Home / โรแมนติก / วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม / ตอนที่ 6 จำไม่ได้จริงๆเหรอ?

Share

ตอนที่ 6 จำไม่ได้จริงๆเหรอ?

Author: MoonDust
last update Huling Na-update: 2025-05-19 19:00:04

"จำฉันได้ไหม?" เขาถามขึ้น รอยยิ้มกว้างขึ้นอีกนิดเมื่อเห็นฉันทำหน้าตึงเครียด

ฉันจ้องเขาอย่างพิจารณา...เมื่อกี้อรพูดถึงใครนะ...ลูกชายของลุงชม...

"อาทิตย์เหรอ?"

เขาหัวเราะเบาๆ "ใช่ พ่อกับน้าแพรวบอกว่าวีความจำเสื่อม ฉันตกใจแทบแย่ แต่ดีใจนะที่วียังจำฉันได้อยู่”

อันที่จริง ฉันไม่รู้จักนายด้วยซ้ำ ขอโทษที

อาทิตย์ยิ้มให้ฉันอย่างเปิดเผยเหมือนเราสนิทกัน เขาเดินเข้ามาหมายจะจับมือฉัน แต่ฉันกลับถอยหนีตามสัญชาตญาณ ทำให้อาทิตย์ชะงักและถอยไป

“ขะ…ขอโทษที พอดีฉันไม่ยังไม่ค่อยชิน”

“ไม่เป็นไรหรอกฉันเข้าใจ แล้วนี่จะไปไหนเหรอ?" เขาถาม พลางก้มมองถุงผ้าในมือฉัน

"ตลาด" ฉันตอบสั้น ๆ

"ให้ไปส่งไหม?"

"ฉันเดินไปเองได้"

“แค่อยากไปด้วยเฉย ๆ น่ะ"

...อะไรของเขา?

ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกแปลก ๆ กับท่าทางของเขานิดหน่อย...

แต่เอาเถอะ ถ้าเขาอยากไปด้วยก็เชิญ ฉันก็ไม่ได้เสียอะไรอยู่แล้ว

"ตามใจ" ฉันตอบ ก่อนจะเดินนำออกไป ทิ้งให้อาทิตย์หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเดินตามฉันมา

วันนี้ฉันแค่จะไปซื้อปลาทูให้ป้าแป้น แต่ดูเหมือนจะได้ของแถมที่ไม่คาดคิดมาด้วยแล้วล่ะ...

ช่วงบ่ายวันนี้คนเดินตลาดสดมีไม่มากนัก คงเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาหรือเปล่านะ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ฉันต้องมาซื้อของที่นี่บ่อยเพราะคำสั่งของป้า และอยู่ไม่ไกลจากบ้าน นั่นทำให้เหล่าพ่อค้าแม่ขายคุ้นหน้าคุ้นตาฉันไปแล้ว ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะป้าแป้นเป็นคนอัธยาศัยดี คุยเก่งจนสนิทกับคนและกลายเป็นผู้กว้างขวางของตลาด เป็นผลพลอยได้ทำให้ฉันแค่บอกว่าเป็นหลานของป้าแป้น พ่อค้าแม่ค้าก็จะลดแแหลกแจกแถมให้ทุกครั้งไป

แต่วันนี้ดูจะแตกต่างนิดหน่อย...ฉันเหลือบมองคนข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ อาทิตย์ เดินไปตามทางด้วยท่าทีสบาย ๆ แม้จะโดนแม่ค้าหลายคนหันมามองเป็นระยะ บางคนยิ้ม บางคนกระซิบกระซาบกันเอง ซึ่งฉันเดาได้ไม่ยากว่าพวกเขากำลังนินทาเรื่องอะไร

"หลานเจ๊แป้นมากับหนุ่มด้วยแหละ"

"หรือว่าจะเป็นแฟนมัน? หล่อใช้ได้"

"ดูเข้ากันดีนะเนี่ย"

ให้ตายเถอะ…

ฉันพยายามทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรให้คนพวกนั้นจับผิดได้ แต่ในใจนี่อยากถอนหายใจสักสิบรอบ

“วันนี้มีคนมาช่วยถือของด้วย แฟนเหรอ? หล่อดีนะเจ้าวี” แม่ค้าขายผักยิ้มกรุ้มกริ่มพลางกระซิบกระซาบ ฉันส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะยื่นเงินสด

