Share

ตอนที่ 5 เงื่อนไข 

Author: MoonDust
last update Last Updated: 2025-05-18 11:00:43

“แกคิดว่าแกเป็นใครจะมายื่นเงื่อนไขกับฉัน?”

"คุณชายคะ" ฉันเอ่ยขึ้นด้วยเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่น "ดิฉันเข้าใจดีว่าการแต่งงานครั้งนี้มีความสำคัญต่อบริษัทของเรา...แต่ดิฉันคิดว่าเราควรตกลงเรื่องบางอย่างให้ชัดเจนก่อน"

"เรื่องอะไร?" นายพิชิตขมวดคิ้ว

"สถานะของดิฉันในบริษัท" ฉันตอบตรง ๆ ” คุณชายเองก็ทราบดีว่าดิฉันเป็นคนดูแลและแก้ปัญหาให้โรงสีมาตลอด แต่ยังต้องทำทุกอย่างอย่างลับ ๆ"

"แก..." คุณพิชิตดูเริ่มจะโกรธ แต่ฉันยกมือขึ้นห้าม

"ลองคิดดูนะคะ" ฉันพูดต่อ พยายามคุมน้ำเสียงให้มั่นคง "หลังแต่งงาน ดิฉันจะเป็นภรรยาของหลานชายตระกูลทรัพย์ไพศาลอนันต์ จะให้แอบย่องเข้ามาทำงานแบบนี้ต่อไปได้ยังไงคะ? มันจะเสียเกียรติทั้งสองตระกูล"

คุณพิชิตนิ่งคิด

"ดิฉันเสนอว่า..." ฉันเดินอ้อมโซฟาช้า ๆ "ให้ดิฉันเป็น COO อย่างเป็นทางการ ดูแลโรงสีและธุรกิจอื่น ๆ ของเราต่อไป พร้อมเงินเดือนที่เหมาะสมกับตำแหน่ง" ฉันเสนอตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ ที่มีหน้าที่ในการดูแลและควบคุมการดำเนินงานขององค์กรในแต่ละวัน เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานทุกอย่างในบริษัทเป็นไปตามแผนที่วางไว้

"นี่แกกำลังต่อรองกับฉันเหรอ?" คุณพิชิตถามเสียงเย็น

"ไม่ค่ะ ดิฉันกำลังเสนอทางออกที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์...ดิฉันมีแผนฟื้นฟูธุรกิจที่ร่างไว้ ทั้งการขยายตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการร่วมทุนกับพันธมิตร... แต่ถ้าคุณชายไม่เห็นด้วย..."

ฉันเว้นจังหวะ

"ดิฉันก็แค่ต้องแต่งงานไปเป็นภรรยาที่ดีของคุณภูริ อยู่บ้านดูแลสามี ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของที่นี่อีก" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ

"คุณชายคงต้องหาคนอื่นมาแก้ปัญหาเรื่องหนี้สินและคู่แข่งเอง"

บรรยากาศในห้องตึงเครียด คุณพิชิตจ้องมองฉันผู้เป็นลูกสาวนิ่ง เขาคงไม่เคยเห็นวราลีแสดงความมั่นใจแบบนี้มาก่อน

"แกเปลี่ยนไป" เขาพูดในที่สุด

"คนเราต้องเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอดค่ะ"

"ตำแหน่ง COO..." เขาพูดช้า ๆ "พร้อมเงินเดือนที่สมน้ำสมเนื้อ..."

"และการยอมรับว่าดิฉันเป็นลูกสาวของคุณ... อย่างเปิดเผย" ฉันเสริม 

“อะไรนะ! นี่มันจะมากเกินไปแล้ว” คุณพิชิตชี้หน้าฉันด้วยความโกรธ

“ไม่มากไปหรอกค่ะ ไม่คิดว่าพอมีข่าวเรื่องแต่งงาน สื่อจะไม่ขุดประวัติดิฉันเหรอคะ ถ้าคุณชายไม่เปิดตัวดิฉันตั้งแต่แรก คิดว่าสื่อจะเล่นข่าวว่าอะไรล่ะคะ? คงไม่พ้น...ลูกเมียน้อยตกถังข้าวสารแต่งงานเข้าบ้านมหาเศรษฐี แล้วไหนจะคนในบริษัทอีก ต่อไป…ถ้าอยากจะให้บริษัทเราไปไกลกว่านี้ ยังไงดิฉันก็ต้องได้เข้าร่วมประชุมกับทุกฝ่ายค่ะ”

เขานิ่งไป คำพูดของฉันคงทำให้เขาต้องครุ่นคิด เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่าฉันพูดถูก การปิดบังความจริงต่อไปจะยิ่งสร้างปัญหาและสื่อมวลชนไม่เคยพลาดข่าวอื้อฉาวในตระกูลใหญ่

“…เข้าใจแล้ว" เขาถอนหายใจยาว น้ำเสียงอ่อนลง "ฉันจะจัดการเรื่องตำแหน่งให้ และจะแถลงข่าวเปิดตัวแก... พอใจหรือยัง?"

