Share

บทที่16 อดีตเจ้านาย

last update Last Updated: 2024-12-14 11:07:24

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยเห็นหย่งฟางยืนนิ่งอยู่หน้าประตู เธอจึงเอ่ยขึ้น "นี่คือห้องของลูกชายฉันค่ะ อาจารย์หย่งจะเข้าไปไหม?"

"เข้า" หย่งฟางพยักหน้าแล้วผลักประตูเข้าไป

ภายในห้องเป็นห้องของผู้ชายทั่วไป มีเตียงนอน หน้าต่างบานใหญ่ข้างๆ กับโซฟา โต๊ะเล็กๆ พรมปูพื้น ด้านขวามีอุปกรณ์เล่นเกม ส่วนข้างๆ เป็นห้องน้ำและห้องแต่งตัว

ไม่มีอะไรผิดปกติ

แม้แต่ในห้องนี้ ไอความอัปมงคลก็ยังลอยละล่องอยู่ ไม่ได้กระจายมาจากจุดใดจุดหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสิ่งใด แสดงว่าในบ้านไม่ได้มีสิ่งไม่ดีใดๆ ไอความอัปมงคลเหล่านี้ถู กนำเข้ามาจากภายนอก และยังคงค้างอยู่ในบ้านไม่ได้สลายไปไหน

และห้องนี้เป็นห้องที่ไอดำสิงสถิต ดังนั้นมันจึงกระจายออกมาจากที่นี่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ หย่งฟางก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องค้นห้อง เธอหันกลับไปและเตรียมจะออกไป แต่แล้วก็เห็นหนิวลี่ชี้ไปที่จุดหนึ่ง และหัวเราะเยาะซ่งเสี่ยวฮุ่ย

                "ลูกชายของคุณยังเด็กอยู่เหรอ คนอื่นในวัยนี้ก็เริ่มแขวนภาพวาดศิลปะกันแล้ว แต่เขากลับแขวนภาพการ์ตูนผู้หญิงไว้แทน" หย่งฟางหันไปมอง เห็นเป็นภาพวาดสไตล์อนิเมะ ของหญิงสาวผมสีชมพู ในชุดกระโปรงพองโตที่หรูหรา ไม่ได้มีอะไรพิเศษนัก

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยก็รู้สึกกระดากใจเล็กน้อย เธอจึงอธิบายแทนลูกชาย "นี่เป็นภาพที่เขาวาดเองตั้งแต่ตอนประถม มันมีความหมายพิเศษสำหรับเขามาก"

"งั้นเหรอ" หนิวลี่หยุดหัวเราะและปิดปากเงียบ เมื่อซ่งเสี่ยวฮุ่ยอธิบายเช่นนั้น

จากการที่ถูกหยอกล้อ เหล่าคุณนายก็เริ่มผ่อนคลายขึ้น แต่ทันใดนั้นหย่งฟางก็รู้สึกว่ามีลมเย็นๆ ผ่านมาที่ใบหน้า เธอรู้สึกเย็นวาบไปถึงหลัง รีบหันไปแล้วผลักทั้งสามคนไปทางขวา สามคนล้มลงไปบนเตียง และเมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในห้อง พวกเธอถึงรู้ตัวว่าเมื่อครู่ชายคนนั้นยืนอยู่ข้างหลัง

"ต้วนโจว!"

"ต้วนโจว?"

