검색
서재
홈 / อื่น ๆ / ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน / บทที่ 8 เลือกเส้นทางที่ไม่มีใครเลือก

บทที่ 8 เลือกเส้นทางที่ไม่มีใครเลือก

작가: Bosskerr
2025-06-12 23:49:35

ดินสอไม้แท่งเดิมกับสมุดปกขาดที่ขอบยังคงวางอยู่บนโต๊ะไม้ริมหน้าต่าง แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าทอดผ่านใบมะละกอหน้าบ้านตกกระทบกับหน้าโต๊ะอย่างพอดิบพอดี เสียงไก่ขันแว่วมาเป็นระยะ บรรยากาศยามเช้าในหมู่บ้านก็ยังคงเหมือนเดิมทุกวัน แต่ภายในหัวใจของลุงเหมืองกลับเปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง

หลังจากที่กลับมาจากจังหวัดข้างเคียง ลุงเหมืองยังไม่ได้ตอบรับข้อเสนอเรื่องขอซื้อพันธุ์มะเขือเทศของคุณนายพันดาวทันที แม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจและให้เกียรติลุงเหมืองเป็นอย่างมาก แต่บางอย่างในใจลึก ๆ กลับกระซิบให้เขาลังเล กระซิบบอกว่า นี่ไม่ใช่ทางของเขา

            ลุงเหมืองคิดหนักอยู่หลายวัน คิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในที่สุด เขาก็ตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่และหนักแน่น ลุงเหมืองกดมือถือโทรหาคุณนายพันดาวในตอนเช้าวันหนึ่ง ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นสูงน้ำเสียงของเขาไม่มีความลังเล

“ผมขอบคุณคุณนายมากนะครับสำหรับโอกาสและความกรุณาทุกอย่าง แต่เรื่องขอซื้อพันธุ์ ผมขอเก็บไว้กับตัวเองดีกว่าครับ เพราะสำหรับผมแล้วมันไม่ใช่แค่เมล็ดพันธุ์ แต่มันคือรากของผมกับครอบครัว”

ปลายสายเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเข้าใจ

“ฉันเข้าใจค่ะลุง ขอบคุณที่พูดตรง ๆ นะคะ”

ในน้ำเสียงนั้นไม่มีความขุ่นเคืองใด ๆ ไม่มีการต่อรองเพิ่มเติม มีแค่ความเข้าใจที่ลึกซึ้งในระหว่างคนสองคนที่แตกต่างกันเหมือนมาจากคนละโลกแต่มีหัวใจที่รักในสิ่งเดียวกัน

หลังจากวางสายจากคุณนายพันดาว ลุงเหมืองถอนหายใจยาวเฮือกใหญ่ รู้สึกเบาใจเหมือนยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก ถึงแม้จะไม่ยอมขายพันธุ์มะเขือเทศ แต่สิ่งที่เขาได้กลับมาก็ไม่ใช่น้อย ๆ เขาได้รับความรู้ใหม่ ๆ จากโรงเรือนของคุณนายพันดาวที่ไปเยี่ยมชมมา ลุงเหมืองได้จดทุกขั้นตอนการดูแลพืชในสภาพแวดล้อมควบคุมลงในสมุดบันทึกคู่กาย ถึงแม้จะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีราคาแพงแบบทีมงานของคุณนายพันดาว แต่เขาก็มีสมอง สองมือ และที่ดินผืนเดิมที่แสนคุ้นเคย

ลุงเหมืองเริ่มทดลองซื้อพลาสติกใสแบบประหยัดมากั้นพื้นที่เล็ก ๆ หน้าบ้านเพื่อใช้เป็นเรือนเพาะต้นกล้า เปลี่ยนเวลารดน้ำจากการใช้สายยางฉีดแบบมั่ว ๆ มาเป็นการรดน้ำตามรอบ ใช้ขี้เถ้าจากเตาฟืนมาผสมดินตามที่จดไว้ในสมุดบันทึก และเริ่มหาขวดน้ำเก่า ๆ มาตัดเป็นภาชนะทดลองปลูกแบบควบคุม

