Share

Chapter3. ทบทวน

last update Last Updated: 2024-12-02 12:22:52

            หรูซื่อคิดว่าตนเองโชคดีนัก แต่งงานห้าปีไร้ทายาท สามีไม่แสดงท่าทีรังเกียจ ซ้ำยังดูแลเอาใจใส่อย่างดี 

            “แล้ว...แล้ว ครอบครัวของข้าเป็นอย่างไรเจ้าคะ พวกเขารักข้าหรือไม่ ดีกับท่านหรือเปล่า แล้ว...แล้วมารดาของท่าน เอ่อ แม่สามีของข้า รักใคร่เอ็นดูข้าหรือไม่เจ้าคะ เอ๋...เหมือนว่าข้าจะได้ยินท่านพูดเรื่องอนุ”

            คำถามของนางทำเอาดวงตาของเขาวูบไหวครู่หนึ่ง แต่กระนั้นเขาก็กักเก็บมันไว้ได้ทัน กลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มเอ็นดู

            “บิดามารดาของเจ้ามีบุตรชายสามคน เจ้าเป็นบุตรคนที่สี่เป็นบุตรสาวคนเดียวและบุตรคนเล็ก เป็นแก้วตาดวงใจของท่านราชครู ข้าได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลเจ้าอย่างดีมิให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจ บิดาเจ้ามีมารดาเพียงผู้เดียวไม่มีหญิงอื่น ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน  เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่รับอนุมีไม่หลายภรรยาให้เจ้าต้องปวดใจ ส่วนเรื่องรับอนุนั้น เป็นความใจร้อนของมารดาข้าเอง”

            “ท่าน...ท่านพี่อย่าได้ตำหนิมารดาของท่านเช่นนั้น” นางรีบพูดขึ้น “แต่งงานกันห้าปีไร้ทายาท แม่สามีไม่ขับไล่ข้าก็นับว่าดียิ่งนัก หาก...หากว่าข้าไม่สามารถมีทายาทให้ท่านได้ ท่าน...ท่านสามารถมีอนุได้”

            “ข้าไม่รับอนุ ไม่รับภรรยารอง จะมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น”

            น้ำเสียงหนักแน่นมั่นคงทำให้หัวใจของหรูซื่อสั่นไหว นางเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาคมปลาบคู่นั้น พลันรู้สึกร้อนผ่าวทั่วไปใบหน้า ริมฝีปากคลี่ยิ้มอ่อนหวานอย่างไม่รู้ตัว

            “เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พักผ่อนเถิด อย่าลืมกินยาที่ท่านหมอสั่งไว้ด้วย”

            “ข้าทราบแล้ว”  เพียงคิดถึงรสขมในชามยานั้น นางก็เบ้ปากออกมา

            “ระยะนี้ข้าต้องฝึกทหาร อาจไม่ได้มาหาเจ้าทุกวัน รอให้ข้าจัดการเรื่องในกองทัพเรียบร้อยแล้วจะมีเวลามาอยู่กับเจ้ามากขึ้น หากต้องการสิ่งใดก็บอกป้าหวงฝูให้นางจัดการให้ได้”

            “เจ้าค่ะ ท่านอย่าได้กังวลเลย ข้าจะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ”

            ซุนหลวนคุนใจลอยไปชั่วขณะ เขายื่นมือไปเกี่ยวไรผมที่ลงมาเคลียแก้มออกทัดใบหูให้นางแล้วลุกขึ้นยืน พยักหน้าให้นางเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้อง  ไออุ่นจากฝ่ามือของเขาทำให้หรูซื่อยกมือขึ้นแตะแก้ม หัวใจยังคงหวามไหวกับถ้อยคำหนักแน่นที่เขายืนยันกับนาง

            “ฮูหยิน”

            “ป้าหวงฝู”  หรูซื่อได้สติรีบขานรับ

            นางหวงฝูเห็นอาการใจลอยของฮูหยินก็ป้องปากหัวเราะเบาๆ สามีเพิ่งเดินออกไป ภรรยาก็ใจลอยด้วยคิดถึงเสียแล้ว

            “ฮูหยินอย่าได้ห่วงเลยเจ้าคะ”