เมื่อเห็นชายหนุ่มชัดเจนแล้ว ซ่งเสี่ยวฮุ่ยและอีกสองคนก็ร้องขึ้นพร้อมกัน ขณะที่หย่งฟางก็เอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วย แต่เสียงของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ฝ่ายแรกเต็มไปด้วยความตำหนิ ขณะที่ฝ่ายหลังเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ

"หย่งฟาง?" ต้วนโจวเกาหัวเล็กน้อย แสดงท่าทีตกใจ แต่ไม่นานก็ควบคุมอารมณ์ และแสดงท่าทีหงุดหงิดออกมา

เขาดูเหนื่อยล้ามาก หย่งฟางจ้องมองเขา ไอความอัปมงคลแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ใบหน้าซีดเซียว แก้มและเบ้าตาลึกลงไป และที่หน้าผาก รอบดวงตา และปากก็มีสีดำปกคลุม

"พวกคุณรู้จักกันเหรอ?" หนิวลี่ถาม

ต้วนโจวตอบกลับอย่างไม่พอใจ "พวกคุณไม่รู้เหรอ? เธอเคยเป็นนักแสดงในบริษัทของผม"

"เสี่ยวฮุ่ย ทำไมเธอไม่เคยบอก?" หนิวลี่ถามด้วยความตกใจ

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยไม่ได้รู้เรื่องนี้จริงๆ เธอไม่เคยสนใจธุรกิจของครอบครัวต้วน และไม่เคยรู้ว่าบริษัทของลูกชายมีนักแสดงคนไหนบ้าง

หย่งฟางก็ไม่คิดว่าลูกชายที่น่าสงสารของซ่งเสี่ยวฮุ่ย ซึ่งโดนไอความอัปมงคลแทรกซึม จนแม้แต่จิตวิญญาณก็ยังมองไม่เห็น จะเป็นอดีตเจ้านายผู้โหดร้ายของเธอ

หนิวลี่ยังคงตกใจอยู่ "และอีกอย่าง บ้านเธอเซ็นสัญญากับอาจารย์หย่งแล้ว แต่กลับปล่อยไปแบบนี้ เสียดายมากเลยนะ"

"อาจารย์หย่ง? คุณออกจากวงการแล้วหันมาทำสิ่งนี้เหรอ?" ต้วนโจวพูดด้วยน้ำเสียงเสียดสีขณะมองหย่งฟาง

เธอไม่ตอบ แต่ยังคงจ้องมองเขา พยายามเพ่งไปที่วิญญาณที่เกาะหลังเขาอยู่

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยถามขึ้น "ทำไมลูกถึงกลับมาที่นี่กะทันหัน?"

"อยู่ที่บริษัทไม่สบายใจ" ต้วนโจวมองไปที่ซ่งเสี่ยวฮุ่ย "แม่ พาคนมาที่ห้องผมทำไม?"

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยไม่ทันคิดคำแก้ตัว หนิวลี่จึงเข้ามาช่วย "มาชื่นชมภาพวาดของเธอ...?"

ต้วนโจวมองไปที่ภาพวาดของหญิงสาวที่ มีลายเส้นน่ารักและไร้เดียงสา แล้วก็ยิ้มออกมาเป็นครั้งแรกในวันนี้ "สวยไหม?"

หนิวลี่กำลังจะพูดชมภาพวาดอย่างสุภาพ แต่ทันใดนั้น หย่งฟางก็ชักดาบไม้ท้อออกมา แล้วพุ่งแทงไปที่ภาพวาดนั้นทันที ต้วนโจวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และรีบวิ่งเข้าไปกันไว้ ดาบไม้ท้อแทงเข้าไปที่หลังของเขา แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับหย่งฟาง โดยยังคงกางแขนออกปกป้องภาพวาด

"หย่งฟาง คุณบ้าไปแล้วเหรอ?! นี่มันเป็นการทำลายทรัพย์สินส่วนตัวของฉัน!" ต้วนโจวพูดจบก็รู้สึกคอแห้ง ต้องกลืนน้ำลายหลายครั้ง

แค่การวิ่งสี่ห้าก้าวกลับทำให้เขาเหงื่อแตกพลั่ก รู้สึกหนาวไปทั้งตัว

"จริงเหรอ?" หย่งฟางพูดขณะยกดาบขึ้น แล้วแทงไปที่คอมพิวเตอร์เกม

ต้วนโจวไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

หย่งฟางหัวเราะ "คุณต้วน สนิทกับผู้หญิงคนนั้นมากขนาดนี้เลยเหรอ?"