ฉันยิ้ม "ขอบคุณค่ะ...คุณชาย”

“แต่แกต้องทำให้การดูตัวของแกกับหลานชายคุณหญิงเป็นไปได้ด้วยดี ไม่อย่างนั้นเรื่องที่แกขอฉันวันนี้มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น”

“ค่ะ ดิฉันทราบดี” นายพิชิตโบกมือเป็นสัญญาณให้ออกไปจากห้องได้แล้ว ฉันหมุนตัวเดินออกมาจากห้อง ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่ง นี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ที่จะทำให้วราลีได้รับสิ่งที่สมควรได้รับมาตั้งแต่ต้น

“ตกลงว่าลูกจะแต่งงานกับคุณภูริจริง ๆ เหรอ?” แม่เอ่ยปากถามทันทีที่ฉันกลับเข้ามาในห้องนอนน

“ยังหรอกค่ะ ต้องไปพบเขาก่อน ถ้าเป็นไปได้ด้วยดีก็คงต้องแต่งค่ะ” ฉันพูดราวกับเรื่องการแต่งงานไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ

“แต่มันทั้งชีวิตลูกเลยนะ” ฉันส่งยิ้มจางให้มารดาก่อนจะกุมมือหยาบกร้านของเธอเอาไว้

“การแต่งงานครั้งนี้จะเปลี่ยนชีวิตเราค่ะ วีจะไม่ยอมให้เราอยู่ในสถานะนี้และถูกข่มเหงตลอดไปหรอกนะคะ” แม่กำลังเอ่ยปากจะค้าน แต่ฉันก็พูดต่อ

“แม่อาจจะคิดว่าทน ๆ ไปไม่เป็นไรหรอก แต่จริงเหรอคะ? แม่พอใจจริงๆ เหรอกับสิ่งที่ถูกกระทำอยู่ทุกวันนี้ ถ้าแม่พอใจ แม่คงไม่ร้องไห้ทุกวันทุกคืนหลังจากที่โดนเมียกับลูกเขารังแกมา” แม่เงียบไป ความจริงคงวิ่งเข้าทะลุอกจนเธอพูดไม่ออก ฉันกุมมือเธอแน่นขึ้น

“เชื่อเถอะค่ะ วีโอเคจริง ๆ”

แม่เงียบไปนาน คล้ายกำลังชั่งใจ สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจยาว ก่อนจะยกมือขึ้นลูบแก้มฉันแผ่วเบา

"แม่ไม่ได้อยากให้ลูกต้องฝืนใจตัวเองนะ" น้ำเสียงเธอสั่นไหว

"ค่ะ วีเลือกแล้ว และวีจะทำให้มันเป็นการเลือกที่ดีที่สุด"

แม่มองฉันนิ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างช้า ๆ

“ลูก…เปลี่ยนไปมากนะตั้งแต่ฟื้นขึ้นมา”

“…เหมือนเกิดใหม่เลยล่ะค่ะ แล้วก็คิดได้ว่าต้องทำสิ่งที่ควรทำเสียที เราปล่อยเวลามานานเกินไปแล้วค่ะ”

"ถ้าลูกมั่นใจ...แม่ก็จะเชื่อใจลูก"

ฉันยิ้มบางๆ ก่อนจะก้มลงกอดแม่แน่น แม้หัวใจจะเต็มไปด้วยความกังวลต่ออนาคตที่ไม่อาจคาดเดา แต่ฉันก็รู้ว่าตัวเองได้ก้าวข้ามเส้นทางแห่งความลังเลไปแล้ว

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่มีวันถอยหลังกลับเด็ดขาด

“ว่าไงนะ! เธอจะต้องแต่งงานแทนคุณหนูเหรอ?” อรเอามือป้องปาก ตกใจกับข่าวที่เพิ่งได้ยิน

“อืม”

“แล้วเขาหน้าตาเป็นยังไงเธอรู้หรือยัง?”