            “ข้าไม่ได้ห่วงอะไรเสียหน่อย”  นางหลุบตาลงซ่อนความเขินอายไว้

            “ตั้งแต่ฮูหยินมาที่จวนนี้  ท่านแม่ทัพปลีกตัวมาเยี่ยมฮูหยินทุกวัน ตอนที่ท่านยังไม่ได้สติก็มาเฝ้าอยู่ใกล้ๆ ใครต่อใครก็พูดกันว่าท่านแม่ทัพรักฮูหยินมาก”

            “จริงหรือ?” นางเงยหน้าขึ้น หัวใจพองโตด้วยความดีใจ เขา...ห่วงใยนางจริงๆ ใช่ไหม? มิใช่เพราะรับปากกับบิดาของนาง

            “จริงสิเจ้าค่ะ”  นางหวงฝูหยิบหวีมาแปรงผมให้ นางชอบแปรงผมให้หรูซื่อ  เส้นผมนุ่มสลวยไม่หยาบกระด้างเป็นมันขลับ ทั้งที่ไม่ได้ใส่น้ำมันแต่อย่างใด แสดงว่าได้รับการดูแลเอาใจอย่างดี

            “ป้าหวงฝู” นางเรียกอย่างเกรงใจ หรูซื่อขบริมฝีปากครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเอ่ยออกมา “แม่สามีส่งข้ามาดูแลท่านพี่ ข้าเดินทางมาเพียงลำพัง ไม่รู้ต้องทำอย่างไรบ้าง ป้าหวงฝูแนะนำข้าได้บ้างหรือไม่ แต่งงานกันห้าปียังไร้ทายาท ข้าละอายใจยิ่งนัก”

            “เรื่องนี้อาจเพราะท่านทั้งสองไม่ได้อยู่ใกล้กัน ว่ากันว่าท่านแม่ทัพห่วงชายแดนไม่ได้กลับบ้านมาหลายปี วันนี้ฮูหยินอยู่ตรงนี้แล้ว ก็ถือโอกาสนี้มีทายาทกับท่านแม่ทัพสิเจ้าค่ะ”

            “จะทำได้อย่างไร” นางถามอย่างงุนงง “ข้าต้องขึ้นเขาไหว้พระบูชาเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรหรือ?”

            นางหวงฝูหลุดเสียงหัวเราะออกมา ฮูหยินช่างน่ารักไร้เดียงสาเหลือเกิน

            “ไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอกเจ้าค่ะ ฮูหยินแค่หาเวลาใกล้ชิดกับท่านแม่ทัพ อยู่ด้วยกันมากขึ้นกว่านี้”

            “ป้าหวงก็พูดเองมิใช่หรือว่าท่านแม่ทัพปลีกตัวมาหาข้าทุกวัน” นางเอียงคอถามอย่างสงสัย เผลอวางมือลงบนท้อง แค่ใกล้ชิดกันนางก็จะมีทายาทให้เขาได้หรือ?

            คราวนี้นางหวงฝูเข้าใจแล้วว่า เพราะฮูหยินไร้เดียงสาเพียงนี้ ท่านแม่ทัพถึงได้ทะนุถนอมดั่งวางนางในอุ้งมือ แต่เรื่องนี้ปล่อยให้เข้าใจผิดเนิ่นนานย่อมไม่ดี แต่งงานกันห้าปีไร้ทายาท จะยิ่งสั่นคลอนตำแหน่งฮูหยิน ของนางเอง

            “เรื่องมีทายาทนั้น ท่านแม่ทัพจะสอนฮูหยินเองเจ้าค่ะ แต่ฮูหยิน เองก็ต้องให้ความร่วมมือด้วยเช่นกัน”

            “ได้แน่นอน”

นางพยักหน้ารับอย่างขันแข็ง เพื่อมีทายาทให้ตระกูลซุน นางต้องทำได้สิ!

....