สามสาวที่ยืนดู อยู่ไม่เข้าใจคำพูดของหย่งฟาง

ต้วนโจวหน้าเปลี่ยนสี และหันไปตะคอกใส่มารดา "แม่พาคนพวกนี้ออกไปเดี๋ยวนี้เลน!!"

"น่าเสียดายที่มันเป็นของปลอม" หย่งฟางไม่สนใจอารมณ์ของต้วนโจว แล้วหันไปถามซ่งเสี่ยวฮุ่ย "แฟนของเขาชื่ออะไร?"

"เฉิงเสี่ยวหยู เธอชื่อเฉิงเสี่ยวหยู"

"เฉิงเสี่ยวหยู ออกมาได้แล้ว" 

หย่งฟางใช้นิ้วกัดให้เลือดออก ก่อนจะกดลงที่หน้าผากของต้วนโจว ในขณะที่เขายังไม่ทันได้ตอบสนอง จุดสีแดงบนหน้าผากทำให้ต้วนโจวรู้สึกแสบร้อนจนต้องเบ้หน้า เขาก้มตัวลงร้องเสียงดัง พยายามยกมือขึ้นมาเช็ด แต่ก็ถูกหย่งฟางจับมือไว้แน่น ตอนนี้เขาอ่อนแอมาก จนแม้แต่แรงของเด็กผู้หญิงก็ยังเอาชนะเขาได้ หย่งฟางรอจนเห็นเงาดำค่อยๆ ถูกบังคับให้แยกออกจากหลังของต้วนโจว ฃเธอจึงปล่อยมือ

ต้วนโจวรีบเช็ดเลือดที่หน้าผากออกไป เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นว่าคุณนายทั้งสาม กำลังชี้ไปที่ด้านหลังของเขาและมีสีหน้าตื่นตะลึง

ต้วนโจวหันไปมอง

หญิงสาวในภาพวาดที่เหมือนกับตัวการ์ตูน ปรากฏตัวขึ้นจริงๆ ผมสีชมพู สวมกระโปรงพองโตสีม่วงลายลูกไม้  หญิงสาวกุมหน้าอกและนั่งยองๆ บนพื้น รอบๆ มีแสงดาวของการ์ตูน ส่องประกายอยู่ราวกับเป็นภาพเสมือนจริง เธอปรากฏตัวต่อหน้าคนทั้งห้า

คุณนายทั้งสามรู้สึกตกตะลึงอย่างไม่เชื่อสายตา

ส่วนต้วนโจวนั้นกลับดีใจอย่างยิ่ง "ยูโจวกงจิ่น! ที่แท้ฉันก็สามารถเห็นเธอ ในโลกแห่งความจริงได้! ฉันรู้อยู่แล้ว! เธอมีตัวตนจริงๆ! หย่งฟาง คุณเป็นอาจารย์จริงๆ ด้วย! คุณสามารถทำให้เธอออกมาได้ตลอดเวลาหรือเปล่า?"

คุณนายทั้งสามพูดพร้อมกันทันที "อะไรนะ?

ต้วนโจวดีใจจนเหมือนเด็กอายุสามขวบ

ซ่งเสี่ยวฮุ่ยนึกขึ้นได้จึงเล่าให้ฟัง "ดูเหมือนว่าภาพวาดนี้ จะเป็นตัวละครที่เขาสร้างขึ้นมาเอง ไม่ใช่จากการ์ตูนเรื่องไหน เขาตั้งชื่อว่ายูโจวกงจิ่น"

หย่งฟางอึ้ง "…"

