แทบทุกคนหันไปตามเสียง เป็นตาเดียวกัน !
หากใครก็คงไม่ตื่นตกใจ เท่าณดลอีกแล้วล่ะ เพราะหนุ่มน้อยคนนั้น ใช่คุ้นเคยแต่เสียง หากเพียงเงยหน้าขึ้นมอง เขาก็แทบกระโดดกอดหนุ่มน้อยนั่นเลยทีเดียวถ้าทำได้
"ทอยส์ !"
ไม่ผิดหรอก ทอยส์จริงๆ นั่นล่ะ เขาไม่ได้ฝันไปเลยสักนิด โลกสว่างไสวสดใส กว่าเดิมอีกไม่รู้กี่เท่าทีเดียว
"คุณณดล..."
"มา ๆ ให้ผมช่วย อย่าเพิ่งถามอะไร รถกำลังจะออกแล้วครับ"
ณดลยื่นมือไปรับกระเป๋าใบโตจากทอยส์ ก่อนลุงเวกจะปิดประตูรถ และค่อยเคลื่อนรถออกไปจากที่หมายอย่างช้าๆ แล้วค่อยเร่งเครื่องให้เร็วขึ้นอีก...ณดลพาเด็กหนุ่มไปนั่งลงตรงที่ว่างไม่ท่างจากเขานัก ก่อนจะจับเอาสัมภาระวางลงบนชั้นเหนือศีรษะให้อีกฝ่ายค่อยคลายกังวล ถอดหมวกออกพัดให้ลมกับตัวเอง
"ขอบคุณครับ ผมเพิ่งรู้นะว่าคุณมาเที่ยวทริปนี้ด้วย"
"ผมไม่ได้มาเที่ยว ผมเป็นไกด์ เอ้อ ไกด์จำเป็นน่ะ ที่นี่เป็นบริษัททัวร์ของเพื่อนผม แล้วมันติดธุระเลยขอให้ผมมาแทน"
"ก็ดีนี่ครับ มีรายได้เข้ากระเป๋า"
"นั่นคงไม่สำคัญเท่ากับที่ผมได้เจอคุณหรอกนะ ทอยส์"
เหมือนจะฟังดูเศร้า หากเพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้น ชายหนุ่มกลับทำหน้าเข้มๆ ดุ ๆ ใส่อีกฝ่าย ราวกับทอยส์เป็นน้องเล็กๆ ของเขาอย่างนั้น
"แต่เดี๋ยวนะ...ผมเห็นคุณติดป้ายหน้าบ้านว่าไปปฏิบัติธรรมนี่นา แล้วมาโผล่อะไรที่นี่ โกทกนี่ผิดศีลนะคุณ แค่นี้คุณก็บรรลุธรรมไม่ได้แล้ว"
"ก็แล้วใครบอกว่าผมจะบรรลุธรรม ผมก็แค่อยากให้พอลได้เห็นป้ายหน้าบ้าน แล้วเลิกยุ่งกับชีวิตผมซะทีก็แค่นั้นเอง คุณนั่นล่ะ ทำตัวเป็นนักสืบไม่เลิกรา ไปยุ่มย่ามอะไรแถวหน้าบ้านผมกันนักหนา"
"ผมไม่ได้คิดจะไปแค่หน้าบ้านหรอก ตั้งใจจะบุกเข้าบ้านเลยล่ะ ก็ผมเป็นห่วงคุณนี่ทอยส์"
"ขอบคุณนะ แต่ถ้าคุณเป็นห่วงผมจริงละก็ ผมว่าคุณกลับไปนั่งที่ทางของคุณได้แล้ว เดี๋ยวพวกลูกทัวร์ เขาจะได้ว่าฉันเป็นพวกอภิสิทธิ์ชนกันพอดี อ้อ...อีกอย่างนะ ยิ่งคุณเป็นไกด์แทนเพื่อนก็ควรปฏิบัติหน้าที่ได้แล้วไม่อย่างนั้น กลับไปเมื่อไหร่ฉันจะฟ้องเพื่อนคุณให้จ่ายเงินคุณแค่ครึ่งเดียวก็พอ"
อึ้งไปได้อีกรอบในคราวนี้...
หากเพียงชั่วขณะหนึ่ง ณดลก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างที่ทอยส์ได้ข่มขู่เอาไว้ ลืมไปเสียสนิทว่า ทอยส์รู้จักเพื่อนเขาซะที่ไหน แต่ก็นั่นล่ะ หลังจากนั้น ณดลก็เลือกที่จะลุกไปทำหน้าที่ยืนถือไมค์ แจ้งโปรแกรม แผนการท่องเที่ยวในแต่ละวัน สันทนาการต่างๆ มากมาย ก่อนตบท้ายด้วยการร้องเพลงเบาๆ เพลินๆ เพื่อให้ลูกทัวร์ไม่รู้สึกเบื่อในการเดินทางจากรถไปสู่เรือลำใหญ่ที่จอดเทียบท่ารอ เพื่อพาลูกทัวร์ไปสู่เกาะที่แสนงดงามกันต่อไป
เหนือท้องทะเลกว้างไกล...
