ในเวลาเดียวกัน ฮ่องเต้ก็ใช้ข้ออ้างว่ายังมีเรื่องต้องจัดการ มอบหมายการทดสอบเหล่าบัณฑิตให้ท่านราชครูพานรับผิดชอบ ส่วนเขาก็กลับห้องทรงอักษรไปก่อนแล้ว
เมื่อยืนอยู่ที่นี่ ฮ่องเต้ก็รู้สึกไม่สบายตัวขึ้นมา รู้สึกเพียงว่ามีดวงตาจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองเขา เขากล่าวด้วยสุรเสียงเย็นชาว่า “เฉาเต๋อ”
“บ่าวอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าขันทีเฉารู้ว่าฮ่องเต้จะบันดาลโทสะแล้ว
“คนอยู่ที่ไหน?” ฮ่องเต้ถามอย่างเย็นชา
“ทูลฝ่าบาท ท่านผู้บัญชาการซางได้คุมขังคุณชายพันหน้าไว้อย่างลับๆ แล้วพ่ะย่ะค่ะ พร้อมรับพระบัญชาจากฝ่าบาทตลอดเวลาพ่ะย่ะค่ะ”
“ลับๆ? ตอนนี้เรายังเหลือความลับใดอีกหรือ? เจ้าเป็นถึงหัวหน้าขันที คนในวังมีใจทรยศขายข่าวเจ้ากลับไม่รู้ แล้วเราเลี้ยงเจ้าไว้จะยังมีประโยชน์ใดอีก” ฮ่องเต้พิโรธยิ่ง
เฉาเต๋อหวาดหวั่นจนคุกเข่าลงกับพื้น “ฝ่าบาทโปรดทรงระงับโทสะ อย่าทรงพิโรธจนเสียสุขภาพเด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ บ่าวทราบความผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ บัดนี้บ่าวสืบได้ความแล้วว่าผู้ที่ติดต่อกับแม่ทัพซูมีนามว่าอู๋ฉางโซ่ว และได้ให้คนควบคุมตัวไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ บ่าวถามออกมาแล้วว่าที่แท้เขาเป็นคนที่เคยปรนนิบัติคังชินอ๋องมาก่อน นับตั้งแต่ค