Share

ตอนที่ 4 นางนกต่อ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-03 14:29:34

“ว่าไงนะ ถูกจับ ที่ไหน”

       “สนามบินดอนเมืองครับ ตอนนี้ถูกตำรวจไทยคุมตัวไปแล้ว”

       “บัดซบ พวกมันรู้ได้ยังไง”

       “มีนางนกต่อส่งข่าวให้ตำรวจไทยอยู่ในกองถ่ายครับ”

       “ใคร” ดาราหนุ่มเ่อ่ยถามเสียงเหี้ยม

       “นังณารา”

       สิ่งที่ได้ยินกับหู ทำเอาจางอี้เหลียงคั่งแค้นจนแทบกระอักเลือด

       ไม่น่าเลย เขาไม่น่าหลวมตัวให้ณาราเข้ามาล้วงความลับได้เลย

       แค่ให้ณารามาที่คอนโดไม่ทันข้ามวัน ข้อมูลคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานก็กลับถูกล้วงเอาไปจนได้

       เขาไม่น่าประมาทฝีมือผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างณาราเลยจริงๆ

       รู้อย่างนี้แล้ว เขาหรือจะปล่อยให้ณารามีชีวิตรอดจนสาวมาถึงตัวเขาได้

       ทางเดียวที่แก๊งค์ของเขาจะปลอดภัยจากไอ้พวกตำรวจได้ ก็คงต้องรีบจัดการกับนางนกต่อให้สิ้นซาก

       “นังณารา แก” เขาคำรามในลำคอ ดวงตาทั้งคู่ทอประกายเจิดจ้า ในเมื่อณารากล้าทำให้เขาต้องสูญเงินไปถึงสิบล้านบาท เขาก็จะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด ณาราจะต้องตายด้วยน้ำมือเขา แต่ก่อนจะตาย ขอให้ได้ฉกชิงความสาว สวยมาจากเรือนร่างเย้ายวนตา ยวนใจนั้นก่อนเถอะ เขาถึงจะพอใจ

         ณาราก้าวเร็วๆ มาที่รถ เปิดประตูขึ้นนั่งประจำที่นั่งข้างคนขับ ขณะที่เหว่ยอี้ฟานเองก็เดินอ้อมมาขึ้นนั่งประจำหลังพวงมาลัยเช่นกัน

            “น้าอี้ฟานคะ ณาเห็นอาเหลียงเดินไปรับโทรศัพท์ แล้วกลับมามีท่าทีแปลกๆ ณาว่าตำรวจคงทำภารกิจสำเร็จแล้วล่ะค่ะ” ณาราเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น แววตาสะท้อนเงาบนกระจกมองหลังนั้นนิ่งสนิท

            “ณา แต่น้าก็อยากให้ณาระวังตัวนะ ถ้าเกิดว่าจางอี้เหลียงรู้ว่า ณาเป็นคนส่งข้อมูลของพวกมันให้ตำรวจ น้าว่าพวกมันไม่ปล่อยณาเอาไว้แน่”

            “ณาไม่กลัวหรอกค่ะ” แววตานิ่งสนิทแปรเปลี่ยนเป็นเจิดจ้า ในเมื่อเลือกจะก้าวเข้าสู่การเป็นตำรวจลับแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เธอก็จะไม่กลัวผลลัทธ์ที่เกิดขึ้น และจะไม่เสียใจหากว่าต้องหมดลมหายใจลงเพื่อทุกภารกิจที่ลงมือทำไป

            “ณาห่วงก็แต่น้าอี้ฟานคนเดียวเท่านั้น” ณาราวาดแขนโอบเอวอวบของน้าสาวเอาไว้

            ตั้งแต่พ่อแม่จากโลกนี้ไปด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก ชีวิตเธอก็อยู่ภายใต้การดูแลของน้าอี้ฟานมาโดยตลอด

            น้าอี้ฟานทำงานในบริษัทโมเดลลิ่งชื่อดัง เมื่อเห็นว่าหลานสาวหน้าตาน่ารัก น่าจะเข้าวงการบันเทิงได้ จึงส่งเสริมให้ณาราเป็นนักแสดงมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ

            เธอทำงานหาเลี้ยงตนเองและน้าอี้ฟานมาเรื่อยๆ พอโตเป็นสาวก็เดินตามรอยทางของพ่อสอบเข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อยตำรวจหญิง ความที่เธอทำงานในที่แจ้ง จึงเลือกที่จะปิดตัวตนของตัวเอง เป็นตำรวจสืบสวนของกองปราบ ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาหลายปี

            หากภารกิจครั้งนี้ทำให้เธอพลาดท่าเสียทีแก่คนร้าย เธอก็พร้อมจะตายในหน้าที่

          “ณาว่า น้ากลับไปอยู่เมืองไทยก่อนดีมั้ยคะ อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าอยู่ที่นี่”

            “ไม่ ถ้าจะไปก็ต้องไปด้วยกัน”

            “แต่ณายังต้องถ่ายงานอยู่นะคะ ถ้าณายกเลิกงานนี้กลางคัน มีหวังพังกันหมดแน่”

            “น้ารู้นะว่าณาไม่ได้ห่วงเรื่องชื่อเสียงพวกนั้น แต่ณาจะไม่ไป จนกว่าจะจับจางอี้เหลียงเข้าคุกให้ได้ใช่มั้ย”

            “น้ารู้ใจณาอีกแล้วนะคะ ถึงณาจะเป็นดารา แต่น้าก็รู้ว่าณาเองคงทิ้งอาชีพที่พ่อรักไม่ได้เหมือนกัน น้ากลับเมืองไทยไปก่อนนะคะ ถือว่าณาขอร้อง นะคะ” ณาราซบหน้าลงกับอกน้าสาว

            “ตกลง น้าจะทำตามความต้องการของณา แต่ณาต้องสัญญานะว่า พอถ่ายงานเสร็จจะตามน้าไป”

            “ค่ะ ณาสัญญา” ณารารับคำ เพื่อความสบายใจของน้าสาว ก่อนจะคลายอ้อมแขนออก ให้เหว่ยอี้ฟานทำหน้าที่สารถี พาเธอไปส่งที่คอนโด

            ณาราเปิดประตูเข้ามาในห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น และห้องครัวเล็กๆ ที่มีเพียงความเงียบเหงาเป็นเพื่อนร่วมห้อง แม้ในส่วนลึกของใจจะปรารถนาให้ใครสักคนมาแบ่งเบาความอ้างว้าง เดียวดายในใจสักปานใด แต่ด้วยภาระหน้าที่ ชีวิตที่แขวนอยุ่บนเส้นด้าย ณารากลัวเหลือเกินว่าเขาคนนั้นจะต้องพบกับความเจ็บปวด เสียใจจากการสูญเสียเธอไป หญิงสาวจึงเลือกจะครองความโสดเอาไว้ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเปิดหัวใจรับใครเข้ามา

            เขาว่าความฝันเกิดจากการปรุงแต่งของจิตใต้สำนึก ทั้งที่ไม่เคยคิดเรื่องผู้ชายจีนโบราณ ทำไมเธอจึงฝันว่าเขามาอยู่ในห้องได้นะ

            ณาราวางกระเป๋าสะพายใบเก่งลงเหนือลิ้นชัก พยายามสลัดภาพดวงหน้าคร้ามคมของชายหนุ่มผู้นั้นออกไป ทว่ายิ่งสลัด ภาพเขากลับยิ่งแจ่มชัด

            เขาเป็นใครกันนะ เป็นคนหรือผี แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เธอก็ควรจะเลิกคิดถึงเขาได้แล้วนี่นา

         ในอีกห้วงเวลาหนึ่ง...

            หลังจากเดินทางรอนแรมมาสามวันสามคืน ขบวนเกี้ยวของเฉินลู่ซี พร้อมด้วยเกี้ยวของท่านหญิงจ้าวเจี้ยนฟางก็เดินทางมาถึงเมืองฉางโจว

            ด้วยความที่เฉินลู่ซีเดินทางมาในฐานะผู้แทนพระองค์ จึงพักอยู่ในเรือนรับรอง ภายในจวนเจ้าเมืองฉางโจว ขณะที่เกี้ยวของท่านหญิงจ้าวเจี้ยนฟางนั้นแยกไปยังจวนของท่านอ๋อง 9 จ้าวเจี้ยนหลิง

           

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เจ้าสาวของท่านพี่    คอนที่48. จบ