“ยัง เจอแต่รูปตอนเด็ก ๆ” ฉันพูดก่อนจะเปิดรูปในมือถือให้อรดู ซึ่งเป็นรูปเพียงใบเดียวที่หาได้จากการค้นหาชื่อของ ภูริ ทรัพย์ไพศาลอนันต์ ในรูปเป็นหญิงสาววัยกลางคน คือคุณหญิงสมศรี ข้าง ๆ เป็นเด็กชายร่างอ้วนใบหน้าเรียบเฉย มือข้างหนึ่งจับมือคุณหญิง ส่วนอีกข้างถือลูกชิ้นสามไม้

“โห ตอนเด็กยังขนาดนี้ โตมาจะขนาดไหน ที่เขาไม่ยอมออกสื่อเลยเพราะเรื่องรูปร่างหน้าตาหรือเปล่านะ?”

“ฉันพยายามหาแล้ว แต่ก็ไม่เจอเลย”

“วีเอ๊ย! ชีวิตเธอนี่มันช่างน่าสงสาร” อรพูดเสียงอ่อนและบีบมือฉันแน่น

“จะสงสารฉันทำไมเล่า แค่แต่งงานทางการเมือง ไม่จำเป็นต้องรักใคร่พิศวาสอะไรกันสักหน่อย แถมอีกฝ่ายยังเป็นมหาเศรษฐีด้วยนะ” ฉันพูดจากใจจริง การได้แต่งงานครองคู่กับคนที่เรารักเป็นอะไรที่ผู้หญิงเกือบทุกคนใฝ่ฝันหา แต่ก็ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะสมปรารถนานั้น แทนที่จะเครียดไปล่วงหน้าว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ฉันพยายามใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน เน้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และวางแผนเท่าที่จะทำได้

“แล้วถ้าเขามีรสนิยมแปลก ๆ ล่ะ? แบบ...ซาดิสม์ชอบความรุนแรง บังคับเธอขึ้นเตียงเธอจะทำยังไง?” ฉันเริ่มขมวดคิ้วกับจินตนาการอันล้ำเลิศของเพื่อนสาว

“เขาทำอะไรฉันไม่ได้หรอกน่า เธอก็รู้ว่าฉันเอาตัวรอดเก่ง”

“ขอให้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เถอะ เออ...ว่าแต่รู้หรือยัง อาทิตย์กลับมาแล้วนะ”

“อาทิตย์? อาทิตย์ไหน”

“เอ้า นี่เธอลืมอาทิตย์ด้วยเหรอเนี่ย อาทิตย์ก็ลูกชายลุงชมคนขับรถไง เขาเพิ่งกลับมาจากเยี่ยมแม่วันนี้ มาถึงก็ถามหาเธอคนแรกเลยนะ แต่ตอนนั้นเธออยู่ในห้องกับคุณชายน่ะ”

“อ้อ...เอาเถอะ เจอแล้วเดี๋ยวค่อยทักแล้วกัน ฉันไปก่อนนะ”

หลังจากแยกกับอรมา ฉันตั้งใจว่าจะไปหาสักมุมในบ้านเพื่อทำงาน ฉันวางแผนที่จะทำผลิตภัณฑ์ใหม่จากข้าว แต่มันยังเป็นแค่แบบร่างเท่านั้น แถมตอนนี้เรามีแบรนด์ข้าวสารบรรจุถุงของตัวเองที่กำลังพัฒนา ต้องทำรายงานเสนอแผนขยายตลาด ถ้าหากว่าเปิดตัวฉันอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ การทำงานคงง่ายมากขึ้น ฉันจะได้ไม่ต้องมาทำลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้

ทันทีฉันหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ในสวน ป้าแป้นก็เดินเข้ามาหาฉันราวกับรู้เวลา

“ยัยหนู ไปตลาดให้ป้าหน่อยสิ” ป้าแป้นยื่นถุงผ้าให้ฉันพร้อมรายการของ

“ให้คนอื่นไปแทนไม่ได้เหรอคะ?” แม้จะยุ่ง แต่ฉันไม่สามารถบอกออกไปตรงๆ ได้เกี่ยวกับงานที่โรงสี ในสายตาป้าแป้น ฉันจึงดูเหมือนคนว่างงานที่สุดแล้วในตอนนี้

“คนอื่นเขายุ่งกันหมด” ป้าแป้นยิ้ม “อีกอย่าง ป้ายังไม่หายเจ็บขาเลย”

ฉันถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นรับถุงและกระดาษจดสิ่งต้องซื้อจากมือป้าแป้น

“ก็ได้ค่ะ ป้าจะเอาอะไรเพิ่มไหม?”