“ไม่ใช่ค่ะ เพื่อนค่ะ” น่าจะเป็นรายที่ 5 แล้วมั้งที่ถามฉัน คนข้าง ๆ ก็ไม่ตอบปฏิเสธ จนฉันต้องแอบกลอกตาเพราะเบื่อที่จะตอบคำถามเดิมแล้ว

“วีรู้จักคนเยอะนะ” อาทิตย์พูดขึ้นระหว่างที่เรากำลังเดินไปป้ายรถเมล์

“อืม ฉันมาซื้อของให้ป้าแป้นบ่อย คนรู้จักแกอยู่แล้ว เลยพลอยเอ็นดูฉันไปด้วย”

ฉันยิ้ม พลางนึกไปถึงสมัยที่ยังเป็นอลิสา การมาซื้อของที่ตลาดเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับฉันเลย เพราะอย่างที่บอก ตารางชีวิตของฉันมีแค่ ฝึก-ปฏิบัติภารกิจ-ฝึก วนไปแบบนั้น สกิลการเข้าสังคมของฉันจึงค่อนข้าง ต่ำ มาก เพราะไม่ค่อยได้พูดคุยแบบคนปกติเท่าไหร่ หนึ่งเดือนกว่า ๆ ที่เป็นวราลีนั้นพัฒนาสกิลการพูดคุยกับฉันได้มาก ไม่นับตอนคุยกับพลอยไพลินนะ รายนั้นไม่กล้าทำร้ายฉันแล้วก็จริง แต่ยังค่อนแคะ ค่อนขอดกันทุกครั้งที่เจอหน้ากัน

แต่ก็ช่างมันเถอะ เธอไม่ได้รับมือยากขนาดนั้น

ส่วนอาทิตย์...จากที่เห็นเขาก็ดูเป็นคนดี อาจจะเป็นเพื่อนที่จริงใจกับวราลีคนหนึ่ง

"นายไม่อึดอัดเหรอ?" ฉันถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ

"ทำไมต้องอึดอัด" อาทิตย์เอียงคอถามกลับ

"ก็...คนที่ตลาดเขาพูดถึงนาย"

"อ้อ เรื่องนั้น?" เขายักไหล่ "ก็ไม่ได้เป็นปัญหานะ"

ฉันหรี่ตา "หมายความว่าไง"

“ก็ไม่ยังไง…อีกอย่าง...จริง ๆ แล้วเราสองคนสนิทกันมากเลยนะ เราคุยกันบ่อย ๆ ตอนว่าง ๆ ก็ไปเที่ยวกัน สมัยนี้เรียกอะไรแล้วนะ? ...อ้อ คนคุยไง”

อาทิตย์หยุดเดินและหันมามองฉัน ไม่รู้ว่าสายตานั้นหมายถึงอะไร

“วีจำเรื่องของเราไม่ได้เลยจริงๆ เหรอ?” เสียงเขาเริ่มตัดพ้อ ฉันได้แต่นิ่งเงียบ จะให้บอกไปว่าจริงๆ แล้วฉันไม่ใช่วราลีคงจะฟังดูเหมือนคนบ้า เมื่อเขารู้ว่าคงไม่ได้คำตอบอะไรจากฉัน เขาก็ถอนหายใจ

“ไม่เป็นไร เราค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก็ได้เนอะ ฉันไม่เร่งอะไรวีอยู่แล้ว แต่ว่าอยากให้วีรู้ไว้นะ...”

สายตาของเขาอ่อนลง

“ว่าฉันยังชอบวีเหมือนเดิม...”

เวรกรรม...ยุ่งแล้วสิ

ฉันกะพริบตาปริบ ๆ ไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป ฉันชอบเขาไหม? แน่นอนว่าไม่ ฉันเพิ่งเจอเขาเอง ถ้าถามว่าฉันรู้สึกยังไงตอนนี้ คงเป็น อึดอัด

“อาทิตย์...ฉัน...”

ยังไม่ทันพูดจบประโยค เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นข้างหน้า

“ขโมย! ใครก็ได้ช่วยด้วย! มันกระชากกระเป๋าไป!”

คุณยายคนหนึ่งหน้าร้านทองยืนหน้าตื่น น้ำตาคลอเบ้า ขณะที่ชายร่างสูงสวมเสื้อฮู้ดสีดำวิ่งพรวดพราดออกมา พร้อมกระเป๋าหนังใบเล็กในมือ

คนในตลาดแตกฮือ บางคนหลบ บางคนตะโกนให้จับโจร บางคนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิป

ฉันโยนถุงปลาทูให้คนข้าง ๆ “อาทิตย์ ถือไว้!”