ยังไม่ทันได้ลงเรือเพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะที่หมายสักนิด หากถึงอย่างนั้น ทอยส์ก็อดที่จะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ไม่ได้ อากาศดีจัง ดีเสียจนเธอแทบหลงลืมความอ่อนล้าในหัวใจไปจนหมดทีเดียว
"เดี๋ยวๆ นะครับ รอลูกทัวร์ผมอีกคน เอ้า...คุณทอยส์ครับ จะยืนหายใจเข้าหายใจออกอีกนานมั้ย เรือจะออกแล้ว เร็วหน่อยสิคุณ"
ณดล บอกกับโซเฟอร์ขับเรือ ก่อนหันมาตะโกนบอกเด็กหนุ่ม และอารามรีบร้อนนี้ล่ะที่ทำให้เธอเซไปปะทะกับแผงอกกว้างของเขาเต็มที่ จนอีกฝ่ายก็แทบจะกางแขนโอบประคองทอยส์เอาไว้รวดเร็วโดยอัตโนมัติ และเพียงสบตากันเท่านั้น ณดลก็เหมือนรู้สึกได้ถึงสายตาของลูกทัวร์รอบๆ นั่น จนแทบปล่อยร่างในอ้อมแขนให้เป็นอิสระรวดเร็ว
ทำงานสาธารณะ ก็ต้องแคร์สื่อแบบนี้ล่ะ !
"ขอโทษครับ...ผมกลัวคุณล้มน่ะ"
"ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ ถ้าไม่ได้คุณ ผมคงร่วงใส่เรือไปแล้วจริงๆ นั่นล่ะ"
ทอยส์พึมพำก่อนก้าวลงเรือไปเงียบๆ และเงียบอยู่อย่างนั้นด้วยหัวใจที่เต้นระทึกจวบจน ถึงที่หมายเลยทีเดียว
"ถึงที่พักแล้ว เดี๋ยวพวกเราจะได้กุญแจห้องกัน สำหรับห้องพัก จะเป็นสองคนต่อหนึ่งห้องนะครับ"
ณดล ประกาศเจื้อยแจ้ว ก่อนแจกกุญแจห้องพักภายในรีสอร์ทให้ทุกคน จนถึงมือของทอยส์นี่ล่ะ ที่เขาเลิกคิ้วสูงตัวด้วยความประหลาดใจ
"เดี๋ยวนะ ทอยส์ นี่คุณจองไว้สองคน เพื่อต้องการพักคนเดียวเลยเหรอ"
"เปล่า ผมจองไว้เผื่อ เอ้อ...พอลต่างหาก"
"ต่อให้อมพระมาพูดผมก็ไม่เชื่อ คุณไม่ใช่พวกชอบปล่อยเนื้อปล่อยตัวขนาดนั้นหรอก ผมรู้"
"เหอะ คุณเพิ่งรู้จักผมได้ไม่เท่าไหร่ กล้ารับรองผมขนาดนั้นเขียว อย่าทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย อีกอย่าง...ไม่ต้องอยากรู้ไปซะทุกเรื่องก็ได้นี่ครับ เอากุญแจมาได้แล้ว ผมอยากพักเต็มที
ทอยส์ไม่รอให้เขาส่งกุญแจให้ในคราวนี้ กลับฉวยเอากุญแจนั่นมาจากมือเขาหน้าตาเฉย
"ผมได้กุญแจแล้ว ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะ คุณไกด์สุดหล่อ !"
รู้ล่ะว่าทอยส์จงใจแกล้งเขาเต็มๆ เพราะนอกจากสุ้มเสียงล้อเลียนแล้ว ยังแถมแลบลิ้นใส่ เขาหน้าตาเฉยอีกต่างหาก ร้ายกาจจริง !
"ระวังให้ดีแล้วกันคุณ พักคนเดียวแบบนี้ ผีจะหลอกเอา !”
ณดล จงใจตะโกนไล่หลังแกล้งทอยส์เข้าให้บ้าง หากฝ่ายนั้นกลับโบกมือให้แล้วเดินต่อไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองเขาสักนิด ท่าทางทอยส์บอกว่าไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว นอกจากการพักผ่อนจริงๆ