับเขาแท้ที่จริงแล้วเธอก็ยังคงเป็นเด็กน้อยกว่าอายุจริง หญิงสาวคงคิดว่าการที่ผู้หญิงกับผู้ชายจะสามารถมีอะไรกันได้มันต้องเกิดจากความรักมาก่อนทั้งที่ความจริงผู้ชายอย่างเขารู้ดีว่าเรื่องบนเตียงกับเรื่องของหัวใจบางครั้งมันก็เป็นคนละเรื่อง ผู้ชายหลายคนสามารถมีอะไรกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วยเลยได้เพียงแค่ต้องการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศมันเป็นเรื่องของความรู้สึกทางร่างกาย ที่ไม่เกี่ยวกับความรู้สึกทางจิตใจ
“ผู้หญิงและผู้ชายถูกสร้างให้มาคู่กันอยู่แล้วเธอไม่เห็นในหนังสือพระเอกกับนางเอกบางเรื่องก็ไม่ได้รักกันเขาก็ยังสร้างมาให้นอนด้วยกันได้ ตอนแรกที่ผมเห็นคุณผมคิดว่าคุณจะมีประสบการณ์เรื่องนี้มาพอสมควรถึงแม้จะยังบริสุทธิ์อยู่แต่พอฟังคุณถามแบบนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าผมกำลังหลอกเด็กอยู่หรือเปล่า”
พิรฎาเริ่มรู้สึกอายเมื่อถูกอีกฝ่ายเริ่มจับพิรุธได้ว่าความจริงแล้วถึงเธอจะพยายามทำปากเก่งทำเหมือนคนที่มีความกล้าในเรื่องที่เธอตัดสินใจทำแต่ความจริงหัวใจของเธอตอนนี้มันร้อนหนาวไปหมดเพราะตั้งแต่เกิดมาแค่ผู้ชายจับมือยังแทบจะไม่เคยแต่ที่เธอตัดสินใจจะทำแบบนี้ก็เพียงหวังจะประชดคนที่เป็นบิดาให้เห็นว่าเธอเองไม่ใช่ลูกสาวที่ดีอีกต่อไป
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่”
“ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ผม เธอเป็นเพียงแค่ภรรยาใหม่ของคุณพ่อเท่านั้น”
ภูริดลพูดแทรกขึ้นมาจนหญิงสาวที่กำลังตื่นเต้นรู้สึกกลัวว่าจะถูกจับพิรุธได้ยิ่งพลอยตกใจมือไม้สั่นเข้าไปใหญ่
“เรียกฉันว่าคุณน้าก็ได้ค่ะ”
นารีส่งยิ้มแบบเข้าใจเพราะเธอมองออกว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังมีแววตาหวาดกลัวและตื่นเต้นในฐานะผู้หญิงด้วยกันเธอคิดว่าพิรฎาคงกำลังรู้สึกกังวลกับครอบครัวใหม่ที่เธอต้องเข้ามาอยู่ด้วยและยังจะเจอสามีที่ดูจะบังคับทุกอย่างอีก
“ไหนเล่าเรื่องราวของเธอมาซิเป็นไงมาไงถึงได้มาเป็นภรรยาของดลได้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ลูกชายของฉันไม่เคยเล่าเลยว่ามีแฟนฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเธอไม่ได้ถูกจ้างมา”
“พิมพ์เป็นเพียงแค่นักศึกษาเคยมีโอกาสได้เจอกับคุณดลเพราะว่าเพื่อนของพิมพ์กับเพื่อนของคุณดลรู้จักกัน เราก็เลยมีโอกาสได้คุยกันตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของพิมพ์กำลังแย่คุณดลสงสารก็เลยเข้ามาช่วยเหลือเราทั้งคู่ก็เลยสนิทกันมากขึ้นแล้วความสัมพันธ์มันก็พัฒนามาอย่างต่อเนื่องที่คุณดลไม่ได้เล่าให้คุณพ่อฟังก็คงจะเป็นเพราะว่าตัวพิมพ์เองไม่มีอะไรคู่ควรกับเขา”
หญิงสาวตีบทเศร้าเล่าความเท็จแม้แต่ตัวภูริดลเองยังหันมามองด้วยความชื่นชมที่เธอเล่นละครได้สมจริงทั้งที่ความจริงแล้วเขากับเธอยังไม่ได้ตกลงกันด้วยซ้ำว่าจะให้เหตุผลอย่างไรกับคนเป็นพ่อที่เขาเพิ่งจะพาภรรยามาเปิดตัวในเวลานี้
“ลูกชายฉันก็แปลก ทนให้ฉันพูดได้อยู่ทุกวันกับอีแค่บอกว่าตอนนี้มีแฟนแล้วจะยากดีมีจนอะไรมันก็ไม่เห็นเกี่ยว”