    ทันทีที่กองทัพจากเมืองหลวงยกพลขึ้นบกที่เกาะจวินจวู พร้อมด้วยเจิ้งหมิง จี้หมิน และเจิ้นหยาง บรรดาหญิงตั้งครรภ์ที่ถูกจับตัวไป ก็ถูกช่วยพาขึ้นเรือกลับมายังฝั่ง เมื่อไม่ได้รับยาจากคนของเจ้าเกาะ ความทรงจำของพวกนางก็ค่อยๆ กลับคืนมา ที่ต้องลุ้นระทึกก็คือ หญิงตั้งครรภ์จำนวน 5 นาง ได้คลอดลูกบนเรือ ดีที่เจียงจื่อหยารอบคอบ ให้หมอตำแยในเมืองฉางโจวติดตามไปด้วยหลายคน จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางใช้เวลาเกือบครึ่งเดือน เฉินลู่ซีก็ส่งหญิงตั้งครรภ์กลับสู่ครอบครัวได้สำเร็จ“อวี้เอ๋อ” จางเหวินชิง กอดภรรยาไว้ในอ้อมแขนทั้งน้ำตาอาบสองแก้ม นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้พบภรรยาเสียแล้ว“ท่านพี่” นางเองก็กอดสามีเอาไว้แน่นเช่นกัน“ขอบคุณใต้ท้าว องครักษ์เจิ้ง ที่ช่วยคลี่คลายคดีความทุกข์ให้ครอบครัวข้า ขอบคุณครับ” จางเหวินชิงคารวะจากใจขณะที่เสี่ยวหง ปิงปิงและซวงเอ๋อเองก็ต่างโผเข้ากอดสามีของนาง ก่อนจะรีบผละออก เมื่อเห็นว่าณารายืนมองมายิ้มๆ“เจี้ยนฟาง” นางทั้งสามปรี่เข้ามาหาณารา ต่างกวาดสายตามองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วมาหยุดอยู่ตรงกลางลำตัว“เอ๊ะ เจ้าไม่ได้ตั้งครรภ์นี่” ซวงเอ๋อทักขึ้นด้วยความประหลาดใจ“อึม” ณาราพยักหน้า

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่47. ค่ำคืนหนึ่ง

    เจ้าเป็นถึงฮูหยินรองของตำหนักอ๋อง ใครเล่าจะข่มขู่เจ้าได้ แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ อย่างไรข้าก็ต้องพาตัวทั้งเจ้าและพ่อบ้านไปรับโทษอย่างแน่นอน” สิ้นคำพูดของท่านอ๋อง 9 ไห่หลานก็พาตัวจ้าวหลงซินออกมา โดยมีเฉินลู่ซี และมือปราบเจิ้นหยางเดินตามเข้ามาในห้องเช้าวันต่อมา นอกจากข่าวใหญ่ เรื่องคนของศาลซื่อเหอ นำกำลังทหารจากเมืองหลวงไปยังเกาะจวินจวูแล้ว ยังมีข่าวของฮูหยินรองแห่งตำหนักอ๋อง ปองร้ายธิดาคนเล็กของท่านอ๋อง มิหนำซ้ำยังลักลอบเป็นชู้กับพ่อบ้านจ้าวหลงซิน เป็นที่พูดถึงทั่วเมืองเมื่อเรื่องร้ายผ่านไปแล้ว ไห่ถวนก็ขอตัวตามเจิ้งหมิงกลับเกาะจวินจวู ขณะที่ณาราในร่างจ้าวเจี้ยนฟางเอง ต้องรออยู่ที่ตำหนักอ๋อง ให้เจิ้งหมิงทำธุระของเขาให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ค่อยพาผู้ใหญ่จากเมืองหลวงมาสู่ขอนางตามประเพณีแม้จะมีชีวิตสุขสบายดีแล้ว ณาราก็ยังรู้สึกอึดอัดอยู่ดี ที่ไม่สามารถบอกให้ใครล่วงรู้ได้ว่า เธอไม่ใช่จ้าวเจี้ยนฟาง ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถทำให้ท่านอ๋อง 9 เสียใจเรื่องธิดาได้ จึงทำได้เพียงเก็บคำเสียค่ำคืนหนึ่ง ท่านอ๋อง 9 นอนกระสับกระส่ายอยู่บนที่นอน จิตดิ่งลึกลงสู่ห้วงนิทรารมย์ ที่มีเพียงม่านหมอกขาวจนมองไม่เ