            ซุนหลวนคุนเดินเข้าในจวน ดวงตาดุจพญาเหยี่ยวตวัดสายตามองทหารยามที่ก้มหน้าหลบสายตาของเขา แม่ทัพหนุ่มรับรู้ได้ว่ามีสิ่งผิดปกติ แต่ไม่มีใครกล้ารายงาน

            “จะพูดเองหรือให้ข้าถาม”

            “คือ...”   ทหารต่างยามอึกอักใช้ศอกกระทุ้งกันไปมาไม่กล้าเอ่ยปาก

            “ปิดบังผู้บังคับบัญชา มีโทษทางวินัยอย่างไร”

            “เรียนท่านแม่ทัพ” ทหารคนหนึ่งรีบพูดออกมาด้วยความกลัว “ไฟไหม้ที่ห้องครับขอรับ”

            “ไฟไหม้ห้องครัว?” เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมไม่มีใครมารายงานเขา

            “แต่ไหม้นิดเดียว แล้วก็ดับแล้วขอรับ”

            ซุนหลวนคุนไม่รอให้ทหารรายงานจบ เขาเปลี่ยนเส้นทางเดินมุ่งหน้าไปยังห้องครัวทันที หากเป็นกองทัพ คลังเสบียงเป็นจุดสำคัญที่ต้องดูแลอย่างดี นี่ในจวนของเขาแท้ๆ แต่กลับเกิดไฟไหม้ขึ้นได้  ทว่าเมื่อเขาเดินไปถึงต้องชะงักเท้าจนเสียจังหวะไปเล็กน้อย เมื่อสายตาเห็นร่างบอบบางของหรูซื่อยืนอยู่หน้าห้องครัว แม้ไฟไหม้ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก เห็นเพียงควันขโมงและเหล่าทหารที่หิ้วถังน้ำมาดับไฟ

            “ท่าน...ท่านแม่ทัพ”

            เสียงทหารคนหนึ่งพูดทำให้หรูซื่อหันไปมอง ซุนหลวนคุนหรี่ตามอง ทำให้นางได้แต่กัดริมฝีปากไม่รู้จะอธิบายเรื่องเหล่านี้อย่างไรดี

            “เกิดอะไรขึ้น”

            “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น” ป้าหวงฝูรีบพูดขึ้น นางเองก็กลัวท่านแม่ทัพไม่ต่างจากคนอื่น

            “เรื่อง-เล็ก-น้อย” เขาพูดย้ำที่ละคำทำเอาบรรดาคนที่ได้ยินต่างสะดุ้งแล้วก้มหน้างุดจนคางแทบชิดอกกันเลยทีเดียว

            หรูซื่อเห็นท่าไม่ดี นางรีบสาวเท้าเข้าไปหา แต่เพราะรีบร้อนจึงสะดุดก้อนหินเสียหลักเซถลาไปด้านหน้า ซุนหลวนคุนรวดเร็วพอที่จะยื่นมือไปรับนางไว้ได้ทัน แต่ทำให้นางได้ซุกในอกกว้างของเขาแทน การใกล้ชิดนี้ทำให้ใบหน้างามแดงระเรื่อ คงน่าดูกว่านี้แต่ถ้าไม่มีเขม่าดำเปื้อนแก้มอย่างนี้  มือใหญ่ยกขึ้นเช็ดคราบดำที่เปื้อนแก้มเบาๆ หญิงสาวได้สติรีบยกมือขึ้นเช็ดแก้มตัวเอง แต่มันยิ่งเลอะเทอะจนชวนขบขัน

            “ท่าน...ท่านพี่อย่าได้โกรธผู้อื่น ล้วนเป็นความผิดของข้าเอง”

            “ฮูหยินไม่ได้ตั้งใจ ขอท่านแม่ทัพโปรดเมตตาเจ้าค่ะ”  แม้จะกลัวมากเพียงใดแต่ก็อดสงสารฮูหยินไม่ได้ นางหวงฝูจึงชิงพูดเสียก่อน “เป็นความผิดของบ่าวที่ดูแลฮูหยินไม่ดีเอง”

            “ไม่ใช่ๆ เป็นความผิดของข้าเอง ข้าดื้อรั้นจะทำไก่ตุ๋นเครื่องยาจีนเอง ทั้งที่ทุกคนห้ามปรามแล้ว แต่ข้าก็ยัง...ยังก่อเรื่องอีก”

            “เจ้าจะทำไก่ตุ๋นเครื่องยาจีน?” เขาถามอย่างประหลาดใจ “ข้าเคยพูดแล้วหากเจ้าต้องการอะไรให้สั่งผู้อื่นทำได้ หรือหากเจ้าอยากกินอะไรก็บอกพวกเขาได้ คนของข้าก็เหมือนคนของเจ้า คำสั่งของเจ้าก็เหมือนคำสั่งของข้า”