ใครจะว่าโบราณ ใครจะบอกว่านี่มันไม่ทันสมัยก็ช่างเขา แต่ลุงเหมืองเลือกที่จะเชื่อในความเรียบง่ายที่พอทำได้ในแบบของตัวเอง

ในวันจันทร์ถึงศุกร์ ลุงเหมืองยังคงทำงานเป็นภารโรงของโรงเรียนบ้านดอนแดงพัฒนาเหมือนเดิม และยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเช่นเดิม เด็กนักเรียนรู้จักเขาทุกคน ลุงเหมืองไม่ใช่แค่ภารโรงที่ทำความสะอาด แต่ยังเป็นเหมือนพี่เลี้ยงของเด็ก ๆ เป็นช่างประจำโรงเรียน เป็นคนตบหัวแล้วลูบหลังเวลาที่มีเด็กทะเลาะกัน

แต่ตอนนี้สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ หลังเลิกเรียน ลุงเหมืองไม่ได้ขี่จักรยานเอาผักไปขายที่ตลาดเหมือนเดิมอีกแล้ว เขาเลือกกลับบ้านเร็วขึ้น เปลี่ยนเวลาขายผักมาเป็นเวลาคิด คำนวณ และปลูกมะเขือเทศเพิ่ม

ทุกวันเสาร์อาทิตย์ เขาจะวางมือจากเครื่องมือทำความสะอาด มาเปลี่ยนเป็นถือจอบ เสียบหมวกใบเก่าแล้วเดินไปดูแปลงปลูกผัก พร้อมกับจดบันทึกไว้ทุกอย่างว่าแสงแดดวันไหนแรงเกินไป ต้นไหนโตช้า หลังจากรดน้ำแล้วใช้เวลากี่วันกว่าจะออกดอก

ในตอนนี้ลุงเหมืองกำลังออกแบบ ‘วิธีการของตัวเอง’ อย่างจริงจัง จนกระทั่งวันหนึ่ง ลุงเหมืองไปตลาดในตัวอำเภอในตอนเช้าตรู่ตั้งใจจะไปซื้อเมล็ดผักเพื่อเอาไปปลูก และก็ได้พบใครบางคนที่นึกถึงอยู่ในใจโดยไม่คาดคิด

“อ้าว ลุงเหมือง” เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง

            ลุงเหมืองหันไปเห็นแพรในเสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกระเป๋าผ้าสะพายข้างที่เต็มไปด้วยผักสด แพรยังคงยิ้มสดใสเหมือนเช่นเคย

“บังเอิญจังเลย ลุงมาทำอะไรที่นี่เหรอ”

“ลุงมาซื้อของ หนูแพรล่ะ”

“หนูมาซื้อผักให้แม่ แล้วก็แวะเดินเล่นนิดหน่อยค่ะ”

“ดีเลย ๆ ลุงมีเรื่องอยากคุยด้วยพอดี”

ทั้งสองคนเดินไปนั่งลงที่โต๊ะม้าหินอ่อนตรงมุมข้างร้านกาแฟในตลาด ลุงเหมืองเล่าให้แพรฟังทุกอย่าง ตั้งแต่ไปดูโรงเรือนกับคุณนายพันดาว ไปจนถึงการตัดสินใจไม่ขายพันธุ์มะเขือเทศให้คุณนายพันดาว รวมไปถึงสิ่งที่เขากำลังทดลองทำในตอนนี้ แพรตั้งอกตั้งใจฟังทุกคำพูดของลุงเหมือง ไม่มีการพูดแทรกและไม่มีการขัดจังหวะใด ๆ

“หนูแพรยังจำคำที่หนูเคยพูดกับลุงได้ไหม” ลุงเหมืองถาม

แพรยิ้ม “เรื่องช่วยลุงถ้าลุงจะปลูกมะเขือเทศเพิ่มใช่ไหมคะ”