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่46.ท่านอ๋อง เมตตาข้าด้วย

    นึกไม่ถึงว่า เสี่ยวชุ่ยจะฝ่าฝืนคำสั่ง คิดปองร้ายจ้าวเจี้ยนฟาง“ข้าผิดไปแล้ว ท่านอ๋อง เมตตาข้าด้วย”“ข้าจะให้ใต้ท้าวเฉิน เป็นคนตัดสินความเรื่องนี้เอง”ท่านอ๋อง เมตตาข้าด้วย”“เสี่ยวชุ่ย บอกข้ามาว่าใครสั่งการให้เจ้าทำร้ายท่านหญิงน้อยเช่นนี้” ฮุ่ยเหนียงปราดเข้าหาคนผิด จิกเล็บลงกับเรือนผมของนางสุดแรง จนหน้าหงาย ดวงตาจับจ้องหน้าสาวรับใช้วาวโรจน์ มิใช่เพราะต้องการให้นางสาภาพความจริง ตรงกันข้าม ฮุ่ยเหนียงต้องการให้นางปิดปากให้สนิทต่างหาก“ฮูหยินรอง ข้าข้า”“พูด” ท่านอ๋อง 9 ตวาดลั่น ดวงหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ“หากเจ้าไม่บอก ข้าจะตัดลิ้นเจ้าซะ” ฮุ่ยเหนียงบอกเป็นนัยๆ ว่า หากนางเปิดปาก จะตัดลิ้นสาวรับใช้เสียให้รู้แล้วรู้รอดหากยังไม่ทันที่เสี่ยวชุ่ยจะเอ่ยอะไรออกมา ร่างนอนนิ่งอยู่บนเตียงก็กระตุกเฮือก ชักตาตั้ง กระอักเลือดสีแดงสดออกมา“ท่านอ๋อง ท่านหญิงแย่แล้วเจ้าค่ะ” ไห่หลานโวยวายพลางร้องไห้โฮๆ“เด็กๆ พานางไปขังไว้ก่อน ใต้ท้าวเฉินมาค่อยตัดสินความ”สิ้นคำสั่งเรียกคนของท่านแล้ว ท่านอ๋อง9 ก็ปราดมาที่เตียง ประคองธิดาคนเล็กเอาไว้ในอ้อมแขน“เจี้ยนฟาง เจ้าต้องไม่เป็นอะไรนะ” ท่านอ๋อง 9 รำพัน น้ำตานองหน้า

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่ 45 ความจริงที่เพิ่งกล้าพูดออกมา

    ณารายิ้มยั่วเย้า“อยากรู้ว่าเคยมั้ยล่ะคะ” ณาราสบตาคนตรงหน้าแน่วนิ่ง ก่อนจะดันร่างของคนตัวใหญ่กว่าให้เดินถอยหลังไปที่เตียง แกล้งผลักเขาลงกับที่นอน แล้วกระโดดขึ้นคร่อม ทั้งที่ในชีวิตนี้ เธอไม่เคยทำแบบนี้กับชายใดเลยแม้แต่ครั้งเดียว“เจ้าจะทำอะไร!” เจิ้งหมิงเบิกตากว้าง ตกใจกับท่าทีของเธอ ไม่นึกเลยว่า ผู้หญิงจากโลกอนาคตจะไวไฟได้เพียงนี้แต่แทนที่ณาราจะตอบคำถาม กลับก้มลงจรดริมฝีปากกับหน้าผากของเขาแล้วเลื่อนเรื่อยลงมาหยุดตรงซอกคออย่างย่ามใจเรื่องอะไรเจิ้งหมิงจะยอมให้นางทำอย่างนั้นฝ่ายเดียว พอนางเผลอ เขาก็เป็นฝ่ายพลิกกายขึ้นมาอยู่ด้านบน ทำเอาคนคิดจะแกล้งหยอกเย้าเล่นหน้าตื่น“พี่จะทำอะไร”“เจ้าอยากให้ข้าทำอะไรล่ะ หึม” เจิ้งหมิงเป็นฝ่ายยิ้มยั่วเย้าบ้าง แล้วจรดริมฝีปากอุ่นจัดลงกับใบหูเล็ก ระเรื่อยลงมายังซอกคอขาวละมุน แล้ววนเรื่อยขึ้นไปยังใบหูเล็กรวดเร็ว“พี่เจิ้ง อย่า ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น ไม่ได้จริงจังสักหน่อย”“แต่เจ้าทำให้ข้าอยากจริงจังนี่นา”“ข้าบอกแล้วไงล่ะว่าแค่ล้อเล่น ข้าบอกให้ก็ได้ว่า ข้ายังไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายใดสักหน่อย” ณาราสารภาพอ้อมแอ้ม“ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวไห่ถวนก็มาเห็นเข้าหรอ