            “ไม่ใช่ๆ” นางโบกมือไปมา “เป็นข้าที่อยากทำให้ท่านเอง ตำรับเครื่องยาจีนนี้บำรุงตับ,ไต, ปรับการไหลเวียนของเลือด ข้าอยากลงมือตุ๋นไก่ให้ท่านเอง แต่ข้าไม่เคยเข้าครัว...เกรงว่าจะเร่งไฟแรงไปหน่อย ไฟจึงไหม้ครัวอย่างนี้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 35.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 2. (จบ)

    “เข้ามาคุยด้านในเถิด” เขาปล่อยมือจากไหล่ของนางแล้วเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านใน ทว่าสายตาของนางถูกตำรามากมายดึงดูดไว้จนหลงลืมว่ามี ‘สามี’ อยู่ใกล้ๆ “ข้าไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะชอบสะสมหนังสือมากขนาดนี้” ‘ท่านแม่ทัพ’ ภรรยาหมาดๆ สนใจแต่หนังสือมากมายเหล่านั้น จึงไม่ได้เห็นแววตาไม่พอใจของสามีหมาดๆ อย่างเขา ซุนหลวนคุน ลอบถอนหายใจ นางเพิ่งย่างเท้าเข้าบ้านมาเป็นคนสกุลซุน คงไม่คุ้นชินกับการเรียกขานนัก “อีกห้าวันข้าต้องออกเดินทางแล้ว” “เดินทาง? ท่านแม่ทัพจะไปไหนรึ” หลิวหรูซื่อหันมามองหน้า ‘สามี’ นางทำหน้างุนงงไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องขบกรามเน้นเช่นนั้น“ได้ ข้าจะเตรียมตัว” “เจ้าไม่ต้องไป” น้ำเสียงของเขากระด้างขึ้นเล็กน้อย บอกตนเองว่าต้องให้ ‘เวลา’ นางมากกว่านี้ เขาจะโมโหนางไม่ได้เด็ดขาด “เหตุใดไม่ให้ข้าไป” นางเอียงคอถาม ท่าทางไร้เดียงสา “เจ้าอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนมารดาข้าเถิด” เขากดน้ำเสียงไม่ให้หงุดหงิดจนเกินไป “นับจากนี้เจ้าเป็นนายหญิงของจวน ต้องรับภาระดูแลเรื่องน้อยใหญ่ในบ้านร่วมกับมารดาข้าแล

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 34.ตอนพิเศษ หลิวหรูซื่อ 1.

    “แต่งงาน! น้องเล็กอายุแค่สิบเอ็ดจะให้แต่งงานแล้วหรือ?” “อีกสองเดือนน้องเล็กคนนี้ก็สิบสองแล้วเจ้าค่ะ” เสียงหวานใสดังขึ้นก่อนที่เจ้าของร่างเล็กเดินเร็วๆ ยื่นมือมาหยิบขนมดอกกุ้ยฮวาที่วางบนโต๊ะเข้าปากกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย “ซื่อเอ๋อร์ เจ้าแอบฟังพ่อกับพี่ๆ คุยกันอีกแล้วนะ”ราชครูหลิวถอนหายใจเบาๆ แต่กลับยิ้มเอ็นดูลูกสาวคนเดียวของสกุลหลิวไม่ได้ แม้นางเป็นหญิงแต่เฉลียวฉลาดแต่เด็ก หากไม่นับเรื่องวรยุทธแล้ว นางก็ไม่ด้อยกว่าบุรุษเลย “ซื่อเอ๋อร์ไม่ได้แอบฟังเสียหน่อย แต่เสียงพี่ๆกับท่านพ่อดังไปนอกห้องเอง” เด็กหญิงตัวน้อยไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องที่ได้ยิน “แล้วเจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร” บิดาเอ่ยถามพลางรินน้ำให้ลูกสาวอย่างเอาใจ “คนแซ่ซุนอยากแต่งข้าเป็นภรรยา ก็แต่งสิ ไม่เห็นต้องกังวลเลย” นางรับน้ำมาดื่มเล็กน้อยแล้วกินขนมต่อ มุมปากเลอะคราบขนมทำให้พี่ใหญ่หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้นาง “คนแซ่ซุนไม่มีอะไรเหมาะสมกับเจ้าเลยสักนิด” พี่ชายคนรองเอ่ยอย่างหงุดหงิด “แค่ทหารปลายแถวที่ถีบตนเองขึ้นมาจากดินโคลน” “ข้าเชื่อว่าคนแซ่ซุน

