เสียงของขันทีที่ร้อนรนเปรียบดั่งสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจ ตู้เยี่ยนอวี่และกู้เหยียนหลงมิมีเวลาให้ตกตะลึง พวกเขารีบรุดไปยังตำหนักบรรทมของฝ่าบาทในทันที ทุกย่างก้าวที่เหยียบย่ำไปบนพื้นหยกขาวของวังหลวง ช่างหนักอึ้งราวกับกำลังเดินฝ่าพายุที่มองไม่เห็น
“เหยียนหลง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในตำหนัก ท่านต้องสงบนิ่งไว้” ตู้เยี่ยนอวี่กระซิบขณะที่พวกเขากำลังวิ่ง “การเปิดโปงความจริงในยามนี้ มีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง เราต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน”
กู้เหยียนหลงพยักหน้า แววตาคมกริบของเขาสงบนิ่งแต่แฝงไว้ด้วยความระแวดระวัง เขาเข้าใจในทันทีว่า นี่มิใช่เพียงการรักษาพระอาการประชวร แต่เป็นสมรภูมิรบที่ใช้ปัญญาเป็นอาวุธ
เมื่อมาถึงตำหนักบรรทม บรรยากาศภายในช่างน่าอึดอัดยิ่งนัก เหล่าหมอหลวงอาวุโสยืนเรียงรายด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เสนาบดีหลิวและองค์ชายจ้าวเฟิงยืนอยู่ไม่ไกลจากพระแท่นบรรทม ใบหน้าของทั้งสองฉายแววห่วงใยอย่างสุดซึ้ง แต่ในสายตาของตู้เยี่ยนอวี่แล้ว มันคือการแสดงละครฉากใหญ่ที่น่าสมเพช
ฝ่าบาทประทับอยู่บนพระแท่นบรรทม พระพักตร์ของพระองค์ซีดเซียว แต่ที่น่ากังวล