การที่ได้รู้ว่าเจ้านายเก่า ผู้ชอบพูดจาหยาบคายมีมุมแบบนี้ มันก็ไม่ต่างจากการรู้ว่าเ ขาใส่กางเกงในลายชินจังใต้ชุดสูทเลย แม้ว่าการยกเลิกสัญญาจะเป็นไปด้วยดี แต่หย่งฟางก็ยังต้องจ่ายค่าชดเชยการยกเลิกสัญญา 2 ล้านหยวน เมื่อนึกถึงเรื่องนี้แล้ว ยังต้องมาช่วยเจ้านายเก่าอีก ทำให้เธอไม่พอใจอย่างมาก

หย่งฟางวางดาบไม้ท้อไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ พลางพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์ "เฉิงเสี่ยวหยู จะออกมาดีๆ หรือจะให้ฉันบังคับ?"

ยูโจวกงจิ่นรีบวิ่งไปหลบหลังต้วนโจว มือสองข้างโอบแขนของเขาไว้ด้วยท่าทางที่ไม่ปลอดภัย และมองหย่งฟางด้วยสายตาอ้อนวอน มันเป็นเหมือนฉาก ที่นางเอกในการ์ตูนโดนตัวร้ายกลั่นแกล้ง

หย่งฟางคิดในใจ แฟนเก่านอกวงการของต้วนโจว เล่นบทได้ดีกว่าเธออีก

เธอถอนหายใจลึกๆ แล้วหยิบกระดาษยันต์สี่แผ่นออกมาจากกระเป๋าผ้า สอดกระดาษยันต์ระหว่างสองนิ้วและคลี่เบาๆ จนแผ่นยันต์กางออกเป็นรูปพัด

จากนั้นเธอจึงเริ่มท่องคาถาอย่างรวดเร็ว "ขังวิญญาณร้าย จับวิญญาณร้าย อัญเชิญมาปกป้อง"

แผ่นยันต์ทั้งสี่แผ่นลอยไปติดที่ผนังทั้งสี่ด้าน แสงสีทองปรากฏขึ้น เชื่อมต่อกันเป็นกรงขัง โดยไม่ให้ใครได้มีเวลาตตั้งตัว หย่งฟางก็ชูดาบไม้ท้อขึ้นและฟันไปหนึ่งครั้ง

โลกกลมเสียจริง อยู่ๆ จับพลัดจับผลูมาเจอเจ้านายได้

ว่าแค่คนที่ถูกอาจารย์ดูดวงให้ ส่วนใหญ่จะเคราะห์ร้ายทั้งสิ้น 555555

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่143 ฉลองกันครอบครัวใหญ่ [ตอนจบ]

    หลังจากที่หย่งฟางล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอจุดโคมไฟยาวในวิหารหลักเตรียมเข้านอน แต่จู่ๆ ก็เกิดลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาในอาราม จากนั้นเสียงร้องโหยหวนของเหล่าภูตผีก็ดังขึ้นหลงหยวนหยวนที่กำลังขดตัวอยู่บนกิ่งไม้สะดุ้งตัว ก่อนจะกลับไปนอนขดตัวนุ่มนิ่มเหมือนเดิม หนิงหมี่ร้องขึ้นอย่างดีใจ "เสี่ยวชิว!!"ลมเย็นสงบลงพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่หยุดไป เสียงเล็กๆ ดังขึ้น "ว๊า ไม่มีอะไรสนุกเลย!"จากนั้นเด็กสาวในชุดกันหนาวลายดอกไม้สีแดงสด ที่มีเปียสองข้างก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า หนิงหมี่โผเข้ากอดเธอแน่น"พวกเราจำกลิ่นอายของเธอได้น่า เธอหลอกเราไม่ได้หรอก! ในที่สุดก็มาหาสักที ฮือๆ แล้วนี่เธอยังใส่ชุดที่ฉันเลือกให้อีก! อุ่นไหม?"หูอวี่จู้พยักหน้า "อุ่นมาก แต่ไม่รู้ทำไมพอใส่แล้ว รู้สึกอยากพูดสำเนียงตงเป่ยขึ้นมาซะงั้น"หย่งฟางรินนมเสริมแคลเซียมให้เธอหนึ่งแก้ว หูอวี่จู้จิบไปอึกหนึ่งก่อนพูด "คิดถึงฉันไหม? ไม่มีฉันอยู่คงเหงาน่าดูใช่ไหม?"หย่งฟางหันไปถามหนิงหมี่ "เธอเผาอะไรไปให้เธอเนี่ย?"หนิงหมี่ตอบด้วยความภาคภูมิใจ " "ฟู่เส้านักรัก: ภรรยาสุดที่รัก อย่าคิดหนี!""หยู่ถังอุทาน "นี่มันนิยายที่หนิวลี่อ่านอยู่ข้างหัวเตีย