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 33. ตอนพิเศษ ซุนหลวนคุน

    ความรู้สึกเจ็บปวดนี่มันคืออะไรกัน เป็นอีกเช้าที่ซุนหลวนคุนลืมตาตื่นแล้วพบว่า ดวงตาของตนมีน้ำตาเอ่อคลอ น่าอายเหลือเกิน เขาอายุสิบแปดแล้ว แต่ยังนอนละเมอร้องไห้อยู่อีก ที่สำคัญ เขาไม่เคยจำได้เลยว่าฝันถึงเรื่องใด ทุกครั้งที่ลืมตาตื่นจะเหลือเพียงความเจ็บปวดบีบรัดหัวใจ ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่งบนเตียง เขาตื่นแต่เช้ามืดเพราะต้องฝึกเพลงยุทธ เขาเป็นทหารมาหลายปีไต่เต้าด้วยความสามารถ มือสองข้างเปื้อนเลือดคล้ายตัวเขามีกลิ่นอายของความตายโอบกอดอยู่ เขาถอนหายใจ จะทำอย่างไรได้ เขาเลือกเส้นทางนี้เอง แต่ก่อนนั้นครอบครัวของเขาเป็นเพียงชาวนายากจน เขาเป็นพี่ชายคนโตที่หนีออกจากบ้านเพื่อไปเป็นทหาร เขาฝึกหนักกว่าผู้อื่น ทำในสิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าเขากล้าทำ เมื่อฐานะของตนเองมั่นคงจึงได้เชิญบิดามารดารวมทั้งน้อง ๆ มาอยู่ด้วยกัน แต่บิดาอ่อนแอเจ็บป่วยเรื้อรังมานาน ย้ายมาอยู่กับเขาได้ไม่ปีเศษก็ตายจาก เขาไม่ได้สนใจลาภยศใด เขาเพียงหวังให้ครอบครัวของเขาหลุดพ้นความยากจน ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อหรือไม่มีเสื้อผ้าอบอุ่นใส่ในยามหนาวเหน็บ แต่กระนั้น เมื่อมาถึงจุดนี้

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 32.หนังสือหย่าอะไรนั้น ถือว่าไม่เคยเขียนก็แล้วกัน.

    “แต่ท่านก็ยังส่งข้าไป ท่านเขียนหนังสือหย่าข้า” นางยื่นมือไปโอบกอดร่างแกร่งที่ยามนี้เต็มไปด้วยผ้าพันแผล แม้เลือดจะหยุดแล้วแต่บนผ้าพันแผลยังมีรอยเลือดให้เห็นอยู่ “เพราะข้ารักเจ้า” เขากอดนาง กดปลายจมูกกับเรือนผมอ่อนนุ่ม สูดดมกลิ่นอายที่คุ้นเคย “ข้าก็รักท่าน” นางเอ่ยที่ออกมา “แม้ข้าจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ข้ารู้ว่าท่านไม่ใช่คนที่จะทำร้ายข้า ท่านพยายามปิดบังบางอย่างเพื่อปกป้องข้า ข้ารู้ว่าที่ผ่านมาท่านเตรียมแผนการสำหรับครั้งนี้ไว้หมดแล้ว ท่านไม่ได้ไปเอ้อหยีร์ในนามของแม่ทัพพิทักษ์ประจิม ท่านไม่ต้องให้ผู้อื่นติดร่างแหไปด้วย ท่านเตรียมตัวไปตาย แต่ท่านลืมไปว่า ข้าคือหลิวหรูซื่อ คนที่ทำอาหารไม่เป็น แต่คัดลอกตำราพิชัยยุทธส่งให้ท่าน คนที่ตระเตรียมเสื้อผ้าให้ท่าน และเป็นสตรีใจแคบที่ไม่ยอมให้ท่านรับอนุ ซ้ำยังเอาแต่ใจตัวเอง แต่ข้าสามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ โดยที่ท่านไม่ต้องรับผิดใด ๆ และยังสามารถกลับเมืองหลวงไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวได้” “เจ้ามีแผนใด” แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะรอดชีวิตกลับมา จึงทุ่มเทสุดเรี่ยวแรงเพื่อให้ครั้งนี้ทำสำเร็จ “