“เอาปลาทูมาสามตัว อย่าลืมดูให้ดีนะ เอาตัวที่ตายแล้ว”

ฉันหลุดขำ “ป้าคะ ปลาทูมันก็ตายหมดทุกตัวอยู่แล้วนะ”

“เอ้อ! นั่นแหละ” ป้าแป้นหัวเราะพลางโบกมือไล่

ฉันเดินออกจากสวน พลางพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แผนจะหามุมสงบทำงานของฉันพังไม่เป็นท่าอีกแล้ว

ฉันเดินตรงไปที่ประตูรั้ว พลางไล่เช็กรายการของในใจ พอหันซ้ายหันขวาจะก้าวออกจากบ้าน กลับต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของใครบางคนยืนพิงรถกระบะอยู่ไม่ไกล

ชายหนุ่มในเสื้อยืดสีขาวเรียบๆ กางเกงยีนสีกลาง และรองเท้าผ้าใบที่ดูสะอาดสะอ้านผิดวิสัยคนบ้านนี้ ดวงตาสีเข้มกำลังจ้องมองฉันด้วยรอยยิ้มบางๆ

"วี"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนพิเศษ 2 ครั้งหนึ่งเคยเจอกัน

    เลือดอุ่น ๆ ไหลผ่านแผลที่หน้าท้อง เปื้อนเสื้อพรางจนไม่รู้ว่าสีจริงของมันเป็นสีอะไรกันแน่อลิสากัดฟันแน่น พิงตัวกับโขดหินในป่ารก หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ“บ้าเอ๊ย…ล่อพวกเราเข้าไปตายชัด ๆ”เสียงปืนที่เคยดังสนั่นเมื่อชั่วโมงก่อนยังดังก้องอยู่ในหัวเธอจำภาพตอนที่ลูกทีมคนหนึ่งล้มทั้งยืนได้ชัด คำสั่งล่าถอยถูกขัดจังหวะด้วยระเบิดแรงสูง และหลังจากนั้น...ก็ไม่มีเสียงของใครอีกเลย นอกจากลมหายใจตัวเอง ตอนนี้เธอหนีมาไกลหลายกิโลเมตรจากจุดที่ปะทะครั้งสุดท้ายอลิสาขยับตัวอีกนิด ร่างกายประท้วงทันทีด้วยความเจ็บและเหนื่อยล้าเธอแตะวิทยุสื่อสารที่อยู่ด้านในเสื้อ...ไร้สัญญาณไม่มีเสียงตอบ ไม่มีอะไรนอกจากเสียงของลมกับนก“ฉันต้องไม่ตายที่นี่…ฉันจะไม่ตายในป่าเงียบ ๆ แบบนี้แน่”เธอเริ่มคลานต่อ มือจับปืนไว้แน่นข้างตัว ทุกย่างก้าวคือการต่อรองกับความอดทน ภาพรอบตัวเริ่มเบลอจากเลือดที่เสียไป แต่สัญชาตญาณยังผลักให้เธอไปข้างหน้าจนกระทั่ง...เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นกร๊อบ...กร๊อบ...เสียงกิ่งไม้หัก เสียงเท้าเดินบนพื้นใบไม้ชื้น เสียงนั้นเบา แต่ไม่เบาพอจะรอดหูของเธอไปได้ อลิสากระชับปืน ปรับทิศสายตาดึงพลังเฮือกสุดท้ายให้