“ห๊ะ!? เดี๋ยว! วี!?” ”

ไม่ทันเขาจะพูดจบ ฉันก็ออกตัววิ่งเต็มฝีเท้า

ร่างกายนี้อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเท่าตอนเป็นอลิสา แต่การฝึกตลอดเดือนที่ผ่านมาไม่เสียเปล่า ฉันเร่งฝีเท้า เบี่ยงตัวหลบผู้คนที่ยืนมุงได้อย่างแม่นยำ สายตาล็อกเป้าหมายไว้ไม่พลาด

เมื่อเห็นช่องว่างพอดี ฉันพุ่งตัวไปด้านข้าง ดึงจังหวะและใช้เข่าด้านนอกตัดเข้าด้านขาเขา

ผลั่ก!

คนร้ายล้มกลิ้ง กระเป๋าหลุดมือกระเด็นไปบนทางเท้า

“โอ๊ย! มึง! อีบ้า!”

“วิ่งราวของคนแก่นี่ดีมากเลยสินะ” ก่อนที่ฉันจะกระโดดเอาเข่ากระทุ้งลงไปที่หลังของมันเต็มแรง ทำให้มันร้องครางลั่นด้วยความเจ็บปวด

“วี!” เสียงอาทิตย์ดังมาจากข้างหลัง เขาวิ่งมาในจังหวะที่ฉันลุกขึ้นพอดี ก่อนที่เขาจะย่อตัวกดหัวคนร้ายไว้กับพื้นอย่างเฉียบพลัน ใช้ท่อนแขนล็อกแขนข้างหนึ่งของมันบิดไปด้านหลัง

“โอ๊ยยยย!”

คุณยายวิ่งเข้ามาหอบ ๆ พร้อมเสียงปรบมือประปรายจากคนแถวนั้น

“ขอบคุณมาก ๆ เลยนะ ถ้าไม่ได้พวกหนูช่วยไว้ ยายคงแย่” เธอพูดพลางยื่นมือมารับกระเป๋าคืนไป ก่อนจะกุมมือฉันไว้

“ไม่เป็นไรค่ะ ดีที่คุณยายไม่ได้รับอันตราย” ฉันยิ้มให้เธอ ไม่นานตำรวจก็มาถึงและจับตัวคนร้ายไว้ อาทิตย์เองก็เดินตามไปเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม

คุณยายกุมมือฉันแน่น ดูค่อนข้างเสียขวัญ ฉันกระชับมือเธอตอบ ก่อนจะมีเสียงผู้ชายสองสามคนดังขึ้นจากฝูงชน ไม่นานพวกเขาก็แหวกไทยมุงออกมา เป็นชายในชุดสูทสีดำ หน้าตาตื่นราวกับเพิ่งทำความผิดใหญ่หลวง

“คุณท่าน! คุณท่านไม่เป็นอะไรนะครับ!” ฉันหันไปมองคุณยายสลับกับชายชุดสูท เพิ่งสังเกตเห็นว่าแม้เธออยู่ในชุดลำลอง แต่การออกแบบและตัดเย็บดูประณีตและหรูหรา อีกอย่าง…ดูจากที่มีคนติดตามถึงสองคน คุณยายคนนี้อาจไม่ธรรมดาเลย

“ไม่เป็นไร ดีที่สาวน้อยคนนี้ช่วยฉันเอาไว้ เฮ้อ...แค่อยากมาซื้อของด้วยตัวเอง ดันเกิดเรื่องแบบนี้เสียได้” เธอพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ ทว่าดูมีอำนาจ ชายในชุดสูทสองคนหน้าซีดเหงื่อตกกว่าเดิม

“ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ได้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก” ก่อนทั้งสองจะก้มหัวแทบติดพื้น คุณยายส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้กับฉัน

“ขอบคุณอีกครั้งนะจ๊ะหนู นี่นะ...ถ้าหนูมีอะไรก็ติดต่อหาฉันได้เลย...” เธอค้นหาบางอย่างในกระเป๋าถือของเธอ “เอ๊ะ...สงสัยจะลืมเอามา แย่จริง”

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณยายปลอดภัยก็ดีแล้ว” ฉันพูดไปตามจริง ฉันไม่ใช่พวกช่วยคนหวังผลสักหน่อย