“ใช่...” ลุงเหมืองเอ่ยตอบพลางยิ้มบาง ๆ ส่งให้

“จำได้สิคะ ลุงจะเริ่มปลูกตอนไหนล่ะ”

“ลุงกำลังจะเริ่มแล้วล่ะ อยากจะขยับขยายจริงจังสักที ลุงไม่อยากปล่อยโอกาสนี้ไป ถึงจะเดินช้ากว่าคนอื่น แต่ก็อยากให้มันมั่นคงกว่าเดิม”

แพรพยักหน้า “แล้วลุงอยากให้หนูช่วยอะไรบ้างคะ”

“ลุงอยากได้สมองของหนุ่ม ๆ สาว ๆ แบบหนูมาช่วยคิด” ลุงเหมืองหัวเราะเบา ๆ

“พวกเรื่องวางผังแปลง การบันทึกผลผลิต การทำตารางเก็บเกี่ยว ลุงไม่ค่อยถนัด หนูช่วยดูให้หน่อยได้ไหม”

แพรหัวเราะตาม “แน่นอนอยู่แล้วค่ะ หนูเต็มใจมาก ๆ เลย”

วันนั้น กลายเป็นวันเริ่มต้นของทีมเล็ก ๆ ของลุงเหมือง ทีมที่มีแค่สองคน คือลุงเหมืองกับแพร แต่กลับมีความมุ่งมั่นเกินร้อย

แพรเป็นครูสอนที่โรงเรียนในตัวอำเภอ และจะมาที่บ้านของลุงเหมืองทุกวันเสาร์ที่ไม่ได้ไปสอนหนังสือ เธอช่วยลุงเหมืองวางผังพื้นที่ใหม่ ลอกแปลนลงบนกระดาษ เขียนตารางเก็บข้อมูลผลผลิต ถ่ายรูปแต่ละแปลงเก็บไว้เปรียบเทียบการเจริญเติบโต และสอนให้ลุงเหมืองใช้สมาร์ตโฟนเก่า ๆ ที่เพิ่งซื้อมาแบบมือสองในการถ่ายภาพและบันทึกทุกอย่างไว้ใน G****e Sheet

“นี่นะลุง แค่จิ้ม ๆ แล้วก็จะดูตารางได้เลย ต่อไปก็ไม่ต้องเปิดสมุดทุกครั้งแล้ว” แพรสาธิตให้ดู

“โอ้โห เทคโนโลยีสมัยนี้นี่มันเจ๋งจริง ๆ เลยนะ” ลุงเหมืองหัวเราะแบบคนที่เพิ่งเจอโลกใหม่

วันเวลาเดินต่อไปอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง ผลผลิตชุดใหม่เริ่มทยอยออกผล ลูกใหญ่ขึ้น สีสวยขึ้น และที่สำคัญ มีระบบรองรับแล้ว

ลุงเหมืองยังคงเป็นภารโรงเหมืองคนเดิม ยังคงยิ้มให้เด็กนักเรียน ยังคงจูงจักรยานคันเก่าไปขายผักที่ตลาดในบางวัน แต่ในความเงียบของแปลงผักหลังบ้านและแปลงผักหลังโรงประชุมของโรงเรียน ในสมุดบันทึกที่มีตัวเลขเขียนไว้อย่างละเอียด และในรอยยิ้มของแพรทุกวันเสาร์ มันกำลังมีบางอย่างที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างเงียบงัน

สิ่งนี้มันไม่ใช่แค่มะเขือเทศ แต่คือความหวังเล็ก ๆ ของคนที่เลือกจะเดินในเส้นทางที่หัวใจตัวเองร้องบอกให้เดิน ถึงแม้เส้นทางนั้นจะเป็นเส้นทางที่ไม่มีใครเลือกก็ตาม...

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.