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนพิเศษ 1 ความอดทนของสามี

    ช่วงนี้ภูริรู้ตัวว่า…เขากำลังเข้าสู่โหมด ‘กลั้นใจ’ เต็มรูปแบบเพราะตั้งแต่แต่งงานกันมา พูดกันตรง ๆ เลยว่าเขาก็หื่น แต่หื่นแบบ รักมาก หลงมาก มองเมียทีไรก็อยากกระโจนใส่ทุกครั้งแต่ใช่ว่าวราลีจะไม่รู้ เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอหันมามองเขาตอนเช้าแล้วพูดเสียงอ่อนว่า“พี่ภูคนดีคนเดิมหายไปไหน…”พร้อมทำตาแป๋ว ๆ นอนกอดผ้าห่มอยู่บนเตียง ในขณะที่เขายืนใส่กางเกงนอนอยู่ข้างหน้า…“ทำไมเหลือแต่คนหื่น…”แค่คำนั้นคำเดียว ทำเอาเขารู้สึกเหมือนหมาตัวโต ๆ ที่โดนตีหัวเบา ๆ ด้วยไม้เรียวเมียตั้งแต่นั้นมา เขาก็พยายาม ‘เป็นคนดีคนเดิม’ ไม่รุก ไม่ปล้ำ ไม่ซุกซนยามดึกแม้จะนอนเตียงเดียวกันทุกคืน…แม้จะได้เห็นเธอใส่ชุดนอนสายเดี่ยวตัวหลวมที่ชอบหล่นจากไหล่ แม้จะมีบางคืนที่เธอเอาขามากอดเขาทั้งตัว…แต่เขาก็อดทนคืนแรก…เขาหันหลังให้คืนที่สอง…เขาเปิดพอดแคสต์วิธีฝึกสมาธิก่อนนอนคืนที่สาม…เขาสวดบทภาวนาขอพรจากจักรวาลให้เขาผ่านคืนนี้ไปได้แต่แล้วก็…คืนนี้...เขาเห็นวราลีก้มลงหยิบของจากพื้น โดยที่เสื้อยืดคอกว้างเผยให้เห็นเนินอกอิ่มเต็มตา เสี้ยววินาทีนั้นเขาเหมือนโดนตบหน้าโดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งขอพรไป“อดทนไว้ภูริ…อดทนเพื

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   บทส่งท้าย

    เสียงเพลงบรรเลงแผ่วเบาดังคลอภายในโบสถ์หินอ่อนที่ประดับด้วยดอกไม้โทนขาวครีมและเขียวอ่อน สะอาดตาและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แสงแดดจากหน้าต่างกระจกสีที่สูงจรดเพดานสาดลงมาอย่างอ่อนโยนราวกับพระเจ้ากำลังอวยพรฉันยืนอยู่หลังประตูไม้ของโบสถ์ ลมหายใจตื่นเต้นจนต้องกลั้นเอาไว้ มือแน่นิ่งอยู่ในอ้อมแขนของคุณพิชิตผู้เป็นบิดา ที่วันนี้มารับหน้าที่จูงฉันเข้าไปในโบสถ์“พร้อมไหม” เขาถามเสียงเบาฉันพยักหน้า กลั้นยิ้มอย่างเกร็งนิด ๆ“พร้อมค่ะ”ประตูโบสถ์เปิดออก เสียงเปียโนท่อนแรกของ Canon in D ดังขึ้นทุกสายตาหันมามองฉันในชุดเจ้าสาวสีงาช้างที่ตัดเข้ารูปอย่างสง่างาม ผ้าคลุมยาวลากพื้นพลิ้วไหวตามจังหวะก้าวเดินคุณหญิงสมศรียิ้มกว้างสุดหัวใจ น้ำตาคลอจนต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดบ่อยครั้ง แต่ไม่วายหันไปกระซิบกับนาลันว่า“สวยเหมือนย่าตอนสาว ๆ เลยใช่ไหมล่ะ”นาลันหัวเราะเบา ๆ ยกนิ้วโป้งให้ฉันแทนคำชม ข้าง ๆ เธอ ภาวินท์และชนกันต์ยกกล้องขึ้นถ่ายช็อตสำคัญไม่หยุด ส่วนพลอยไพลินที่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างแม่ฉัน ก็ยิ้มบา

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนที่ 46 ฤกษ์ดี

    แสงเจิดจ้าระยิบระยับจากแชนเดอเลียร์หรูหราขนาดใหญ่ภายห้องโถงใหญ่ในโรงแรมระดับห้าดาวกลางใจเมืองดูจะแพ้แสงแฟลชจากเหล่ากล้องสื่อมวลชนที่เข้าประจำการตั้งแต่เช้า ด้านหน้าตึกแน่นขนัดไปด้วยผู้คน ทั้งสื่อ นักข่าว แขกผู้มีเกียรติ และหุ้นส่วนธุรกิจจากทั่วเอเชียที่ต่างเดินทางมาเพื่อร่วมเป็นพยานในวันสำคัญของ ‘ภูริ ทรัพย์ไพศาลอนันต์’ข่าวการขึ้นรับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของ TP กรุ๊ป ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนผ่านภายในตระกูล แต่คือ ‘เหตุการณ์ระดับชาติ’ สำหรับวงการธุรกิจสื่อทุกแขนงถ่ายทอดสด บรรยายตื่นเต้นราวกับกำลังดูฟุตบอลนัดชิง พาดหัวข่าวเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วทั้งคำว่า‘ทายาทหมื่นล้านเปิดตัวอย่างสง่างาม’‘ภูริ ผู้นำอาณาจักรทรัพย์ไพศาลอนันต์สู่อนาคตใหม่’หรือแม้แต่ ‘จับตา! ยุคใหม่ของ TP กรุ๊ปจะไปทางไหนเมื่ออยู่ภายใต้ผู้นำคนใหม่’แต่ในห้องรับรองชั้นบนสุดของตึก…โลกทั้งใบของภูริกลับเงียบงัน มีเพียงเสียงสูดหายใจลึก ๆ ของเขา กับมือเล็ก ๆ ที่กำลังช่วยจัดปกสูทให้เข้าที่“แน่ใจเหรอครับว่าพี่ไม่ดูต