บารมีเชื่อในสิ่งที่ลูกสะใภ้คนใหม่พูดทุกอย่างอาจเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์แววตาของพิรฎาเป็นแววตาที่แสนจะจริงใจเพราะตัวเธอเองโดยนิสัยส่วนตัวก็เป็นคนเช่นนั้นมาโดยตลอดจึงทำให้เธอโดนพ่อบังคับให้อยู่ในกรอบตลอดเวลาเพราะไม่เชื่อมั่นในตัวลูกสาวว่าจะสามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกภายนอกได้โดยที่ไม่มีพ่อคอยปกป้อง
“ผิวพรรณของหนูดูสวยมีสง่ามากเลยนะจ๊ะถ้าน้าไปเจอที่อื่นคงคิดว่าหนูเติบโตมาในครอบครัวที่แสนร่ำรวยและถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีแต่ถึงแม้ว่าหนูจะมาจากครอบครัวที่ไม่ได้มีเงินมีทองอะไรแต่มันก็แสดงให้รู้ว่าพ่อกับแม่ของหนูคงต้องรักหนูมาก ๆ ถึงได้ดูแลดีแบบนี้”
หญิงสาวเมื่อได้ยินผู้ใหญ่อีกฝ่ายพูดแบบนี้น้ำตาของเธอกำลังตกใน การเลี้ยงดูของพ่อในสายตาของคนอื่นเธอคือลูกสาวที่โชคดีแต่สำหรับเธอแล้วมันคือการถูกขังคุกในหัวใจ เธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจอะไรกับเส้นทางชีวิตทั้งที่คนเป็นพ่อเองตัดสินใจทำอะไรไม่เคยคิดจะถามเธอสักคำแม้แต่การพาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ในฐานะภรรยาโดยที่ผู้หญิงคนนั้น ทำดีกับเธอเพียงแค่ต่อหน้าบิดาเท่านั้นลับหลังก็เป็นเหมือนดังอสรพิษคอยกลั่นแกล้งทำร้ายเธอทุกอย่างและนี่ก็คือเหตุผลที่เธอตัดสินใจเดินออกมาจากบ้านนรกหลังนั้น
“ตอนคุณพ่อยังอยู่บ้านของเราพอมีเงินค่ะแต่เมื่อท่านมาล้มป่วยแล้วจากไปครอบครัวก็เริ่มแย่ลงแล้วก็มาถึงจุดตกอับสุดเมื่อแม่จากไปอีกคนโชคดีที่พิมพ์ได้ทุนการศึกษาจากทางโรงเรียนจึงได้โอกาสได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯแล้วก็หางานทำพอส่งตัวเองเรียนได้และในระหว่างนั้นก็มีคุณภูริดลเข้ามาช่วยเหลือเราทั้งคู่ถึงได้รักกันค่ะ”
พิรฎาเอื้อมมือเล็กมาจับมือชายหนุ่มกุมไว้บนขาของเธอสายตาที่มองมาจากคนข้าง ๆ แสดงทั้งความรักและชื่นชมออกมาจนภูริดลเองอดที่จะเขินไม่ได้ทั้งที่รู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่ การแสดงเท่านั้น
ผู้ใหญ่ทั้งสองยังคงนั่งคุยกับลูกสะใภ้คนใหม่เพื่อต้องการทราบข้อมูลโดยละเอียดและอยากให้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวสนิทกันได้เร็ว
บารมีหวังว่าการที่ลูกชายมีภรรยาจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเพราะเขาต้องการให้ ลูกชายรู้ว่าการเป็นพ่อคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายและก็คงไม่มีพ่อคนไหนที่ไม่รักลูก
หญิงสาวกับการเลือกเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอภายใต้หัวใจที่รู้สึกคาดหวังว่าสิ่งที่เธอกำลังจะเจอต่อไปนี้อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกว่าการเป็นนกน้อยในกรงทองของบิดาที่ต้องทนอยู่กับ ความร้ายกาจของแม่เลี้ยง พิรฎามองไปรอบคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ดูแล้วก็ใหญ่ไม่ต่างจากบ้านของเธอแต่บ้านหลังนี้กับดูมีความอบอุ่นมากกว่าอย่างน้อยก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตามีมุมเล็กๆให้ นั่งพักผ่อนแสดงให้เห็นว่าคนบ้านนี้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากกว่า การทำงานอยู่ข้างนอกซึ่งไม่เหมือนครอบครัวของเธอที่ในแต่ละวันบิดาจะออกจากบ้านแต่เช้าแล้วกลับมาถึงบ้านก็เกือบเที่ยงคืนแล้วถึงทำให้คนเป็นพ่อไม่เคยรับรู้ว่าลูกสาวต้องทนอยู่กับอะไร