และขณะที่แมลงพิษกำลังจะเข้าสู่เมืองจงซิน ประตูเมืองก็ถูกเปิดออกในที่สุด
“ท่านอ๋อง!”
ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมทางการคนหนึ่ง นำขุนนางระดับล่างจำนวนมากรีบวิ่งออกจากประตูเมืองทันที
ทันทีที่ออกมาก็คุกเข่าลง “พรึ่บ” ต่อหน้าเป่ยเฉินหยวน ก่อนจะร้องไห้เอ่ยว่า “ท่านอ๋อง! ท่านมาถึงเสียที ท่านรู้ไหมว่า กระหม่อมกับขุนนางทั้งหมดในชางโจวรวมถึงบรรดาประชาชน ต่างรอคอยกำลังสนับสนุนจากราชสำนักมานานแค่ไหนแล้ว ในที่สุดตอนนี้พวกท่านก็มาถึงจนได้!”
ท่าทางนั้น เหมือนทางราชสำนักผัดผ่อนการมาบรรเทาภัยพิบัติมาตลอด
เป่ยเฉินหยวนเลิกคิ้วขึ้นทันที
เขาขี่อยู่บนหลังม้าไม่ได้ลงมา มองลงมาที่ขุนนางเหล่านั้นที่คุกเข่าให้เขาอยู่บนพื้นจากจุดที่อยู่สูงกว่า
แล้วยังกวาดสายตามองภายในเมืองจงซินอีกครั้ง สายตาเหล่านั้นไม่รู้ว่าแอบทอดมาจากที่แห่งใด
เขาเอ่ยอย่างเย็นชา “จะว่าไปแล้ว ก็เป็นความผิดของข้าเอง เพราะถึงอย่างไรเมื่อฝ่าบาททรงทราบเรื่องภัยพิบัติที่ชางโจวก็เริ่มเตรียมการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยแล้ว แต่ข้าก็เร่งรีบนำกองทัพธงดำและสิ่งของบรรเทาทุกข์มาตลอดทั้งวันทั้งคืน นึกไม่ถึงว่าจะทำให้พวกเจ้าต้องรอนาน”
“เจ้าเมืองฟ่าน เจ้าเหน็ดเห