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่142 ธูปแรกวันปีใหม่

    วันปีใหม่ วันแรกของปี เป็นวันที่สำคัญที่สุด สำหรับการคุ้มครองวัดและสำนัก หย่งฟางถูกปลุกตอนตีสี่ โดยเทพบรรพชนที่ปรากฏในฝันพร้อมหอกด้ายแดง แต่เธอไม่ยอมตื่น จากนั้นหนิงหมี่และหยู่ถังที่อยู่ข้างเตียงก็เขย่าตัวปลุก“อาจารย์! ฉันฝันถึงเทพบรรพชน ท่านบอกให้พวกเรารีบตื่นไปเปิดประตู!”หยู่ถังที่ยังตกใจอยู่เอ่ยขึ้น “ฉันก็ฝันถึง! บรรพบุรุษท่าน...ดุนิดหน่อย”ใช่แล้ว เทพบรรพชนในฝัน ถือหอกด้ายแดงมาเร่งให้พวกเธอตื่น เมื่อหย่งฟางโดนเขย่าปลุก ในที่สุดก็เลิกง่วงทั้งสามคนลุกขึ้นจากเตียง หย่งฟางทำทุกอย่างอย่างเชื่องช้า แต่หนิงหมี่กับหยู่ถังกลับรีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วเสียงประตูไม้ดัง ‘เอี๊ยด’ทันใดนั้นภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท พบว่ามีแสงไฟหลายพันจุด ส่องสว่างใบหน้าของผู้คนนับพัน เหล่าผู้ศรัทธาที่เดินทางมายังวัดเสวียนเว่ย ต่างนำธูปของตนเองมาด้วย เดินขึ้นเขาหลงหย่าเพื่อมาที่นี่แต่เมื่อมาถึง กลับพบว่าประตูยังไม่เปิด พวกเขาจึงรวมตัวกันนั่งรอพลางเล่นโทรศัพท์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์ส่องใบหน้าของพวกเขา เมื่อมองดูก็ให้ความรู้สึกวังเวงอยู่ไม่น้อย หนิงหมี่และหยู่ถังถึงกับสะดุ้งตกใจ เสียงประตูเปิดทำให้ผู้คนทั้งห