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่ 44 แฝงตัวเข้าตำหนักอ๋อง

    ท่านอ๋อง 9 ผุดลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหาจนแทบจะชนกัน เมื่อจู่ๆ ธิดาคนเล็กก็พาหญิงสาวผู้หนึ่งมาแนะนำให้รู้จัก พร้อมกับหนุ่มน้อยไห่ถวน จากเกาะจวินจวู“นี่ไห่หลาน พี่สาวของไห่ถวน เพิ่งมาจากเกาะจวินจวูค่ะ” ณาราแนะนำทั้งที่แทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่“อึม แม่นางไห่หลานนี่ ดูลักษณะรูปร่างช่างดูค้นตานัก เหมือนเคยพบที่ใดมาก่อน” เฉินลู่ซีตั้งข้อสังเกต แม้เรือนร่างภายใต้เครื่องแต่งกายสตรีจะไม่ได้กำยำล่ำสันมากนัก แต่ก็ดูบึกบึนกว่าสตรีโดยทั่วไปอยู่ดีเจิ้งหมิงทำชะม้ายชายตาครู่หนึ่ง ก่อนจะปลดผ้าคลุมหน้าออกดวงหน้าแตะแต้มด้วยเครื่องสำอาง แม้งดงามก็จริง แต่ทำไมเขาจะจำดวงตาคมกล้าคู่นั้นไม่ได้เล่าว่า นางเคยเป็นใครมาก่อน“นี่เจ้า เอ่อ…”“ท่านพ่อ ข้าอยากกลับบ้านแล้ว เรารีบกลับกันเถอะค่ะ” ณาราเดินมาเกาะแขนท่านอ๋อง 9 เอาไว้หลวมๆ“ท่านพ่อคะ อย่างไร ลูกขอพาคนของลูกไปด้วยนะคะ ตอนอยู่บนเกาะ ทั้งสองช่วยเหลือลูกเอาไว้มากเหลือเกิน ลูกไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณอย่างไร จึงทำได้เพียงรับรองทั้งสองเป็นอย่างดี”“ได้สิลูก เรากลับกันเถอะนะ” ท่านอ๋อง 9 ยิ้มน้อยๆ ทั้งที่ประหลาดใจเหมือนกันว่า ทำไมเจิ้งหมิงจ

  • เจ้าสาวของท่านพี่    ตอนที่ 43 สืบความจริงเรื่องวางยาพิษ

    ท่านอ๋อง 9 และเจิ้งหมิงยังคงนั่งเฝ้าจ้าวเจี้ยนฟางอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง นานๆ จึงจะหันมามองหน้ากันสักครั้ง กระทั่งนาทีหนึ่ง ต่างก็หันมาสนทนากัน กลายเป็นว่าต่างเอ่ยขึ้นมาพร้อมกัน“เจิ้งหมิง”“ท่านอ๋อง”“เจ้ามีอะไรก็ว่ามาเถิด”“ท่านอ๋องกินอะไรบ้างเถิดดนะครับ ประเดี๋ยวจะไม่สบายไปอีกคน” องครักษ์หนุ่มปรายสายตาไปยังโต๊ะกลม ปูด้วยผ้าสีขาวสะอาดตากลางห้อง ซึ่งมีข้าวกับซี่โครงหมูตุ๋นกับฟักวางอยู่สองที่“เจ้าเองก็ควรจะกินอะไรบ้างนะ อย่ามัวบอกให้ข้ากินแต่ฝ่ายเดียว คนหนุ่มก็ล้มป่วยได้เช่นกัน”“ถ้าอย่างนั้น เชิญครับท่านอ๋อง” ว่าพลางเจิ้งหมิงก็เป็นฝ่ายผายมือให้ท่านอ๋องไปนั่งที่โต๊ะอาหารก่อน แล้วจึงเป็นฝ่ายตามไปนั่งบ้าง“ข้ามีบุตรธิดาหลายคนก็จริง แต่เจี้ยนฟางก็เป็นลูกที่ข้ารักและห่วงใยมากที่สุด เพราะนางเหมือนฮุหยินของข้ามาก ข้าก็เหมือนพ่อคนอื่นๆ ที่ทั้งรักทั้งหวงลูกสาว ดังแก้วตาดวงใจ ในเมื่อรู้ว่าเจี้ยนฟางกับเจ้าต่างมีใจให้กัน อีกทั้ง ข้าก็ได้เห็นกับตาแล้วว่า ตอนที่หลี่จิ้งจับเจี้ยนฟางเป็นตัวประกันนั้น เจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของนางมาก ยิ่งกว่าชีวิตของตนเองซะอีก หากเจ้าอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับลูกข้าจริง ก็

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status