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนที่ 45 ยิ้มกว้าง

    เสียงเครื่องวัดชีพจรเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอในห้องสีขาวสะอาดตาฉันรู้สึกถึงความเย็นของผ้าปูเตียง และกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ลอยเข้าจมูกเมื่อค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือเพดานโรงพยาบาล และแสงแดดอ่อนยามเช้าส่องลอดผ้าม่าน“ฟื้นแล้วเหรอครับ ลูกพี่”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างเตียง ก่อนที่ใบหน้าของชนกันต์จะโผล่เข้ามาในสายตาฉันพยายามยันตัวขึ้น เขารีบช่วยประคองทันที“ใจเย็นครับ เพิ่งได้สติไม่ถึงชั่วโมงเอง”ฉันยิ้มบาง พลางหลุบตาลง“…เรา…ชนะแล้วเหรอ?”ชนกันต์พยักหน้า“ครับ พวกผมเข้าเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดหลังเสียงปืนนัดสุดท้าย ฝ่ายเราเข้าควบคุมโกดังได้หมดแล้ว พวกของจงเหวินที่เหลือถูกจับเรียบ พร้อมของกลางเป็นอาวุธเถื่อนล็อตใหญ่…ตอนนี้เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศเลยล่ะครับ”ฉันถอนหายใจยาว ความโล่งอกแล่นวาบไปทั่วร่างแม้จะยังอ่อนแรง“แล้ว…ภูริล่ะ?”ชนกันต์ยิ้ม“ห้องตรงข้ามนี้เองครับ พักฟื้นอยู่เหมือนกัน ผมว่าจะไปเยี่ย

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนที่ 44 ปิดฉาก

    สายตาฉันเหลือบไปเห็นมอเตอร์ไซค์อีกคันนอนตะแคงอยู่ข้างถนน ห่างออกไปไม่ถึงสิบเมตร...คันนั้นยังดูใช้งานได้ฉันกัดฟันแน่น ฝืนพาร่างตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยถลอกลุกขึ้นยืน มือขวากำปืนไว้แน่น ส่วนมือซ้ายลากขาเปื้อนเลือดค่อย ๆ พาตัวเองไปยังมอเตอร์ไซค์“ฟื้นตัวให้ไวนะ…ฉันยังต้องลุยต่อ” ฉันบ่นกับตัวเอง ขณะยกรถขึ้นและลองบิดเครื่อง เสียงเครื่องยนต์คำรามเบา ๆ ขึ้นมาทันทีราวกับตอบรับฉันคว้าหมวกกันน็อกเก่า ๆ ใบหนึ่งที่แขวนอยู่ข้างเบาะ สวมมันอย่างรวดเร็ว แล้วบิดคันเร่งออกตัว บนถนนที่เริ่มว่างเปล่า เป้าหมายของฉันคือ...ลินามือข้างหนึ่งของฉันล้วงเครื่องมือสื่อสาร พยายามติดต่อหาชนกันต์ด้วยเสียงหอบแฮก[ลูกพี่!?] ในที่สุดชนกันต์ก็ตอบกลับมาเสียที ฉันถอนหายใจโล่ง“กันต์…พวกมันได้ตัวพี่ภูไปแล้ว!” ฉันเร่งเสียง “ฉันติดเครื่องติดตามไว้ในเสื้อเขา ส่งพิกัดที่ได้มาให้ฉันด่วน!”[เวรเอ๊ย! พวกมันรู้ได้ยังไง!?] เขาสบถ [เดี๋ยวส่งพิกัดให้ภายในสิบวินาที]ฉันตัดสายไป แล้วเร่งเครื่องอย่างเต็มแรงฝ่าเส้นทางสลับซ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status