“ไม่ได้ ๆ” เธอยังคงควานหาบางอย่างในกระเป๋าอยู่ จนสุดท้ายเธอก็ยอมแพ้

“หนูชื่ออะไรจ๊ะ? ชื่อจริง นามสกุลน่ะ”

ฉันเห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไรจึงตอบออกไป

“วราลีค่ะ วราลี พาณิชย์วงศ์” ฉันแอบเห็นคุณยายชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะยิ้มกว้างและพยักหน้า ฉัน...ไม่แน่ใจในความหมายของรอยยิ้มนั้นเท่าไหร่

“ฮ่า ๆ โลกกลมเสียจริง...วราลีเหรอ...ยายจำชื่อหนูไว้แล้ว เดี๋ยวเราได้เจอกันอีกแน่ ระหว่างนี้ก็รักษาเนื้อรักษาตัวนะลูกนะ” เธอบีบมือฉันอีกครั้งก่อนจะจากไปพร้อมกับบอดี้การ์ดทั้งสอง ทิ้งให้ฉันงุนงงอยู่กับประโยคสุดท้ายของเธอ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนพิเศษ 2 ครั้งหนึ่งเคยเจอกัน

    เลือดอุ่น ๆ ไหลผ่านแผลที่หน้าท้อง เปื้อนเสื้อพรางจนไม่รู้ว่าสีจริงของมันเป็นสีอะไรกันแน่อลิสากัดฟันแน่น พิงตัวกับโขดหินในป่ารก หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ“บ้าเอ๊ย…ล่อพวกเราเข้าไปตายชัด ๆ”เสียงปืนที่เคยดังสนั่นเมื่อชั่วโมงก่อนยังดังก้องอยู่ในหัวเธอจำภาพตอนที่ลูกทีมคนหนึ่งล้มทั้งยืนได้ชัด คำสั่งล่าถอยถูกขัดจังหวะด้วยระเบิดแรงสูง และหลังจากนั้น...ก็ไม่มีเสียงของใครอีกเลย นอกจากลมหายใจตัวเอง ตอนนี้เธอหนีมาไกลหลายกิโลเมตรจากจุดที่ปะทะครั้งสุดท้ายอลิสาขยับตัวอีกนิด ร่างกายประท้วงทันทีด้วยความเจ็บและเหนื่อยล้าเธอแตะวิทยุสื่อสารที่อยู่ด้านในเสื้อ...ไร้สัญญาณไม่มีเสียงตอบ ไม่มีอะไรนอกจากเสียงของลมกับนก“ฉันต้องไม่ตายที่นี่…ฉันจะไม่ตายในป่าเงียบ ๆ แบบนี้แน่”เธอเริ่มคลานต่อ มือจับปืนไว้แน่นข้างตัว ทุกย่างก้าวคือการต่อรองกับความอดทน ภาพรอบตัวเริ่มเบลอจากเลือดที่เสียไป แต่สัญชาตญาณยังผลักให้เธอไปข้างหน้าจนกระทั่ง...เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นกร๊อบ...กร๊อบ...เสียงกิ่งไม้หัก เสียงเท้าเดินบนพื้นใบไม้ชื้น เสียงนั้นเบา แต่ไม่เบาพอจะรอดหูของเธอไปได้ อลิสากระชับปืน ปรับทิศสายตาดึงพลังเฮือกสุดท้ายให้