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่141 บรรยากาศความเศร้า

    หยู่ถังชะงักไปครู่หนึ่ง หย่งฟางดึงกระดาษทิชชูออกจากหน้า สูดหายใจลึกแล้วลุกขึ้น เสียงพูดของเธอแหบพร่าเล็กน้อย “ฉันจะไปเผาของให้ลูกบอลเล็ก”หย่งฟางยืนขึ้น หยู่ถังเดินตามไป ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังห้องเก็บอุปกรณ์ ด้านในมีของสำหรับทำพิธี รวมถึงเงินกระดาษทอง หย่งฟางค้นหาของอยู่พักหนึ่ง เลือกของพื้นฐานสามอย่าง กระดาษเหลืองที่มีรู, กระดาษทอง, และตุ๊กตากระดาษคนรับใช้ แต่คิดว่ามันดูน้อยเกินไปหน่อย“บ้านกระดาษนี้ดูเล็กไป ลูกบอลเล็กอยู่กับพ่อแม่เธอ ห้องอาจจะไม่พอ ที่นี่ไม่มีรถกระดาษ ไม่มีมือถือกระดาษด้วย ลูกบอลเล็กชอบดูไลฟ์สดทุกคืน”หย่งฟางพูดไป คิ้วของเธอก็ขมวดมุ่นเข้าหากัน หยู่ถังรู้ว่าทุคนต่างมีความรู้สึกแปลกๆ แต่คนที่ดูเหมือนรับมือกับเรื่องนี้ได้ยากที่สุด นอกจากหนิงหมี่แล้วก็คือหย่งฟาง ถึงหญิงสาวจะดูเหมือนคนที่ไม่ใส่ใจสิ่งรอบตัว แต่ความจริงเธอใส่ใจคนรอบข้างมากที่สุด เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ หยู่ถังรีบพูด “งั้นเราลงเขาไปซื้อของจากร้านของเซี่ยเฟยที่บ้านเลขที่ 48 กันเถอะ จะได้เผาให้เธอ”การออกไปข้างนอก สูดอากาศที่อื่นบ้าง อาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้น“คงต้องเป็นแบบนั้นแล้ว” หย่งฟางพยักหน้า “ชวนหนิงหมี่ไปด

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่140 หูอวี่จู้

    มหกรรมการต่อสู้กับนักพรตชั่วจากเป็นประเทศ N ได้ปิดฉากลง ทุกคนเดินออกจากคุกใต้ดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเข้ามาปิดล้อมพื้นที่ด้วยเส้นกั้น สมาชิกครอบครัวสกุลสือทั้งหมดถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจ นำไปยังห้องสอบสวน เพื่อตรวจสอบว่าเคยคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปกี่ราย และยังเกี่ยวเนื่องกับการกบฏต่อชาติ ที่ยังต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหัวหน้าจ้าวจากสำนักสืบสวนพิเศษ และผู้นำระดับสูงเดินทางมาถึง ส่วนหานลี่ตงจะถูกดำเนินการไต่สวนและลงโทษโดยหน่วยสืบสวนพิเศษแห่งชาติ ในสงครามครั้งนี้ นอกจากสือว่านซื่อที่ถูกพลังแห่งชาติตีกลับจนเสียชีวิตไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องสังเวยวิญญาณของเซี่ยถังอยู่ในมือของเซี่ยเฟย เขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงดูวิญญาณของน้องสาว หย่งฟางเม้มริมฝีปาก กล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงในฐานะเพื่อน "ถึงจะฟื้นฟูขึ้นมาได้ แต่พลังของเธอก็สูญสิ้นไปแล้ว เคยกินมนุษย์ เคยเป็นปีศาจจิ้งจอก ถึงเลี้ยงวิญญาณขึ้นมาได้ แต่สวรรค์ก็ไม่ยอมรับ คุณเองก็น่ารู้อยู่แล้ว" แต่เซี่ยเฟยยังคงไม่ยอมปล่อยมือ หันมองหย่งฟางพลางยิ้มอ่อน "รบกวนอาจารย์หย่งช่วยส่งวิญญาณด้วยเถอะ อาถัง!" เซี่ยเฟยร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดเซี่ยถังมองพี่ชายด้ว