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 31.ความจริง

    ม้าพุ่งทะยานฝ่าสายลมอันหนาวเหน็บพ้นเขตเอ้อหยีร์ ม้าของแม่ทัพหนุ่มรั้งท้าย แม้มีหยาดเลือดไหลเปื้อนใบหน้า ทำให้เขาต้องยกมือขึ้นเช็ดมันทิ้งราวกับปาดเหงื่อ แต่หัวใจเขาพุ่งกลับไปที่ถึงค่ายทหารก่อนแล้วด้วยการเตรียมการของหรูซื่อ นางสั่งการผ่านรองแม่ทัพ เมื่อทหารห้าสิบนายกลับมาถึงค่ายทหารให้ทำเป็นไม่รับรู้เรื่องใด การะจายคนทั้งห้าสิบพักตามกระโจมต่าง ๆ แม้จะตื่นเต้นยินดี แต่ต้องเก็บอาการไว้แต่กระนั้น หรูซื่อที่ห่อตัวเองด้วยเสื้อคลุมของสามียืนรอเขากลับมาที่หน้ากระโจมหลักเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกังวล สายตาของนางนับคนที่กลับมา แม้พวกเขาจะบาดเจ็บแต่ยังรักษาชีวิตมาได้ นางหวงฝูเห็นบุตรชายกลับมาปลอดภัยก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ นางรีบเข้าไปดูอาการบุตรชายทันที ม้าสองตัวควบขนาบคู่กันมา ดวงตาของหญิงสาวเพ่งมอง มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมหัวใจไม่ให้เต้นเร็วเกินไปนัก แต่ก็บังคับได้ยากเย็น เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่เฝ้ารอเข้ามาใกล้น้ำตาที่กลั้นไว้ก็เอ่อคลอ ทว่าสองเท้ากลับเหมือนถูกตอกตรึงไม่สามารถขยับได้ ได้แต่ยืนมองเขาลงจากหลังม้าแล้วเดินตรงมาทางนาง “หรูซื่อ...” มีคำถามมากหมาย

  • หมื่นฝันพันคะนึง   Chapter 30.หนทางกลับบ้าน

    ‘อ่า...นี่คงเพราะซุนหลวนคุนบอกจางหยินเซ่อว่าความจำเสื่อมสินิ คนแซ่จางเลยแต่งเรื่องว่านางมอบผ้าเช็ดหน้าให้ และสามีของนางก็อยากได้บ้าง อันที่จริงนั้นเป็นผ้าปักฝีมือนางก็จริง แต่ที่มอบให้เพราะเขาสัญญาว่าจะพานางไปพบซุนหลวนคุนต่างหาก’หรูซื่อหยิบเสื้อคลุมตัวนั้นออกมาแล้วคลุมร่างของตน วูบหนึ่งนางรู้สึกเหมือนตกอยู่ในวงแขนของเขา กลิ่นอายที่คุ้นเคยดั่งวงแขนโอบกอดนางแนบแน่น ภาพความทรงจำต่าง ๆ หลั่งไหลเข้ามาดุจสายฝนสาดซัดจนกายหนาวสั่น แม้ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นไม่ปะติปะต่อกันนัก แต่สิ่งนี้ยืนยันได้ว่า นางไม่เคยคิดปันใจไปจากเขา แม้เขาจะละเลยไม่ใส่ใจนางเท่าที่ควร นางต้องได้ยินเขาสารภาพความจริงจากปากของเขาเอง. เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว กลางคืนคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว อากาศในหุบเขาเย็นเยียบ กระนั้นทหารกลับมีเหงื่อไหลโทรมกาย แต่พวกเขาก็ไม่อาจหยุดได้ ต้องรีบถอยกลับไปถึงเขตแดนของตน “หวงอี้ เจ้านำทหารที่เหลือล่วงหน้าไปก่อน” “ไม่ได้นะขอรับ ท่านแม่ทัพนำหน้าไปก่อน พวกข้าจะอยู่รั้งท้ายเอง” “พวกเจ้านั้นแหละเป็นตัวถ่วงข้า จึงรีบรุดหน้าไปให้เร็วที่สุด”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status