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนพิเศษ 1 ความอดทนของสามี

    ช่วงนี้ภูริรู้ตัวว่า…เขากำลังเข้าสู่โหมด ‘กลั้นใจ’ เต็มรูปแบบเพราะตั้งแต่แต่งงานกันมา พูดกันตรง ๆ เลยว่าเขาก็หื่น แต่หื่นแบบ รักมาก หลงมาก มองเมียทีไรก็อยากกระโจนใส่ทุกครั้งแต่ใช่ว่าวราลีจะไม่รู้ เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอหันมามองเขาตอนเช้าแล้วพูดเสียงอ่อนว่า“พี่ภูคนดีคนเดิมหายไปไหน…”พร้อมทำตาแป๋ว ๆ นอนกอดผ้าห่มอยู่บนเตียง ในขณะที่เขายืนใส่กางเกงนอนอยู่ข้างหน้า…“ทำไมเหลือแต่คนหื่น…”แค่คำนั้นคำเดียว ทำเอาเขารู้สึกเหมือนหมาตัวโต ๆ ที่โดนตีหัวเบา ๆ ด้วยไม้เรียวเมียตั้งแต่นั้นมา เขาก็พยายาม ‘เป็นคนดีคนเดิม’ ไม่รุก ไม่ปล้ำ ไม่ซุกซนยามดึกแม้จะนอนเตียงเดียวกันทุกคืน…แม้จะได้เห็นเธอใส่ชุดนอนสายเดี่ยวตัวหลวมที่ชอบหล่นจากไหล่ แม้จะมีบางคืนที่เธอเอาขามากอดเขาทั้งตัว…แต่เขาก็อดทนคืนแรก…เขาหันหลังให้คืนที่สอง…เขาเปิดพอดแคสต์วิธีฝึกสมาธิก่อนนอนคืนที่สาม…เขาสวดบทภาวนาขอพรจากจักรวาลให้เขาผ่านคืนนี้ไปได้แต่แล้วก็…คืนนี้...เขาเห็นวราลีก้มลงหยิบของจากพื้น โดยที่เสื้อยืดคอกว้างเผยให้เห็นเนินอกอิ่มเต็มตา เสี้ยววินาทีนั้นเขาเหมือนโดนตบหน้าโดยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งขอพรไป“อดทนไว้ภูริ…อดทนเพื

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   บทส่งท้าย

    เสียงเพลงบรรเลงแผ่วเบาดังคลอภายในโบสถ์หินอ่อนที่ประดับด้วยดอกไม้โทนขาวครีมและเขียวอ่อน สะอาดตาและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แสงแดดจากหน้าต่างกระจกสีที่สูงจรดเพดานสาดลงมาอย่างอ่อนโยนราวกับพระเจ้ากำลังอวยพรฉันยืนอยู่หลังประตูไม้ของโบสถ์ ลมหายใจตื่นเต้นจนต้องกลั้นเอาไว้ มือแน่นิ่งอยู่ในอ้อมแขนของคุณพิชิตผู้เป็นบิดา ที่วันนี้มารับหน้าที่จูงฉันเข้าไปในโบสถ์“พร้อมไหม” เขาถามเสียงเบาฉันพยักหน้า กลั้นยิ้มอย่างเกร็งนิด ๆ“พร้อมค่ะ”ประตูโบสถ์เปิดออก เสียงเปียโนท่อนแรกของ Canon in D ดังขึ้นทุกสายตาหันมามองฉันในชุดเจ้าสาวสีงาช้างที่ตัดเข้ารูปอย่างสง่างาม ผ้าคลุมยาวลากพื้นพลิ้วไหวตามจังหวะก้าวเดินคุณหญิงสมศรียิ้มกว้างสุดหัวใจ น้ำตาคลอจนต้องยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดบ่อยครั้ง แต่ไม่วายหันไปกระซิบกับนาลันว่า“สวยเหมือนย่าตอนสาว ๆ เลยใช่ไหมล่ะ”นาลันหัวเราะเบา ๆ ยกนิ้วโป้งให้ฉันแทนคำชม ข้าง ๆ เธอ ภาวินท์และชนกันต์ยกกล้องขึ้นถ่ายช็อตสำคัญไม่หยุด ส่วนพลอยไพลินที่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างแม่ฉัน ก็ยิ้มบา

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนที่ 46 ฤกษ์ดี

    แสงเจิดจ้าระยิบระยับจากแชนเดอเลียร์หรูหราขนาดใหญ่ภายห้องโถงใหญ่ในโรงแรมระดับห้าดาวกลางใจเมืองดูจะแพ้แสงแฟลชจากเหล่ากล้องสื่อมวลชนที่เข้าประจำการตั้งแต่เช้า ด้านหน้าตึกแน่นขนัดไปด้วยผู้คน ทั้งสื่อ นักข่าว แขกผู้มีเกียรติ และหุ้นส่วนธุรกิจจากทั่วเอเชียที่ต่างเดินทางมาเพื่อร่วมเป็นพยานในวันสำคัญของ ‘ภูริ ทรัพย์ไพศาลอนันต์’ข่าวการขึ้นรับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของ TP กรุ๊ป ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนผ่านภายในตระกูล แต่คือ ‘เหตุการณ์ระดับชาติ’ สำหรับวงการธุรกิจสื่อทุกแขนงถ่ายทอดสด บรรยายตื่นเต้นราวกับกำลังดูฟุตบอลนัดชิง พาดหัวข่าวเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วทั้งคำว่า‘ทายาทหมื่นล้านเปิดตัวอย่างสง่างาม’‘ภูริ ผู้นำอาณาจักรทรัพย์ไพศาลอนันต์สู่อนาคตใหม่’หรือแม้แต่ ‘จับตา! ยุคใหม่ของ TP กรุ๊ปจะไปทางไหนเมื่ออยู่ภายใต้ผู้นำคนใหม่’แต่ในห้องรับรองชั้นบนสุดของตึก…โลกทั้งใบของภูริกลับเงียบงัน มีเพียงเสียงสูดหายใจลึก ๆ ของเขา กับมือเล็ก ๆ ที่กำลังช่วยจัดปกสูทให้เข้าที่“แน่ใจเหรอครับว่าพี่ไม่ดูต