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่139 จุดจบคนชั่ว

    ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อของจิ้งจอกขาวเซี่ยถัง พลังโชคชะตาแห่งชาติที่ควรจะส่งต่อให้ประเทศ N กลับไม่ได้ถูกถ่ายโอนไปทั้งหมด มีส่วนหนึ่งที่หานลี่ตงเก็บไว้ใช้ส่วนตัวนี่คือสาเหตุที่เขามีชีวิตยืนยาวกว่าร้อยปี หย่งฟางขมวดคิ้วมองอย่างไม่พอใจ “หึ คนประเทศของแก รู้หรือเปล่าว่าแกขโมยพลังมังกรนี้มา”หานลี่ตงเพียงยิ้ม “รู้หรือไม่รู้ แล้วจะทำไม? หากไม่มีฉัน พวกมันจะตั้งหลักในเอเชียตะวันออกได้หรือ? น่าขำจริงๆ”หย่งฟางเข้าใจชัดเจนแล้ว ว่าขโมยคนนี้เป็นพวกหยิ่งยโสและหลงตัวเอง หานลี่ตงใช้พลังโชคชะตาแห่งชาติของ ประเทศ สร้างแรงกดดันที่แพร่กระจายไปทั่วห้องใต้ดิน ทุกคนรวมถึงเทพธิดาหนิงหมี่ ต่างรู้สึกหายใจยากลำบากขึ้น ต่อหน้าพลังแห่งชาติพวกเขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อประคองตัว หย่งฟางยกมือขึ้นแสงสีแดงฉายออกมาจากฝ่ามือ ก่อตัวเป็นเขตป้องกันครึ่งวงกลม ภายในเขตนี้ทุกคนจึงพอรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่หลี่ที่ยังเจ็บจากแรงกดดันเมื่อครู่ ยกมือกุมหน้าอกพูดขึ้น “ขโมยสิ่งที่ไม่ใช่ของแก ระวังเถอะ สวรรค์จะลงโทษเจ้า!”หานลี่ตงหัวเราะเสียงดัง “สวรรค์จะลงโทษฉัน? ฉันใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่าร้อยปีแ

  • ออกจากวงการบับเทิงเพื่อมาเป็นแม่หมอ   ตอนที่138 หานลี่ตง

    ชายที่อยู่ข้างสือว่านซื่อเผยรอยยิ้มบางๆ หย่งฟางเห็นท่าทางของเขาแล้ว ตะโกนออกไปทันที“หานลี่ตง!”ขณะที่คนจากหน่วยงานแห่งชาติที่อยู่ใกล้ๆ เขาก็ต่างเรียกชื่อชายคนนั้นไปในแบบของตัวเอง“พี่ซู?!”“พี่ฉี?!”“พี่มู่?!”หลังจากเสียงของทั้งสามคนจบลง พวกเขาหันมามองหน้ากันเองด้วยความงุนงง “เขาไม่ใช่พี่ซู พี่ฉี พี่มู่ จากหน่วยงานแห่งชาติหรือ?!”ในที่สุดหย่งฟางก็ได้คำตอบ เมื่อหัวหน้าจ้าวตรวจสอบประวัติ ของผู้มีพลังพิเศษในระบบของหน่วยงานแห่งชาติ เพื่อที่จะอยู่ในประเทศและหลบเลี่ยงการตรวจสอบเป็นเวลาร้อยปี คนอย่าง ‘หานลี่ตง’ ย่อมต้องมีตัวตนแฝงในระบบหน่วยงาน และเชื่อมโยงกับผู้มีพลังพิเศษคนอื่นๆ อย่างแนบเนียนจากปฏิกิริยาของทั้งสามคนทำให้เห็นชัดว่า หานลี่ตงมีตัวตนในฐานะผู้มีพลังพิเศษ ที่ถูกบันทึกไว้ในระบบอย่างสมบูรณ์ คนที่อยู่ข้างหลังหย่งฟาง ต่างเผยท่าทีเป็นศัตรูอย่างชัดเจน ขณะจ้องมองสือว่านซื่อและหานลี่ตงด้วยความระแวดระวังชายผู้นั้นตั้งท่าจะทำมือในลักษณะของไต้ซือ แต่ถูกหย่งฟางหยุดไว้ทันที “เลิกแสร้งทำเสียที หานลี่ตง คุณหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”นักพรตสาวกล่าวพร้อมกับกระชากเส้นด้ายสีแดงในมือให้กระชับ ขณะนั้นเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status