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนที่ 45 ยิ้มกว้าง

    เสียงเครื่องวัดชีพจรเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอในห้องสีขาวสะอาดตาฉันรู้สึกถึงความเย็นของผ้าปูเตียง และกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ลอยเข้าจมูกเมื่อค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือเพดานโรงพยาบาล และแสงแดดอ่อนยามเช้าส่องลอดผ้าม่าน“ฟื้นแล้วเหรอครับ ลูกพี่”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นข้างเตียง ก่อนที่ใบหน้าของชนกันต์จะโผล่เข้ามาในสายตาฉันพยายามยันตัวขึ้น เขารีบช่วยประคองทันที“ใจเย็นครับ เพิ่งได้สติไม่ถึงชั่วโมงเอง”ฉันยิ้มบาง พลางหลุบตาลง“…เรา…ชนะแล้วเหรอ?”ชนกันต์พยักหน้า“ครับ พวกผมเข้าเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดหลังเสียงปืนนัดสุดท้าย ฝ่ายเราเข้าควบคุมโกดังได้หมดแล้ว พวกของจงเหวินที่เหลือถูกจับเรียบ พร้อมของกลางเป็นอาวุธเถื่อนล็อตใหญ่…ตอนนี้เป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศเลยล่ะครับ”ฉันถอนหายใจยาว ความโล่งอกแล่นวาบไปทั่วร่างแม้จะยังอ่อนแรง“แล้ว…ภูริล่ะ?”ชนกันต์ยิ้ม“ห้องตรงข้ามนี้เองครับ พักฟื้นอยู่เหมือนกัน ผมว่าจะไปเยี่ย

  • วราลีคนนี้ไม่เหมือนเดิม   ตอนที่ 44 ปิดฉาก

    สายตาฉันเหลือบไปเห็นมอเตอร์ไซค์อีกคันนอนตะแคงอยู่ข้างถนน ห่างออกไปไม่ถึงสิบเมตร...คันนั้นยังดูใช้งานได้ฉันกัดฟันแน่น ฝืนพาร่างตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยถลอกลุกขึ้นยืน มือขวากำปืนไว้แน่น ส่วนมือซ้ายลากขาเปื้อนเลือดค่อย ๆ พาตัวเองไปยังมอเตอร์ไซค์“ฟื้นตัวให้ไวนะ…ฉันยังต้องลุยต่อ” ฉันบ่นกับตัวเอง ขณะยกรถขึ้นและลองบิดเครื่อง เสียงเครื่องยนต์คำรามเบา ๆ ขึ้นมาทันทีราวกับตอบรับฉันคว้าหมวกกันน็อกเก่า ๆ ใบหนึ่งที่แขวนอยู่ข้างเบาะ สวมมันอย่างรวดเร็ว แล้วบิดคันเร่งออกตัว บนถนนที่เริ่มว่างเปล่า เป้าหมายของฉันคือ...ลินามือข้างหนึ่งของฉันล้วงเครื่องมือสื่อสาร พยายามติดต่อหาชนกันต์ด้วยเสียงหอบแฮก[ลูกพี่!?] ในที่สุดชนกันต์ก็ตอบกลับมาเสียที ฉันถอนหายใจโล่ง“กันต์…พวกมันได้ตัวพี่ภูไปแล้ว!” ฉันเร่งเสียง “ฉันติดเครื่องติดตามไว้ในเสื้อเขา ส่งพิกัดที่ได้มาให้ฉันด่วน!”[เวรเอ๊ย! พวกมันรู้ได้ยังไง!?] เขาสบถ [เดี๋ยวส่งพิกัดให้ภายในสิบวินาที]ฉันตัดสายไป แล้วเร่งเครื่องอย่างเต็มแรงฝ่าเส้นทางสลับซ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status